[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
11 ตุลาคม 2567 08:59:18 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วันวานนี้ที่นครเวียงจันทน์ กับตำนานเจ้าแม่สีเมือง  (อ่าน 20195 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5698


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 10 กันยายน 2555 11:41:39 »

.


ลาว (Lao)
ลาว (Lao) หรือชื่ออย่างเป็นทางการ คือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  มีพื้นที่ราว ๒๓๖,๘๐๐ ตารางกิโลเมตร  ประชากรประมาณ ๗ ล้านคน  เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล  แนวอาณาเขตประกอบด้วยประเทศเพื่อนบ้าน ๕ ประเทศ  ได้แก่ พม่า จีน  เวียดนาม  กัมพูชา และไทย  ซึ่งพรมแดนทางทิศตะวันตกติดต่อกับประเทศไทย โดยมีแม่น้ำโขงเป็นแนวกั้นเขตพรมแดน  

ประเทศลาว เดิมปกครองด้วยระบอบเสรีประชาธิปไตย โดยมีเจ้ามหาชีวิต (พระมหากษัตริย์)เป็นองค์พระประมุขแห่งรัฐ   ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๑๘  พระราชอาณาจักรลาวได้เกิดวิกฤติการณ์ เปลี่ยนแปลงการปกครองครองจากระบอบเสรีประชาธิปไตยเป็นคอมมิวนิสต์  โดยพรรคประชาชนปฏิวัติลาว  ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหภาพโซเวียตและเวียดนามเหนือ  โดยการนำของเจ้าสุภานุวงศ์   เข้าทำการยึดอำนาจรัฐจากรัฐบาลประชาธิปไตย   ซึ่งเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนาเป็นองค์พระประมุขแห่งรัฐในขณะนั้นสำเร็จ   เจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนาทรงยินยอมสละราชสมบัติ  พรรคประชาชนปฏิวัติลาวจึงประกาศสถาปนาประเทศลาวเป็น "สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว" อย่างเป็นทางการในวันที่ ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ โดยยังคงแต่งตั้งให้อดีตเจ้ามหาชีวิตเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลระบอบใหม่ แต่ภายหลังพรรคประชาชนปฏิวัติลาวก็ได้จับกุมตัวอดีตเจ้ามหาชีวิตและมเหสีไปคุมขังในค่ายกักกันจนสิ้นพระชนม์ เนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองในเวลาต่อมา


ปัจจุบันสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวปกครองในระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์  โดยพรรคประชาชนปฏิวัติลาว  ประธานประเทศหรือประธานาธิบดีคนปัจจุบัน  คือ พลโทจูมมะลี ไซยะสอน  มีวาระการดำรงตำแหน่ง ๕ ปี  การปกครองแบ่งเป็น ๗ จังหวัด หรือ ๗ แคว้น  มีนครหลวงเวียงจันทร์เป็นเมืองหลวง  ประชาชนส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนา สกุลเงินใช้เงินกีบ (254 กีบ = 1 บาท :ข้อมูล ณ วันที่ ๗ กันยายน ๒๕๕๕)











ยามเช้าที่นครเวียงจันทน์
คุณยายกับหลานชายใส่บาตรพระภิกษุ ด้วยข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อน ๆ
และที่ประทับใจไม่รู้ลืม คือกิริยาเคารพนอบน้อมต่อพระภิกษุสงฆ์อย่างสูงยิ่ง


วิถีชีวิตชาวลาว ในนครเวียงจันทน์


หญิงลาวนุ่งถุงสำเร็จไปทำบุญที่วัด (ผู้หญิงลาวต้องใส่ผ้าถุงเข้าวัด ห้ามใส่กางเกง)


ปัจจุบัน หญิงลาวส่วนมากยังนิยมนุ่งซิ่น


สัญญาณไฟจราจร  ในนครหลวง  
ภาษาพื้นเมือง : สัญญาณไฟสีแดง เรียกว่าไฟอำนาจ  สีเหลือง เรียกว่าไฟลังเล  สีเขียว เรียกว่าไฟปลดปล่อย



เที่ยวชมตลาดเช้า ในนครเวียงจันทน์
เราเดินเท้าออกจากโรงแรมแต่เช้าตรู่ จุดหมายคือตลาดสดยามเช้า
สถานที่ที่จะทำให้เราได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนในชุมชนได้อย่างแท้จริง
ตลาดสดของนครหลวงยังล้าหลังเมืองไทยอีกไกลโข ผู้คนมากมาย รถราขวักไขว่
พื้นถนนขรุขระ มีน้ำขังเป็นบางส่วน แม่ค้าพ่อค้าจัดเรียงสินค้าในกระจาด กระบุง
อย่างดีขึ้นมาหน่อย คือวางบนโต๊ะที่ทำจากไม้ประกอบอย่างง่ายๆ






ข้าวสาร ข้าวเหนียว ชั่งกิโลขายเหมือนเมืองไทย


พริกขี้หนูลาว วางขายบนพลาสติกปูกับพื้นถนน
(เห็นมีอยู่พันธุ์เดียวจริงๆ ของเมืองไทยมีหลายพันธุ์)


แหนมหมู (ห่อใบตอง) พวงละ ๒๐ บาทไทย


ปลาส้ม  และไข่ปลาส้ม กิโลกรัมละ ๘๐ บาท


ปลาบึก จากแม่โขง
ลาวเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ปลาน้ำจืด โดยเฉพาะปลานิล  ปลากดคัง ปลาบึกลำน้ำโขง
จึงมีจำหน่ายมากในตลาดเช้า ส่วนอาหารทะเล เช่น ปลาทะเล ปลาหมึก  หอยแครง กุ้ง มีไม่มากและไม่ค่อยสดเท่าไรนัก


แหล่งรวมสินค้าอุปโภคบริโภคของชาวลาว ยกเว้นพืชผลทางเกษตร เช่น ข้าว ข้าวโพด เผือก มัน พืชผักและผลไม้  ตลอดจนผลผลิตทางการประมง และปศุสัตว์  ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ เช่น น้ำปลา  น้ำตาลทราย ผงชูรส ซอสปรุงรส ซีอิ๊ว นม UHT นมถั่วเหลือง (แลคตาซอย) สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน  ผงซักฟอก เสื้อผ้า รองเท้า ฯลฯ เป็นสินค้านำเข้าจากประเทศไทยเกือบทั้งหมด ฉลากผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกจากประเทศไทย ก็ยังคงเป็นภาษาไทยเช่นเดียวกับสินค้าที่จำหน่ายในประเทศไทย (ชาวลาวสามารถอ่าน เขียน พูด ภาษาไทยได้คล่องแคล่วเช่นเดียวกับคนไทย)

ประเทศลาวเป็นประเทศที่ประชากรมีรายได้ต่ำแต่ค่าครองชีพสูงมาก ผู้มีอาชีพใช้แรงงานได้ค่าแรงวันละประมาณหนึ่งร้อยบาทเศษเท่านั้น  ครูมีรายได้เดือนละประมาณ ๕๐๐,๐๐๐ กีบ หรือสองพันกว่าบาทถ้าเทียบค่าเงินไทย แต่ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในครัวเรือนสูงมากเช่น น้ำดื่มชนิดขวดใส เมืองไทยจำหน่ายขวดละ ๗ บาท ที่ประเทศลาวจำหน่ายขวดละ ๒๐ บาท นมถั่วเหลืองแลคตาซอย เมืองไทยกล่องละ ๑๕ บาท (๕๐๐ ซีซี) ประเทศลาวจำหน่ายกล่องละประมาณ ๓๐ บาท เป็นต้น

จากสภาวะการขาดแคลนเงินตราเพื่อการดำรงชีวิตดังกล่าว ประชาชนชาวลาวโดยทั่วไปจึงไม่นิยมออกไปรับประทานหรือซื้ออาหารนอกบ้าน แทบทุกครัวเรือนจะหุงหาอาหารรับประทานกันเอง เพราะพืชผัก อาหารสดเป็นผลิตผลภายในประเทศ มีราคาถูก  ทั่วนครเวียงจันทน์ที่ไปเที่ยวชมมา ๒ วัน ไม่พบร้านขายข้าวแกง เห็นมีร้านขายก๋วยเตี๋ยว ๑ ร้าน ร้านขายส้มตำไม่น่าจะเกิน ๑๐ ร้าน  (ราคาข้าวแกง จานละ ๗๐ บาทไทย และก๋วยเตี๋ยวชามละ ๘๐ บาทไทย)

เกี่ยวกับเรื่องก๋วยเตี๋ยว  ไกด์ผู้นำทางเล่าว่า หากคุณจะกินก๋วยเตี๋ยวต้องบอกคนขายว่า  ซื้อเฝอ (หมายถึงก๋วยเตี๋ยว) ๑ ถ้วย  แล้วคุณจะได้ก๋วยเตี๋ยวหรือเฝอ (ภาษาลาว) ๑ ชาม แต่ถ้าคุณบอกว่าซื้อเฝอ ๑ ชาม คุณจะได้ก๋วยเตี๋ยวหรือเฝอ ๑ กะละมัง






พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าไชเชษฐาธิราช
หน้าพระธาตุหลวง นครเวียงจันทน์



พระธาตุหลวง
พระธาตุหลวง หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี  เป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งแห่งนครหลวงเวียงจันทน์ เป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับพันปีเช่นเดียวกับพระธาตุพนมในประเทศไทย  พระธาตุหลวงสร้างขึ้นคราวเดียวกับการสร้างเมืองนครเวียงจันทน์ ผู้สร้างคือ บุรีจันอ้วยล้วย หรือ พระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์ เจ้าเหนือหัวผู้ครองนครเวียงจันทน์พระองค์แรก พร้อมกับพระอรหันต์ ๕ องค์ เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนหัวเหน่า ๒๗ พระองค์ ซึ่งเจ้าเหนือหัวหรือกษัตริย์แห่งลาว ได้อัญเชิญมาจากเมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย ในคราวเสด็จทรงศึกษาวิชาการที่ประเทศอินเดีย  โดยก่อเป็นอุโมงค์หินคร่อมไว้ อุโมงค์นั้นกว้างด้านละ ๕ วา ผนังหนา ๒ วา และสูง ๔ วา ๓ ศอก เมื่อได้ทำการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุแล้ว พระเจ้าจันทบุรี  ได้มีพระราชดำรัสให้สร้างวิหารขึ้นในเมืองจันทบุรีหรือนครเวียงจันทน์ ๕ หลัง เพื่อให้เป็นที่อยู่จำพรรษาของ พระอรหันต์ทั้ง ๕ องค์นั้นด้วย ตามตำนานดังกล่าวระบุศักราชการสร้างว่าอยู่ในช่วง พ.ศ. ๒๓๘

ในปัจจุบันนี้ประเทศลาวได้นำภาพพระธาตุหลวงเป็นภาพประธานในดวงตรา




 


วัดสีเมือง หรือวัดเจ้าแม่สีเมือง
ในรัชสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีมหาราช   พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  เมื่อครั้งยังเป็นที่สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก หรือเจ้าพระยาจักรี (ด้วง หรือทองด้วง) ได้ยกทัพไปตีเมืองเวียงจันทน์  ได้รับชัยชนะ และกวาดต้อนชาวเมืองกับทั้งราชบุตรธิดาวงศานุวงศ์และขุนนางท้าวเพี้ยทั้งปวง  กับทรัพย์สินสิ่งของ เครื่องศาสตราวุธ ปืนใหญ่น้อย  และช้างม้าเป็นอันมาก  และให้อัญเชิญพระพุทธปฏิมากร (แก้วมรกต) และพระบางซึ่งสถิตย์อยู่ ณ พระวิหารในวังเจ้าล้านช้างนั้น  อาราธนาลงเรือข้ามฟากเลิกทัพกลับยังกรุงธนบุรี  เมื่อกองทัพมาถึงเมืองสระบุรี ในเดือนยี่ ปีกุน เอกศก ลุศักราช ๑๑๔๑ ปี (พ.ศ. ๒๓๒๒) จึ่งบอกลงมากราบทูลพระกรุณาให้ทรงทราบ


พระแก้วมรกตจำลอง (ชาวลาวสร้างไว้เพื่อกราบไหว้บูชา แทนองค์จริงที่ถูกอัญเชิญมาประเทศไทย)

สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีจึงมีพระราชดำรัสให้นิมนต์สมเด็จพระสังฆราช พระราชาคณะทั้งปวงให้ขึ้นไปรับพระพุทธปฏิมากรแก้วมรกต   ถึงเมืองสระบุรีแล้วให้แต่งเรือกิ่งเรือชัยขึ้นไปรับพระพุทธรูปด้วย   ครั้นพระมาถึงตำบลบางธรณี  จึ่งเสด็จพระราชดำเนินขึ้นไปรับด้วยพระองค์เอง โดยทางชลมารค พร้อมด้วยขบวนนาวาพยุหะแห่ลงมาถึงกรุงธนบุรี   แล้วให้ปลูกโรงรับเสด็จพระพุทธปฏิมากรพระแก้ว  พระบาง  อัญเชิญขึ้นไปประดิษฐานไว้ ณ โรงริมพระอุโบสถวัดแจ้งภายในพระบรมมหาราชวัง
 
เมื่อสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติปราบดาภิเษกเป็นพระเจ้าแผ่นดิน พระปฐมวงศ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์  ภายหลังต่อมาจึงได้อัญเชิญพระพุทธปฏิมากรแก้วมรกต ไปประดิษฐานที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม จนถึงทุกวันนี้.....

ส่วนความแรกบังเกิดมีแห่งพระแก้วมรกฎ  ปรากฏใน ชินกาลมาลินี หรือ ชินกาลมาลีปกรณ์ ซึ่งเป็นวรรณกรรมภาษาบาลีที่ถูกใช้อ้างอิงในฐานะเอกสารตำนานพงศาวดารทั้งต่อฝ่ายพุทธจักรและฝ่ายอาณาจักรบ่อยครั้งที่สุด  เอกสารดังกล่าวแต่งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๐๗๑ โดย พระรัตนปัญญา ปราชญ์ชาวล้านนา  ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงพุทธศาสนาเถรวาทในอาณาจักรล้านนากำลังแผ่อิทธิพลรุ่งเรือง  (ราว พ.ศ. ๑๙๘๕ – ๒๐๖๘)  ในช่วงสมัยพระเจ้าติโลกราช พระยอดเชียงราย และพระเมืองแก้ว สืบเนื่องกันสามรัชกาล   พระรัตนปัญญาเป็นพระเถระร่วมสมัยกับพระสิริมังคลาจารย์ และเป็นเชื้อพระวงศ์ในราชวงศ์มังราย  และเป็นเจ้าอาวาสวัดเจ็ดยอดหรือวัดมหาโพธารามในสมัยพระเมืองแก้ว  

ชินกาลมาลินี ได้รับการแปลไปหลายภาษาเพื่อเป็นที่ศึกษาของนานาชาติเกี่ยวกับตำนานสมัยประวัติศาสตร์โบราณ สำหรับผู้แปลภาษาไทยคือ พระยาพจนาพิมล



กะลอ สำหรับพระสงฆ์ตีส่งสัญญาณให้ฉันเช้าร่วมกันบนศาลา (เวลา ๗ โมง)


"คุณตา" นั่งเรียบร้อย ทำหน้าที่มัคนายก ในวัดสีเมือง


แม่หญิงลาวมักมวยผม นุ่งซิ่นเรียบร้อย ช่วยกันจัดสิ่งของถวายพระ
(ให้สังเกต: แม่หญิงลาวต้องนุ่งซิ่นในงานบุญ มิฉะนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมพิธี)


เด็กเล็ก และเด็กหนุ่มในเมืองลาว ยังคงผูกพันอยู่กับวัดวาอาราม
ช่วยพระทำงาน เหมือนเด็กในเมืองไทยเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา




Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 กันยายน 2558 13:22:21 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7862


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 21.0.1180.89 Chrome 21.0.1180.89


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 11 กันยายน 2555 14:15:58 »

ขอแก้ไขข้อมูล

วัดศรีเมืองกับหอพระแก้วอยู่คนละแห่งกัน
โดยสถานที่ที่ได้ไปคือวัดศรีเมืองอันเป็นสถานที่ที่วางเสาหลักเมืองนครเวียงจันทน์
โดยที่วัดศรีเมืองมีจุดเด่นคือเป็นเหมือนศาลหลักเมือง
และมีศาลเจ้าแม่ศรีเมืองให้สักการะ
และมีพระแก้วมรกตจำลองไว้เฉย ๆ แต่ไม่ใช่สถานที่ที่เคยประดิษฐาน

แต่สถานที่ที่จริงที่พระแก้วมรกตเคยประดิษฐานอยู่ คือหอพระแก้ว ซึ่งอยู่เลยไปอีก
โดยที่หอพระแก้วไม่ใช่วัด แต่มีหอประดิษฐานพร้อมแท่นซึ่งเคยประดิษฐานไว้
ซึ่งคนลาวไม่ได้นำพระใด ๆ ไปประดิษฐานแทน
ด้วยความเชื่อว่าสักวันพระแก้วจะกลับมาอีก

และทั้งนี้ได้เปิดตรวจสอบพิกัดของวัดศรีเมืองกับหอพระแก้วจาก Google Eart แล้ว





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 กันยายน 2555 14:17:29 โดย Mckaforce » บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5698


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 12 กันยายน 2555 10:39:17 »

.

หลักบ้านหลักเมือง (สีทองหุ้มผ้าขาว) ของนครเวียงจันทน์
อยู่ติดกันกับรูปปั้นเจ้าแม่หลักเมือง


ศาลหลักบ้านหลักเมืองของนครหลวงเวียงจันทร์

การสร้างหลักเมือง หรือหลักบ้านหลักเมืองในภาษาลาว นั้น  สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงมีพระวินิจฉัยเกี่ยวกับการสร้าง “หลักเมือง”  ว่า สร้างขึ้นตามธรรมเนียมประเพณีของพราหมณ์  ซึ่งปรากฏมีมาแต่อินเดียโบราณ ว่าก่อนที่จะสร้างเมืองจะต้องทำพิธียกเสาหลักเมืองในที่อันเป็นชัยภูมิสำคัญ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองที่จะสร้างขึ้น  

หลักบ้านหลักเมืองของนครเวียงจันทร์ นั้น มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า ก่อนจะมีพิธีลงเสาหลักเมือง ซึ่งชาวบ้านได้พากันนำทรัพย์มีค่า เช่น เครื่องเงิน เครื่องทอง  ฯลฯ  ใส่ลงไปในหลุมตามความเชื่อถือเป็นจำนวนมากมายแล้ว นั้น   ทางการได้ออกลาดตะเวนป่าวประกาศไปทั่วนคร  เพื่อจะทำพิธีฝังอาถรรพณ์ และอาถรรพ์นั้นก็คือการฝังคนเป็น ๆ   จึงขออาสาสมัครอุทิศตนไปเป็นผีเฝ้าทรัพย์ในหลุม และคอยรักษาเมือง

ขณะนั้น มีหญิงลาวชื่อ “สีเมือง”  ได้แต่งงานอยู่กินกับสามี  และตั้งท้องได้ประมาณ ๓ เดือน  กำลังประสบปัญหาในครอบครัว  ด้วยถูกสามีจำกัดสิทธิ  ปิดกั้นมิให้ออกไปพบปะปะกับผู้ใด จึงทำให้นางเกิดความเครียดน้อยเนื้อต่ำใจ  เดินหนีออกจากบ้าน  และได้ยินเสียงป่าวประกาศขอผู้อุทิศตนเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์   นางจึงเดินไปยังที่ที่ทำพิธี  แล้วกระโดดลงไปในหลุม  ทางการจึงผลักม้าตามลงไป  ๑ ตัว  แล้วปล่อยเสาหลักเมืองลงหลุม  นางจึงถูกฝังทั้งเป็นพร้อมลูกในครรภ์และม้าอีก ๑ ตัว   กลายเป็นตำนานการสร้างศาลเจ้าแม่สีเมืองสืบมาจนทุกวันนี้

เสาหลักบ้านหลักเมืองของนครเวียงจันทน์ หรือ ศาลเจ้าแม่สีเมืองดังกล่าว  ตั้งอยู่ภายในวัดสีเมือง  นครเวียงจันทน์  วัดนี้จึงมีชื่อเรียกกันทั่วไปว่า “วัดเจ้าแม่สีเมือง”  ทุกวันนี้ ประชาชนชาวลาวและชาวต่างชาติ ต่างนำต้นผึ้งต้นเทียน (ต้นไม้ประดิษฐ์จากกระดาษสีเงินและสีทอง) มากราบไหว้และบนบานขอพรจากเจ้าแม่สีเมืองกันเป็นจำนวนมาก  และการบนบานนั้นกล่าวกันว่า มักสำเร็จสมความปรารถนา ยกเว้นเรื่อง “ความรัก”  ที่ห้ามบนบาน เพราะเจ้าแม่สีเมืองไม่ประสบความสำเร็จในการครองชีวิตคู่



รูปปั้นเจ้าแม่สีเมือง


ต้นผึ้ง ต้นเทียนสำหรับกราบไหว้ขอพร บนบานศาลกล่าวเจ้าแม่สีเมือง

ในประเทศพม่า เมื่อพระเจ้ามินดุงสร้างเมืองมัณฑเล ต้องเอาคนเป็น ๆ มาฝังถึง ๕๒ คน  โดยฝังตามประตูเมืองประตูละ ๓ คน ประตูมี ๑๒ ประตู  ก็เป็น ๓๖ คน  ตามมุมเมืองอีกมุมละคน   ประตูพระราชวังและสี่มุมกำแพงพระราชวังก็ต้องฝังคนอีก  และเฉพาะใต้พระที่นั่งสิงหาสน์อันเป็นพระที่นั่งใต้ท้องพระโรงสำหรับเสด็จออกขุนนาง  ต้องฝังถึง ๔ คน  (อ้างอิง : คึกฤทธิ์  ปราโมช, มรว. “พม่าเสียเมือง”  ดอกหญ้า ๒๐๐๐, ๒๕๕๒.) และเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี การสร้างหลักเมืองหรือศาลหลักเมือง ก็มีหลักฐานว่ามีการลงอาถรรพ์ด้วยเช่นกัน แต่เมื่อสร้างกรุงเทพมหานคร นั้น ประเพณีการฝังคนทั้งเป็นได้ถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ก็ยังปรากฎเหตุอัศจรรย์  ซึ่งอ่านได้ในสุขใจห้องสมุด กระทู้ ”อาถรรพ์การยกเสาหลักเมืองกรุงรัตนโกสินทร์” โพสท์เมื่อวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๕







วัดธาตุหลวงใต้
วัดธาตุหลวงใต้ : ปลอดควันยาสูบ  วัดนี้ไม่ได้อยู่ในโปรแกรมการเยือนเมืองลาว
แต่เห็นว่าอยู่ติดพระธาตุหลวง เลยเดินโฉบไปถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก
จึงขาดประวัติความเป็นมาของวัดค่ะ


พระพุทธรูป บนศาลาการเปรียญวัดธาตุหลวงใต้


จิตรกรรมพุทธประวัติ บนเพดานศาลาวัดธาตุหลวงใต้
(พุทธศิลป์คล้ายคลึงของไทย)


พระสงฆ์และสามเณร กำลังฉันภัตตาหารเพล
(สามเณรนั่งต่ำกว่าพระสงฆ์)




คุณยายร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์
(ทราบว่า เป็นการจัดสำรับเวียน เหมือนในเมืองไทยที่ยังมีอยู่บางพื้นที่)


"ธรรมาสน์" สถาปัตยกรรมลาว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 กันยายน 2558 19:07:15 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5698


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 12 กันยายน 2555 13:15:05 »

.

ประตูชัย สัญลักษณ์ของประเทศลาว สถาปัตยกรรมแบบลาว-ฝรั่งเศส  


น้ำผึ้ง มีขายทั่วไปในนครเวียงจันทน์ (ขวดละ ๑๐๐ บาทไทย)


แม่ค้าขายผัก (มะเขือ เห็ดนางฟ้า ผักกวงตุ้ง) หน้าพระธาตุหลวง
เป็นน่าประทับใจพ่อค้า แม่ค้ามาก  พอเราขอถ่ายรูป ทุกคนบอกยินดี
และขอบคุณเราด้วย  (รวมถึงคุณยายที่กำลังใส่บาตรตามกระทู้ข้างบนก็ขอบใจพวกเรา)


อาคารที่ทำการนครเวียงจันทร์ (คล้าย กทม. หรือเทศบาลนครของเมืองไทย)



ถนนในนครเวียงจันทน์ โล่ง โปร่ง สบาย ยกเว้นระหว่างเที่ยงวันถึงบ่ายโมง การจราจรติดขัดนิดหน่อย
ด้วยเป็นเวลาพักเที่ยงของทางราชการ นักเรียน ครู จะขี่จักรยานหรือเดินกลับไปรับประทานข้าวที่บ้าน
(ถ้าไม่ห่อไปกินที่โรงเรียนหรือที่ทำงาน)


ป้ายทะเบียนรถในประเทศลาว มี ๔ สี
สีขาวคือรถท่องเที่ยวหรือนำเที่ยว  สีเหลืองคือรถส่วนบุคคล  สีฟ้าคือรถของราชการ  และสีแดงคือรถตำรวจ


ร้านจำหน่ายของที่ระลึกและส่งออก (OUTLET)
ประเทศลาวยังไม่มีห้างสรรพสินค้า และร้านสะดวกซื้อ (เซเว่นอีเลฟเว่น)


รถขนส่งสินค้าของประเทศลาวจ้ะ

มีคนลาวภาคหนึ่ง ตามประเพณีสามารถมีภรรยาได้ถึง ๗ คน
ภรรยาหลวงเรียกว่าเมียบังเกิดเกล้า ภรรยาคนรองถัดไป เรียกว่าเมียบุญธรรม  
การที่ผู้ชายจะมีภรรยาบุญธรรม (เมียน้อย) ได้นั้น จะต้องได้รับความยินยอมจากภรรยาหลวงก่อน
และหญิงที่ยอมมาเป็นเมียบุญธรรม จะต้องเสียหัวหมูให้ภรรยาหลวง
ซึ่ีงแล้วแต่ภรรยาหลวงจะเรียกเอาหัวหมูกี่หัว
และเมื่อตกลงยินยอมมาเป็นเมียบุญธรรม(เมียน้อย) แล้ว  
การงานในบ้านทุกอย่างจะต้องทำแทนภรรยาก่อนหน้าตนเองทั้งหมด  

ภรรยาหลวงไม่ต้องจับต้องงานการสิ่งใดทั้งสิ้น
นี่กระมังที่เรียกว่า "เมียบังเกิดเกล้า"


เขิน  ภาษาพาเพลิน
ตัวอย่าง ภาษาพูดของชาวลาว
น้ำแข็ง  เรียกว่า น้ำมีอารมณ์
ผ้าเย็น  เรียกว่า ผ้าอนามัย (เขาหมายความว่าเป็นผ้าที่สะอาด)
ผ้าอนามัย  เรียกว่า ผ้ายันกันโลหิต (ผู้โพสท์ไม่อยากสะกด โดยใช้คำว่า "ยันต์" เพราะห่วงกังวลในเรื่องความหมายของคำ)
ขนมปังฝรั่งเศส (แบบมีไส้)  เรียกว่า ข้าวจี่ปาร์ตี้
ไข่ดาว  เรียกว่า ไข่เอื้อมไม่ถึง
ห้องตรวจโรค  เรียกว่า ห้องสอดแนม
ห้องตรวจภายใน  เรียกว่า ห้องจกเบิ่ง
ห้องคลอด  เรียกว่า ห้องเกิด  หรือ ห้องประสูติ
หมวกกันน็อก  เรียกว่า หมวกกันกระแทก
ปั๊มน้ำมันเชลล์  เรียกว่า ปั๊มหอยใหญ่
ปั๊มน้ำมัน ปตท.  เรียกว่า ปั๊มหัวหอมใหญ่
ปรบมือ  เรียกว่า เอามือตีกัน
แต่งงาน  เรียกว่า  งานเอากัน
เด็กหญิง  หญิงสาว  สาวใหญ่  เรียกว่า  สาวน้อย  สาวใหญ่   สาวมรดก
เด็กผู้ชาย  ชายหนุ่ม  หนุ่มแก่  เรียกว่า ...น้อย    ....ใหญ่    ...เหี่ยว





แม่น้ำโขง : เส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศ
แม่น้ำโขง  (เมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๕)

ส่งท้ายด้วยสาระความรู้
เรื่อง เส้นแบ่งเขตแดนไทย-ลาว

เส้นแบ่งเขตแดนไทย–ลาว ตามลำแม่น้ำโขง  เป็นผลสืบเนื่องจากหนังสือสัญญาที่ไทยทำไว้กับฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๖ (ค.ศ. ๑๘๙๓) ซึ่งกำหนดให้สยาม (ไทย) สละข้ออ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนฝั่งซ้าย รวมทั้งเกาะทุกเกาะในแม่น้ำโขงให้แก่ฝรั่งเศส  ต่อมาได้มีการทำอนุสัญญาฉบับลงวันที่ ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๙ (ค.ศ. ๑๙๒๖)  ซึ่งว่าด้วยแม่น้ำโขงโดยเฉพาะอนุสัญญาฉบับนี้กำหนดเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างไทย – ลาว ในแม่น้ำโขง  โดยระบุว่า ในตอนที่แม่น้ำโขงไม่แยกออกเป็นหลายสายเพราะมีเกาะตั้งอยู่  ให้ถือร่องน้ำลึกเป็นเส้นแบ่งเขตแดน  ส่วนในตอนที่แยกออกเป็นหลายสาย ให้ใช้ร่องน้ำลึกของสายแยกที่ใกล้ฝั่งไทยที่สุดเป็นเส้นแบ่งเขตแดน  แม้ภายหลังร่องน้ำลึกดังกล่าวจะตื้นเขินจนเชื่อมเกาะติดกับฝั่ง ก็ยังคงให้ถือร่องน้ำเดิมที่ตื้นเขินนั้นเป็นเส้นแบ่งเขตแดนตลอดไป  หากจะย้ายเส้นแบ่งเขตแดนก็ให้เป็นหน้าที่ของคณะข้าหลวงใหญ่ประจำแม่น้ำโขงเป็นผู้พิจารณา  โดยย้ายไปได้เพียงร่องน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุด ถัดจากร่องน้ำเดิมที่ตื้นเขินเท่านั้น  นอกจากนี้ ยังได้ระบุชื่อเกาะ ๘ เกาะให้เป็นดินแดนของไทยด้วย เช่น ดอนเขียว  ดอนเขียวน้อย  ดอนน้อย  ดอนบ้านแพง

ที่มา :“เส้นแบ่งเขตแดนระหว่างประเทศ” :  หนังสือสารานุกรมไทยฯ โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เล่ม ๓๒  หน้า ๑๖๒-๑๖๔


  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 กันยายน 2558 19:17:05 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น: ลาว 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.478 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 25 กันยายน 2567 12:13:50