ความเชื่อเรื่อง "โชคลาง"

โชคลาง

ไม่ว่าโลกวิทยาศาสตร์จะก้าวหน้าไปแค่ไหน คนจำนวนมากก็ยังคงเชื่อถือโชคลางอยู่ดี การถือโชคลางบางอย่างเขยิบขยายไปในระดับสากลด้วยซ้ำ
อาทิ การแตะไม้เพื่อไล่เคราะห์ร้าย นี่อาจมีที่มาจากพิธีกรรมก่อนสมัยคริสเตียน ซึ่งเกี่ยวกันกับการนับถือวิญญาณของต้นไม้หลายชนิด เช่น โอ๊ก แอช ฮอลลี หรือฮอว์ธอร์น เป็นต้น

แมวดำ : ภาพจาก women.sanook.com

การหลีกเลี่ยงแมวดำ เชื่อกันมาแต่ยุคกลางว่า พวกแม่มดจะเลี้ยงแมวดำไว้เป็นเพื่อน คนไทยครั้งปู่ทวดตาเทียดก็เคยเชื่อว่า หากแมวดำกระโดดข้ามโลงศพ ศพนั้นจะฟื้นขึ้นเป็นผีดิบ

ห้ามเดินลอดใต้บันไดพาด บันไดพาดที่พิงอยู่กับผนังหรือกำแพงแห่งใดแห่งหนึ่ง ก่อให้เกิดรูปทรงสามเหลี่ยมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของชีวิต เชื่อกันว่าถ้าใครเดินลอดใต้บันไดนั่น เขากำลังท้าทายโชคเคราะห์และปลุกวิญญาณให้ผวาตื่น

การหวีผมตอนค่ำคืน คนโบราณไทยสอนลูกสาวว่า ถ้าหวีผมตอนค่ำคืน พอเสร็จการแล้วต้องกรีดหวีเพื่อไล่เสนียดจัญไร แต่ที่จริง เมื่อพ่อแม่ได้ยินเสียงนั้น จะได้ระวังระไวป้องกันลูกสาวลอบไปพบหนุ่มยามวิกาล

Jennifer Aniston

นอกจากคนบ้าน ๆ อย่างเราท่านแล้ว ดาราและคนดังหลายคนก็ถือโชคเชื่อลางเช่นกัน บางคนมีพิธีกรรมเล็ก ๆ เฉพาะตัวเพื่อกวัดไกวขับไล่เคราะห์ร้ายอีกด้วย
เจนนิเฟอร์ อนิสตัน จะไม่ก้าวเข้าเครื่องบินลำไหน ๆ ทั้งนั้น หากเธอไม่ได้เคาะเบา ๆ ที่ลำตัวด้านนอกของเครื่องนั้น แถมยังต้องก้าวเท้าขวาเข้าไปก่อนอีกด้วยเพื่อปัดเป่าอุบัติภัย

คริส มาร์ติน นักร้องดังรายนี้ ต้องทำพิธีกรรมจุกจิกถึง ๑๘ อย่าง ก่อนออกไปแสดง หนึ่งในนั้นก็คือการแปรงฟัน “ผมต้องแปรงฟันก่อน ม่ายงั้นผมจะไมรู้สึกว่าตัวเองเจ๋งพอ”

จากการศึกษาวิจัยพบว่า การถือโชคลางอาจช่วยพัฒนาบุคลิกภาพได้ เพราะความเชื่อหรือการรับรู้ว่ามันเป็นลางดีหรือโชคดี จะช่วยเพิ่มความมั่นใจของเรา ส่วนลางร้ายหรือโชคร้ายที่ต้องขับไล่ให้พ้นตัว อาจเป็นการเพิ่มความระมัดระวังหรือป้องกันภัยมิให้เกิดขึ้น

ที่มา : คอลัมน์ "สำเริงคดี" มติชนรายสัปดาห์ ฉบับประจำวันที่ ๑๔ - ๒๐ กันยายน ๒๕๕๕ หน้า ๕๔