[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
23 เมษายน 2567 21:30:24 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เครื่องดื่ม รับเช้าวันใหม่  (อ่าน 2488 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
▄︻┻┳═一
SookJai.com
นักโพสท์ระดับ 9
****

คะแนนความดี: +7/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 794


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 22.0.1229.94 Chrome 22.0.1229.94


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2555 12:11:02 »

เครื่องดื่ม รับเช้าวันใหม่


ตื่นเช้า เริ่มกิจกรรมวันใหม่ ให้สดใสกว่าเดิม หลายคนอยากหาเครื่องดื่มดี ๆ ที่ส่งเสริมสุขภาพในตอนเช้า ให้มีพลัง เรามีมาแนะนำครับ

นมถั่วเหลือง
ปัจจุบันนมถั่วเหลืองหาซื้อได้ง่าย และเหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพ เพราะนมถั่วเหลืองเป็นเครื่งดื่มที่ให้โปรตีนที่มีคุณสมบัติเหมือนโปรตีนจากเนื้อสัตว์

กาแฟ
กาแฟเป็นเครื่องดื่มยามเช้าของคนทำงาน เพราะกาแฟช่วยกระตุ้นความสดชื่นและความกระปี้กระเปร่าก่อนลงมือทำงาน นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่ ลดอาการหอบในผู้ที่เป็นโรคหอบหืด และเป็นผลดีต่อนักกีฬาในการเพิ่มความทนทานและความอึดในกีฬาที่ต้องใช้เวลานาน

น้ำมะนาว
ลองหาน้ำมะนาวมาดื่มตอนเช้า เพราะในน้ำมะนาวจะมีกรดซิตริก มีวิตามินซีที่นอกจากจะช่วยขับเสมหะ แก้อาการเจ็บคอแล้วยังช่วยให้ร่างกายสดชื่น แถมกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเปลือกที่โดนคั้นยังช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้ดีอีกด้วย

น้ำผักหรือน้ำผลไม้
เป็นเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยวิตามินหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามินซี วิตามินเอ โฟลิคแอซิด และแร่ธาตุ เช่น โซเดียม โปแตสเซียม สังกะสี นอกจากนั้นในน้ำผักและน้ำผลไม้ยังมีส่วนผสมของน้ำตาลโดยธรรมชาติ ซึ่งสามารถให้พลังงานแก่ร่างกาย ช่วยให้เราหายเหนื่อย หายเพลีย ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น

น้ำหวาน
คนที่นอนดึกส่วนใหญ่ยามเช้าของคุณจะมีอาการปวดหัว มึนศีรษะ เกิดอาการเครียดทางประสาท ซึ่งอาจเป็นเพราะร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ควรรับประทานอาหารเช้าที่มีแป้งและน้ำตาลซึ่งจะสามารถช่วยได้ โดยเฉพาะน้ำตาลนั้นจะถูกดูดซึมได้ดีและง่าย ดังนั้นน้ำหวานจะทำให้จิตใจสงบ คลายอาการเครียดและมึนงงได้อย่างดี

น้ำขิง
สำหรับคนที่มีอาการเมาค้าง คลื่นไส้ อยากอาเจียน ก็ขอแนะนำน้ำขิงร้อน ๆ สักแก้ว เพราะในขิงมีสารเคมีชนิดหนึ่งที่เรียกว่า จินเจอรอล (Gigerol) ที่เป็นสารเคมีประเภทน้ำมันหอมระเหยที่ให้รสและกลิ่นพิเศษไม่เหมือนใคร จัดอยู่ในกลุ่มแอลกอฮอล์ที่ไม่ทำให้เรารู้สึกมึนเมา แถมยังแก้อาการเมาได้ดี การทำน้ำขิงให้อร่อยนั้น ควรบุบหัวขิงที่ไม่แก่จัดจนเกินไป ต้มด้วยน้ำร้อนพอเดือด อย่าต้มนานเกินไป เพราะขิงจะเสียรสและกลิ่นไปได้เริ่มด้วยสิ่งดีๆ ต่อสุขภาพของคุณ สดชื่นไปได้ทั้งวันเลย



Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 22.0.1229.94 Chrome 22.0.1229.94


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 05 พฤศจิกายน 2555 19:27:41 »



กาแฟน่ะดื่มแต่พอดี รับนํ้าชาเพิ่มสักถ้วยดีกว่ามั้ยครับ
โดย....คุณหมอbenzcl


1. ปัจจุบันเครื่องดื่มทั้งสองชนิดนี้เป็นที่นิยมกันไปทั่วทุกมุมของโลก
มีร้านจำหน่ายชากาแฟโดยเฉพาะ เเละยังมีให้เลือกบริโภคได้อีกหลายรูปแบบใช่ไหมครับ

ผมเองก็ดื่มชาและกาแฟ แต่จะดื่มชาเป็นประจำทุกวัน
และดื่มมานานหลายสิบปีแล้วครับ  เพราะรู้ว่ามีอะไรดีดีจากการดื่มชานั่นเองครับ


คนเรามักบริโภคกาแฟเมื่อเพลียยามเช้า หรือเมื่อตอนเครียดเป็นจำนวนมาก
ซึ่งมีผลวิจัยทางการแพทย์ที่เชื่อถึอได้ ยืนยันได้ว่า
การดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะ จะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว

แต่คอกาแฟที่ดื่มกันหนักๆ มักทำในสิ่งที่ไม่ได้เอื้อต่อการมีสุขภาพดีสักเท่าไร

จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟมากๆมักจะสูบบุหรี่ตามไปด้วย หรือไม่ก็ชอบทานของมัน และไม่ค่อยออกกำลังกาย
ในขณะที่พวกดื่มชามีแนวโน้มว่า ชอบออกกำลังกายมากกว่า และทานผักผลไม้สดมากกว่า 



2. ทุกท่านคงทราบกันดีว่า ในชาและกาแฟเป็นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน (caffeine)คาเฟอีนที่บริสุทธิ์จะสกัดได้เป็นผงสีขาว และะมีรสขม ดังในรูปด้านล่าง


คาเฟอีนเป็นสารที่มีฤทธิ์ต่อหลายระบบ ของร่างกาย โดยเฉพาะการกระตุ้นประสาทส่วนกลาง เพิ่มการเผาผลาญเมตาบอลิซึม เพิ่มการทำงานของหัวใจและไต
และยังมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ (anti-diuretic  effect) ซึ่งทำให้ไตต้องขับของเหลวมากกว่าปกติ



ในชาจะมีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟมาก กล่าวคือมีอยู่ราว 40 มิลลิกรัมต่อนํ้าชา 1 ถ้วยขนาดทั่วไป
ในขณะที่กาแฟคั่วบดมีคาเฟอีน 100-150 มิลลิกรัมแล้วแต่เมล็ดพันธุ์กาแฟ และชนิดผงสำเร็จรูปมี 64 มิลลิกรัม
ปกติแล้วในหนึ่งวันร่างกายไม่ควรได้รับคาเฟอีนเกินกว่า 300 มิลลิกรัม

อย่างไรก็ดี คาเฟอีนเป็นสารที่ไม่สามารถสะสมอยู่ในร่างกายได้
จึงไม่ต้องกังวลเรื่องผลตกค้าง จะต้องระวังก็เพียงแต่การบริโภคเกินขนาดที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน 

สตรีมีครรถ์และมารดาที่ให้นมบุตร ผู้ป่วยโรคหัวใจควรหลีกเลี่ยงชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
เพราะคาเฟอีนถูกส่งผ่านรกเข้าสู่ทารกได้ และยังผ่านทางนํ้านมได้ด้วย


ดังนั้น ถ้าพิจารณาถึงปริมาณของคาเฟอีน เราจึงไม่ต้องเลิกกาแฟ
ขอเพียงแต่ดื่มไม่เกินวันละ 2 ถึง 3 ถ้วยเท่านั้น และเลือกใช้กาแฟสดแทนกาแฟผงสำเร็จรูป
ส่วนนํ้าชาดื่มได้ไม่เกินวันละ 7 ถึง 8 ถ้วย แต่มีประโยชน์ของชาที่ผมจะกล่าวในรีพลายต่อไป
คนที่ดื่มทั้งสองอย่างก็ต้องพิจารณาอย่างเหมาะสมนะจะบอกให้ 

การดื่มชาและกาแฟติดต่อกันนานๆ ย่อมเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายขาดนํ้าได้
ด้วยเหตุผลนี้ เราจึงไม่ควรดื่มชากาแฟแทนนํ้าที่ร่างกายเสียไป


นอกจากนี้ชาและกาแฟยังรบกวนการดูดซึมธาตุเหล็กเข้าสู่ร่างกายได้
ฉะนั้น  ถ้าคุณมีแนวโน้มจะมีภาวะเลือดจางจากการขาดธาตุเหล็กแล้วชอบดื่มชากาแฟ
ก็ควรงดดื่มในช่วง 1 ชั่วโมงก่อนเวลาอาหาร จนถึงอย่างน้อย 1 ชั่วโมงหลังอาหาร



3. มีผลวิจัยที่ประเทศแถบทวีปยุโรปยืนยันว่า การดื่มชาวันละ 4 - 6 ถ้วยต่อวัน
จะช่วยลดความเสี่ยงต่อจากโรคบางอย่างได้ เช่นโรคหัวใจและเส้นเลือด


และมีรายงานไว้ชัดเจนว่า กลุ่มผู้ชายอายุ 50-69 ปี ที่ดื่มชาเฉลี่ยวันละประมาณ 4-5 ถ้วย
ความเสี่ยงต่อภาวะเส้นเลือดในสมองแตกลดลงได้ถึงเกือบ 70 %

ส่วนในสหรัฐอเมริกาก็มีวิจัยพบว่า ผู้ที่ดื่มชาวันละ 1 ถ้วยขึ้นไป
จะมีโอกาสเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายน้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มชาเลยถึง 50 %

เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะว่าในชาไม่ว่าจะเป็นชาดำ ชาอูหลง หรือชาเขียว
ต่างก็เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ( anti-oxidant) จำพวก ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid)
ซึ่งจะสลายออกมาจากใบชาในช่วงไม่กี่นาทีแรกที่เราเติมนํ้าร้อนเข้าไป
ฟลาโวนอยด์นี้เองที่จะไปช่วยให้ร่างกายต่อต้านอนุมูลอิสระชนิดต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของเรา
และเกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจและมะเร็งบางชนิด น่านล่ะครับ


การดื่มชาวันละ 3 ถ้วย เป็นเวลาสองสัปดาห์
จะช่วยเพิ่มปริมาณฟลาโวนอยด์ในเลือดได้ถึง 25 %



4.ทิ้งท้ายไว้สักนิดแต่ก็มีความสำคัญนะครับ

1. ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ชาและกาแฟลดความอ้วนจำหน่ายหลายยี่ห้อ

แต่ที่พิสูจน์ได้ชัดทางการแพทย์ พบว่าได้ผลกับการดื่มชาบางชนิด และช่วยลดนํ้าหนักได้ไม่มาก
ส่วนที่มีคนบอกว่า ดื่มกาแฟประเภทสลิมมิ่งแล้วนํ้าหนักลด

ทางองค์การอาหารและยาบ้านเราวิเคราะห์แล้วพบว่า
หลายยี่ห้อมีการเจือปนยาลดความอ้วนบางชนืดเข้าไปด้วย (sibutramine) ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค เพราะไม่ได้เป็นการพบแพทย์โดยตรง


2. การบริโภคชากาแฟมากเกินพอดีเป็นประจำจนติดและไม่ดื่มไม่ได้นั้น ถือว่าติดคาเฟอีนแล้ว
แต่การติดคาเฟอีนไม่จัดเป็นยาเสพติดตามเกณฑ์ PSM-IV ของสมาคมจิตแพทย์ศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา
และนิยมเรียกพฤติกรรมบริโภคคาเฟอีนว่า บริโภคจนเป็นนิสัยหรือติดมากกว่า

ถ้าดื่มจนติดเป็นนิสัยและไม่ได้รับคาเฟอีนจะเกิดอาการถอนคาเฟอีน (caffeine withdrawal ) โดยจะมีอาการปวดศีรษะภายใน 6 ชั่วโมง
ตามมาด้วยอาการอ่อนเพลีย น้ำมูกไหล เหงื่อออกมาก ปวดกล้ามเนื้อ วิตกกังวล กระวนกระวาย อาการเหล่านี้จะคงอยู่ไม่ต่ำกว่า 72 ชั่วโมง
ฉะนั้นหากจะเลิกดื่มชากาแฟ ก็แก้ปัญหาได้โดยการค่อยๆลดปริมาณการดื่มลง ไม่ใช่เลิกแบบปุบปับครับ


ขอขอบคุณ....คุณหมอbenzcl
http://www.baanpud.net/forum/viewtopic.php?f=47&t=2418

noway2know http://www.prachathon.org/forum/index.php?topic=59.0

บันทึกการเข้า
คำค้น: เครื่องดื่ม อาหาร อาหารเช้า ยามเช้า 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.532 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 27 มีนาคม 2567 12:26:14