[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
18 เมษายน 2567 16:33:23 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมคำสอนของหลวงปู่ดูลย์ จึงเหมือนกับ คำสอนของฮวงโป  (อ่าน 3731 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.99 Chrome 5.0.375.99


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 26 กรกฎาคม 2553 14:19:12 »

[ คัดลอกจากบอร์ดเก่า โพสท์โดย อ.มดเอ็กซ์ ]



 
 
คำสอนของหลวงปู่ดูลย์กับฮวงโป
 
ถาม ผมสงสัยว่าทำไมคำสอนของหลวงปู่ดูลย์จึงเหมือนกับคำสอนของฮวงโป
 
ตอบ เพราะหลวงปู่ยืมถ้อยคำของท่านฮวงโปมาใช้ เรื่องนี้สืบเนื่อง จากท่านเจ้าคุณพระโพธินันทมุนีเป็นผู้นำหนังสือ "คำสอนฮวงโป" ที่ท่านอาจารย์พุทธทาสแปลไว้ไปถวายให้หลวงปู่พิจารณา หลวงปู่เห็นว่าท่านฮวงโปบัญญัติถ้อยคำไว้ตรงกับสภาวะดีแล้ว และท่านอาจารย์พุทธทาสก็แปลไว้ดีแล้ว จึงนำคำสอนมากล่าวสอนเพียงบางส่วนเท่าที่เห็นว่าผู้ปฏิบัติควรทราบ มาในชั้นหลังนี้ได้ทราบว่ามีผู้ตำหนิท่านว่าละเมิดลิขสิทธิ์ คือนำหนังสือของท่านอาจารย์พุทธทาสไปพิมพ์แจกเป็นหนังสือ "จิตคือพุทธะ" ความจริงหลวงปู่ไม่เคยเขียนหนังสือธรรมะ และไม่เคยพิมพ์หนังสือธรรมะแจก มีแต่กล่าวธรรมให้ผู้สนใจฟังอย่างไม่มีรูปแบบและครั้งละไม่กี่คนเท่านั้น และท่านก็ไม่ได้ต้องการชื่อเสียง เกียรติยศหรือได้รับผลประโยชน์อะไร เพียงต้องการให้ผู้ฟังได้รับประโยชน์เท่านั้น ส่วนการพิมพ์หนังสือ "จิตคือพุทธะ" ก็เป็นเรื่องที่ลูกศิษย์ลูกหาทำกันเองในชั้นหลัง ถ้าจะว่ามีความบกพร่องที่ไม่มีเชิงอรรถหรือบรรณานุกรมอ้างอิงถึงหนังสือแปลของท่านอาจารย์พุทธทาส ก็ขอให้ว่าลูกศิษย์เถอะ ผู้เฒ่าอายุร่วมร้อยปีท่านไม่เข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์อะไรหรอก เหมือนท่านอ่านหนังสือแล้วเห็นว่าถูกต้องดี และสอดคล้องกับธรรมที่ท่านรู้เห็นมาด้วยการปฏิบัติ ท่านก็นำมาเล่าให้ลูกศิษย์ฟังเท่านั้นเอง
 
ถาม คำสอนของเว่ยหล่างฮวงโปไม่ใช่คำสอนในฝ่ายเถรวาทของเรา จะใช้ได้หรือครับ โดยเฉพาะบางอย่างฟังแล้วพิกลมาก เช่น เรื่องจิตกับสภาวะที่แวดล้อมอยู่เป็นสิ่งเดียวกัน พอจะมีคำสอนในฝ่ายเถรวาทของเราเทียบเคียงได้บ้างไหมครับ
 
ตอบ คำสอนทั้งหลายนั้นจะใช้ได้หรือไม่ได้ ไม่ได้อยู่ที่ว่าใครเป็นผู้สอน แต่อยู่ที่ตัวเนื้อหาของคำสอนเองต่างหาก โดยเฉพาะคำสอนในเรื่องแนวทางการปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์นั้น หากสอดคล้องกับคำสอนของพระพุทธเจ้าก็ต้องถือว่าใช้ได้ แต่หากขัดกับคำสอนของพระพุทธเจ้า แม้ผู้สอนจะเป็นฝ่ายเถรวาทเอง ก็ต้องถือว่าใช้ไม่ได้ ดังนั้นเราไม่ควรยอมรับหรือปฏิเสธคำสอนของผู้ใดด้วยเหตุผลที่ว่า เขาเป็นเถรวาทหรือมหายาน แต่ควรดูที่เนื้อหาของคำสอนนั้นเป็นสำคัญ
 
สำหรับคำสอนที่ว่า "จิตกับสภาวะที่แวดล้อมอยู่เป็นสิ่งเดียวกัน" นั้น โดยถ้อยคำหรือพยัญชนะแล้ว ไม่มีปรากฏในคำสอนของฝ่ายเถรวาทแน่นอน และโดยเนื้อหาหรืออรรถะถ้าเราตีความตรงตามตัวอักษร ก็ไม่ถูกต้องตามคำสอนของฝ่ายเถรวาทด้วย เพราะจิต (จิตในจิตอันเป็นภายใน) ก็เป็นสภาวธรรมอันหนึ่ง สภาวะที่แวดล้อมอยู่ได้แก่ จิตในจิตอันเป็นภายนอก เจตสิก รูป (ทั้งที่มีวิญญาณครองและไม่มีวิญญาณครอง) และนิพพาน ต่างก็เป็นสภาวธรรมต่างหากออกไปจากกัน จะเป็นสิ่งเดียวกับจิต (จิตในจิตอันเป็นภายใน) ไม่ได้เลย
 
แต่ถ้าพิจารณาถึงสิ่งที่ท่านฮวงโปต้องการสื่อแล้ว คำสอนดังกล่าว ก็น่าฟังมาก คือท่านไม่ได้สอนว่าจิต เจตสิก รูป นิพพานและบัญญัติเป็นสิ่งเดียวกัน แต่ท่านกล่าวถึงความรู้สึกของผู้ที่สามารถปล่อยวาง ความยึดถือจิตได้แล้ว ซึ่งจะรู้สึกว่าธรรมทั้งปวง ทั้งภายในและภายนอก เป็นสิ่งเดียวรวดคือเป็นอนัตตา ทั้งนี้จิตกับสิ่งแวดล้อมเป็นคนละสิ่งโดยสภาวะ แต่มีลักษณะอันเดียวกันคืออนัตตลักษณะ
 
หากพิจารณาถึงคำสอนในฝ่ายเถรวาทเอง ที่พอจะเทียบเคียงกับสภาวธรรมตามความมุ่งหมายของท่านฮวงโปได้บ้าง ก็มีปรากฏในอรรถกถาว่าด้วยพาหิยสูตร คือพระอรรถกถาจารย์กล่าวว่า "จักขุวิญญาณ ย่อมไม่กำหนัด ขัดเคือง หลงในรูปที่มาปรากฏฉันใด เราจักตั้งชวนจิตไว้โดยประมาณแห่งจักขุวิญญาณอย่างนี้ว่า ชวนจิตของเราจักเป็นเพียงจักขุวิญญาณเท่านั้น เพราะเว้นจากราคะเป็นต้น"
 
จุดนี้พระอรรถกถาจารย์กล่าวถึงจักขุวิญญาณจิตว่าปราศจากกิเลส และสิ่งที่จักขุวิญญาณจิตเห็นนั้น นักปฏิบัติจะพบว่า มันคือรูปที่ว่างเปล่าจากความเป็นตัวตนและปราศจากน้ำหนัก แต่เมื่อเห็นรูปแล้ว ชวนจิตที่เกิดตามมากลับเป็นมหากุศลจิตบ้าง หรือเป็นอกุศลจิตบ้าง และจิตเกิดความยึดถือรูปนั้น จึงเกิดน้ำหนักแห่งความเป็นตัวตนขึ้น ในจิตใจ ดังนั้นรูปภายนอกจึงว่างไร้น้ำหนัก แต่จิตภายในกลับหนัก นับว่าจิตกับสภาวะที่แวดล้อมอยู่เป็นคนละอย่างกัน
 
แต่ถ้าชวนจิตที่เกิดตามมาเป็นเหมือนจักขุวิญญาณจิตเมื่อใด คือ ทำหน้าที่รู้อย่างเดียว ไม่ปรุงแต่งกุศลหรืออกุศล (แต่จิตอย่างนี้แหละเป็นมหากุศลจิตชั้นยอดทีเดียว) ชวนจิตจะไม่มีน้ำหนักแห่งความเป็นตัวตน หรือน้ำหนักแห่งความยึดถือขันธ์ ผู้ปฏิบัติจะรู้สึกได้ทันทีว่า รูปอันเป็นสิ่งแวดล้อมภายนอกก็ว่าง และจิตเองก็ว่างเสมอกัน อาตมาคิด ว่าท่านฮวงโปต้องการเล่าถึงสภาวะตรงนี้ ในขณะที่คัมภีร์ฝ่ายเถรวาทของเราไม่ได้เล่าถึงสภาวะที่เป็นผล แต่เล่าถึงส่วนที่เป็นการทำเหตุ คือการฝึกเจริญสติไปจนกระทั่งชวนจิตว่างเปล่าจากกิเลส เช่นเดียวกับจักขุวิญญาณจิต อันจะทำให้ได้เห็นธรรมภายในและธรรมภายนอกว่างจากความเป็นตัวตนเสมอกันหมด
 
พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชโช


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น: ทำไม คำสอน หลวงปู่ ดูลย์ เหมือน ฮวงโป พระอาจารย์ ปราโมทย์ ปาโมชโช 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
คำสอนของฮวงโป พุทธทาสภิกขุ แปลเรียบเรียง « 1 2 »
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
เงาฝัน 37 19097 กระทู้ล่าสุด 19 กันยายน 2555 18:56:20
โดย เงาฝัน
คำสอนของฮวงโป :บันทึกวาน-ลิง « 1 2 »
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
เงาฝัน 22 8926 กระทู้ล่าสุด 14 เมษายน 2556 21:10:24
โดย เงาฝัน
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.413 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 13 เมษายน 2567 10:20:33