[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 เมษายน 2567 03:53:12 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตำนานพระธาตุดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่  (อ่าน 9006 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5461


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 19 มกราคม 2556 11:11:53 »

.




ตำนาน  พระธาตุดอยสะเก็ด
อำเภอดอยสะเก็ด  จังหวัดเชียงใหม่

วัดพระธาตุดอยสะเก็ด  เป็นวัดที่เก่าแก่สร้างมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๑๕๕ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๖๑ และเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๓  ได้รับให้ยกฐานะเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่นของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ  

ประวัติหรือตำนานตามที่บันทึกไว้ในประวัติ-ตำนานวัด มีดังนี้
ในสมัยพุทธกาล เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ธรรมอันวิเศษแล้ว ได้นำเอาธรรมะออกเผยแผ่แก่ชาวชนบทน้อยใหญ่ในชมพูทวีป จนได้มีผู้รู้แจ้งเห็นจริงในสัจธรรมเป็นจำนวนมาก  

ในกาลนั้นแล พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงปาฏิหาริย์มาปรากฏกายทิพย์ ณ บนดอยแห่งนี้ แล้วทรงเปล่งพระฉัพพรรณรังสีสว่างเจิดจ้าไปทั่ว ขณะนั้นได้มีพญานาคคู่หนึ่งอาศัยอยู่ในหนองบัว (ห่างจากวัดพระธาตุดอยสะเก็ดประมาณ ๑ กิโลเมตร  ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) ได้เห็นฉัพพรรณรังสีจึงแปลกใจพากันเลื้อยขึ้นสู่บนดอยแล้วได้ทัศนาเห็นพระพุทธองค์ บังเกิดความเลื่อมใสจึงแปลงกายเป็นชายหนุ่มหญิงสาวมาเข้าเฝ้าพร้อมกับได้นำดอกบัวมาถวาย พระพุทธองค์ทรงรับเอาดอกบัวแล้วจึงทรงแสดงธรรมโปรด และประทานพระเกศาธาตุแก่พญานาคแปลงคู่นั้น  พญานาคจึงได้อธิษฐานสร้างเจดีย์หิน แล้วนำเอาพระเกศาธาตุบรรจุประดิษฐานไว้บนดอยแห่งนี้

ต่อมาได้มีนายพรานผู้แสวงหาของป่าได้มาพบเห็นเจดีย์มีลักษณะสวยงาม จึงเกิดอัศจรรย์แล้วได้นำเอาก้อนหินมาก่อเป็นรูปเจดีย์ขึ้น กลางคืนได้นิมิต (ฝัน) ว่าเจดีย์ที่ตนพบนั้นเป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า  จึงได้บอกกล่าวชักชวนประชาชนในแถบนั้นขึ้นไปสักการบูชา และเรียกชื่อภูเขาแห่งนี้ว่า “ดอยเส้นเกศ” บ้าง “ดอยสะเก็ด”บ้าง ที่เรียกว่าดอยเส้นเกศนั้นเพราะเรียกตามพระเกศาธาตุ ที่เรียกว่าดอยสะเก็ดเพราะเรียกเพี้ยนสำเนียงตามที่พญานาคลอกคราบ (ชาวเหนือเรียกดอยสะเก็ด หรือสละเกล็ด) คือ ถอดหรือลอกคราบนั้นเอง

ดอยแห่งนี้ได้มีพุทธศาสนิกชนขึ้นมานมัสการเจดีย์หิน อันเป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุมากขึ้น จึงได้ก่อเจดีย์ปูนเสริมให้ใหญ่และมั่นคงกว่าเดิม  

ต่อมาได้มีพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อว่า “ครูบาเก๋” จากอำเภอเมือง จังหวัดน่าน  มาสร้างวิหารและบูรณะเจดีย์ พร้อมทั้งสถาปนาขึ้นเป็นวัด เรียกว่า “วัดพระธาตุดอยสะเก็ด” และได้มีชาวบ้านเข้ามาอยู่อาศัยในเชิงดอยและใกล้เคียงมากขึ้น ทางราชการจึงได้จัดตั้งเป็นอำเภอ โดยใช้ชื่อว่า “อำเภอดอยสะเก็ด”  ตามภาษาเรียกของชาวบ้านเป็นต้นมา

จุลศักราช ๑๑๙๗ พ่อน้อยอินทจักร  ได้มาบูรณะวิหารหลังเก่า และเมื่อจุลศักราช ๑๒๗๔ ครูบาชัย วัดลวงเหนือ (วัดศรีมุงเมืองปัจจุบัน) ได้มาซ่อมแซมวิหารให้ดีกว่าเดิม และเสริมองค์เจดีย์ให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม และในจุลศักราช ๑๒๕๗ ตรงกับ พ.ศ.๒๔๔๘ พระอภิวงศ์ หรือ ครูบากาวิชัย  พร้อมด้วยพ่อหนานอินทวงศ์ (พ่อขุนผดุงดอยแดน)  ได้มาตั้งบ้านเรือนอยู่ในหมู่บ้านเชิงดอย (ตลาดอำเภอ)  เป็นครอบครัวแรก ได้ร่วมกันอุปถัมภ์วัดพระธาตุดอยสะเก็ดตลอดมา

ปูชยนียวัตถุของโบราณเก่าแก่ล้ำค่าของวัดพระธาตุดอยสะเก็ดมีมาก อาทิเช่น มีเจดีย์ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุอายุร่วม ๑,๐๐๐ ปี  มีพระบรมสารีริกธาตุอันเป็นปูชนียวัตถุอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่สักการะเคารพของชาวอำเภอดอยสะเก็ดทุกปี

ในเดือน ๘ เป็ง (ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ใต้)  ทางวัดจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากที่ประดิษฐานให้พุทธศาสนิกชนสรงน้ำ


ศาสนาพุทธในอำเภอดอยสะเก็ด
การนับถือศาสนาพุทธในพื้นที่ต่างๆ ของเมืองเชียงใหม่  ได้เข้ามาสู่ดินแดนแห่งนี้ ทั้งแบบมหายานจากจีน  และแบบเถรวาทสืบมาแต่อาณาจักรหริภุญไชย  ส่งต่อมาในสมัยล้านนา  มีการศึกษาเรียนรู้และสืบทอดพระพุทธศาสนา  แม้ว่าบางครั้งจะอยู่ในปกครองของพม่า แต่ก็มีการสืบสานพระพุทธศาสนาเรื่อยมา แต่การนับถือพระพุทธศาสนาของชาวล้านนานั้นก็ยังมีการผสมผสานกับความเชื่อของท้องถิ่น เช่นความเชื่อเรื่องผี  ไสยศาสตร์  และวิญญาณร่วมด้วย

ในยุคของการเก็บผักใส่ซ้าเก็บข้าใส่เมือง มีการอพยพผู้คนจากเมืองต่างๆ มาเป็นพลเมืองของเชียงใหม่เพื่อความมั่งคั่งและช่วยในการฟื้นฟูบ้านเมืองที่บอบช้ำจากศึกสงคราม โดยกวาดต้อนชาวไทลื้อ ไทเขิน จากเมืองทางตอนเหนือลงมาไว้ในท้องที่อำเภอดอยสะเก็ด โดยกลุ่มชนต่างๆ ก็ได้สร้างวัดวาอารามตามลักษณะความเชื่อของบรรพบุรุษ และอิทธิพลที่ได้รับจากเมืองที่จากมา ทั้งไทลื้อ ไทใหญ่ ไทเขิน พม่า เป็นต้น  นอกจากนี้วัดต่างๆ ก็ได้รับการบูรณะฟื้นฟูอยู่ตลอดมา เช่นวัดพระธาตุดอยสะเก็ด  

ปัจจุบันวัดในอำเภอดอยสะเก็ดส่วนใหญ่สังกัดมหานิกาย  และมีวัดเดียวที่สังกัดธรรมยุติกนิยาย คือวัดศรีมุงเมือง


ศาสนาคริสต์ในอำเภอดอยสะเก็ด
คริสตจักรในอำเภอดอยสะเก็ด  เป็นคริสตจักรที่เริ่มจากการรับความเชื่อคริสต์ศาสนาของชนท้องถิ่นรุ่นแรก ๆ  มาจากการเห็นคุณค่าและประโยชน์จากยารักษาโรคของฝรั่ง  ตลอดจนได้รับการคุ้มครองจากมิชชันนารีให้รอดพ้นจากการกล่าวหาเรื่องผีกะ (ผีปอบ) และการได้รับความช่วยเหลือทางสังคม เศรษฐกิจ จนทำให้เกิดการรับความเชื่อในศาสนาคริสต์ขึ้นในบ้านแม่ดอกแดง เมื่อปี พ.ศ.๒๔๑๘ และเผยแพร่ไปตามกลุ่มญาติโดยมีศูนย์กลางคริสตจักรที่บ้านแม่ดอกแดง มีพ่อครูโจนาธาน วิสสัน  นายแพทย์แมเรียน เอ ชัค  และนางสาวเอดนา โคล์  มิชชันนารีเป็นผู้มาสถาปนาคริสตจักรแม่ดอกแดง เมื่อวันที่ ๒๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๒๓ โดยเรียกว่า “Paish” (คริสตมณฑล) และขยายคริสตจักรใหม่ไปยังป่าป้องใต้ร้อง

ศาสนาอิสลามในอำเภอดอยสะเก็ด
ชุมชนมัสยิดอัล–ฟัฏลิ (ดอยสะเก็ด) เป็นชุมชนเล็กๆ พี่น้องมุสลิมส่วนใหญ่ที่นี่จะมีเชื้อสายอินเดียและบังคลาเทศ ซึ่งได้เดินทางมาค้าขายและเห็นความอุดมสมบูรณ์ของทำเลที่ตั้ง จึงได้รวมตัวกันตั้งรกราก ณ บ้านเชิงดอย บางคนก็ไปตั้งรกรากอยู่บ้านแม่ก๊ะ ตำบลตลาดใหญ่ มุสลิมในอำเภอดอยสะเก็ดมีมากว่าร้อยปี แรกเริ่มเดิมทีก็จะมีหลายครอบครัว และต่างคนต่างย้ายครอบครัวไปอยู่ในเมืองกันบ้าง เช่น ในชุมชนช้างคลาน ชุมชนช้างเผือก ตามแต่ความพอใจ คงเหลือแต่ครอบครัวของนายอับดุลกุฟูร  เจริญศรี  ค้าขายผ้า ครอบครัวของฮัจยีบาบู–นางคำมูล อารีซอน ค้าขายเนื้อวัวชำแหละ เลี้ยงวัวนม และครอบครัวนายเดช อารีชาติ  าขายของชำ

ปัจจุบันมีมัสยิดอัลฟัฏลิ (ดอยสะเก็ด) ตั้งอยู่หมู่ ๓  ตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เป็นมัสยิดลำดับที่ ๖ ของจังหวัดเชียงใหม่




องค์พระเจดีย์เดิม ถูกสร้างครอบไว้อีกชั้นหนึ่ง














วัดพระธาตุดอยสะเก็ด มีความสะอาดเป็นระเบียบ ต้นไม้ตัดแต่งสวยงาม
จนได้รับการยกฐานะให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง


พระพุทธบาทจำลอง วัดพระธาตุดอยสะเก็ด
ในสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงพุทธปาฏิหาริย์
เสด็จมาประทับ ณ เขาลูกนี้แล้วประทานพระเกศาธาตุแก่พญานาค ๒ ตัว
ที่แปลงกายเป็นชายหนุ่มหญิงสาวนำดอกบัวมาถวายพระพุทธองค์
วัดจึงได้สร้างรอยพระพุทธบาทจำลองเพื่อเป็นพุทธานุสสติและเป็นพุทธบูชา  
ญาติโยมมาสักการะขอให้ตั้งจิตให้ดี จะเป็นบุญกุศลสืบไป
หินก้อนนี้ เดิมสูง ๕ เมตร
ตอนปรับบริเวณวัดปรากฏว่าส่วนที่เหลือแมคโคร์ขุดจนฟันหักก็ปรับไม่ได้
จุดระเบิดหินก็ไม่แตกกดไม่ลง
ข้อมูล : คัดจากจารึกศิลาข้างพระพุทธบาทจำลอง


อาคารพิพิธภัณฑ์วัดพระธาตุดอยสะเก็ด








ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงการก่อตั้งชุมชนหลังการสร้างพระธาตุดอยสะเก็ด
และการเข้ามาของศาสนาพุทธ  ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม
ซึ่งเป็นมูลเหตุให้คนในชุมชนมีการเลือกนับถือศาสนาหลากหลาย














การแต่งกายและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไตลื้อ
ในต้นพุทธศตวรรษที่ ๒๔ เมืองเชียงใหม่และเมืองน่านได้เข้าไปมีบทบาททางการเมืองและการทหาร
ในสิบสองปันนาและเชียงตุง จึงมีการกวาดต้อนและชักจูงชุมชนไตลื้อเข้าสู่เมืองเชียงใหม่และลำพูน 
ตามนโยบาย “เก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง” จากการค้นคว้า สันนิษฐานว่าบริเวณอำเภอดอยสะเก็ด
เป็นที่ที่กลุ่มชาวไทยลื้อกลุ่มเมืองเชียงรุ้ง เมืองฮำ เมืองแซ่ เมืองลู เมืองออง เมืองลวง
มาตั้งรกรากอยู่เมื่อประมาณ ๒๐๐ กว่าปีมาแล้ว  และต่อมาเมื่อประชากรเพิ่มมากขึ้นก็มีการขยายชุมชน
ตามที่ราบลุ่มของแม่น้ำต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ จนในปัจจุบันชาวบ้านไตลื้อในอำเภอดอยสะเก็ด
มีประมาณ ๔ หมู่บ้าน คือ บ้านลวงเหนือ  ลวงใต้  ป่าเมี่ยง  ป่าคา

ชาวไตลื้ออำเภอดอยสะเก็ดแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  ส่วนใหญ่ก็ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ และสัญลักษณ์
เช่น ภาษาพูด ความเชื่อ การแต่งกาย อาหารการกิน การแสดง อาชีพเกษตรกรรม



ตลาดผดุงดอยแดน อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
ความอุดมสมบูรณ์ของดอยสะเก็ด เริ่มที่บ้านเชิงดอย ทำเลที่เหมาะสำหรับการค้าขายแลกเปลี่ยน
จึงทำให้มีผู้คนมาทำการค้าขายกันอย่างคับคั่ง วิถีชีวิตของคนในชุมชนจึงมีอาชีพค้าขาย
ต่อมาขุนผดุงดอยแดนได้สร้างตลาดขึ้นเพื่อใช้เป็นสื่อกลางในการศื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 กันยายน 2558 17:33:57 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪
ลั้ลลา
ผู้ดูแลบ้านสุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +8/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 2097


【ツ】ต้นไม้แห่งแสง

ระบบปฏิบัติการ:
Linux Linux
เวบเบราเซอร์:
Safari 4.0 Safari 4.0


หน้ากู
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 19 มกราคม 2556 13:30:06 »

ลักษณะของสถาปัตยกรรมล้านนาสวยงามมาก
ดูอ่อนช้อยแต่ดูไม่เปราะบาง
บันทึกการเข้า

เราช่วยกันนำต้นรักที่เพาะได้
   ส่งไปตาม บ้านที่ต้องการ
       อยากจะได้...
   หรืออยากจะเติม
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
สักการะพระเจ้าเก้าตื้อ ที่วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng 1 6535 กระทู้ล่าสุด 08 ธันวาคม 2555 15:31:17
โดย Kimleng
วัดหม้อคำตวง จังหวัดเชียงใหม่ - ศูนย์รวมโหราจารย์ที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng 0 7831 กระทู้ล่าสุด 02 กุมภาพันธ์ 2556 20:26:39
โดย Kimleng
ไปแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ดูเกษตรกรรีดนมวัว
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng 1 9568 กระทู้ล่าสุด 28 ตุลาคม 2556 14:30:52
โดย Kimleng
อุทยานแห่งชาติออบหลวง สัมผัสธรรมชาติน่าเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng 0 1052 กระทู้ล่าสุด 24 ตุลาคม 2562 17:15:05
โดย Kimleng
ปู่แสะ-ย่าแสะ ตำนานยักษ์ผู้ปกปักรักษาผืนป่าดงดอย จังหวัดเชียงใหม่
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng 0 2254 กระทู้ล่าสุด 18 มีนาคม 2563 14:59:10
โดย Kimleng
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.436 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 16 ชั่วโมงที่แล้ว