[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 22:04:37 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขุดกลอยจากป่ามาทำขนม (กลอย พืชมีพิษแต่โดนพิชิตด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน)  (อ่าน 27185 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5392


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 10 ตุลาคม 2555 10:29:55 »


กลอย พืชมีพิษแต่โดนพิชิตด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน

กล่าวถึงพืชที่ชาวบ้านเข้าป่าไปหานำมาปรุงอาหารนั้น มีมากมายหลากหลาย ถ้าจะให้นับก็คงนับกันไม่หวาดไม่ไหว  แต่ถ้าจะกล่าวถึงพืชที่ชาวบ้านนำมาประกอบอาหารแต่ต้องใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านที่คิดหาวิธีกำจัดพิษออกจนหมด  จึงจะนำพืชเหล่านั้นมาประกอบอาหารได้ ก็คงไม่พ้น กลอย  กลอยจัดเป็นพืชจำพวกคาร์โบไฮเดรท   คนในชนบทหรือชาวป่าชาวเขา มักขุดหัวกลอยมาต้มกิน หรือหุงรวมกับข้าว ส่วนคนเมืองนิยมนำไปปรุงเป็นของหวานหลากหลายชนิด เช่น กลอยคลุกน้ำตาลกับมะพร้าว  กลอยนึ่งปนกับข้าวเหนียวมูน   ข้าวเหนียวกลอยหน้าสังขยา หรือโรยน้ำตาลปนเกลือและงา   เป็นส่วนผสมของแป้งชุบกล้วยแขก  กลอยแผ่น  ข้าวเกรียบกลอย  แกงบวดกลอย  และที่ขาดกลอยเป็นส่วนผสมเสียมิได้เลยคือถั่วทอด (ขนมขึ้นชื่อของจังหวัดสุโขทัย)


ถั่วทอด ขนมของฝากของจังหวัดสุโขทัย
ภาพจาก : www.weloveshopping.com

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :  กลอยจัดเป็นพืชล้มลุก ชนิดไม้เลื้อย มีหัว  มักขึ้นตามป่าเบญจพรรณค่อนข้างโปร่ง พบมากในภาคเหนือ ช่วงฤดูฝนจนถึงฤดูหนาว  หัวกลอยฝังอยู่ใต้ดินตื้น ๆ หัวใหญ่ขนาดประมาณหัวกระเทียม  ลำต้นมีหนามเล็ก ๆ กระจายทั่วไปและมีขนนุ่ม ๆ สีขาวปกคลุม  มีหัวอยู่ใต้ดินลักษณะทรงกลมรี มีรากเล็ก ๆ กระจายทั่วทั้งหัว  ต้นหนึ่ง ๆ มีหัว ๓-๕ หัว  เปลือกหัวบางสีน้ำตาลออกเหลือง  เนื้อในหัวมี ๒ ชนิด คือ สีขาว (กลอยหัวเหนียว)  และสีครีม (กลอยไข่หรือกลอยเหลือง) ใบเป็นใบประกอบ  ก้านใบยาว ๑๐-๑๕ ซม.  มีใบย่อย ๓ ใบ รูปรี ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ เส้นใบนูน ผิวใบสากมือ มีขนนุ่มปกคลุม   ความกว้างของใบ ๓ ซม. ยาว ๘ - ๑๐ ซม.  ดอกช่อ ออกตามซอกใบ  ก้านดอกเดี่ยวยาวห้อยลงมา  มีดอกเล็ก ๆ ติดบนก้านดอกจำนวน ๓๐ - ๕๐ ดอก  ผลมีลักษณะคล้ายผลมะเฟือง มี ๓ พู  แต่ละพูมี ๑ เมล็ด  เมล็ดมีลักษณะกลมแบน  มีปีกบางใสรอบเมล็ด  ช่วยในการปลิวตามลม  

 

หัวกลอยนั้นมีสารพิษที่เรียกว่า Dioscorine   พิษชนิดนี้มีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง   ซึ่งประสาทส่วนกลางมีผลต่อการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง ๕ คือ ตา หู จมูก ลิ้น การสัมผัสทางกาย  ดังนั้น คนที่รับประทานกลอยที่มีสารพิษเข้าไปจึงมักมีอาการคันที่ปาก ลิ้น คอ คลื่นไส้ อาเจียน และเมื่อประสาทส่วนกลางบีบหัวใจ จะทำให้เกิดอาการมึนเมา วิงเวียน ใจสั่น ตาพร่า อึดอัด และเป็นลมได้ในที่สุด  ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับพิษจะมีอาการรุนแรงไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับปริมาณสารพิษ และความต้านทานของแต่ละคน


 

การกำจัดพิษออกจากหัวกลอย
วิธีการทั่ว ๆ ไป คือปอกเปลือกหัวกลอยให้สะอาด  หั่นเป็นแว่น  แต่ละแว่นหนาประมาณ ๑ – ๑.๕ ซม.  ให้นำชิ้นกลอยที่หั่นแล้วลงไปในภาชนะหนาประมาณ ๑๐ ซม. โรยเกลือให้ทั่วหน้า

๑ - ๒ ซม.  แล้วใส่ชิ้นกลอยลงไป ทำสลับกับเกลือจนกว่าจะหมดทิ้งไว้ค้างคืน  วันรุ่งขึ้นให้นำกลอยที่หมักออกมาล้างน้ำจนสะอาด  จากนั้นใส่ชิ้นกลอยที่ล้างแล้วลงไปในถุงผ้าดิบหรือผ้าขาวบาง  นำของหนักทับไว้เพื่อไล่น้ำเบื่อเมาของกลอยออกให้หมด  ต่อไปให้นำชิ้นกลอยจากถุงผ้าเทกลับลงไปในภาชนะเดิมแล้วใส่น้ำให้ท่วมเนื้อกลอย  ทิ้งไว้ค้างคืน รุ่งเช้าจึงนำชิ้นกลอยมาล้างให้สะอาดและทำซ้ำเช่นเดิม ประมาณ ๕ - ๗ วัน  จึงจะปลอดภัยจากสารพิษ และนำมาบริโภคหรือปรุงอาหารได้ หรือจะผึ่งแดดให้แห้งเก็บตุนไว้เมื่อจะบริโภคจึงนำชิ้นกลอยมาแช่น้ำ  แต่ในสมัยก่อนชาวบ้านนิยมนำกลอยไปแช่ในลำธารประมาณ ๓ – ๔ คืน  และในระหว่างแช่ไว้ต้องหมั่นคนกลอยที่แช่เอาไว้จนกว่ากลอยจะรสชาติจืด  จึงนำไปนึ่งหรือปรุงอาหาร  



วิธีทำขนมที่นำกลอยมาเป็นส่วนประกอบว่ามีวิธีทำอย่างไรและมีอะไรกันบ้าง เริ่มจากเมนูขนมหวานที่เป็นที่โปรดปรานของนักชิมนั้นคือ

              

                     ข้าวเหนียวกลอย

ส่วนประกอบ กลอย  ข้าวเหนียว  น้ำกะทิ  มะพร้าวขูด  งา  น้ำตาล  เกลือ

วิธีทำ
- นำข้าวเหนียวมาแช่น้ำประมาณ ๑ วัน  
- นำกลอยที่ล้างพิษแล้ว เอามาคนให้เข้ากันกับข้าวเหนียวแล้วนำไปนึ่ง  
- เมื่อสุกแล้วนำมาตั้งไว้ให้เย็น  จากนั้นนำมาคลุกกับน้ำกะทิที่เตรียมไว้ให้เข้ากัน  
- เมื่อเสร็จจากข้าวเหนียวเราก็นำเอามะพร้าวขูดที่เตรียมไว้ผัดกับน้ำตาล  งา  และใส่เกลือเพียงเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จ  



                    
                                  ข้าวเหนียวกลอยมูน

                         กลอยข้าวเหนียวมูน

ส่วนประกอบ  กลอย   ข้าวเหนียว  น้ำตาล  เกลือ

วิธีทำ  
- นำข้าวเหนียวมาแช่กับน้ำประมาณ ๑ วัน  
- นำกลอยที่ล้างพิษแล้วนำมาคนกับข้าวเหนียวให้เข้ากันแล้วนำไปนึ่ง  
- เมื่อสุกตั้งไว้ให้เย็น จากนั้นนำมาคลุกกับน้ำกะทิที่เตรียมไว้ให้เข้ากัน นำมารับประทานกับมะม่วงสุก หรือจะกินเปล่า ๆ




                    
                                  แกงบวดกลอย

                         แกงบวดกลอย

ส่วนประกอบ กลอย  น้ำกะทิ  น้ำตาล เกลือ

วิธีทำ  
- นำน้ำกะทิมาตั้งไฟจนแตกมัน แล้วนำน้ำตาลใส่ลงไปพร้อมกับใส่เกลือนิดหน่อย
- รอจนน้ำกะทิเดือดแล้วนำกลอยที่เตรียมไว้ใส่ลงไปทิ้งไว้จนกลอยสุกก็นำไปรับประทานได้เลย  
- ถ้าชอบรับประทานแบบเย็นก็แค่เติมน้ำแข็งก็อร่อยคลายร้อนได้แล้ว


หลากหลายเมนูขนมหวานที่ผลิตจากกลอยแต่ละเมนูน่าลองลิ้มชิมรสจริง ๆ แต่ก่อนที่จะมีหน้าตาชวนรับประทานเช่นนี้ ถ้าไม่บอกกล่าวกันก็คงไม่ทราบว่าพิษภัยของกลอยนั้นมีมากมายเหลือหลายนัก  
ต้องขอขอบคุณภูมิปัญญาชาวบ้านที่สามารถนำพิษกลอยออกได้หมด จนเหลือแต่ความอร่อย.




ที่มา : คอลัมน์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น  “กลอย:ขุดกลอยจากป่ามาทำขนม”  หนังสือ สารนครศรีธรรมราช  ปีที่ ๔๐ ฉบับที่ ๑๒ จัดทำโดย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช

และขอขอบคุณ ผู้อำนวยการกองการท่องเที่ยวฯ อบจ.นครศรีธรรมราช เป็นอย่างสูงที่กรุณาอนุเคราะห์หนังสือดังกล่าว

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 ตุลาคม 2556 13:04:07 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5392


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2556 17:57:02 »

.

ไปพบแหล่งปลูกกลอยโดยบังเอิญ อดที่จะนำมาเผยแพร่ไม่ได้ค่ะ
แหล่งกลอยที่ว่า อยู่ที่
บ้านไทรย้อย  อำเภอเด่นชัย  จังหวัดแพร่



ชาวบ้านจะนำกลอยซึ่งเป็นผลผลิตของชาวบ้านในท้องถิ่น
และถูกนำไปแปรรูปเรียบร้อยแล้ว มาวางจำหน่ายริมทางถนนแผ่นดินทั้งสองฝั่งถนน
ซึ่งมีทั้งกลอยตากแห้งสีขาวนวลสะอาดตาสำหรับซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน
และกลอยทอดกรอบ  กลอยสดนึ่งคลุกเคล้ากับมะพร้าวขูด น้ำตาลทราย เกลือ และงาคั่ว



กลอยสด สีขาวนวลอมเหลืองอ่อนๆ


กลอยนึ่งสุก


แล้วจึงนำไปคลุกน้ำตาลทราย เกลือ และงาดำคั่วค่ะ (ขายกล่องละ ๑๐ บาท)


กลอยทอดกรอบ ฉาบด้วยน้ำตาลบางๆ และตัดเกลือให้มีรสเค็มนิดๆ (ขาย ๓ ถุง ๕๐ บาท)
  



กลอยตากแห้ง ใหม่ สด สีขาวนวล   สำหรับซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้าน  


กลอยที่ซื้อหาจากตลาดสดในตัวเมือง ออกจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ คงจะเก็บไว้นานแล้ว


หัวกลอยที่ได้จากป่า ซึ่งมีพื้นที่เป็นภูเขา บริเวณอำเภอเด่นชัย  จังหวัดแพร่
เมื่อได้มาแล้วจะนำมากำจัดพิษ ตามกรรมวิธีเดียวกับชาวบ้านแถบภาคใต้


ได้ข้อมูลจากคนขายกลอยในภาพ ว่า หากจะนำกลอยตากแห้งไปนึ่งรวมกับข้าวเหนียว (ข้าวเหนียวกลอย)
ให้นำกลอยไปแช่น้ำ โดยใช้ระยะเวลาเท่ากับการแช่ข้าวเหนียว
โดยทั่วๆ ไป หากจะทำข้าวเหนียวมูลจะแช่ข้าวเหนียวตอนหัวค่ำ แล้วนึ่งตอนเช้า
หากจะใส่กลอยก็ให้แช่น้ำทิ้งไว้หนึ่งคืนเช่นกัน
การนึ่ง ให้นึ่งรวมไปกับข้าวเหนียว


กลอยทอดกรอบ คลุกงาดำ และเคลือบน้ำตาลเล็กน้อย
(ตามภาพ ราคาขาย ๖ บาทค่ะ)

ภาพ/ข้อมูล : ๙  มีนาคม  ๒๕๕๖  


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 ตุลาคม 2556 13:20:11 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.375 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 17 มีนาคม 2567 11:26:45