[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 เมษายน 2567 08:13:03 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: จิตรานุภาพของการตั้งมั่นอยู่ในปัจจุบัน  (อ่าน 1713 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪
ลั้ลลา
ผู้ดูแลบ้านสุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +8/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 2097


【ツ】ต้นไม้แห่งแสง

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 3.0.195.33 Chrome 3.0.195.33


หน้ากู
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2552 01:28:30 »

จิตรานุภาพของการตั้งมั่นอยู่ในปัจจุบัน

จิตรานุภาพของการตั้งมั่นอยู่ในปัจจุบัน
บทความที่นำเสนอสรุปจากหนังสือชื่อ The Power of Now แต่งโดย Eckhart Tolle ว่าด้วยเรื่องของพลังแห่งการจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยให้เราให้เราประสบความสำเร็จ มีความสุข และมีความสงบในจิตใจ ผู้แต่งได้อธิบายถึงกลไกของความคิดที่ก่อให้เกิดความทุกข์และวิธีการสร้างความสุขให้บังเกิดขึ้นในจิตใจ
ซึ่งมีใจความสำคัญดังต่อไปนี้
ระบบความคิดซึ่งก่อให้เกิดความทุกข์ มีลักษณะตามสภาวะธรรมชาติ ดังนี้
ทำงานด้วยตัวของมันเอง เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมา และไม่สามารถบังคับได้
ข้อมูลจากการวิจัยทั่วโลกพบว่า มนุษย์มีความคิดที่ผุดขึ้นเองตามธรรมชาติมากกว่าห้าหมื่นเรื่องต่อวัน ความคิดเหล่านี้เป็นสาเหตุให้มนุษย์เกิดความทุกข์ เพราะส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องที่ทำให้จิตใจเศร้าหมองเช่น ความอยากมี อยากเป็น อยากได้ ความไม่อยากมี ไม่อยากเป็น ไม่อยากได้ หรือความโกรธเกลียดอาฆาตแค้น เป็นต้น โดยมนุษย์ส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าความคิดดังกล่าวเป็นตัวเรา เป็นของเรา และถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติไม่จำเป็นต้องแก้ไขใด ๆ ฉะนั้น เมื่อมีความทุกข์หรือมีความอึดอัดใจ พวกเขาเหล่านั้นจึงรู้เพียงแต่ว่า พวกเขาไม่มีความสุข แต่ไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไรหรืออาจจะหาทางออกโดยการเสาะแสวงหาความสุขด้วยวิธีการต่าง ๆ เพื่อเป็นการชดเชย โดยมองข้ามต้นตอของความทุกข์ไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งวิธีนี้เป็นหนทางออกจากความทุกข์เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะเมื่อกลับมาคิดอีกก็ทุกข์อีก วนเวียนเป็นวงจรอุบาทว์ไม่มีที่สิ้นสุด
วิธีการแก้ไขคือ ให้ตระหนักอยู่เสมอว่า ความคิดไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา เราจึงควบคุมไม่ได้ และถึงแม้ว่าเราจะบังคับความคิดไม่ได้ แต่เราก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกคิดเฉพาะเรื่องที่ดี มีประโยชน์ และสร้างสรรค์ได้ เราไม่จำเป็นจะต้องจมอยู่กับกองทุกข์เสมอไป เราสามารถเลือกที่จะมีความสุขได้ด้วยตัวของเราเอง
ไม่อยู่กับปัจจุบัน
ความคิดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมักเป็นเรื่องในอดีตทั้งในแง่บวกและแง่ลบ หรือไม่ก็เป็นเรื่องในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ความคิดเหล่านี้ก่อให้เกิดความทุกข์ทั้งสิ้น เพราะเรื่องในอดีต หากเป็นเรื่องในแง่ลบย่อมทำให้เราจิตใจเศร้าหมอง แต่ถ้าเป็นเรื่องในแง่บวกก็อาจทำให้เราประมาทและเผลอเรอได้ ส่วนเรื่องในอนาคต มักเป็นเรื่องเกี่ยวกับความกังวลหรือคิดเกินปรุงแต่งไปเอง
ก่อให้เกิดอารมณ์
ความคิดที่เกิดขึ้นในขณะที่เราไม่รู้เนื้อรู้ตัวนั้น จะเป็นความคิดที่เต็มไปด้วยตัวกูของกู จึงก่อให้เกิดอารมณ์ได้ทั้งในแง่ลบและแง่บวกเช่น เมื่อถูกตำหนิหรือด่าทอ จิตใจเราจะปรุงแต่งทันที เกิดเป็นความคิดต่อต้าน จนเกิดเป็นอารมณ์โกรธ เพราะคิดว่า ตัวเราเป็นเจ้าของความคิดเหล่านั้น หรือเมื่อเห็นของที่โปรดปรานจิตใจจะปรุงเป็นความคิด จนเกิดเป็นอารมณ์รักหรือพอใจ เมื่อนั้นจะเกิดเป็นตัณหา ความอยากที่จะครอบครอง เมื่อไม่ได้ดังใจก็จะเกิดความทุกข์ตามมา
เป็นเสียง
เมื่อจิตใจเกิดการปรุงแต่ง จะแสดงออกมาในรูปแบบของเสียงที่ดังอยู่ในใจ หากเราเชื่อว่าเสียงดังกล่าวเป็นตัวเรา เราก็จะมีพฤติกรรมและคำพูดเป็นไปตามความคิดที่ผุดขึ้นมา ซึ่งตามที่ทราบกันดีแล้วว่า ความคิดที่เกิดขึ้นเองเมื่อเราไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัวนั้น จะเต็มไปด้วยความยึดมั่นถือมั่น ซึ่งส่งผลให้การกระทำและคำพูดของเราปราศจากความรู้สึก เต็มไปด้วยความเป็นตัวกูของกู และวินาทีที่เราไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัว ความคิดในแง่ลบที่ผุดขึ้นจะมีผลต่อจิตใจของเราทันที ก่อให้เกิดความทุกข์สุมอยู่ในจิตใจ


วิธีการสร้างความสุขและเปิดจิตเข้าสู่ความสงบโดยไม่ต้องนั่งกรรมฐาน
1) ฝึกรู้ทันความคิดและอารมณ์ที่ปรุงแต่งขึ้นมาทุกวินาที
หลักในการมองความคิดหรือมองอารมณ์คือ เราจะต้องสวมบทบาทเป็น “ผู้มอง” อย่างเดียวโดยไม่ต้องเติมสีปรุงแต่ง แม้ว่าอารมณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นสุขหรือทุกข์ก็ตามที อย่างไรก็ตาม การฝึกมองอารมณ์นั้นจะปลอดภัยกว่าการมองความคิดเพราะการมองความคิด อาจจะหยุดไม่ได้และอาจทำให้เสียสติ ดังนั้น จึงแนะนำว่า เมื่อมีความคิดเกิดขึ้นให้ เพียงทำใจ“รู้”ว่ามีความคิดเกิดขึ้น หากเป็นความคิดที่ไม่ดี ไม่สร้างสรรค์ ให้ตัดทิ้งทันทีไม่ต้องเสียดาย ให้เลือกคิดแต่ในสิ่งที่ดี หมั่นสร้างความคิดที่ดีให้เกิดขึ้นในจิตใจเพื่อเป็นการทดแทนความคิดที่ไม่ดี และพยายามประคองไม่ให้ความคิดที่ไม่ดีเกิดขึ้นได้อีกเลย เมื่อนั้นจิตใจจะเกิดความสงบและสบาย จิตจะเข้าใกล้ความเป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานมากขึ้นในทุกขณะจิต
2) ฝึกความรู้สึกทั่วทั้งสรรพางค์กายและฝึกหายใจลึก ๆ ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
การฝึกความรู้ตัวทั่วพร้อมจะช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เพราะจิตไม่เกาะอยู่กับความคิด จึงไม่เกิดความทุกข์ ความเครียด หรือความกังวล เมื่อจิตใจดีร่างกายก็จะดีตามไปด้วย นอกจากนั้น การฝึกความรู้สึกทางร่างกายจะช่วยให้มองเห็นอารมณ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเช่น หากเรานั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน ร่างกายจะปวดเมื่อย ส่งผลให้เกิดเป็นอารมณ์ที่อึดอัดซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน
3) ฝึกมองดูผัสสะที่กระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย
เมื่อมีการกระทบเกิดขึ้นทางอายาตนะทั้งห้า ให้ตั้งเรารับรู้ถึงการกระทบดังกล่าวอย่างแท้จริง เพื่อฝึกการจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน
4) ฝึกความคิดที่ถูกต้อง
หัดยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นต่อหน้า ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่น่าพอใจหรือไม่ก็ตาม และให้ตระหนักอยู่เสมอว่าความคิดนั้นไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา และเราไม่สามารถบังคับมันได้ จะทำให้จิตใจถอดถอนออกจากความเป็นตัวกูของกู สามารถมองความจริงตรงตามความเป็นจริง จิตใจจะสงบ เมื่อนั้นจึงจะเกิดปัญญาช่วยให้เราสามารถหนีออกจากกองทุกข์ได้
5) คบหาสมาคมกับคนที่มีสติและสมาธิ
เพื่อเป็นการวัดระดับความมีสติและสมาธิของตนเอง เพราะถ้าตัวเราเองยังไม่รู้ว่าสภาวะของคนที่มีสติและสมาธิเป็นอย่างไรแล้ว ตัวเราจะพัฒนา แก้ไข และปรับปรุงพลังสติและสมาธิของตนเองได้อย่างไร ฉะนั้น เราจึงควรศึกษาพฤติกรรม คำพูด และการกระทำของคนเหล่านั้น เพื่อนำมาประยุกต์ใช้และพัฒนากำลังสติและสมาธิของเราต่อไป เมื่อเรามีสติและสมาธิเพียงพอ ความคิดในทางอกุศลย่อมกระทบเราไม่ได้ เมื่อนั้นเราจึงมีความสุข เป็นอิสระจากความทุกข์ และสามารถลืมตาอ้าปากสามารถสร้างชีวิตที่ดีและมีคุณภาพได้ด้วยสองมือของเราอย่างแท้จริง



 หลับ หลับ หลับ






ที่มา : จากการแสดงความเห็น ในบอร์ด พลังจิต

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

เราช่วยกันนำต้นรักที่เพาะได้
   ส่งไปตาม บ้านที่ต้องการ
       อยากจะได้...
   หรืออยากจะเติม
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.318 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 07 เมษายน 2567 10:53:02