[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 16:00:31 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วิมุตติ คือ ความหลุดพ้น ธรรมเทศนาโดย หลวงปู่ขาว อนาลโย  (อ่าน 1793 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Compatable
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +3/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1210


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 25.0.1364.172 Chrome 25.0.1364.172


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 21 มีนาคม 2556 11:53:37 »

วิมุตติ คือ ความหลุดพ้น ธรรมเทศนาโดย หลวงปู่ขาว อนาลโย



วิมุตติ คือ ความหลุดพ้น
ธรรมเทศนา ท่านพระอาจารย์ขาว อนาลโย


เนื้อความ :
การทำความดี มีการให้ทาน รักษาศีล ภาวนา เป็นต้น การทำความชั่ว มีกายทุจริต วจีทุจริต เป็นต้น ครั้นเราทำความดีจะตามสนองให้เรามีความสุข มีสุคติเป็นที่ไป ครั้นเราทำความชั่ว ความชั่วจะตามสนองให้เรามีความทุกข์ มีทุคติเป็นที่ไป พวกเราได้อัตภาพร่างกายมาสมบูรณ์บริบูรณ์ ก็เป็นเพราะ ปุพเพกตปุญญตาบุญของเราได้ทำมาแต่ปางก่อน พวกเราจึงไม่ควรประมาท ควรรีบทำคุณความดี ละความชั่ว ความชั่วก็ให้เห็นว่ามันพาไปในทางไม่ดี ทำแล้วได้รับความเดือดร้อน ตกนรกทั้งเป็นนั่นแหละ พวกเรามีการมาทำบุญให้ทาน มีการสดับรับฟังธรรมะ รักษาศีลภาวนา ก็พาให้เกิดความสบายใจ นั่นแหละบุญ เห็นกันที่นี่แหละ ไม่ต้องลาตายแล้วจึงจะไปสวรรค์แล้ว ใจดีก็เป็นสวรรค์แล้ว ใจร้ายก็เป็นนรกเดี๋ยวนี้แหละ เพราะเหตุนี้จงทำให้ใจร่าเริง อย่าไปทำให้เศร้าหมอง ขุ่นมัว มันจึงจะมีความสบาย จึงจะมีความสุข เพราะฉะนั้น จึงควรทำความดี อย่าประมาท ให้พากันทำสติสมัปชัญญะ ให้รู้ตัวอยู่ทุกเมื่อ คือความรู้ในการกระทำ ก่อนทำอะไรลงไปให้คิดเสียก่อน ว่ามันได้ผลดีหรืออย่างไร ต่อไปข้างหน้าถ้ารู้ว่ามันไม่ดีให้ความทุกข์ เราก็ไม่ทำ ประกอบแต่คุณงามความดี ให้ระลึกรู้ว่าเมื่อมีเหตุก็ต้องมีผล ไม่ได้ทำเสียเปล่าหรอก ทำเหตุลงไปแล้วไม่ได้รับผล ไม่มีหลอกในโลกนี้ เหตุดีก็ต้องได้รับผลดี เหตุชั่วก็ต้องได้รับผลชั่ว มันจะสูญหายไปไม่มี
การปฏิบัติธรรมนั้นไม่มีโทษ มีแต่คุณ คือ จิตไม่ขุ่นมัว จิตผ่องใส จิตเบิกบาน จะยืน เดิน นั่ง นอน ก็มีความสุข ไม่มีความทุกข์ จะเข้าสู่สังคมใด ๆ ก็องอาจกล้าหาญ การทำความเพียร เมื่อสมาธิเกิดมีขึ้นแล้ว จะไม่มีความหวั่นไหว ไม่มีความเกียจคร้านต่อการงาน ทั้งทางโลกทั้งทางธรรม จากนั้นก็เป็นปัญญาที่จะมาเป็นกำลัง เมื่อปัญญาเกิดขึ้นแล้วรู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์ จะเรียนทางโลกก็สำเร็จ จะทำทางธรรมก็สำเร็จ พระพุทธเจ้าท่านจึงสั่งสอนอบรมให้เกิดให้มีขึ้นมาเบื้องต้นตั้งแต่ศีล ศีลเป็นที่ตั้งของสมาธิ สมาธิเป็นที่ตั้งของปัญญา ไม่ว่าศีล สมาธิ ปัญญา เป็นทางมาแห่งวิมุตติ คือ ความหลุดพ้นด้วยกัน
ธรรมทั้งหลายตกอยู่ในไตรลักษณ์ มีทุกขา มีอนิจจา มีอนัตตา ทั้งสามนี้ให้สำนึก พึงรู้ ทุกขังชาติความเกิดมาเป็นทุกข์ อนิจจังมันไม่เที่ยง มันแปรเป็นอื่น อนัตตาไม่ใช่ตัวตน บอกมันก็ไม่ฟัง บอกไม่ให้มันแก่มันก็แก่ ฟันบอกไม่ให้มันหลุดมันก็หลุด หัวบอกไม่ให้มันหงอกมันก็หงอก หนังบอกไม่ให้มันเหี่ยวมันก็เหี่ยว ผลที่สุดไม่นานก็นอนตายทับแผ่นดิน ส่วนดินก็ไปเป็นดิน ส่วนน้ำก็ไปเป็นน้ำ ส่วนลมก็ไปเป็นลม เหลือแต่ดวงวิญญาณนี้เท่านั้นนี่ ธาตุ ๔ ให้พิจารณาแยกออก ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ธาตุดินต่างหาก ธาตุน้ำต่างหาก ธาตุลมต่างหาก ธาตุไฟต่างหาก มารวมกันแล้วก็ดับไป เป็นของไม่แน่นอน เป็นอนิจจังไม่เที่ยง ทุกข์ขังมีแต่ทุกข์ถ้าใครไปยึดไปถือ
ส่วน อริยสัจ ๔ ให้พิจารณาให้รู้ให้เห็นตามเป็นจริง ทุกข์ควรกำหนดรู้ สมุทัยควรละเสีย นิโรธควรทำให้แจ้ง มรรคควรทำให้เกิดให้มี ชาติความเกิด ชราความแก่ พยาธิความเจ็บ มรณะความตาย นี่ทุกขสัจ ทุกข์มันเกิดมาจากไหน ทุกข์เป็นตัวผล สมุทัยเป็นตัวเหตุ สมุทัย คือ กามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ความใคร่ในรูปที่สวยงามในวัตถุกามต่าง ๆ มีเงินทองข้าวของเป็นต้น เรียกว่า กามตัณหา ความอยากมีอยากเป็น อยากเป็นโน่นเป็นนี่ อยากเป็นเศรษฐีคหบดีเป็นต้น เรียกว่า ภวตัณหา ความไม่พอใจของได้มาแล้วหายไปก็เกิดความไม่พอใจ ร่างกายของตนก็ดี ของคนอื่นก็ดี เมื่อแก่ลงมามีความชำรุดทรุดโทรม ผมหงอก ฟันหัก แก้มตอบ เป็นต้น เลยไม่พอใจ นี้เรียกว่า วิภวตัณหา ตัณหาทั้งสามประการนี้ เป็นเหตุให้สัตว์ท่องเที่ยวอยู่ในวัฏสงสาร ในภพน้อยภพใหญ่ นับกัปนับกัลป์ไม่ได้ ตัณหามันเกิดขึ้นจากไหน ต้องค้นหาเหตุมัน เหตุมันเกิดจากอายตนะภายใน และอายตนะภายนอกมาสัมผัสกัน ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกดมกลิ่น ลิ้นลิ้มรส กายถูกต้องสัมผัส ใจรู้ธรรมารมณ์ พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนให้เพียรสำรวม เพียรละ ไม่ให้เกิดความยินดียินร้าย ทำจิตให้เป็นกลาง วางเฉยต่ออารมณ์ นี่เรียกว่า การดับตัณหา
การทำความเพียร การสำรวม และการทำความดีทุกอย่างเพื่อละตัณหานี้แหละเป็นทางมรรค เมื่อปัญญาเห็นความเกิดขึ้น ความดับไปของสังขารทั้งหลายทั้งปวง เห็นแน่ว่าไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เป็นเพียงธาตุ ๔ มาประชุมกันเข้าแล้วก็แตกสลายไปอย่างนี้แต่ไหนแต่ไรมา ฐิติธรรมมีการตั้งขึ้น มีอยู่ แล้วดับไป พิจารณารู้เท่าทันในสิ่งเหล่านี้ ไม่หวั่นไหว เรียกว่า นิโรธ คือ ผู้วางเฉยต่ออารมณ์ ดังนี้แหละ…..
คัดจากหนังสือ ธรรมธาร ๒
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการรวบรวมพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ขออนุโมทนาบุญไว้ ณ ที่นี้ด้วย … นะโม พุทโธ ธัมโม สังโฆ สาธุ …
(นัตถิ สันติ ปรมัง สุขขัง สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบนั้นไม่มี)



โพสท์ในลานธรรมเสวนา กระทู้ที่ 009540 – โดย คุณ : ศิษย์สุกิม

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น: วิมุตติ ความหลุดพ้น หลุดพ้น หลวงปู่ขาว ธรรม ธรรมะ ธรรมเทศนา 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
อุปาทาน โดย หลวงปู่ขาว อนาลโย
ธรรมะจากพระอาจารย์
เงาฝัน 1 2953 กระทู้ล่าสุด 28 ตุลาคม 2553 16:15:39
โดย เงาฝัน
ดำรงจิตปราศจากเครื่องร้อยรัด หลวงปู่ขาว อนาลโย
ธรรมะจากพระอาจารย์
เงาฝัน 1 2554 กระทู้ล่าสุด 25 พฤศจิกายน 2553 10:28:00
โดย หมีงงในพงหญ้า
ผู้อื่นไม่ได้ทำ :หลวงปู่ขาว อนาลโย
ธรรมะจากพระอาจารย์
เงาฝัน 0 1544 กระทู้ล่าสุด 24 กรกฎาคม 2555 20:42:28
โดย เงาฝัน
ชีวประวัติ หลวงปู่ขาว อนาลโย ตอน1-10
ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
เงาฝัน 2 2873 กระทู้ล่าสุด 02 กรกฎาคม 2556 22:46:58
โดย หมีงงในพงหญ้า
อริยทรัพย์ (หลวงปู่ขาว อนาลโย)
ธรรมะจากพระอาจารย์
เงาฝัน 0 1669 กระทู้ล่าสุด 19 พฤศจิกายน 2555 11:54:46
โดย เงาฝัน
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.335 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 12 เมษายน 2567 15:30:38