[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 เมษายน 2567 07:41:56 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ผีเปรต เพราะไปลบหลู่สิ่งที่ไม่ควรจะลบหลู่ !!!  (อ่าน 3877 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 3.0.195.33 Chrome 3.0.195.33


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 10 มกราคม 2553 03:39:18 »

เรื่องราวเกี่ยวกับ "เปตร" ได้แบ่งแยกคนออกเป็นสองกลุ่มด้วยกัน คือ พวกที่เชื่อว่า "เปตร" มีจริงกับพวกที่เชื่อว่า "เปตร" เป็นเรื่อง…เหลวไหล
เช้าวันนั้นเจ้าของโรงพิมพ์เรียกผมไปพบ และบอกว่าอยากให้ผมทำหนังสือเกี่ยวกับเปตรออกมาสักเล่มหนึ่ง ซึ่งมือปืนรับจ้างอย่างผมมีรึจะปฏิเสธ ผมรีบออกหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเปตรทันที เทพชัยเพื่อนผมทำงานเป็นพนักงานคอมพิวเตอร์ในบริษัทแห่งหนึ่ง ถูกผมตามตัวให้มาเป็นหนึ่งในทีมงาน
เนื้อหาสาระของหนังสือเล่มนั้นผมเชื่อว่าค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ปัญหาที่ผมมองข้ามไปก็คือเรื่องของภาพประกอบ ผมจะต้องมีภาพเปตรเป็นจำนวนมาก
.........วันนั้นผมมีแผนการเดินทางจะไปถ่ายรูปเปตรที่วัดไผ่โรงวัว ซึ่งวัดไผ่โรงวัวที่กล่าวถึงนี้ถือว่าเป็นวัดแห่งแรกในประเทศเลยก็ว่าได้ ที่มีการปั้นรูปเปตรนำออกเผยแพร่ให้พวกชาวบ้านได้ดูกัน แต่รถเจ้ากรรมของผมดันเกิดสตาร์ทไม่ติด
เนื่องจากวันนั้นเป็นวันอาทิตย์ตามอู่ต่างๆ จึงปิดทำการ ผมได้โทรศัพท์ไปหาเทพเพื่อที่จะชวนเขาไปวัดไผ่โรงวัวกับผม ซึ่งเทพก็ตอบตกลงทันที
เมื่อไปถึงวัดไผ่โรงวัว ผมได้สนทนากับเจ้าอาวาสวัดครู่หนึ่ง ผมกับเทพได้ปรึกษากันว่าจะถ่ายภาพเปตร 2 แบบ คือ ถ่ายในเวลากลางวันกับถ่ายในเวลากลางคืน ซึ่งเทพก็เห็นด้วยกับแนวความคิดของผม แต่ช่วงเวลาที่รอให้พระอาทิตย์ตกดิน มันต้องใช้เวลาเกือบๆ 3 ชั่วโมง ผมจึงมีความคิดจะตอบแทนเทพ ที่เขามีน้ำใจอุตส่าห์สละเวลาขับรถพาผมมาที่วัดไผ่โรงวัว
"เอาน้ำสีเหลืองๆ อาบพยาธิในท้องสักหน่อยมั้ยเพื่อน"
"เป็นพระคุณกำลังอยากอยู่ทีเดียว"
ผมขับรถออกจากวัดไผ่โรงวัวไปยังอำเภอสองพี่น้อง ซึ่งอยู่ห่างจากวัดไผ่โรงวัวประมาณ 30 กว่าโล บริเวณสองข้างทางมีร้านคาราโอเกะ 3-4 เจ้า สถานที่ก็เป็นแบบพื้นๆ ตามสไตล์ของพวกชาวบ้าน
.........วันนั้นเทพเกิดเพี้ยนอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ เขาชงเหล้าผสมเบียร์และโค้ก ซึ่งคอสุราเรียกว่า "สังขยา" พวกเขาจะพยายามหลีกเลี่ยง ไม่ยอมให้เจ้า 3 สิ่งอยู่รวมกันในแก้วเดียวกันเป็นอันขาด (มันจะเมาไม่รู้เรื่อง) แต่เทพก็บอกผมว่าระดับเขาแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงยังไงก็ไม่เมา แต่ตอนนั้นเวลาพูดลิ้นเริ่มพันกันแล้ว
เราออกจากร้านเกือบจะ 3 ทุ่ม เทพสะลืมสะลือด้วยฤทธิ์ของ สังขยา หน้าที่ขับรถจึงตกเป็นของผมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พอรถผมวิ่งเข้ามาในวัดไผ่โรงวัว เจ้าหน้าที่วัดรีบเดินมาดูเหตุการณ์ แต่พอเห็นผมซึ่งพวกเขาจำได้ว่าเป็นนักข่าวต่างก็แยกย้ายกันไป ผมจึงเริ่มตระเตรียมอุปกรณ์ในการทำงาน เพราะมัวสารวนยุ่งกับกล้องและการจัดแสง พอเหลือบมาอีกทีก็เห็นเทพกำลังยืนปัสสาวะข้างๆ เปตรตนหนึ่ง ตอนนั้นผมตกใจมาก
"เฮ้ย ทำบ้าอะไรวะเทพ ที่นี่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์นะโว้ย ทำไมจึงทำอะไรน่าเกลียดแบบนี้"
"ก็ฉันปวดท้องเยี่ยวนี่หว่า"
"ก็ควรจะหาที่เหมาะๆ ซิวะ ทำไมต้องไปฉี่ตรงนั้นด้วย"
"ก็ฉันชอบตรงนี้นี่หว่า อย่างมงายนักเลย เปตรบ้าเปตรบอในโลกนี้มีซะเมื่อไหร่"
"เอ้าตะโกนเข้าไป เดี๋ยวเถอะมึงพระเจ้าได้ออกมาไล่ ไม่ต้องถ่ายรูปกันพอดี"
.........ผมมีความเชื่อว่าเวลานั้นเทพเมาจนครองสติไม่อยู่ เขาเดินสะเปะสะปะแอ่นหน้าแอ่นหลัง ตอนนั้นผมบอกกับตัวเองว่า ต้องรีบทำงานให้เร็วที่สุด ก่อนที่เทพจะเพี้ยนมากไปกว่านี้ ผมใช้เวลาทำงานไม่ถึง 10 นาทีงานทุกอย่างก็เสร็จ ส่วนเทพขึ้นไปนอนหลับอยู่บนรถเรียบร้อยแล้ว ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก
ผมเก็บเครื่องมือใส่กระเป๋าเพื่อเตรียมตัวจะกลับ แต่ปรากฏว่ารถเกิดสตาร์ทไม่ติด ผมพยายามสตาร์ทจนไฟรถเริ่มอ่อนมันก็ยังไม่ติด ตอนนั้นเริ่มไม่สบายใจ เพราะว่ามันไม่ใช่รถของผมแต่เป็นรถของเทพกลัวว่ารถเขาจะเป็นอะไรไป
ผมนั่งสงบสติอารมณ์อยู่ในรถ พยายามหาทางออก พักใหญ่ๆ ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าหน้าวัดไผ่โรงวัวมีอู่ซ่อมรถ ด้านหน้าเขียนบอกว่าบริการ 24 ชั่วโมง เรียกได้ตลอดเวลา ผมบอกกับเทพว่าจะไปตามช่างที่หน้าวัด เทพก็พยักหน้าและยังบอกว่าหากเจอเบียร์กระป๋องก็ช่วยซื้อมาฝากด้วย แสดงว่าสติเริ่มกลับคืนมาบางส่วนแล้ว
..........ผมเดินไปที่อู่ซ้อมรถหน้าวัด ซึ่งมีระยะทางประมาณเกือบๆ 400 เมตร กดกริ๊งอยู่พักหนึ่งก็มีคนมาเปิดประตู เขาเป็นเจ้าของอู่รถทราบชื่อภายหลังว่า "พี่แดง" พี่แดงฟังผมเล่าอาการของเครื่องยนต์ จากนั้นก็เตรียมเครื่องมือใส่รถกระบะ ขับเข้ามาในวัดไผ่โรงวัวเพื่อมาซ่อมรถ
เมื่อมาที่รถปรากฏว่าเทพหายไปแล้ว ผมใจไม่ดีกลัวว่าเขาจะตกลงไปในบ่อเลี้ยงปลาข้างวัด ซึ่งเป็นบ่อขนาดใหญ่มาก ผมเดินหาจนทั่วก็ไม่พบร่างของเขา จึงเดินกลับมารถอีกครั้ง ........ตอนนั้นหูผมได้ยินเสียงคนครางฮือๆ เสียงดังมาจากข้างๆ รูปของพระมาลัยเปิดโลก ผมจึงรีบเข้าไปดู ผมได้พบกับเทพนั่งคุดคู้ตัวสั่นแสดงความหวาดกลัว เมื่อเทพเห็นผมเขาก็รีบโผเข้ามาจับแขนผมไว้แน่น
"ฉันเห็นเปตร มันจะมาเอาชีวิตฉัน"
"ตาฝาดไปหรือเปล่าวะ เปตรที่ไหนกัน" ผมชักเริ่มใจเสียไปด้วย
เทพชี้ไปเปตรตนหนึ่ง ซึ่งผมจำได้ว่าเป็นตัวที่เขาได้ปัสสาวะรดไปเมื่อก่อนหน้านี้ "เปตรตัวนั้นยังไง มันมาหาฉันเมื่อตะกี้นี้ ฉันกำลังนอนหลับมันมาทุบกระจกรถ ตอนแรกคิดว่าเป็นคนก็ลงมาดู ก็เห็นมันยืนอยู่ แกต้องช่วยฉันนะ ฉันกลัวจริงๆ"
"เทพ แกต้องไปขอขมาเขา เพราะแกล่วงเกินเขามากเกินไป"
"ฉันยกมือไหว้ไปแล้ว แต่เขาบอกว่าจะต้องเอาชีวิตฉันให้ได้ เขาจะไม่ยกโทษให้ฉัน ฉันตายแน่ๆ"
"เอาอย่างนี้ พอกลับไปกรุงเทพแกต้องรีบไปรดน้ำมนต์ มันเป็นทางเลือกเดียวที่แกจะรอดพ้นจากความตาย"
พี่แดงใช้เวลาในการซ่อมเครื่องรถพักใหญ่ก็แล้วเสร็จ ผมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง พี่แดงมีสีหน้าเป็นกังวลขึ้นมาทันที เขาเล่าว่าเปตรที่วัดนี้ทุกตัวมีชีวิต สามารถเคลื่อนไหวได้จริงๆ พ่อของเขาเคยเห็นมาแล้ว และคนแก่คนเฒ่าต่างก็พูดตรงกันว่าเปตรวัดไผ่โรงวัวมีชีวิตจริงๆ พร้อมกับแนะนำให้เทพรีบไปรดน้ำมนต์
"เพื่อนของคุณไม่น่าเลย สิ่งลี้ลับใครเขาล่อเล่นกันบ้างล่ะ คุณจะต้องรีบพาเพื่อนไปรดน้ำมนต์เป็นอย่างด่วนเลยนะ ชักช้าผมบอกว่างานนี้ถึงตายจริงๆ ด้วย"
.........คืนนั้นผมกลับถึงกรุงเทพ ฯ ก็ได้ตัดสินใจนอนค้างที่ห้องของเทพ เพราะตั้งใจว่าตอนเช้าจะปลุกให้เขาลุกขึ้นใส่บาตร อาการของเทพไม่ดีขึ้น เขากลายเป็นคนตกใจง่าย มีอาการหวาดผวาตลอดเวลา บางครั้งก็เอะอะโวยวายบอกว่ามีเปตรจะมาหักคอเขา อาการของเทพเป็นแบบนี้อยู่ประมาณเดือนกว่าๆ ในที่สุดที่ทำงานก็ต้องเลิกจ้างเขา มันยิ่งทำให้เทพคิดฟุ้งซ่านมากขึ้น และในที่สุดเขาก็ตัดสินใจฆ่าตัวตายโดยการผูกคอตาย
คนทั่วไปเชื่อว่าเทพเป็นโรคประสาท คงจะมีผมเท่านั้นที่รู้ว่า เทพไม่ได้ป่วยทางจิต ภาพของเปตรที่เขาเห็นทุกอย่างมันเป็นความจริง เปตรตนนั้นบอกเขาว่าจะต้องเอาชีวิตเทพให้ได้ ในสุดท้ายเปตรก็มาเอาชีวิตเขาไปจริงๆ
เขาตาย….เพราะไปลบหลู่สิ่งที่ไม่ควรจะลบหลู่ !!!

ที่มา........http://www.geocities.com/maibelie/M1.htm




Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
รู้จัก ผีเปรต ชนิดต่าง ๆ
กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
หมีงงในพงหญ้า 0 4197 กระทู้ล่าสุด 25 ธันวาคม 2552 16:35:54
โดย หมีงงในพงหญ้า
the hungry ghost ผีเปรต
กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
sometime 1 2497 กระทู้ล่าสุด 30 เมษายน 2553 14:22:08
โดย เงาฝัน
ผีเปรต วิบากกรรมที่ต้องใช้
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
sometime 0 1433 กระทู้ล่าสุด 03 พฤษภาคม 2553 12:23:14
โดย sometime
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.301 วินาที กับ 34 คำสั่ง

Google visited last this page 26 มีนาคม 2567 16:42:44