[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 มีนาคม 2567 21:12:34 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ศาสนาพุทธเป็นเทวนิยมที่สมบูรณ์ที่สุด ไม่ใช่ศาสนาอเทวนิยาม  (อ่าน 2747 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 29 สิงหาคม 2553 20:33:15 »

ศาสนาพุทธเป็นเทวนิยม ที่สมบูรณ์ที่สุด


เพราะบอกวิธีการเข้าไปเป็นเทพเจ้าและเทวะในทุกชั้นภูมิ

1.  วิธีการเข้าสู่ความเป็นพรหมชั้นภูมิสูงสุด คือ พระอดิเทพ หรือเทวาติเทพ = พระพุทธเจ้าต่างๆ  ศาสนาอื่นเรียกว่า พระผู้เป็นเจ้า หรือพระบิดา  ศาสนาพุทธเรียกว่า "พระธรรม"

...... ควรเรียกบุคคลผู้นั้นว่าเป็นบุตร เป็นโอรส เกิดแต่โอษฐ์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นผู้เกิดจากธรรม เป็นธรรมนิรมิต (ผู้ที่ธรรมสร้าง) เป็นธรรมทายาท (ทายาทแห่งธรรม)

ข้อนั้นเพราะเหตุไร? เพราะคำว่า " ธรรมกาย " ก็ดี " พรหมกาย " ก็ดี " ธรรมภูต " ก็ดี " พรหมภูต " ก็ดี เป็นชื่อของตถาคต "


(ที.ปา. 11/51/91)

หมายความว่า:

- พรหมชั้นภูมิสูงสุด = ธรรมกาย พรหมกาย ธรรมภูต  พรหมภูต
- พระพุทธเจ้าทุกพระองค์เป็นพระธรรม และล้วนเกิดจากพระธรรม  นอกจากนี้..พระธรรมนั้นยังเป็นผู้สร้าง หรือ เป็นพระเจ้าผู้สร้าง ที่เรียกันว่า พรหม หรือพรหมัน หรือ ตรีมูรติ "พรหม ศิวะ นารายณ์". ซึ่งเป็นพรหมที่บริสุทธิ์ที่สุด ไม่มีกิเลสตัณหาใดๆ ศาสนาอิสลามเรียกว่า "มหาบริสุทธิ์"

อนึ่ง...การเป็นพระพุทธเจ้านั้นมีหลายประเภท แต่ละประเภทแบ่งจากการสร้างสมบารมีของมนุษย์คนนั้น  พูดให้ชัดคือ พระพุทธเจ้ามี  ๓ ประเภท คือ

๑.  พระปัญญาธิกพุทธเจ้า  ต้องใช้เวลาสั่งสมพระบารมี ๒๐ อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป

๒.  พระสัทธาธิกพุทธเจ้า ต้องใช้เวลาสั่งสมพระบารมี  ๔๐ อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป

๓.  พระวิริยาธิกพุทธเจ้า ต้องใช้เวลาสั่งสมพระบารมี  ๘๐ อสงไขย กับอีกหนึ่งแสนมหากัป

2. วิธีการเข้าสู่ความเป็นพระบรมโพธิสัตว์ ก็ต้องสะสมบารมีด้วยเช่นกัน

- ที่เป็นอุคฆติตัญญูโพธิสัตว์ สร้างพระบารมี ๔ อสงไขยแสนกัปป์ เรียกชื่อว่า ปัญญาธิกะ ยิ่งด้วยปัญญาฯ
- ที่เป็นวิปจิตัญญูโพธิสัตว์ สร้างพระบารมี ๘ อสงไขยแสนกัปป์ เรียกชื่อว่า สัทธาธิกะ ยิ่งด้วยศรัทธาฯ
- ที่เป็นเนยยโพธิสัตว์ สร้างพระบารมี ๑๖ อสงไขยแสนกัปป์ เรียกชื่อว่า วิริยาธิกะ ยิ่งด้วยความเพียรฯ

3. วิธีการเข้าสู่ความเป็นเทพชั้นรองๆลงมา เช่น วิสุทธิเทพ (พระอรหันต์)   ศาสนาพุทธก็สอน  โดยให้ละราคะ โทสะ โมหะ ออกจากใจทั้งหมด

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความกำจัดราคะ โทสะ ความกำจัดโมหะ นี้เป็นชื่อแห่ง นิพพานธาตุ ความสิ้นราคะ ความสิ้นโทสะ ความสิ้นโมหะ นี้เรียกว่า อมตภาพ"

พระอรหันต์ถือว่าเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า(พระธรรม)องค์ใดองค์หนึ่ง   ท่านเป็นผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้า จึงเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สาวกพุทธะ   เพราะพระพุทธเจ้าถือว่าเป็นพุทธะที่เป็นสัพพัญญูพุทธะ

4. วิธีการเข้าสู่ความเป็นเพรหมชั้นโลกุตตระรองลงมาอีก
 
- พรหมชั้นสุทธาวาส ได้แก่ พระอนาคามีต่างๆซึ่งมีอยู่ ๕ ชั้น เป็นพรหมชั้นที่ 12 – 16 ซึ่งจะบรรลุเป็นพรหมได้ ต้องสามารถขจัดกิเลสจน  กำจัดกิเลสขั้นต้นและขั้นกลางได้เด็ดขาด ยังเหลือแค่กิเลสขั้นละเอียดเท่านั้น

พรหมชั้นสุทธาวาส  ชั้น 12. อวิหา,  ชั้น 13. อตัปปา, ชั้น 14. สุทัสสา, ชั้น 15. สุทัสสี, ชั้น16. อกนิฏฐา

ในโลกใบนี้  ก่อนมีพระพุทธศาสนา  ยังไม่มีผู้เข้าถึงความเป็นพรหมในชั้นสุทธาวาส  พรหมในชั้นสุทธาวาสที่พระพุทธเจ้าไปพบเจอ ล้วนเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าองค์อื่น ซึ่งอยู่ในโลกธาตุอื่น

5. วิธีการเข้าสู่ความเป็นพรหมชั้นโลกียะ

ทางไปเกิดเป็นพรหมนั้น ต้องมีฌานเป็นหนทางไป บุคคลที่จะทำฌานให้บังเกิดขึ้นได้นั้น ได้แก่ ผู้ฏิบัติสมถะกรรมฐาน หรือสมาธิ เช่น พวกโยคี  แล้วท่านเหล่านี้ได้ตายในฌาน

 อรูปพรหม

 มี 4 ชั้น คือ อากาสานัญจายตนภูมิ วิญญาณัญจายตนภูมิ อากิญจัญญายตนภูมิ และ เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ  ศาสนาพุทธก็สอนวิธีเข้าถึงความเป็นอรูปพรหมในแต่ละชั้นด้วย 

อากาสานัญจายตนภพรหม  ได้ยึดเอา อากาศอันไม่มีที่สิ้นสุดเป็นอารมณ์
วิญญาณัญจายตนพรหม ได้ยึดเอา วิญญาณไม่มีที่สิ้นสุด เป็นอารมณ์
อากิญจัญญายตนพรหม ได้ยึดเอา ภาวะความไม่มีอะไรเลย ไม่มีที่สิ้นสุดเป็นอารมณ์
เนวสัญญานาสัญญายตนพรหม ได้เข้าถึงภาวะมี สัญญาก็ไม่ใช่ ไม่มีสัญญาก็ไม่ใช่ (ภาวะที่มีสัญญาไม่ปรากฏชัด)

 รูปพรหม

ผู้ที่ตายในปฐมฌาน ผู้ที่ตายในทุติยฌาน  ผู้ที่ตายในตติยฌาน และผู้ที่ตายในจตุตถฌาน  ย่อมเกิดเป็นรูปพรหม

....ที่เมื่อก่อนตายยังไม่เสื่อมจากปฐมรูปฌาน ก็เป็นรูปพรหมชั้น 1-3 
....ผู้ที่เมื่อก่อนตายยังไม่เสื่อมจากทุติยรูปฌาน ก็เป็นรูปพรหมชั้น 4-6
....ผู้ที่เมื่อก่อนตายยังไม่เสื่อมจากตติยฌาน ก็จะได้มาบังเกิดเป็นพรหมชั้น 7-9
....ผู้ที่เมื่อก่อนตายยังไม่เสื่อมจากจตุตถฌาน(ฌาน ๔) ก็จะได้มาบังเกิดเป็นพรหมชั้น 10 (เวหัปผลาภูมิ) เป็นภูมิของเวหัปผลพรหม

อย่างไรก็ตาม ในบางตำรา แบ่งจตุตถฌานเป็นอย่างอ่อน อย่างปานกลาง และอย่างประณีต

และยังแบ่งฌานออกเป็นฌาน 5(ปัญจมฌาน)ด้วย ฌาน 5 เป็นพระโพธิสัตว์ที่บารมีเข้มมาก ท่านจะแยกตัวเอกัคตากับตัวอุเบกขาออกจากกันได้ ก็จะกลายเป็นฌานที่ ๕ การจำแนกภูมิก็จะต่างออกไป  กลายเป็นว่า จตุตถฌานเป็นอย่างอ่อน อย่างปานกลาง และอย่างประณีต ก็จะไปตกในพรหมชั้น 7-9  แต่ผมจะไม่จำแนกอะไรเพิ่ม ณ ที่นี้ เดี๋ยวจะสักสนกันไปใหญ่

เอาเป็นว่า ผู้ที่แบ่งฌานออกเป็นฌาน 5 ผู้มาเกิดในเวหัปผลาภูมิ ก็จะมาจากอำนาจของปัญจมฌานกุศลเท่านั้น (เป็นพระโพธิสัตว์ที่บารมีเข้มมาก)   ผู้ที่ได้จตุตถฌานยังเข้ามาไม่ได้

พรหมในเวหัปผลาภูมิ มีอายุ ๕,๐๐๐ มหากัป เป็นภูมิที่พ้นจากโลกาวินาศ คือการที่โลกถูกทำลายด้วยไฟ-น้ำ-ลม พรหมในขั้นที่ 10 ภูมินี้ นับว่าเป็นยอดภูมิ และเป็นภูมิที่ประเสริฐกว่าพรหมปฐมฌาน-ทุติยฌาน-ตติยฌานภูมิ ซึ่งย่อมไม่พ้นจากโลกาวินาศ  

สรุป

พวกที่เรียนทางภาคทฤษฎี หรือสายปริยัติ  ย่อมไม่ได้ปัญญาทางศาสนา เกิดมิจฉาทิฏฐิได้  ทำให้มีความเชื่อที่ว่า ศาสนาพุทธเป็นอเทวนิยม   ทั้งๆที่ ศาสนาพุทธเป็นเทวนิยม ที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะบอกวิธีการเข้าไปสู่ความเป็นเทวะในทุกชั้นภูมิ ชั้นภูมิสูงสุด คือ พระอดิเทพ หรือเทวาติเทพ (พระพุทธเจ้าต่างๆ) ไล่ลงมาถึงขั้นพระวิสุทธิเทพ(พระอรหันต์) ต่อเนื่องลงไปถึงชั้นพรหมโลกุตตระและพรหมโลกียะ  รวมทั้งเทพในสวรรค์ชั้นต่างๆด้วย

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
Sweet Jasmine
นักโพสท์ระดับ 9
****

คะแนนความดี: +8/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 503


Knowledge is not wisdom.

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2553 21:53:41 »

ผู้รู้แนะนำอ่าน หนังสือพุทธธรรม ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31 สิงหาคม 2553 18:56:35 โดย Sweet Jasmine » บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2553 22:17:32 »

แนะนำอ่าน หนังสือพุทธธรรม ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต

นั่นแหละ ปราชญ์พุทธศาสนาของจริง
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 31 สิงหาคม 2553 22:26:38 »

ท่าน ป.อ. ปยุตฺโต ปราชญ์พุทธศาสนาของจริง นั่นแหละเป็นสมุนพระยามารแท้ๆและแน่นอน  ทำสัทธรรมปฏิรูป ทำของปลอมใหเกิดกับพุทธศาสนาเป็นว่าเล่น

หมดยุคของปลอมแล้วครับ  ผมนำของจริงมาขายไล่ของปลอม  เหตุผลในแต่ละกระทู้ของผม แม้พระยามารมาเองก็แก้ไม่ได้
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.37 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 02 ตุลาคม 2566 13:38:49