[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 เมษายน 2567 05:06:21 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตำนานพระขรัวอีโต้ลอยน้ำ  (อ่าน 1718 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2325


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 14 ตุลาคม 2558 19:21:05 »



ตำนานพระขรัวอีโต้ลอยน้ำ

"ตำนานพระขรัวอีโต้ลอยน้ำกำเนิดขึ้นที่วัดราชบูรณะ เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า ระหว่างถนนจักรเพชรกับถนนตรีเพชร กรุงเทพฯ วัดนี้เดิมชื่อ วัดเลียบ เป็นวัดราษฎร์เก่าแก่โบราณตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา"

วัดเลียบ หรือ วัดราชบูรณะ เป็นวัดเก่าแก่โบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา มาได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1) แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงเทพหริรักษ์ พระเจ้าหลานเธอในรัชกาลที่ 1 พร้อมทูลขอพระบรมราชานุญาตสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวง โดยพระราชทานนามว่า "วัดราชบูรณะราชวรวิหาร" แต่ผู้คนก็มักนิยมเรียกกันว่า "วัดเลียบ" เรื่อยมา

ในสมัยรัชกาลที่ 2 ทรงมีพระราชศรัทธา โปรดให้สร้างพระวิหารคดเป็นที่ประดิษฐาน "พระระเบียง 162 องค์" ที่นำมาจากหัวเมืองต่างๆ ในสมัยรัชกาลที่ 1 บริเวณรอบพระอุโบสถ และโปรดให้สร้างพระวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปพร้อมด้วยพระอสีติ มหาสาวกอีกจำนวน 80 องค์

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 ทรงสร้างพระพุทธปรางค์ ซึ่งแม้จะเกิดสงครามภายหลังก็ไม่ได้รับอันตราย แต่ชำรุดทรุดโทรมลงตามกาลเวลา และในรัชกาลต่อๆ มา ก็โปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์และสร้างเสนาสนะต่างๆ ตลอดมา

วัดเลียบแห่งนี้มี "พระกรุ" ที่นับว่าได้รับความนิยมสะสมในแวดวงนักนิยมสะสมพระเครื่องพระบูชาอย่างกว้างขวาง ซึ่งปัจจุบันหาดูหาเช่าของแท้จริงๆ ค่อนข้างยาก เพราะเป็นพระกรุเก่าแก่และทรงพุทธคุณเป็นเลิศ ทั้งหมด 2 กรุ คือ พระขรัวอีโต้ลอยน้ำและพระวัดเลียบ โดยฉบับนี้ขอกล่าวถึงที่ไปที่มาของ "พระขรัวอีโต้ลอยน้ำ" เพราะนามขององค์พระค่อนข้างแปลกดีครับผม

พระขรัวอีโต้ลอยน้ำ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า "พระขรัวอีโต้" มีการแตกกรุที่วัดเลียบมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2473 เมื่อคราวที่รื้อพระเจดีย์ทรงมอญที่อยู่ทางทิศตะวันตกของพระอุโบสถ เพื่อตัดถนนตรีเพชร

ปรากฏพบ "พระขรัวอีโต้ลอยน้ำ" เป็นพระเนื้อดินผสมผงจำนวนนับหลายหมื่นองค์ พร้อมแผ่นทองแดงจารึกว่า "สมเด็จพระศรีสมโพธิ์ราชครูกับนายทองด้วงมหาดเล็ก" เป็นผู้สร้างพระเครื่องนี้

สำหรับมูลเหตุที่เรียกขานนามพระพิมพ์นี้ว่า "พระขรัวอีโต้ลอยน้ำ" นั้น มีเรื่องเล่าสืบกันมาว่า ...

"สมเด็จพระศรีสมโพธิ์ราชครู เป็นพระภิกษุในสมัยกรุงศรีอยุธยา และเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาแตกแก่พม่าเมื่อปี พ.ศ.2310 ท่านได้ถูกพม่ากวาดต้อนไปเมืองพม่าพร้อมญาติพี่น้องเป็นเวลาหลายปี ครั้นทราบว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบกู้เอกราชได้และตั้งกรุงธนบุรี เป็นเมืองหลวง

ท่านจึงชวนน้องสาวเดินทางกลับเมืองไทย ระหว่างทางพอพลบค่ำก็เข้าไปนอนในกลดเดียวกัน โดยเอา "มีดอีโต้" ที่น้องสาวนำติดตัวมาเพียงเล่มเดียวคั่นกลางไว้

กระทำเช่นนี้เรื่อยมาจนถึงกรุงธนบุรี ท่านจึงถูกทางการสอบสวน จึงเล่าความจริงให้ฟังพร้อมเสี่ยงทายว่า ถ้าท่านบริสุทธิ์จริง ขอให้มีดอีโต้เล่มที่คั่นกลางนี้เมื่อขว้างลงน้ำแล้วไม่จมน้ำ

ปรากฏว่าเมื่อท่านขว้างมีดอีโต้ลงน้ำ มีดเล่มดังกล่าวลอยน้ำจริงๆ ตามคำอธิษฐาน เป็นที่อัศจรรย์ปรากฏแก่สายตาชาวบ้าน จึงใช้นำมาเรียกขานนามของพระเครื่องที่ท่านสร้างด้วยเหตุฉะนี้"

ต่อมาในช่วงสงครามอินโดจีนเมื่อปี พ.ศ.2483 พระขรัวอีโต้ลอยน้ำ ก็เป็นพระเครื่องหนึ่งในหลายๆ พิมพ์ซึ่งนำออกแจกจ่ายแก่ทหาร ตำรวจผู้ออกสู้รบเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ และได้สร้างปาฏิหาริย์ด้านแคล้วคลาดเป็นที่ประจักษ์จนเป็นที่เคารพศรัทธา

ปัจจุบันไม่มีเหลือที่วัดเลียบเลย เพราะสูญหายไปหมดตั้งแต่คราวสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ.2488 ซึ่งวัดถูกภัยทางอากาศทำลายเสียหายเป็นอันมาก และในคราวนั้นเอง ที่วัดเลียบก็ปรากฏพบพระเครื่องที่เป็นที่นิยมอีกกรุหนึ่ง

เหตุด้วยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งวัดถูกภัยทางอากาศพังพินาศเป็นอันมาก โดยเฉพาะพระอุโบสถ แต่เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งที่ "พระเทพนิมิต" พระประธานในพระอุโบสถ ขนาดหน้าตักกว้าง 4 ศอก ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย บริเวณฐานชุกชีที่เผยอขึ้น เป็นเหตุให้องค์พระเอนไปทางด้านหลัง และที่ใต้ฐานชุกชีนี้เองก็ปรากฏพระเครื่องหลายพิมพ์ทรงบรรจุอยู่เต็ม อันเป็นที่มาของ "พระวัดเลียบ" นั่นเอง

ปัจจุบันทั้ง "พระขรัวอีโต้ลอยน้ำ" และ "พระวัดเลียบ" ของแท้นั้น หาดูหาเช่าได้ยากยิ่ง เป็นที่หวงแหนของผู้สักการะครับผม


ราม วัชรประดิษฐ์

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.233 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 12 กุมภาพันธ์ 2567 11:20:52