[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 เมษายน 2567 23:18:09 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "ลิลิตพระลอ" ยอดวรรณคดี ในคีตศิลป์ไทย  (อ่าน 4674 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
Moderator
นักโพสท์ระดับ 14
*****

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5469


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 17 กรกฎาคม 2556 16:38:48 »

.

http://i617.photobucket.com/albums/tt258/auddy228/charkarn18.jpg
"ลิลิตพระลอ" ยอดวรรณคดี ในคีตศิลป์ไทย

บทเกริ่นนำ
เพลงตับลิลิตพระลอ

เพลงตับ จากเรื่องพระลอที่ใช้ขับร้องบรรเลงกันมาเดิมเท่าที่จำได้ เห็นมีเพียงตับเจริญศรี หรือตับลาวเจริญศรีเท่านั้น ภายหลังมีเพลงตับพระลอคลั่งขึ้นมาอีกตับหนึ่ง จะเป็นเพลงตับที่มีผู้เรียบเรียงขึ้นใหม่ หรือเป็นบทละครพันทางก็ไม่ทราบ ยังมีบทละครพันทางของกรมศิลปากรอยู่หลายตอน คือ ตอนลาแม่ ตอนเสี่ยงน้ำ ตอนตามไก่ ตอนลงสวน และตอนเข้าห้อง มีเพลงไพเราะทั้งนั้น จึงคิดจะนำบทละครพันทางแต่ละตอนนี้มาเรียบเรียงเป็นเพลงตับ รวมกับของเดิม คือ ตับเจริญศรีกับตับพระลอคลั่ง ก็จะได้เพลงตับถึง ๗ ตับ และคิดไว้ว่าจะให้ชื่อเพลงตับนี้ว่า ตับพระลอ ยังไม่ทันจะได้ทำก็ได้บทละครพันทางเรื่องพญาผานอง ซึ่งเป็นพงศาวดารของเมืองน่าน  กรมศิลปากรจัดทำเป็นบทละครพันทางจัดแสดง ณ โรงละครศิลปากร เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๐๑ มีความยาว ๒ ตอน คิดจะนำมาทำทั้ง ๒ ตอน เกรงว่าหนังสือโน้ตเล่มนี้จะหนามากไป จึงนำตอนจากรักมาเพียงตอนเดียว พระลอเป็นเรื่องของเมืองแพร่ พญาผานอง เป็นเรื่องของเมืองน่าน จึงเปลี่ยนใช้ชื่อใหม่ของเพลงตับนี้ว่า ตับลาว  มีรวมกันถึง ๘ ตับ  ซึ่งมีความยาวมาก คงต้องเลือกขับร้องบรรเลงกันตามโอกาส

อาจารย์สมพล  อนุตตรังกูร
ตุลาคม ๒๕๔๔


เรื่องพระลอ

ดั้งเดิมไม่ปรากฏนามผู้แต่ง วรรณคดีสโมสรยกย่องว่าเป็นยอดวรรณคดีประเภทลิลิต เป็นนิยายรักแบบโศกนาฏกรรม มีเค้าโครงเรื่องในภาคพายัพ

สมเด็จกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ทรงนำมานิพนธ์เป็นบทละครที่แพร่หลายมาก และบรรจุเพลงได้ไพเราะที่สุด เนื้อเรื่องโดยสังเขปมีว่า

ครั้งหนึ่งยังมีกษัตริย์สองนคร คือ เมืองสรวงและเมืองสรอง อาณาเขตเมืองติดต่อกัน ท้าวแมนสรวงทรงดำริว่า กษัตริย์เมืองสรองเข้มแข็งนักควรจะยกทัพไปปราบเสีย จึงเตรียมไพร่พลยกไป ท้าวพิมพิสาครราชเจ้าเมืองสรองทรงช้างออกรบศึกและสิ้นพระชนม์บนคอช้าง ท้าวพิชัยพิษณุกรพระราชโอรสป้องกันเมืองไว้ได้ ท้าวแมนสรวงเสด็จยกทัพกลับคืนเมืองสรวง ส่วนทางเมืองสรองท้าวพิชัยพิษณุกรขึ้นเสวยราช ทรงมีพระราชธิดาสองพระองค์ทรงพระนามว่าพระเพื่อนพระแพง มีพี่เลี้ยงสนิทสองคน ชื่อ นางรื่นนางโรย ทางเมืองสรวงท้าวแมนสรวงได้ทรงอภิเษกพระลอราชโอรสกับพระนางลักษณวดี  ภายหลังท้าวแมนสรวงเสด็จสวรรคต พระลอได้รับราชสมบัติสืบต่อมา

พระลอทรงพระโฉมงดงาม ประชาราษฎร์เลื่องลือไปถึงเมืองสรอง ด้วยบุพเพสันนิวาสทำให้พระราชธิดาเมืองสรอง คือ พระเพื่อนพระแพงหลงใหลใฝ่ฝันอยากจะได้พระลอเป็นพระสวามี แต่ก็ไม่ทรงเห็นลู่ทางที่จะเป็นไปได้ เลยตรอมพระทัยจนพระวรกายซูบหมองลง  นางรื่นนางโรยพระพี่เลี้ยงทราบสาเหตุจึงทูลอาสาช่วยเหลือ ชั้นต้นได้จัดคนที่วางใจไปยังเมืองสรวงเที่ยวขับซอพรรณนาความงามของพระเพื่อนพระแพง พระลอได้มีรับสั่งหาให้ไปขับหน้าที่นั่ง ครั้งทรงฟังแล้วก็พอพระทัยยิ่ง พระราชทานเสื้อผ้าสิ่งของแก่คนขับซอเป็นอันมาก ผู้ขับซอก็กลับเมืองสรองรายงานเรื่องที่ทำไปแล้วสำเร็จเรียบร้อย  นางรื่นนางโรยดีใจและรีบดำเนินการขั้นต่อไป คือไปหาแม่มดทำเสน่ห์พระลอ แม่มดแจ้งว่าแรงมนต์ตนไม่ถึงและช่วยพาไปหาศิษย์ปู่เจ้าสมิงพราย ศิษย์ผู้นั้นบอกว่าตนไม่สามารถทำได้ เลยพาไปหาปู่เจ้าสมิงพรายและปู่เจ้าสมิงพรายได้ช่วยเหลือทันที

พระลอต้องเสน่ห์ ทรงคลั่งไคล้ถึงพระเพื่อนพระแพงและจะเสด็จไปเมืองสรองให้ได้ พระนางบุญเหลือราชมารดาตรัสหาหมอเฒ่าศิษย์พิชัยมาแก้เสน่ห์ได้ ฝ่ายพระเพื่อนพระแพงทรงคอยอยู่เป็นเวลานาน ก็ไม่เห็นพระลอเสด็จมา จึงทรงรับสั่งให้พระพี่เลี้ยงไปไต่ถามปู่เจ้าดู ปู่เจ้าสมิงพรายเล็งญานทราบว่าฝ่ายเมืองสรวงถอนเสน่ห์แล้ว ก็ร่ายคาถาเรียกภูตผีปีศาจมาประชุมพร้อมใหญ่ จัดผีที่สามารถยกเป็นกองทัพไปรบผีเมืองสรวงจนแตกพ่ายแพ้ ปู่เจ้าสมิงพรายปล่อยสลาเหิรไประคนอยู่ในพานพระศรีของพระลอ  เมื่อพระลอทรงเสวยเข้าไปก็ทรงคลั่งไคล้ขึ้นอีก  ครั้งนี้สุดที่หมอจะแก้ไข

เป็นอันว่าพระลอจำพระทัยจากพระราชมารดาและพระมเหสีเสด็จเมืองสรองพร้อมด้วยนายแก้วนายขวัญพระพี่เลี้ยง มาถึงแม่น้ำกาหลงพระลอทรงเสี่ยงน้ำเป็นที่ประจักษ์ว่าในการเสด็จไปครั้งนี้พระองค์จะทรงสิ้นพระชนม์  แต่ด้วยอำนาจเสน่ห์ พระองค์เสด็จต่อไป  ตอนนี้ปู่เจ้าสมิงพรายใช้ไก่มาล่อพระลอ พระลอเสด็จตามไก่จนเข้าเขตเมืองสรอง เพื่อไม่ให้ชาวเมืองสงสัย  พระลอปลอมองค์เป็นพราหมณ์ศรีเกษ  นายแก้วนายขวัญปลอมเป็นแขกเทศชื่อ รัตน์กับรามพากันมาอยู่ใกล้ๆ กับสวนหลวง  นางรื่นนางโรยออกมาสวนหลวงพบกับเจ้ารัตน์เจ้าราม  ทราบว่าว่าพระลอเสด็จมาแล้ว ก็กลับเข้าวังแนะนำให้พระเพื่อนพระแพงทูลลาพระเจ้าย่าออกประพาสอุทยาน พระนางทั้งสองปฏิบัติตามและได้พระลอเป็นพระสวามี ณ ศาลาที่ประทับในพระราชอุทยานนั้น และด้วยอุบายของนางรื่นนางโรย  พระลอลอบเสด็จเข้าไปประทับอยู่ในตำหนักสองพระนางได้ นายแก้วไปอยู่กับนางรื่น นายขวัญไปอยู่กับนางโรย

เวลาล่วงประมาณกึ่งเดือน มีข่าวเลื่องลือรู้ไปถึงพระกรรณพระเจ้าพิชัยพิษณุกร  จึงเสด็จมาตำหนักพระธิดา ทอดพระเนตรเห็นพระลอก็มิได้กริ้วโกรธประการใด กลับสนับสนุนและกำหนดการวิวาห์ให้  แต่พระเจ้าย่าเลี้ยงทรงแอบอ้างรับสั่งให้กะเกณฑ์ทหารมาล้อมพระตำหนักพระเพื่อนพระแพงในตอนดึกสงัด เพื่อจับพระลอประหารพระชนม์ชีพ  ด้วยความแค้นพระทัยว่าพระราชบิดาของพระลอได้ทรงฆ่าท้าวพิมพิสาครราช พระภัสดาของพระนาง  พระพี่เลี้ยงทั้งสี่คนได้สู้รบจนตัวตาย  สามกษัตริย์ทรงพระแสงดาบฟาดฟันศัตรูด้วยความองอาจ  แต่ธรรมดาน้ำน้อยไหนเลยจะสู้ไฟได้ ผลที่สุดสามกษัตริย์ก็สิ้นพระชนม์  กว่าพระเจ้าพิชัยพิษณุกรจะทรงทราบก็สายเสียแล้ว พระองค์ทรงพิโรธยิ่งนัก ตรัสสั่งให้จับผู้ที่กระทำโดยพระเสาวนีย์ของพระเจ้าย่าเลี้ยงไปประหารทุกคน   ส่วนพระเจ้าย่าเลี้ยงนั้นรับสั่งให้แล่เนื้อจนกว่าจะสิ้นพระชนม์  หลังจากนั้นได้โปรดเกล้าให้จัดการพระศพกษัตริย์ทั้งสามและศพสี่พี่เลี้ยงอย่างเอิกเกริกมโหฬาร  แล้วทรงจัดทูลเชิญพระราชสาส์นแจ้งข่าวทั้งปวงไปถวายพระนางบุญเหลือ  พระนางบุญเหลือทรงแต่งทูตมาขออัฐิธาตุของทั้งสามกษัตริย์ไปไว้ในเมืองสรวง  สองเมืองต่างสร้างเจดีย์บรรจุอัฐินั้นไว้ และสองเมืองก็กลับมีไมตรีกัน ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินติดต่อไปมาค้าขายกันเป็นอันดี ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

อาจารย์สมพล  อนุตตรังกูร
ตุลาคม ๒๕๔๔


โน๊ตและบทร้อง ชุดตับพระลอ
โพสท์ไว้ใน www.sookjai.com ประกอบด้วย

โน๊ตดนตรีไทยเดิม และบทร้อง : ชุดตับลาว - ตับเจริญศรี (รวม ๑๒ เพลง)             โพสท์ 17 พฤษภาคม 2556
โน๊ตดนตรีไทยเดิม และบทร้อง : ชุดตับลาว - ตับพระลอคลั่ง (รวม ๗ เพลง)           โพสท์ 07 มิถุนายน 2556
โน๊ตดนตรีไทยเดิม และบทร้อง : ชุดตับลาว - ตับพระลอตอนลาแม่ (รวม ๖ เพลง)     โพสท์ 02 กรกฎาคม 2556
โน๊ตดนตรีไทยเดิม และบทร้อง : ชุดตับลาว - ตับพระลอเสี่ยงน้ำ (รวม ๙ เพลง)       โพสท์ 03 กรกฎาคม 2556
โน๊ตดนตรีไทยเดิม และบทร้อง : ชุดตับลาว - ตับพระลอตอนตามไก่ (รวม ๕ เพลง)   โพสท์ 03 กรกฎาคม 2556
โน๊ตดนตรีไทยเดิม และบทร้อง : ชุดตับลาว - ตับพระลอตอนลงสวน (รวม ๖ เพลง)   โพสท์ 12 กรกฎาคม 2556
โน๊ตดนตรีไทยเดิม และบทร้อง : ชุดตับลาว - ตับพระลอตอนเข้าห้อง (รวม ๗ เพลง)  โพสท์ 17 กรกฎาคม 2556

ตับพระลอ ภาค1



ตับพระลอ ภาค 2

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 สิงหาคม 2558 16:30:49 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.341 วินาที กับ 35 คำสั่ง

Google visited last this page 27 เมษายน 2567 08:23:03