[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
25 เมษายน 2567 08:54:37 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ภวจักร วงล้อชีวิต พระพุทธเจ้า 6 กาย โปรดสัตว์ทุกภพภูมิ ภาพสอนปฏิจจสมุปบาท  (อ่าน 538 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5065


ระบบปฏิบัติการ:
Linux Linux
เวบเบราเซอร์:
Chrome 120.0.0.0 Chrome 120.0.0.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 21 กุมภาพันธ์ 2567 16:59:20 »

ภวจักร วงล้อชีวิต  พระพุทธเจ้า 6 กาย โปรดสัตว์ทุกภพภูมิ  ภาพสอน ปฏิจจสมุปบาท แห่งพุทธทิเบต



ภาพวงล้อปฏิจจสมุปบาท หรือโดยทั่วไปจะเรียกว่า ภวจักร หรือ สังสาระจักร ในภาษาอังกฤษมักจะเรียกว่า wheel of life ภาษาทิเบตเรียกว่า ซีปา คอร์โล เป็นภาพที่อธิบายถึงการเวียนว่ายตายเกิดของมนุษย์ซึ่งประกอบด้วยสัญลักษณ์ทางธรรมะหลายๆ อย่าง อยู่ในภาพเดียว ตั้งแต่ภาพกิเลส กรรม วิบาก ภพภูมิ และปฏิจจสมุปบาท

 วงเล็กสุด เป็นภาพของสัตว์สามตัว คือ หมู ไก่หรือนก งู กำลังกัดกินซึ่งกันและกัน ภาพนี้มีความหมายถึงกิเลสสามประการของมนุษย์ หรือตัวอกุศลมูล หมูเป็นตัวแทนของความหลงหรือความโง่เขลา ส่วนไก่เป็นสิ่งแทนความโลภหรือราคะ และงูเป็นสิ่งแทนความโกรธ กิเลสสามกองนี้เป็นตัวทำให้เกิดความทุกข์ในการเวียนว่ายตายเกิด

วงถัดมา แสดงถึงกุศลกรรม และอกุศลกรรม หรือความดีกับความชั่ว แถบครึ่งหนึ่งเป็นสีดำ แสดงถึงมนุษย์ที่ตกลงไปในการทำบาป การทำความชั่ว เหมือนถูกชักจูงจากมารหรือปีศาจ หรือสภาพ กลายเป็นปีศาจ ส่วนแถบครึ่งสีขาว หมายถึงการทำความดี แสดงภาพเป็นคนที่ค่อยๆ กลายเป็นผู้ปฏิบัติธรรมหรือผู้ออกบวช นอกจากนั้นยังหมายถึงการพัฒนาตนเองจากคนธรรมดาที่ปฏิบัติในศีลธรรม ไปจนถึงผู้มีปัญญาซึ่งใช้ภาพนักบวชแทนผู้มีปัญญารู้แจ้งครับ

วงถัดไปเป็นวงใหญ่สุด แสดงถึงภพภูมิแห่งการเวียนว่ายตายเกิดทั้งหกภูมิ คือ นรก เปรต เดรัจฉาน อสุรกาย มนุษย์ และสวรรค์ ในบางศิลปะของภาพภวจักร จะมีพระพุทธเจ้าอยู่ประจำภพภูมิต่างๆ หมายถึงพระพุทธเจ้าผู้เสด็จไปโปรดสัตว์ในแต่ละภพภูมิ นอกจากนั้นยังหมายถึงจิตใจที่มุ่งมั่นจะบำเพ็ญเพียรจนตรัสรู้ ไม่ว่าเราจะต้องตกไปอยู่ในภพภูมิไหน ก็จะต้องไม่ละทิ้งจิตใจที่จะปฏิบัติธรรมและจิตใจที่อยากจะบรรลุธรรม หรือในทางพุทธศาสนามหายานและวัชรยานเรียกว่า การมีโพธิจิต หรือจิตแห่งการตรัสรู้เพื่อจะช่วยผู้อื่น

พระพุทธเจ้าที่ทรงโปรดสัตว์ประจำภพภูมิต่างๆ คือ พระธรรมราชพุทธเจ้า โปรดสัตว์ในภพภูมินรก พระชวาลมุขเทพพุทธเจ้า โปรดสัตว์ในภูมิเปรต ทรงถือหม้อประทานอาหารแก่เหล่าเปรต พระธรุวะสิงหะพุทธเจ้า โปรดสัตว์ในภูมิเดรัจฉาน ทรงถือหนังสือแห่งปัญญาให้สัตว์พ้นจากความโง่เขลา พระศากยมุนีพุทธเจ้า ทรงถือบาตรและคฑาธุดงค์ โปรดสัตว์ในภูมิมนุษย์ ทรงแสดงธรรมสั่งสอนมนุษย์ให้เกิดสติปัญญา ละความชั่วประพฤติดีและบำเพ็ญเพียรทางจิตให้พ้นจากกิเลส พระเวมจิตรินพุทธเจ้าโปรดสัตว์ในภูมิอสูร ทรงถือดาบแห่งปัญญาและโล่แห่งการให้อภัย สอนให้เหล่าอสูรเลิกทำสงครามทำร้ายผู้อื่น และพระอินทระเกาศิกะพุทธเจ้าโปรดสัตว์ในภูมิเทวดา ทรงถือพิณที่มีเสียงเป็นคำสอนพระธรรมให้เหล่าเทวดาไม่หลงติดในความสุขและตั้งใจปฏิบัติธรรม

วงนอกสุดแสดงถึงปฏิจจสมุปบาททั้ง ๑๒ ประการ

 ภาพที่หนึ่ง คนแก่ตาบอดคลำทาง หรือบางแห่งเป็นภาพเด็กจูงคนแก่ หมายถึง อวิชชา ความไม่รู้ ความจริงของชีวิต ชักนำไปสู่การกระทำกรรมต่างๆ

 ภาพที่สอง คนกำลังปั้นหม้อ หมายถึงสังขาร การปรุงแต่งสิ่งต่างๆ และการปรุงแต่งบุญบาป ก่อให้เกิดภพภูมิใหม่

ภาพที่สาม ลิง แสดงถึงวิญญาณ การมีชีวิต และดวงจิตที่โลดแล่นไม่อยู่นิ่ง

ภาพที่สี่ คนนั่งเรือ หมายถึงนามรูป บรรทุกชีวิตและขันธ์ห้าเอาไว้


ภาพที่ห้า ตึกอาคาร หรือบ้านมีหน้าต่าง หมายถึงอายตนะทั้งหก ที่คอยเปิดรับสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในโลก หรือเป็นที่อาศัยของอายตนะต่างๆ

 ภาพที่หก คนกอดกันหรือคู่สามีภรรยา หมายถึงผัสสะ การสัมผัส การเชื่อมต่อกันของอายตนะต่างๆ

ภาพที่เจ็ด คนกำลังเจ็บปวด ร้องไห้ หรือคนถูกลูกศรแทงตา หมายถึงเวทนา หรือการรับความรู้สึกต่างๆ หลังจากการสัมผัส

ภาพที่แปด คนเทเหล้าให้กัน หมายถึง ตัณหา คือการได้รับในสิ่งต่างๆ แล้วพึงพอใจในสิ่งนั้น

ภาพที่เก้า คนกำลังเก็บผลไม้ หมายถึงอุปาทาน ความต้องการอยากได้ในสิ่งต่างๆ

ภาพที่สิบ คนนอนอยู่ร่วมกันหรือการแต่งงาน หมายถึงภพ คือสถานที่เกิด การเริ่มเกิดในภพภูมิใหม่

ภาพที่สิบเอ็ด คนคลอดลูก หมายถึงชาติ หรือความเกิด

ภาพที่สิบสองคนแบกศพ หมายถึง ชรา มรณะ โศกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัสรวมอยู่ด้วย จึงครบรอบปฏิจจสมุปบาท และเริ่มต้นใหม่ไม่จบสิ้น


ภาพยักษ์หรือปีศาจ หมายถึงพญายมราช หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือความไม่เที่ยงแท้ของชีวิต หรือไตรลักษณ์

นอกจากนั้นบางแห่งจะมีภาพพระพุทธเจ้าอยู่ด้านนอกวงล้อ หมายถึงพระพุทธเจ้าทรงชี้ทางแห่งการหลุดพ้นจากความทุกข์และการเวียนว่ายตายเกิด ไปสู่นิพพาน


<a href="https://www.youtube.com/v/oqRW4cKZ-qo" target="_blank">https://www.youtube.com/v/oqRW4cKZ-qo</a>

https://youtu.be/oqRW4cKZ-qo?si=Fifl83_fMK_WoXHT





ศาสนาพุทธมหายานและวัชรยานถือว่า ไม่ใช่แค่ในโลกมนุษย์ของเราเท่านั้น แต่พระพุทธเจ้าจะทรงมีความเมตตากรุณาในการช่วยเหลือสรรพสัตว์ในภพภูมิอื่นๆ หากต้องการความช่วยเหลือของพระองค์ และพระพุทธเจ้าผู้โปรดสัตว์ในหกภพภูมิ มีพระนามดังนี้ครับ

๑. พระอินทระเกาศิกะพุทธเจ้า ภาษาทิเบตเรียกว่า วังโป กายิน เป็นพระพุทธเจ้าพระกายสีขาว ในพระหัตถ์ทรงถือพิณ เป็นพระพุทธเจ้าผู้สอนพระธรรมแก่เทวดาในโลกสวรรค์ การถือพิณของพระองค์หมายถึงการส่งเสียงเตือนให้เหล่าเทวดาอย่าประมาทในความสุขและในบุญกุศล แต่ควรจะเร่งบำเพ็ญเพียรปฏิบัติธรรม เพราะชีวิตของเทวดาซักวันก็ต้องจุติไปเกิดในภพภูมิอื่น

๒. พระเวมาจิตระพุทธเจ้า ภาษาทิเบตเรียกว่า ทักซังรี เป็นพระพุทธเจ้าพระกายสีเขียว ในพระหัตถ์ ถือดาบแห่งปัญญา และโล่แห่งความให้อภัย พระพุทธเจ้าปางนี้ทรงโปรดสัตว์ในภพภูมิอสูร ซึ่งเป็นภพภูมิที่มีการทำร้ายต่อสู้กันของพวกอสูร พระเวมาจิตระพุทธเจ้าทรงสอนให้เหล่าอสูรหยุดการทำร้ายกัน และเลิกเบียดเบียนกัน

 ๓. พระศากยมุนีพุทธเจ้า ภาษาทิเบตเรียกว่า สาเกียทุบปา เป็นพระพุทธเจ้าผู้ทรงตรัสรู้และสอนพระธรรมในภพภูมิมนุษย์ หรือพระพุทธเจ้าสมณโคตรมะ พระศากยมุนีที่เรานับถือกันนี่เองครับ ในพระหัตถ์จะทรงถือบาตร และไม้เท้าธุดงค์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนักบวช

 ๔. พระธรุวสิงหะ หรือ สิงหะปรัทโยตะ ภาษาทิเบตเรียกว่า เซงเก รับเทน หรือพระพุทธเจ้าผู้เป็นดั่งราชสีห์ผู้มั่นคง เป็นพระพุทธเจ้าพระกายสีน้ำเงิน ในพระหัตถ์ถือหนังสือแห่งปัญญา ทรงสอนสรรพสัตว์ในภพภูมิเดรัจฉาน หรือสัตว์เดรัจฉานทั่วไป การถือหนังสือแห่งปัญญาของพระองค์ เหมือนกับการชี้แนะให้สัตว์เดรัจฉานที่มีการเบียดเบียนกันหรือมีความโง่เขลาไม่รู้เรื่องราว มีเพียงสัญชาตญาณ ให้ได้เกิดปัญญาความรู้ จะได้สร้างความดีและเกิดในภพภูมิใหม่ได้

๕. พระชวาลมุขเทวะพุทธเจ้า ภาษาทิเบตเรียกว่า คาบา เดวา เป็นพระพุทธเจ้าพระกายสีแดง โปรดสัตว์ในภพภูมิเปรต ทรงถือหม้ออาหารหรือหม้อยาทิพย์ ช่วยเหลือเหล่าเปรตที่กำลังหิวโหยให้ได้รับอาหาร

๖. พระธรรมราชพุทธเจ้า ภาษาทิเบตเรียกว่า ชกยี เกียลโป เป็นพระพุทธเจ้าพระกายสีดำ ในพระหัตถ์ทรงถือเปลวเพลงและหอยสังข์ เป็นพระพุทธเจ้าผู้โปรดสัตว์ในนรกภูมิ การถือเปลวเพลงและหอยสังข์ หมายถึงการดับความทุกข์ในนรก และทรงให้ความยุติธรรมแก่สรรพสัตว์ที่ตกนรกภูมิให้ได้รำลึกถึงกุศลกรรมจะได้พ้นจากนรกภูมิโดยเร็ว

แม้ศาสนาพุทธฝ่ายเถรวาทเราจะถือว่าพระพุทธเจ้าจะทรงประสูติในโลกมนุษย์และสอนธรรมแก่สรรพสัตว์ในโลกมนุษย์เท่านั้น แต่ตามพุทธประวัติและในคัมภีร์พระไตรปิฎก ก็ปรากฏว่าพระพุทธเจ้าทรงโปรดสรรพสัตว์ในภพภูมิต่างๆ ด้วยเหมือนกัน เช่น ทรงมีเมตตาแก่สัตว์เดรัจฉาน ทรงสอนพระธรรมแก่เทวดา ทรงสอนเรื่องผลจาการทำความชั่วเพื่อให้เราพ้นจากภูมิเปรตและภูมินรก ทรงสอนให้เหล่าอสูรมีศรัทธาในพระธรรมและเลิกทำสงครามกับเทวดา และทรงสอนมนุษย์ให้ประพฤติดีละเว้นความชั่ว ดังนั้นเรื่องราวพระพุทธเจ้าทั้งหกภพภูมิของฝ่ายวัชรยานทิเบตก็นับว่ามีเนื้อหาสาระที่น่าสนใจ และมีความใกล้เคียงกับคำสอนแบบพุทธเถรวาทไม่ต่างกันครับ


<a href="https://www.youtube.com/v/OpTlCLG1rJo" target="_blank">https://www.youtube.com/v/OpTlCLG1rJo</a>

https://youtu.be/OpTlCLG1rJo?si=RQqf5bRy4lVaVP2a

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21 กุมภาพันธ์ 2567 17:04:10 โดย มดเอ๊ก » บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
พระเจ้า=พระพุทธเจ้า + วิธีการเข้าหาพระเจ้า(พระพุทธเจ้า)ของพุทธและคริสต์
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
phonsak 2 3101 กระทู้ล่าสุด 10 ตุลาคม 2553 21:10:37
โดย phonsak
พระพุทธเจ้า มีทั้งหมดกี่พระองค์
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 1435 กระทู้ล่าสุด 23 กรกฎาคม 2559 14:39:41
โดย มดเอ๊ก
พระพุทธเจ้า (คุรุวิพากษ์คุรุ : OSHO)
พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
มดเอ๊ก 2 4297 กระทู้ล่าสุด 13 สิงหาคม 2559 22:35:54
โดย มดเอ๊ก
พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์
เกร็ดศาสนา
Kimleng 0 1427 กระทู้ล่าสุด 27 เมษายน 2560 13:13:23
โดย Kimleng
“พระพุทธเจ้า” เคยเสวยพระชาติเป็น “เหี้ย”
พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
ใบบุญ 0 734 กระทู้ล่าสุด 29 พฤษภาคม 2564 15:18:01
โดย ใบบุญ
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.352 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 22 เมษายน 2567 18:30:54