16 กันยายน 2567 06:05:27
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
.:::
讀書集理念意的其中
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: 讀書集理念意的其中 (อ่าน 1977 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์
Nepal
กระทู้: 1921
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.6.10
讀書集理念意的其中
«
เมื่อ:
17 กันยายน 2553 20:27:22 »
Tweet
http://www.fungdham.com/download/song/allhits/23.wma
ถามอาจารย์ครับ
ขณะที่อาจารย์อ่านหนังสือธรรมหรือขณะที่กำลังพูดอาจารย์ตั้งสติไว้ที่ไหนครับ ?
ท่านอาจารย์
ไม่มีตัวตนที่จะตั้งเลยค่ะสติเป็น
อนัตตานะค่ะ
ขณะใดสติเกิดรู้ว่าขณะนั้นต่างกับหลงลืมสติ
ถาม
ขณะที่เราอ่านหนังสือไปถ้าเกิดเราไม่มีสติเราก็ไม่เข้าใจในเรื่องที่เราอ่าน
ท่านอาจารย์
มิได้ค่ะ เวลาที่อ่านหนังสือเป็นกุศลจิตหรือเป็นอกุศลจิต
(คนถาม)เป็นกุศลครับเพราะเป็นหนังสือธรรม
ท่านอาจารย์
อ่านหนังสือธรรมค่ะ เป็นกุศลจิต อย่างคำว่า พาราณสี เป็นกุศลจิต หรือ อกุศลจิต
(คนถาม)ผมไม่ทราบว่าเป็นกุศลหรืออกุศลเพราะว่าก็อ่านไปอย่างนั้นเอง
ท่านอาจารย์
นี่เรื่องไม่ทราบใช่ไหมค่ะ ก็เป็นเรื่อง{อหิริกะ}เพราะว่าไม่ทราบ
ถัาทราบจึงจะเป็น{หิริ} คือ กุศลจิตนะค่ะเพราะฉะนั้นเรื่องไม่ทราบนี่ก็เป็นเรื่องไม่รู้
จริง ๆ ว่าในวันหนึ่ง ๆ นี้ที่เรียกว่า โลก หรือว่าตัวเราในขณะนี้นั้นก็ไม่พ้นจากทาง
ตาที่เห็น.....ทางกายที่ถูกต้องทางใจที่คิดนึก
เพราะฉะนั้นทันทีที่เห็นทางตานี้มีโลกปรากฏไหมค่ะทางตา
(ถาม)มีครับ
ท่านอาจารย์
แต่ตามความจริงแล้ว สี่งที่ปรากฏทางตาเป็นของจริงอย่างหนึ่ง
ถ้าเป็นผู้ที่อบรมเจริญปัญญาจะรู้ได้จริงด้วย(หิริ)และ
โอตตัปปะ
ว่าในขณะ
นั้นสี่งที่ปรากฏทางตาเป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่งแล้วต่อจากนั้นเป็นความคิดทั้ง
หมดเรื่องสี่งที่ปรากฏทางตาและโลก
นี่เฉพาะทางตา เช่นในขณะที่อ่านหนังสือเหมือนกับมีเราแล้วก็มีโลกใช่ไหม
ค่ะแต่ว่าตามความเป็นจริงที่เกิด
หิริโอตตัปปะ
{สติ}และ ศรัทธา ปัญญา พิจารณา
รู้ลักษณะของสภาพธรรมในขณะนั้นจะรู้ได้ว่าสี่งที่ปรากฏทางตาจะไม่เปลี่ยนแปลง
ลักษณะเลยเมื่อไรก็เมื่อนั้นสี่งที่ปรากฏทางตาก็ปรากฏอย่างนี้วันนี้จะหยิบหนังสือ
ขึ้นมาอ่านก็เป็นสี่งทีปรากฏทางตาพรุ่งนี้จะหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านก็เป็นสี่งที่
ปรากฏทางตากลับไปรับประทานอาหารลืมตาเมื่อไรก็มีสี่งที่ปรากฏทางตา
เพราะฉะนั้นสี่งที่ปรากฏทางตาไม่มีวันที่จะเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นเลยแต่
ความคิดหลังจากที่เห็นแล้วนี้เปลี่ยนตลอดเพราะฉะนั้นจะเห็นได้นะคะว่าสี่งที่
ปรากฏทางตาเป็นเพียงสี่งที่ปรากฏทางตาแต่ว่าโลกของความคิดของเรากว้าง
ใหญ่กว่ามากเกิดจากสี่งที่ปรากฏทางตาเมื่อไม่รู้ความจริงแต่ถ้ารู้ความจริงขณะใด
โลกก็คือสี่งที่ปรากฏทางตาและความคิดนึกเรื่องสี่งที่ปรากฏทางตาที่เห็น
เท่านั้นเองค่ะ
เพราะฉะนั้นจะบอกว่า(สติ)ตั้งที่ไหนในขณะที่อ่านหนังสือไม่ใช่มีกฏเกณฑ์
นะค่ะแต่ต้องเป็นการฟังเรื่องของสภาพธรรมจนกว่าจะเข้าใจจริง ๆ แล้ว(สัมมาสติ)จึง
จะระลึกได้ถูกต้องแล้วค่อย ๆ น้อมไปพิจารณาว่าเป็นความจริงอย่างนี้ไหมที่คิดว่าอยู่
ในโลกกว้างใหญ่่มีหลายคนความจริงคนเดียวจิตขณะเดียวเกิดขึ้นรู้อารมณ์
ทางตาแล้วดับไปหลังจากนั้นจิตทางใจเกิดขึ้นคิดนึกเรื่องสี่งที่เห็นทางตามากมาย
เป็นเรื่องราวใหญ่โตเพราะฉะนั้นทุกคนนี้ไม่ได้อยู่กับคนอื่นเลยตามความเป็นจริง
แล้วอยู่กับสี่งที่ปรากฏ ทางตาและความคิด
กับเสียง ที่ปรากฏ ทางหูและความคิด
กับกลี่นที่ปรากฏทางจมูกและความคิด
กับรสต่าง ๆ ที่ปรากฏ ทางลิ้นและความคิด
กับสี่งที่กระทบสัมผัสทางกายและความคิด
และแม้ไม่มีสี่งต่าง ๆ เหล่านี้ใจก็ยังคิดถึงรูปเสียงที่เคยเห็นเพราะฉะนั้น
ทุกคนอยู่ในโลกของตัวเองเป็นโลกเล็ก ๆ แต่ว่าในความรู้สึกเหมือนกับว่ามีสี่งต่าง ๆ
มากมายเป็นโลกที่กว้างขวางแต่ความจริงก็คือขณะจิตเดียว
คนถาม
ความคิดนี้ก็มีอยู่ตลอดเวลา
ท่านอาจารย์
หลังจากเห็นแล้วก็คิดได้ หรือแม้ไม่คิด ก็คิดถึงเรื่องที่เคยเห็นได้
เพราะฉะนั้นนี่คือโลกตามความเป็นจริงที่จะต้องเข้าใจ
ที่บอกว่า{สติ}ตั้งที่ตรงไหนในขณะที่อ่านคือ ในขณะทีเห็นเหมือนกันค่ะแทน
ที่จะเห็นเป็น ก ข ก็เห็นเป็นเเส้นต่าง ๆ แล้วก็คิดไปในหนังสือที่อ่านมีชื่อของ
คนต่าง ๆ ใช่ไหมค่ะในขณะที่เห็นก็มี่เส้นต่าง ๆ ที่จะทำให้นึกถึงชื่อต่าง ๆ แต่ว่าไม่ได้อยู่
ในกระดาษเท่านั้นเองแต่ก็เป็นเพียงเมื่อเห็นแล้วทางใจก็คิดตามสี่งที่ปรากฏทางตา
เพราะฉะนั้นในโลกของแต่ละคนจะเป็น{กุศล}หรือป็น{อกุศล}ไม่เกี่ยวข้องกันคนอื่น
เลยจะได้ผลของ{กุศล}จะได้ผลของอกุศลกรรรมก็เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยตาม
ความคิดของแต่ละคนจะคิดว่าคนนั้นจะติเตียนจะคิดว่าคนอื่นจะเกลียดจะคิดว่าคน
อื่นจะรัก ก็คือความคิดของตนเองในเมื่อสี่งที่ปรากฏทางตาก็ดับไปทุกสี่งทุกอย่างที่
ปรากฏจะไม่กลับมาอีกเลยแม้แต่{สี}ที่ปรากฏ ทางตาที่ดับเร็วหรือเสียงที่ปรากฏ
ทาง หู ที่ดับไปแล้วก็จะไม่กลับมาอีกเลยแต่ว่าความคิดเรื่องสีเรื่องเสียง..............เรื่อง
{โผฏฐัพพะ}เรื่องสีต่าง ๆ มากมายในโลกอยู่กับคนมากมายในโลกแต่ตามความเป็น
จริงแล้วอยู่คนเดียวและไม่ใช่สัตว์บุคคลด้วยเพียงชั่วขณะจิตแล้วก็คิด
เพราะฉะนั้น ถ้าไม่เข้าใจลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงแล้วทีจะไปตั้ง
สติ
นี้เป็นไปไม่ได้เลยเพราะว่าปัญญาไม่เกิดไม่รู้ชัดในลักกษณะของสภาพธรรมนั้น
ตามความเป็นจริงจะคิดถึงใครก็ไม่ใช่จะมีคนนั้นจริง ๆ ค่ะเป็นความคิดเป็นจิตที่เกิด
คิดขึ้นแล้วก็ดับไปเท่านั้เองแล้วถ้าเป็นสี่งทีปรากฏทางตาก็เหมือนกันหมดไม่ว่าจะ
เป็นในห้องนี้จะอ่านหนังสือหรือไม่อ่านหนังสือสี่งที่ปรากฏทางตาจะไม่เปลี่ยนแปลง{แต่ความคิดเปลี่ยน}
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
สำนักงานเลขที่ 174/1 ซอย เจริญนคร 78
ดาวคะนอง ธนบุรี
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 กันยายน 2553 21:06:26 โดย บางครั้ง
»
บันทึกการเข้า
โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?
คำค้น:
สติ
กรรมฐาน
กุศล
ทุกข์
บางครั้ง
ธรรม
อนัตตา
ตระกูล
ความ
ต่ำ
dhamma
อภิญญา
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...