[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 เมษายน 2567 21:17:35 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ดับนิพพานคืออะไร? มีไหม?  (อ่าน 2018 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 14 กันยายน 2553 02:02:21 »

ดับนิพพานคืออะไร? มีไหม?


คุณยาหยีถามในเว็บหนึ่งว่า: ดับนิพพานคืออะไร ? มีไหม?

ตอบ

ดับนิพพานมีครับ คือ ดับอายตนะนิพพาน มหายานเรียกว่า ธรรมศูนยตา
   
เมื่อใครเป็นพระอรหันต์ มหายานเรียกว่า "บุคคลศูนยตา" เมื่อตายแล้ว  เขาจะมีอายตนะนิพพาน = ธรรมกาย(เรียกแบบเถรวาท) หรือ สัมโภคกาย(เรียกแบบมหายาน)   อายตนะนิพพาน หรือ สัมโภคกาย หรือธรรมกาย นี้เป็นกายแท้ที่เป็นอัตตา กายแท้จะอยู่ในเมืองพระนิพพาน หรือดินแดนนิพพาน มหายานเรียกว่า พุทธเกษตร หรือ วิสุทธิภูมิ  ถ้ากายแท้เหล่านี้ต้องการอยู่ในพุทธเกษตร แดนนิพพาน ก็อยู่ไปได้ชั่วนิรันดร เขาจะดำรงตนเป็นพระอรหันต์โพธิสัตว์
   
อย่างไรก็ตาม ถ้า"บุคคลศูนยตา" หรือ อายตนะนิพพาน หรือ สัมโภคกาย หรือธรรมกาย ต้องการไปอีกระดับหนึ่ง ที่เรียกว่า "ธรรมศูนยตา"  เขาต้องละออกแม้แต่อายตนะนิพพานของตนเอง  เข้าไปสู่พุทธภาวะเริ่มแรก ซึ่งเป็นแสงสุกสกาวในความว่างเปล่า  เถรวาทของเราเรียกภาวะการรวมตัวของจิตบริสุทธิ์ที่เป็นแสงแต่ละดวงกับแสงดวงใหญ่(อาทิพุทธ หรือพุทธเจ้าองค์ปฐม หรือต้นธาตุ-ต้นธรรม) ว่า "นิพพาน"  ศาสนาพราหมณ์เรียก อาตมัน ไปรวมกับ ปรมาตมัน
   
   
ถ้าท่านสงสัยว่า ทำไมนิพพานมี 2 อย่าง  ลองอ่านคำพูดของพระอรหันต์เหล่านี้ดู
   
   1. หลวงปู่ดู่ฯ อธิบายว่า:
   
  "นิพพานจริงๆแล้ว เป็นความว่าง ไม่มีอะไรเลย" ก่อนหน้านั้นท่านพูดถึงนครหรือเมืองพระนิพพาน ลองอ่านดูนะครับ: 
   
    “เมื่อ ไปถึงวิมานแก้วได้แล้ว เป็นวิมานแก้วของพระพุทธเจ้าก็เหมือนกุฏิของพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ก็มีวิมานพระธรรม อยู่ไปทางขวามือของพระพุทธเจ้ามีตู้พระไตรปิฎกอยู่หลายตู้ เขียนเป็นภาษาบาลีอักษรขอม ถ้าอยากรู้แปลว่าอะไรให้ถามหลวงปู่ทวด ซ้ายมือเป็นวิมานของพระสงฆ์ มีพระสงฆ์อยู่พระพุทธเจ้าเป็นประธาน แกเดินจิตให้ดีจากวิมานแก้วจะไปถึงพระพุทธรูป 4 องค์ของกัปป์นี้ มีลักษณะหน้าตักกว้างไม่เท่ากันตามบารมี องค์แรกเป็นของพระกกุสันโธมีหน้าตักกว้าง 20 วา องค์ที่สองพระโกนาคม หน้าตัก 15 วา องค์ที่สาม ของพระกัสสปหน้าตัก 10 วา องค์ที่สี่ หน้าตัก 5 วา ถ้าเป็นพระศรีอริย์องค์ที่ห้า ยังไม่ปรากฎถ้าอธิษฐาน ขอดูจะพบว่ามีหน้าตักเท่ากับองค์แรก เพราะท่านสร้างบารมีมาถึง 16 อสงไขยกับแสนมหากัปป์ ทำจิตให้ดี เดินจิตให้ถึงที่หลังพระทั้ง สี่องค์ มีที่เวิ้งว้างไม่มีประมาณนั้นแหละคือ แดนพระนิพพานจริงๆ ไม่มีอะไรเลยเป็นสภาพของความว่าง แต่ไม่ใช่สูญนะแก
   
  2. หลวงปู่ดุลย์ อธิบายว่า :
   
   " โดยปราศจากรูปปรมาณู(หมายถึง ดับวิญญาณธาตุและดับนามรูปแล้ว) ความว่างนั้น จึงบริสุทธิ์และสว่าง รวมเข้ากับความว่าง บริสุทธิ์ สว่าง ของจักรวาลเดิม เข้าเป็นหนึ่งเรียกว่า นิพพาน"
   
   ความว่างนั้น จึงบริสุทธิ์และสว่าง = ความว่างของจิตแต่ละดวง จึงบริสุทธิ์และสว่าง = อายตนะนิพพาน(ธรรมกาย)
   รวมเข้ากับความว่าง บริสุทธิ์ สว่าง ของจักรวาลเดิม เข้าเป็นหนึ่งเรียกว่า นิพพาน     = อาทิพุทธ หรือพระพุทธเจ้าทุกพระองค์รวมกัน = ธรรมกายในความหมายของมหายาน
   
   หลวงปู่ดูลย์ อตโล  "นิพพานเป็นของว่าง ไม่มีตัวมีตน หาที่ตั้งไม่มี  หาที่เปรียบไม่ได้"
   
เข้าใจหรือยังครับ  นิพพานมันมี 2 ระดับ  ระดับมีบ้านมีเมืองสำหรับบุคคลศูนยตา  และระดับเป็นความว่างเฉยๆ ที่แสงสุกสกาวบริสุทธิ์อยู่ (ธรรมศูนยตา) หรือพุทธภาวะเริ่มต้น

ถ้ายังไม่เชื่ออีกลองอ่านเรื่อง วิมาน37สาย สายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ  ในhttp://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=15404.0  แล้วคุณจะพบเมืองพระนิพพานที่พระพุทธเจ้าอยู่  ผมคัดมานิดนึงให้ดู
   
" นี่เวลาถามว่า คณะสายของข้าพระพุทธเจ้ามันนี่มีกี่สายนี่ ข้างหลังบ้านออกไปนี่ ท่านบอกว่ามี 37 สาย............"
   
" เป็นอันว่า 37 สายนี่ วิมานเต็มไปหมด ไม่มีพร่อง สายหนึ่งประมาณสองแสนโยชน์ ว่าจะย่องดูมานิดหนึ่ง คือว่าเรื่องของเรื่องมันก็มีเด็กเขาสงสัยว่า สายมันมีกี่สาย หัวหน้าทีมสร้างบ้านใหญ่อยู่ด้านหน้า ต่อมาก็มีถนนซอยเข้าไป ที่ทางด้านของพระนิพพานนี่เขาอยู่กันเป็นกลุ่มของ พระพุทธกัสสป อย่างพระพระอะไร กกุสันโธ ท่านอยู่กลุ่มหนึ่ง คือกลุ่มจัดเป็นสายข้างหลังพระโกนาคมโน ท่านก็อยู่กลุ่มหนึ่ง วิมานของพระพุทธเจ้าตั้งข้างหน้า บริวารก็เป็น สายอยู่ข้างหลัง พระพุทธกัสสป ท่านก็ตั้งจุดหนึ่งของ สมเด็จพระมหาสมณโคดม ก็ตั้งจุดหนึ่ง"


สรุป

จิตเฮงซวยไม่บริสุทธิ์อย่างพวกเรา ที่เรียกว่า "จิตสังขาร"  มันยังมีอายตนะภายใน(ขันธ์ 5) และอายตนะภายนอก(บ้านเมือง)รองรับ  แล้วจิตบริสุทธิ์ที่สุด ทำไมมันจะมีอายตนะ(ภายใน)นิพพาน(ธรรมกาย หรือธรรมขันธ์) และอายตนะภายนอกนิพพาน(บ้านเมือง)รองรับไม่ได้ล่ะ  = อายตนะนิพพาน อยู่ในเมืองพระนิพพาน

แต่ถ้าคุณจะเลือกอยู่ในพุทธภาวะเริ่มต้นที่เป็นแสงสุกใสก็ย่อมทำได้(ธรรมกายมหายาน หรือ นิพพานเถรวาท)  เลือกกันเอาเอง

อ้อ! สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เรียกสัมโภคกายของพระพุทธเจ้าว่า "พุทธบารมี"

"พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ไม่ได้หายไปไหน พระพุทธบารมียังปกปักรักษาโลก
อยู่ คนในโลกยังรับพระพุทธบารมีได้ มิได้แตกต่างไปจากเมื่อยังทรงดำรงพระชนม์อยู่ เพียงแต่ว่าจำเป็น
ต้องเปิดใจออกรับ (พุทธบารมี)
มิฉะนั้นก็จะรับไม่ได้

....พระอาจารย์สำคัญองค์หนึ่ง(หลวงปู่สายพระปาของหลวงปู่มั่นมั๊ง) ท่านเล่า
ไว้ว่า เมื่อท่านปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นอยู่ในป่าดงพงพีนั้น พระพุทธเจ้าได้เสด็จไปทรงสอน
ท่านด้วยพระพุทธบารมีเสมอ
และท่านพระอาจารย์องค์นั้น ต่อมาก็เป็นที่ศรัทธาเคารพของ
พุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ที่เชื่อมั่นว่าท่านปฏิบัติถึงจุดหมายปลายทางแล้ว"

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 20 กันยายน 2553 21:33:11 »

อ้างจาก: ผู้เล็งเห็นทุกข์ ที่ กันยายน 17, 2010, 04:05:00 pm
ดับ นามธรรม และรูปธรรม

เหลือ จิต เนอะ


ใช่แล้วครับ  แต่ต้องแยกให้ชัด

แต่ดับนามรูป = ดับจิตสังขารที่ไม่บริสุทธิ์+ดับอายตนะ(ขันธ์ 5)ที่เป็นอนัตตา ไม่เที่ยง และทุกข์

แต่เหลือจิต = จิตบริสุทธิ์มีอายตนรองรับเช่นกัน  พระพุทธเจ้าเรียกว่า อายตนะนิพพาน ชาวพุทธเถรวาทเรียกว่า "ธรรมกาย" ชาวพุทธมหายานเรียกว่า "สัมโภคกาย" สิ่งนี้เป็น "อัตตา"

- อายตนะมี 2 อย่างคือ เช่น อายตนะของโลก อายตนะภายใน(ขันธ์ 5) ภายนอกเมืองต่างๆ รวมกันเรียกว่า โลก

- อายตนะนิพพานก็มมี 2 เช่นกัน  อายตนะนิพพาน ภายใน(ธรรมขันธ์ หรือ ธรรมกาย) อายตนะนิพพาน ภายนอกคือ เมืองพระนิพพานหรือพุทธเกษตร

การเข้านิพพาน เป็นอีกกีตัว คือ การที่จิดบริสุทธิ์ที่สว่างแต่ละดวง เข้าไปรวมกับ จิตบริสุทธิ แอละสว่างต้นกำเนิด ที่เป็นพุทธภาวะเบื้องต้น
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.307 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 10 เมษายน 2567 15:01:35