[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
16 เมษายน 2567 15:11:40 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ชีวิตคือการเรียนรู้  (อ่าน 2395 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 20 มกราคม 2553 12:43:40 »

http://www.wantup.com/view-905_PF1T2001_1.jpg
ชีวิตคือการเรียนรู้

dictionaryDomain


AT TEN ตีสิบ คนจนผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ท้อชีวิต เก็บขยะหาเงินฝากแบ๊งค์วันละ 20 บาท 16 ปี ตอน 1





(:7:)ชีวิตคือการเรียนรู้ เครียด


(:LOVE:)คอลัมน์ องค์กรแห่งการเรียนรู้และการจัดการความรู้ รัก


โดย ดร.มงคลชัย วิริยะพินิจ


(:4:)หลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาข้าวยากหมากแพง หรืออะไรต่าง ๆ มากมาย ทำให้คนทั้งหลาย ที่ผมมองว่ามิใช่แต่เฉพาะคนไทย แต่หมายถึงคนอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ในโลกใบนี้นั้น มีปริมาณความสุขทางใจน้อยลงทุกทีเมื่อนึกแล้วผมก็อดอิจฉาคนรุ่นเก่าไม่ได้ ที่ว่า พวกเขาทั้งหลายสามารถหาความสุขทางใจได้ง่ายเสียเหลือเกิน ต่างจากในยุคสังคมปัจจุบันอันเป็นสังคมทุนนิยม ซึ่งเงินกลายเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเงินเป็นสิ่งที่คนใช้ซื้อหาความสุข แต่อาจจะเป็นความสุขทางกายมากกว่าที่จะเป็นความสุขทางใจ (:LOVE:)คนไทยเราเองโชคดีที่มีหลักคำสั่งสอน ทางพระพุทธศาสนาให้เป็นหลักยึดเหนี่ยวทางจิตใจที่ช่วยสามารถปลดปล่อยความ ทุกข์ในใจได้ นอกจากคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนาแล้ว (:RL:)ในวันนี้ผมอยากจะแนะนำเพิ่มเติมว่าหลักการที่เกี่ยวกับเรื่องขององค์กรแห่ง การเรียนรู้ (Learning organization หรือ LO) ที่ผมพยายาม ถ่ายทอดไปยังท่านผู้อ่านทั้งหลายผ่านทางคอลัมน์นี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถ ถูกนำมาประยุกต์ใช้เพื่อลดปริมาณความทุกข์ในใจของท่านผู้อ่านได้เช่นกันเมื่อลองพิจารณาถึงคำสั่งสอนหลัก ๆ ทางพระพุทธศาสนา ท่านผู้อ่านคงทราบดีว่าเหล่าพุทธศาสนิกชนทั้งหลายควรที่จะใช้..สติ..ในการดำรงชีวิต เพราะการไม่ใช้สติในการดำรงชีวิตจะนำพาไปสู่การตัดสินใจ หรือการกระทำสิ่งต่าง ๆ โดยปราศจากความรอบคอบและความมีเหตุมีผล (:DY:)และในที่สุดก็จะนำมาซึ่งผลเชิงลบซึ่งจะก่อตัวให้เกิดเป็นความทุกข์ในใจ และภายใต้การใช้ชีวิตอย่างมีสติ พุทธศาสนิกชนก็ควรจะรู้จักการปล่อยวางและไม่ยึดติด ถ้าท่านหัดที่จะปล่อยวางและไม่ยึดติดกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวท่านมากจนเกินไป ปริมาณความทุกข์ในใจของท่านก็จะน้อยลง............................ อกหัก

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มกราคม 2553 13:18:46 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 20 มกราคม 2553 12:45:00 »

http://www.wantup.com/view-905_PF1T2001_1.jpg
ชีวิตคือการเรียนรู้

dictionaryDomain



(:LOVE:)และด้วยหลักทางพระพุทธศาสนาที่เกี่ยวกับการปล่อยวางและไม่ยึดติดนี่เอง (:PL:)ที่เป็นเหตุให้ผมเห็นความเชื่อมโยงกับหลักการในเรื่องขององค์กรแห่งการเรียนรู้ ซึ่งในที่นี่คือการเน้นที่จะสร้างความรู้สึกใฝ่รู้ให้กับคนในองค์กรท่านผู้อ่านคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า คนเราถ้าไม่รู้จักการปล่อยวางหรือมักจะยึดติดกับอะไรหลาย ๆ อย่างรอบตัวนั้นจะทำให้เกิดความทุกข์ความกังวลใจ ซึ่งโดยทั่วไปมักจะเป็นความทุกข์เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต หรือไม่ก็จะเป็นความกังวลใจกับ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต(ซึ่งในความเป็นจริงก็อาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้) คนที่ฟังเทศน์ฟังธรรมหรืออ่านหนังสือธรรมะบ่อย ๆ อาจจะปลอบใจคนที่กำลังทุกข์กำลังกังวลใจว่า ปล่อยวางซะเถิด อย่ายึดติดกับอะไรจนมากเกินไปเพราะจะนำมาซึ่งความทุกข์ใจเปล่า ๆ ซึ่งบางคนฟังแล้วอาจจะเข้าใจแล้วปฏิบัติตามได้ทันที แต่บางคนอาจจะยังฉงนสงสัยว่าจะทำยังไงที่จะปล่อยวางหรือจะทำอย่างไรเพื่อที่ จะไม่ยึดติด ในเมื่อ ตอนนี้กำลังครุ่นคิดกังวลใจทุกข์ใจอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งเหลือเกิน ไม่สามารถลืมไปได้ง่าย ๆ และด้วยเหตุนี้เองผมเองจึงอยากจะลองแนะนำอีกหนึ่งประโยคให้ท่านผู้อ่านลองคิดขึ้นใจเพื่อช่วยให้ง่ายขึ้นในการปล่อยวางหรือการไม่ยึดติดกับสิ่งที่เกิดขึ้น  (:SL:)นั้นก็คือให้ลองคิดว่า อย่างน้อยก็เป็นบทเรียนเพราะจริง ๆ แล้วท่านสามารถมองได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตนั้นถือได้ว่าเป็นบทเรียนบางท่านอาจจะกลุ้มอก กลุ้มใจเรื่องงานมากเพราะมีแต่ปัญหาให้แก้ไม่จบไม่สิ้น (:NOY:)เก็บนำมาคิดจนบางท่านนอนไม่หลับ แต่ถ้าท่านลองมองโลกในแง่ที่ดีขึ้น โดยกล่าวคือในเมื่อมีปัญหาให้แก้ก็แก้ไป (:RL:)เพราะการแก้ไขปัญหาถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่าการที่ทำงานแล้วไม่เจอปัญหาย่อมไม่พัฒนาความสามารถในการคิดและในการทำงานของท่านเพราะฉะนั้นให้ลองคิดว่า อย่างน้อยปัญหาที่เกิดขึ้นก็เป็นบทเรียน และเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าบทเรียนที่ท่านได้เรียนรู้จากการแก้ปัญหาจะกลาย เป็นความรู้ที่สามารถนำไปประยุกต์กับสถานการณ์ที่เป็นปัญหาอื่น ๆ ได้ในอนาคตบ้างไม่มากก็น้อยบางทีท่านอาจต้องนึกเปรียบเทียบกับคนที่ทำงานแล้วไม่มีปัญหา ต้องคิดว่าชีวิตของพวกเขาจะขาดความท้าทายแค่ไหน ? เมื่อถึงคราวเจอปัญหาจริงๆ ก็อาจจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เพราะไม่มีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา และคนแต่ละคนก็มีปัญหา ไม่เหมือนกัน บางคนคิดว่าตนเองอับโชคหรือโชคไม่ดีที่เจอปัญหาหนักกว่าคนอื่นจริง ๆ แล้วก็ให้มองได้ว่า ปัญหายิ่งหนักยิ่งต้องใช้ความรู้ (:88:)ความสามารถในการแก้ไข สิ่งนี้ยิ่งเป็นบทเรียนที่มีค่า เพราะถ้าเราสามารถแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปได้ท่านยิ่งได้เรียนรู้มากมายเกี่ยว กับงานที่ท่านทำอยู่เพราะฉะนั้นกล่าวโดยสรุปคือ ให้มองปัญหาเป็นบทเรียนให้มองว่านี่คือโอกาสในการเรียนรู้ คนอื่นอาจจะไม่เจอปัญหาอย่างท่าน ท่านเจอปัญหาท่าน..................................... ตาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มกราคม 2553 13:21:22 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 20 มกราคม 2553 12:46:53 »

http://www.wantup.com/view-905_PF1T2001_1.jpg
ชีวิตคือการเรียนรู้

dictionaryDomain



(:SLE:)แก้ไขปัญหาได้อย่างน้อยได้เสริมสร้างภูมิต้านทานทางด้านความรู้ในตัวท่านและเสริมสร้าง (:QS:)ความสามารถในการทำงานของท่าน ในขณะที่คนอื่นอาจจะไม่ได้มีโอกาสได้เรียนรู้จากประสบการณ์มากเท่าท่านถ้าลองคิดอย่างนี้ความรู้สึกทุกข์ใจในปัญหาอาจจะมีปริมาณที่น้อยลง และอาจจะรู้สึกสนุกกับการทำงานมากขึ้นหลาย ๆ ท่านอาจจะพอทราบว่าปัญหาทุกประเภทอาจจะแก้ไขกันได้ถ้าท่านพยายามที่จะแก้ไข แต่มีปัญหาอยู่ประเภทหนึ่งที่หลาย ๆ ท่านอาจจะยอมแพ้เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขหรือควบคุมได้เลย นั่นก็คือปัญหาเรื่องคนและคนด้วยกันนี่เองที่มักจะนำพาซึ่งความทุกข์ใจมาให้กัน ไม่ว่าจะเป็นคนรัก คนใกล้ตัว เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หรือเจ้านาย แต่ถ้าลองพิจารณาให้ดี หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาที่ว่าไว้เรื่องปล่อยวางและไม่ยึดติดนั้นถูกที เดียว เพราะต้องยอมรับกันจริง ๆ ว่าจิตใจของคนเรานั้นเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยาก ขนาดตัวเราเองบางทียังไม่สามารถควบคุมใจเราได้ตลอดเวลา ไฉนเลยเราจะสามารถควบคุมจิตใจของผู้อื่นได้ เพราะถ้าท่านคิดอยากให้คนนี้ต้องเป็นอย่างนั้นคนนั้นต้องเป็นอย่างนี้ (:???:)แล้วไม่เป็นตามที่ท่านต้องการก็มักจะก่อให้เกิดเป็นทุกข์ ฉะนั้นท่านต้องหัดปล่อยวางและ ไม่ยึดติดไปกับพฤติกรรม ความเชื่อ หรือทัศนคติของคนอื่น ๆเรื่องนี้สามารถมองได้ว่าคนเรานั้น มีหลายประเภท จะให้คิดเหมือนกันนั้นก็ยาก เป็นความโชคดีของท่านที่ได้เจอคนหลาย ๆ ประเภทได้เรียนรู้ว่าในสังคมของเรานี้ประกอบไปด้วยคนหลาย ๆ ประเภท และเป็นประเภทไหนบ้าง เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่ท่านได้เจอคนหลายประเภท ท่านจะได้เรียนรู้ว่าคนแต่ละประเภทนั้นมีความคิดความอ่านที่ต่างกันอย่างไร มีพฤติกรรมหรือทัศนคติที่ต่างกันอย่างไร และสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมากในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อยากจะก้าวไป เป็นเป็นผู้บริหาร ที่ประสบความสำเร็จ ท่านควรจะต้องมีความสามารถในการที่จะเข้ากับคนอื่นๆ หรือทำงานร่วมกับคนอื่น ๆ เมื่อกล่าวถึงคนอื่น ๆ ในที่นี้หมายถึงคนหลากประเภท ผมสังเกตดูว่าหลาย ๆ ท่านกลายเป็นผู้บริหารทประสบความสำเร็จได้ในวันนี้ มิใช่เพราะว่าเก่งแต่เฉพาะเรื่องงานอย่างเดียว แต่เป็นคนที่สามารถร่วมทำงานได้กับทุก ๆ คนเพราะฉะนั้นถ้าท่านเป็นเจ้านายที่เจอลูกน้องที่มี (:RL:)พฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ต้องการหรือมีความคิดไม่ลงรอยกัน ก็ขอให้อย่านำมาเก็บเป็นความทุกข์แต่ให้คิดว่านี่คือโอกาสในการที่จะเรียนรู้ในเรื่องของคน หลังจากนั้นก็เรียนรู้ที่จะค่อย ๆ ปรับตัวเข้าหากันไป ต้องคิดว่าคนแต่ละคนมีความคิดและทัศนคติที่ต่างกัน และให้ถือว่านี่เป็น บทเรียนของท่านในการที่ท่านกำลังศึกษาความคิดความอ่านของคนแต่ละคน ที่ไม่เหมือนกัน และพยายามปรับความ รู้สึกเข้าหากันเพื่อจะได้ร่วมงานกันได้ ผมคิดว่านี่เป็นบทเรียนที่ดีและเป็น...................... อ๊ากก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มกราคม 2553 13:23:24 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 20 มกราคม 2553 12:47:56 »

http://www.wantup.com/view-905_PF1T2001_1.jpg
ชีวิตคือการเรียนรู้

dictionaryDomain



ประโยชน์ต่อการบริหารงานอย่างมาก (:-_-:)และเมื่อคิดได้อย่างนี้ความทุกข์ในใจของท่านที่เกี่ยวกับคนก็จะมีปริมาณที่ น้อยลงนอกจากความทุกข์ใจจากปัญหาที่เกิด ขึ้นแล้ว บางท่านอาจจะทุกข์ใจกับความเปลี่ยนแปลงหรือความระแวงว่าสิ่งร้ายจะเกิดขึ้น (:QS:)กับท่านในอนาคตเช่นบางท่าน กลัวการเปลี่ยนแปลงในหน้าที่การงาน กลัวว่าจะทำได้ไม่ดีเท่างานที่ทำอยู่ เพราะไม่ชำนาญในเนื้องานของหน้าที่ใหม่ เพราะฉะนั้นแทนที่จะกลัวจะกลุ้มใจในการเปลี่ยนแปลง กลัวว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น (:NOY:)ไม่เป็นอย่างนี้ ก็ให้ขอให้ลองคิดว่าการเปลี่ยนแปลงก็เป็นบทเรียนบทหนึ่ง  (:UU:)หลาย ๆ ท่านอาจได้ยินคำพูดที่ว่า ไม่ลองก็ไม่รู้ การเปลี่ยนแปลงก็เปรียบเสมือนกับ การที่ท่านได้ลองสิ่งใหม่ๆ ถึงแม้ว่าอาจจะเป็นสิ่งที่ท่านไม่อยากทำ ก็ถือได้ว่าเป็นโอกาสที่ท่านจะได้เรียนรู้ คนเราจะประสบความสำเร็จได้ผมเชื่อว่าต้องมาจากการที่เราต้องผ่านประสบการณ์ ในการทำงานในทั้งสิ่งที่อยากทำและไม่อยากทำเพราะการประสบความสำเร็จมักจะประกอบมาจากหลาย ๆ ปัจจัย ถ้าท่านได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ท่านก็จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอย่างไร ซึ่งก็จะกลายเป็นบทเรียนที่สามารถนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ในอนาคตของท่าน ไม่มากก็น้อย ผิดกับการที่ท่านอยู่กับที่ ไม่เปลี่ยนแปลง โอกาสในการเรียนรู้ก็จะมีน้อย (:SLE:)ส่งผลให้ความรู้ความสามารถของท่านไม่เพียงพอที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานผมขอกล่าวสรุป ณ. ที่นี้ว่า ปริมาณความทุกข์ในใจของท่านทั้งหลายที่เกิดจากการที่ท่านต้องประสบปัญหาหรือความเปลี่ยนแปลงในชีวิตนั้น สามารถถูกทำให้ลดลงได้ถ้าท่านมองโลกในแง่ที่ดีขึ้นโดยการที่พยายามทำตนให้ เป็นผู้ที่ใฝ่รู้ตามหลักการขององค์กรแห่งการเรียนรู้ และการเป็น ผู้ใฝ่รู้นี้เอง ท่านจะมองเห็นว่าปัญหาหรือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับท่านนั้นเป็นบทเรียนหรือให้คิดว่า อย่างน้อยทุกๆ สิ่ง ทุก ๆ อย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตนั้น เป็นบทเรียนอันมีค่าสรุปสุดท้ายจริง ๆ ต้องขอกล่าวว่าชีวิตคือการเรียนรู้ Wednesday, January 20, 2010 ตาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มกราคม 2553 13:25:20 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.438 วินาที กับ 29 คำสั่ง

Google visited last this page 23 สิงหาคม 2566 23:41:27