พระพุทธเจ้าตรัสเรื่อง"กรรมทั้งสามทวาร"
กรรมอันไหนที่ให้ผลร้ายแรงกว่ากันพระพุทธเจ้าตรัสเรื่อง กรรมทั้งสามทวาร กรรมอันไหน ที่ให้ผล ร้ายแรง กว่ากัน
พระพุทธเจ้าตรัสเรื่อง"กรรมทั้งสามทวาร"กรรมอันไหนที่ให้ผลร้ายแรงกว่ากัน
"การเข้าสู่ธรรมชาติของมนุษย์นั้น ต้องยืมสายพระเนตรของพระพุทธเจ้า
มีพระสูตรพูดถึงฐานะและอฐานะ ความเป็นไปได้และความเป็นไปไม่ได้
ในหมวดธรรมที่ว่าด้วยความเป็นไปได้นั้น ท่านอธิบายว่า มนุษย์ปุถุชน
ทุกคนเป็นไปได้ที่จะปลงชีวิตพ่อแม่หรือพระพุทธเจ้าหรือพระ อรหันต์ได้
คือคนธรรมดาทุกคน โอกาสที่จะทำอย่างนั้นมี แต่สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้สำหรับ
พระโสดาบันผู้บรรลุกระแสธรรมแล้ว
ข้อนี้ผมเข้าใจว่าจะนำไปสู่ความเข้าใจและเห็นใจบุคคลที่เรามักจะมอง
หรือตัดสินเขาเป็นฆาตกรโดยกำเนิดหรือมีสันดานเป็นฆาตกร
คนธรรมดาทั่วไปที่เรียกว่ากัลยาณชนหรือคนดีนั้น โอกาสที่ฆ่าพ่อแม่ก็มี
ถ้ามีความบีบคั้นหรือลืมสติอย่างรุนแรง
แม้พระโพธิสัตว์ในเรื่องชาดก เมื่อแม่ขัดขวางการปฏิบัติธรรมถึงกับ
ทำร้ายร่างการแม่"
"คนร้ายหรือฆาตกรน่าจะไดัรับการดูแลเพื่อปรับกระบวนทัศน์ด้วยวิธีหนึ่งวิธีใด
มีสิ่งที่ผมเห็นว่าสำคัญมากก็คือการเคารพชีวิต ไม่ได้หมายถึงการเคารพชีวิต
ของคนดี คนที่ปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น"
"ดูตัวอย่างจากพระไตรปิฎกบ้าง เรื่องของการลงทัณฑ์ คราวหนึ่งมีการถกประเด็น
ในเรื่องของทัณฑะสาม คือการลงทัณฑ์ในสามทวาร กายทัณฑะ วจีทัณฑะ มโนทัณฑะ
ถกกันว่าอันไหนมีผลร้ายแรงกว่ากัน ระหว่างกายกรรม มโนกรรม และวจีกรรม
คือเรื่องหลักกรรมในพุทธศาสนานั่นเอง ศาสดาฝ่ายลัทธิหนึ่ง ก็บอกว่ากายทัณฑะแรงกว่า
อย่างเราคิดจะฆ่าเขา เป็นมโนกรรม แต่เราก็ไม่ได้ฆ่าเขาสักหน่อย
เราด่าเขาเป็นวจีกรรม ก็ยังน้อยกว่าตี ดังนั้นการทัณฑะคือการลงทัณฑ์
ทางกายซึ่งแรงกว่า ดังนั้นโทษย่อมแรงตาม ก็ดูจะเข้ากับสามัญสำนึกของคนส่วนใหญ่
แต่พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้คิดอย่างนั้น พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า มโนกรรมแรงกว่า
การคิดร้ายส่งผลรุนแรงต่อชีวิตมากกว่า ฟังดูอาจไม่ค่อยเข้าเหตุเข้าผลสักเท่าไร
เพราะน้ำหนักดูน้อยมาก จนกระทั่งพระพุทธเจ้าท่านต้องยกอุปมา อุปมัยว่า
สมมุติมีชายคนหนึ่งเป็นนักโทษฆ่าคน เจ้าหน้าที่บ้านเมืองตามจับไปลงโทษ
แต่นักโทษคนนั้นไปล้มตายเอง พระพุทธเจ้าทรงถามว่า แล้วเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
ต้องตามจับร่างกายของเขาที่ตายแล้วไปขังหรือปล่าว ถ้ายืนยันว่ากายทัณฑะ
สำคัญกว่าก็ต้องจับไปขังอีก แต่ในความเป็นจริงคือเราไม่ขังคนที่ตายแล้วอีก
ท่านก็สรุปว่า ในบรรดากรรมทั้งสามทวารนั้น มโนกรรมแรงกว่า หากปราศจาก
การดำริร้ายแล้ว การทำร้ายจะไม่มี การด่าว่าจะไม่มี การฆ่ากันทำร้ายกันจะไม่มี
ทุกอย่างมันเริ่มที่จิตก่อน"