[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 เมษายน 2567 03:14:18 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พลังจิต-สัมผัสพิเศษเหนือมนุษย์ ของ ๔ บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์โลก  (อ่าน 7862 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5462


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2556 18:55:53 »

.

ผู้เจริญสมาธิแก่กล้าจะได้ญาณ (absorpiton) และได้สัมผัสพิเศษ (ESP-Extra Sensory Perception) จะต้องผ่านการเจริญสติ สมาธิ มาอย่างสม่ำเสมอยาวนานด้วยความวิริยะอุตสาหะอย่างยิ่ง  แต่มีบางคนในประวัติศาสตร์ สามารถมีอำนาจพิเศษเหล่านั้นได้โดยง่าย ราวกับฟ้าประทาน...ขอยกตัวอย่าง ๕ บุคคล สี่บุคคลแรกเป็นที่รู้จักระดับโลก จะยกเว้นไว้คนหนึ่ง คนหลังสุดเท่านั้น
สี่คนแรกคือ
     - ยูริ เกลเลอร์
     - เกรกกอรี รัสปูติน
     - นอสตราดามุส
     - ยีน ดิกสัน และ
     - ฉิ่ง แรงเพชร


 เริ่มต้นที่ ยูริ เกลเลอร์ ก่อน  เขาเป็นชาวยิว เกิดที่เทลอาวีฟ  อิสราเอล เมื่อปี ๑๙๔๖ ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ อาชีพเป็นวิศวกรไฟฟ้า  พำนักอยู่ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ  ยูริเริ่มรู้ตัวว่ามีสัมผัสพิเศษเมื่ออายุ ๔-๕  ขณะนั่งคอยแม่กลับมาตามนัด เขาจ้องมองดูเข็มนาฬิกาข้อมือ และนาฬิกาที่ฝาผนัง ปรากฏว่าเข็มนาฬิกาทั้งสองที่ บิดงอไปด้วยอำนาจจากดวงตาของเขา  

เมื่อทดลองทำกับสิ่งของอื่นๆ ที่เป็นโลหะ เช่น มีด ส้อม และช้อน ก็ได้ผลแบบเดียวกัน  เป็นดวงตาที่มีพลัง มีอำนาจจิตเหนือวัตถุ (mind over matters) จนเป็นที่ร่ำลือกันทั่วไป ได้ออกโชว์ในทีวีครั้งแล้วครั้งเล่า แต่มีคนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าเล่นกล หรือปาหี่  แท้จริงแล้วเขาได้อำนาจนั้นจากฟ้าประทาน  ในที่สุดก็ถูกเชิญไปทดสอบในอเมริกาและกลับมาพิสูจน์ซ้ำในยุโรป ก่อนจะได้ข้อสรุปว่า เป็นของจริง

อำนาจจิตเหนือดวงตาคมคู่นั้น คืออำนาจแห่งพลังอิเลกโตรแม็กเนติ-พลังแม่เหล็กไฟฟ้า

ยูริ เกลเลอร์ ได้ของรางวัลและของกำนัลมากมาย ล้วนเป็นโลหะ คือมีด ช้อนและส้อมเป็นพื้น จึงนำมันมาโค้งงอด้วยพลังจิต ติดไว้ภายนอกรอบตัวรถคาดิลแล็ก คันงามของเขา ให้ความรู้สึกดีๆ ไปอีกแบบ นอกจากจะมีพลังจิตเหนือวัตถุ (บางทีเรียกว่า Psychokinesis) แล้วเขายังมีสัมผัสพิเศษประเภทตาทิพย์-ทิพย์จักษุ (clairvoyance) อีกด้วย และครั้งหนึ่งนักดาราศาสตร์ประกาศว่า จะมีก้อนอุกาบาตรหลุดวงโคจรมาชนโลก ยูริ เกลเลอร์ ก็เคยอาสาจะใช้พลังจิตของเขาหันเหวงโคจรอุกกาบาตให้เปลี่ยนไปด้วยพลังจิตเหนือวัตถุ



 คราวนี้มาที่ เกรกกอรี่ รัสปูติน (Gregory Rusputin) นักบวชจอมมายาจากไซบีเรีย มีความหมายว่า “คนเซ็กซ์จัด” หรือ “คนบ้ากาม”

รัสปูติน มีพลังจิตจากดวงตาเข้มข้นพอๆ กับ ยูริ เกลเลอร์ นัยว่าได้มาจากฟ้าประทาน เขาชอบว่าพระแม่มารี ประทานให้ แต่รัสปูติน นำมาใช้เพื่อประโยชน์ตนเองมากเกินไปและโดยผิดศีลธรรม เมื่อยังเด็กเขามีความสามารถนัยน์ตาทิพย์ เขาสามารถบอกได้ว่าใครขโมยม้าของพ่อ ซึ่งก็คือคนสนิทของพ่อนั่นเอง พ่อเป็นหัวขโมยขี้เมาค้าขายม้า แต่แรกพ่อไม่เชื่อ ต่อมาก็ยอมรับว่าจริง  รัสปูติน ต้องจากบ้านที่ไซบีเรีย ไปอยู่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ด้วยไปทำชู้กับภรรยานายพลคนหนึ่งในกองทหารที่บ้านเกิด  ด้วยความสามารถในอีเอสพี ประเภทจิตเหนือวัตถุ เขาได้ช่วยพระสหายหญิงของซารีนา (พระนางอเล็กซานดรามหาราชินี) คนหนึ่งจากอุบัติเหตุทางรถไฟ เธอผู้นั้นกระดูกหัก อาการสาหัส อำนาจจิตเหนือวัตถุของรัสปูติน ทำให้เธอคืนกลับเป็นปกติได้อย่างอัศจรรย์  

รัสปูติน ถูกพาเข้าวังพระเจ้าซาร์นิโคลัส เพื่อรักษาโรคโลหิตไหลไม่หยุด (เฮโมฟีเลีย) ของราชกุมารซาร์เรวิช ซึ่งการแพทย์สมัยนั้นรักษาไม่ได้  อำนาจจิตเหนือวัตถุของรัสปูตินทำให้โลหิตหยุดไหล โรคร้ายทุเลา และทุกครั้งที่โรคนั้นกำเริบขึ้น รัสปูตินจะช่วยได้ทุกครั้งไป  พระเจ้าซาร์และซารีนาโปรดเขามาก แต่ด้วยความเป็นนักบุญใจบาป เขาถูกลวงไปฆ่าตาย โดยหลงติดบ่วงกามตัณหาของตนเอง  รัสปูตินเป็นอีกผู้หนึ่งที่มีอำนาจอีเอสพี ชนิดทิพย์จักษุ มองเห็นได้ว่าใครขโมยม้าของพ่อ  ส่วนอำนาจอีเอสพีแบบจิตเหนือวัตถุ เยียวยาประสานกระดูกให้พระสหายหญิงและรักษาโรคเฮโมฟีเลียให้ซาร์เรวิช องค์รัชทายาท เขาไม่มีประวัติชัดแจ้งว่าเคยฝึกฝนเรื่องการเจริญสมาธิมาจากผู้ใดและจากที่ไหน เขาน่าจะได้อำนาจจิตนี้มาจากฟ้าประทาน



  นอสตราดามุส (Nostradamus) เป็นแพทย์ชาวฝรั่งเศส เกิดเมื่อ ค.ศ. ๑๕๐๓ ที่โปรวังช์ เดิมชื่อว่า มิเชล เดอร์ นอสเตรอดาม เมื่อเข้าเรียนมหาวิทยาลัยจึงเปลี่ยนชื่อเป็นภาษาละติน นอสตราดามุส

นอสตราดามุส มีอีเอสพี ประเภทรู้กาลข้างหน้า (precognition) ล่วงหน้าไกลออกไปเป็นสิบเป็นร้อยปี กับเขียนคำทำนายไว้เป็นปริศนา (แบบเพลงยาวกรุงศรีอยุธยา) คือต้องตีความคำและข้อความเพื่อไขปริศนา  ดังกรณีคำทำนายการเกิดมาของฮิตเลอร์ คำทำนายเขียนว่า “ในเชิงเขาของออสเตรีย ใกล้กับแม่น้ำไรน์ คู่สมรสสามัญคู่หนึ่งจะให้กำเนิดบุตร เป็นบุตรชายผู้ประกาศต่อต้านการรุกรานโปแลนด์และฮังการี และโชคชะตาของเขาไม่แน่นอน”

เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๔ อาคารแฝด เวิลด์เทรด เซนเตอร์ ของมหานครนิวยอร์ก ถูกถล่มจากผู้ก่อการร้ายที่ใครๆ ก็นึกไม่ถึงว่าจะเป็นไปได้ เชื่อกันว่าการทำลายล้าง อันเหลือเชื่อนั้น นอสตราดามุสได้เห็นอยู่ก่อนแล้ว และเชื่อว่าอำนาจการทำนายข้ามศตวรรษของเขาน่าจะเป็นฟ้าประทานแน่เลย



  ยีน ดิกสัน (Jeane Dixon) เป็นโหรหรือเซีย สตรีระดับโลกอีกคนหนึ่ง ซึ่งมีอีเอสพี ประเภทรู้การณ์ข้างหน้า หรือ พรีคอกนิชั่นสูงมาก ราวกับฟ้าประทาน อำนาจการทำนายนี้ทำให้เธอทำนายไว้ก่อนเลยว่า ทั้งจอห์นและโรเบิร์ต พี่น้องตระกูลเคนเนดี้  จะถูกลอบสังหารจนเสียชีวิตทั้งคู่ ดูช่างน่าหวาดหวั่นในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น  และเธอก็แสนกล้าหาญมากที่ทำนายทายทักไว้ก่อนเช่นนั้น

ยิน ดิกสัน ทำนายว่า จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ จะได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรคส่งเข้าชิงประธานาธิบดีเมื่อปี ค.ศ. ๑๙๕๒ ขณะนั้น จอห์น ยังเป็นวุฒิสมาชิกอยู่เลย ปี ๑๙๖๐ จะได้เป็นประธานาธิบดี เข้าทำเนียบขาวก่อนจะถูกลอบสังหารในอีก ๒ ปีถัดมา และก็เป็นจริง!

ดาราสาวสวย แคโรล ลอมบาร์ด ก็อีกคนหนึ่ง ยีนทำนายว่าเธอจะตายจากอุบัติเหตุการเดินทางโดยเครื่องบิน จึงภายในหกเดือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางประเภทนั้นไว้ก่อน แต่ลอมบาร์ดจำเป็นต้องเดินทางหลังจากที่พบกับยีน ดิกสัน เพียงสามวันเท่านั้น  เที่ยวบินโดยสารที่ลอมบาร์ดเดินทางไป ประสบอุบัติเหตุ ลูกเรือ ผู้โดยสารและกัปตันเสียชีวิตหมดรวมทั้งดาราสาวสวยด้วย

ยีน ดิกสัน เสียชีวิตเมื่อเดือนมกราคม ๑๙๙๗  อายุ ๗๙ ปี


ส่วนกรณีของ ฉิ่ง แรงเพชร คล้ายได้อีเอสพีในระดับ มโนมยิทธิ (will power) หรือ อิทธิวิธี (magical power) แสดงฤทธิ์แบบถอดร่างได้ ร่างหนึ่งเป็นร่างธรรมดา ส่วนอีกร่างหนึ่งเป็นร่างทิพย์ (astral body) เขาเองไม่รู้ตัวมาก่อนว่ามีอำนาจจิตหรือฤทธิ์เช่นนี้ จึงสรุปเบื้องต้นว่าฟ้าประทานให้

เรื่องมีอยู่ว่า ฉิ่ง แรงเพชร เป็นอดีตชาววัดบวรนิเวศวิหาร เขาเล่าว่าครั้งบวชอยู่วัดนั้นประจำอยู่คณะสูง คืนวันหนึ่งไปฟังผู้รู้เขาคุยกัน เรื่องการเจริญสมาธิ  เมื่อกลับมากุฏิ ปิดประตูลงกลอนและเข้านอน โดยนอนบนเตียง ก่อนจะหลับก็เจริญอานาปานสติ กำหนดลมหายใจเข้าออก ตามที่ได้ฟังมา  จากนั้นก็ให้รู้สึกว่าลมหายใจอ่อนละเอียดลงเรื่อยราวกับไม่ได้หายใจ ทำให้นึกว่าตายไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไร เพราะจะได้รู้ว่าคนตายก็เป็นเช่นนี้นี่เอง แล้วก็รู้สึกว่าลุกขึ้นจากเตียงไปที่ประตูห้อง มองที่ช่องกุญแจออกไปข้างนอก  โดยพลันก็รู้สึกว่าตัวมาอยู่ข้างนอกห้องแล้ว จึงเดินไปเดินมาที่เฉลียงหน้ากุฏิ ซึ่งเป็นเฉลียงยาวเชื่อมต่อตลอดถึงกัน ได้เห็นเด็กวัดหลายคนนอนกันอยู่ที่นั่น นอนกันกี่คนก็เห็นหมด รวมทั้งสิ่งอื่นๆ บริเวณนั้นด้วย

เวลานั้นมีแสงสว่างเป็นสีขาวๆ เหมือนสีฟ้าสางใกล้อรุณ แต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น  ขณะเดินไปเดินมาก็นึกขึ้นได้ว่าเป็นเวลานอน จึงเดินกลับไปที่ประตูห้อง แต่เข้าข้างใดไม่ได้ มองที่ช่องกุญแจเข้าไปก็เห็นร่างของตนนอนอยู่ และเมื่อรู้สึกอีกครั้งหนึ่งก็เข้าห้องไปได้แล้ว จึงเดินไปที่เตียงนอน  ยังไม่ทันถึงก็รู้สึกว่าได้กลับเข้ารวมกับร่างเดิมแล้ว จึงขึ้นจากเตียง เดินไปที่ประตูอีกครั้งหนึ่ง ถอดกลอนออกเดินไปนอกห้องตามเฉลียง ก็ได้เห็นภาพเดิมๆ ที่ได้เห็นไปเมื่อสักครู่ อย่างไรก็อย่างนั้น ก่อนจะกลับเข้ามานอนโดยปกติ  เชื่อว่าขณะแสดงฤทธิ์-อิทธิวิธี  ฉิ่ง แรงเพชร มีภาวะจิตอยู่ที่ ฌานสี่ (the forth absorpiton) ซึ่งจิตประกอบด้วยอุเบกขาและดิ่งนิ่งมาก (เอกัคตา) สภาพจิตอ่อนละเอียด ลมหายใจเข้า-ออกแทบไม่ปรากฏ และคลื่นสมองน่าจะเป็นแบบธีตา (theta brain wave)  

ไม่มีประวัติว่า ฉิ่ง แรงเพชร เคยฝึกเจริญสมาธิมาบ้างหรือไม่ ถ้าไม่เคยมาก่อน มีสมาธิถึงขั้นนี้ได้ ก็น่าจะถือว่าฟ้าประทานแท้ทีเดียว แต่ในอีกมุมหนึ่ง น่าจะเคยมาบ้าง  ส่วนบุคคลอื่น อีกสี่รายก่อนหน้านี้นั้น น่าจะเป็นอำนาจฟ้าประทานอย่างไม่ต้องสงสัย และคล้ายๆ ว่าอำนาจอีเอสพีนั้นเสื่อมลง (declined) ได้ ยูริ เกลเลอร์ ก็เคยบอกเช่นนี้



ที่มา : บทความพิเศษ หนังสือมติชนรายสัปดาห์

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 พฤศจิกายน 2556 19:06:16 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5462


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2556 19:16:13 »

.
รัสปูติน


เกรกอรี่ รัสปูติน : ชู้รักชื่อเสียงโด่งดังของจักรพรรดินีอเล็กซานดรา แห่งรัสเซีย

เกรกอรี่ รัสปูติน เติบโตขึ้นมาในฟาร์มแห่งหนึ่ง และซัดเซพเนจรเข้ามาในเมืองหลวงของรัสเซียเพื่อหาคู่นอนตามความต้องการที่เกิดขึ้นวันละหลายครั้ง
 
รัสปูตินมีความสูงเพียงปานกลาง หนวดเคราดกครื้มสกปรก ผมเผ้ายุ่งเหยิงรุงรัง และฟันก็ดูไม่ต่างจากตอไม้สีดำ  เขาสวมเสื้อผ้าแพรแบบชาวนาสีฟ้าหรือไม่ก็สีแดงปักลายดอกไม้ และสวมกางเกงสีดำตัวหลวมโพลก ปลายขายัดอยู่ในรองเท้าบู๊ตชาวนาสูงเสมอแข้ง

ที่โดดเด่นที่สุดบนใบหน้าของรัสปูตินคือนัยน์ตาสีเทาอ่อนจางที่มักจะมองเห็นเป็นสีขาว ดวงตาสีขาวแข็งกร้าวที่เหมือนจะมีประกายไฟเล็กๆ พุ่งตรงออกมาจากใต้คิ้วของมนุษย์ยุคหินคู่นั้น "คือตาคนบ้าชัดๆ" ชาวรัสเซียผู้หนึ่งที่เคยพบเขาบอก "ท่าทางเขาดูเหมือนไอ้บ้ากามที่มีแต่ความใคร่และประสงค์ร้าย" อีกคนหนึ่งบรรยาย ใครที่ได้พบเขาเป็นต้องรู้สึกเหมือน "ถูกเข็มแทง แทนที่จะเป็นการมองแบบธรรมดาทั่วไป"

ภายหลังต่อมา ลูกสาวของรัสปูตินเล่าว่า สมัยที่พ่อเป็นเด็กตัวเล็กๆ เขามีความสามารถพิเศษในการรักษาสัตว์ในฟาร์มที่เจ็บปวดและมีบาดแผล และเขารู้ล่วงหน้าว่าจะมีแขกมาเยือนโดยไม่ได้บอกกล่าว นอกจากนั้นเขายังมีความสามารถในการตามหาของที่หายไปจนพบ และทำนายได้ว่าจะมีใครในหมู่บ้านเสียชีวิต ตอนอายุสิบแปดปี เขาอ้างว่าเห็นภาพนิมิตของพระแม่มารีอันเป็นสิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นผู้รู้แจ้ง แต่กระนั้้นการสวดมนต์ภาวนาของเขาก็มักจะคละเคล้าไปกับการเสพสุรา เสเพล และมั่วโลกีย์อย่างต่ำช้าน่าละอาย

ในที่สุด กลุ่มผู้คบคิดกำจัดรัสปูติน นำโดยเจ้าชายเฟลิกซ์ ยูซูปอฟ (Prince Felix Yusupov) พระญาติของพระเจ้าซาร์ก็อดรนทนไม่ได้กับชายตัณหาจัด เจ้าชายใช้พระชายา ชื่อไอรินา (Irina) เป็นเหยื่อล่อรัสปูตินที่อยากได้หล่อนจนตัวสั่น



เช้าตรู่วันที่ ๑๖ ธันวาคม ปี ๑๙๑๖ รัสปูตินไปที่วังของ Yusupov ด้วยความหวังว่าจะได้ร่วมหลับนอนกับ Irina  รัสปูตินถูกนำไปยังห้องใต้ดินที่ได้รับการตกแต่งเป็นห้องจัดเลี้ยงด้วยบรรยากาศน่าสนุกสนานรื่นเริง  และเจ้าชายยูซูปอฟก็ยื่นขนมเค้กผสมไซยาไนด์ส่งให้รัสปูติน รัสปูตินเขมือบเข้าไปทีเดียวสองชิ้นอย่างตะกละ และกล้ัวคอด้วยเหล้าองุ่นที่มีไซยาไนด์ผสมอยู่ด้วยเช่นกัน หลังจากกินยาพิษเข้าไปในปริมาณมากพอจะล้มช้างได้เดี๋ยวน้ัน  รัสปูตินเพียงแค่กระแอมแล้วบ่นว่ารู้สึกคันๆ  หลังจากอ่านข้อมูลละเอียดเกี่ยวกับความพยายามวางยาพิษครั้งนั้น นักประวัติศาสตร์บางคนเชื่อว่ารัสปูตินสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ด้วยการกลืนไซยาไนด์วันละสองสามเกร็ดทุกวันเพื่อสั่งสมความต้านทาน

ตามเรื่องเล่าว่า รัสปูตินเริ่มหายใจติดขัดและบ่นว่าแสบท้อง แต่จู่ๆ เขาก็เกิดความกระตือรือร้นอยากร้องเพลงและเต้นรำกับพวกยิปซีขึ้นมาอย่างกระทันหัน เฟลิกซ์ ยูซูปอฟ จึงกล่าวคำพูดในทันทีนั้นว่า "ท่านควรสวดมนต์ต่อหน้าไม้กางเขนมากกว่า" เหมือนรัสปูตินจะรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น  เขามองเจ้าชายด้วยสายตาที่แทบจะส่อแววปรานี แล้วรัสปูรินก็เริ่มทำเครื่องหมายไม้กางเขน  พอยูซูปอฟลั่นกระสุนแล่นเข้าสู่หัวใจของเขา รัสปูตินก็ส่งเสียงร้องโหยหวนและล้มลงบนพรมหนังหมีทันที

ร่างของเขาถูกตรวจพิจารณาอย่างละเอียดก่อนจะมีประกาศว่าเขาตายแล้ว แต่แล้วจากนั้นนัยน์ตาของรัสปูตินก็เบิกโพลง มันคือ "ดวงตาสีเขียวดุจอสรพิษ" ร่างที่ชุ่มโชกไปด้วยโลหิตลุกขึ้นโผนเข้าใส่ยูซูปอฟ ยูซูปอฟเล่าในภายหลังจากนั้นว่า "เขาขยุ้มนิ้วลงบนบ่าฉันราวกับกรงเล็บเหล็ก" ดวงตารัสปูตินโปนถลนออกมานอกเบ้า และมีเลือดไหลรินออกจากปาก  มือทั้งสองข้างนั้นเอื้อมมาบีบคอพร้อมกับที่ริมฝีปากขยับตะเบ็งเสียงว่า "ไอ้เฟลิกซ์ ไอ้เฟลิกซ์"   ยูซูปอฟถลันวิ่งขึ้นไปชั้นบนพร้อมกับคนอื่นๆ ด้วยใบหน้าซีดเผือด ตามติดมาด้วยรัสปูตินที่ตะกายขึ้นบันไดมาแล้ววิ่งข้ามสนามที่ปกคลุมด้วยหิมะ ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งเล่าว่า รัสปูตินตะโกนลั่น"ฉันจะทูลเรื่องทั้งหมดให้จักรพรรดินีทรงทราบ"

วลาดิเมียร์ ปูริชเกวิช (Vladimir Purishkevich) คว้าปืนขึ้นมายิ่งใส่รัสปูตินถูกที่หัวไหล่ และอีกนัดแล่นเข้าศีรษะ รัสปูตินเข่าทรุดแต่ยังไม่ตาย เขาพยายามทรงตัวลุกขึ้นมาอีกครั้ง ยูซูปอฟลงมือทุบเขาอย่างไม่ยั้งด้วยไม้ตะบองจนล้มฮวบ  ฝ่ายผู้ก่อการร้ายใช้พรมหรือไม่ก็ผ้าม่านห่อร่างรัสปูติน จับเหวี่ยงเข้าไปในรถ แล้วขับไปยังคุ้งน้ำและโยนร่างนั้นลงไปในแม่น้ำ แต่เพราะความรีบร้อนกลุ่มผู้ก่อการร้ายจึงลืมถ่วงน้ำหนักกับร่างรัสปูตินทั้งที่นำติดรถมาด้วย   วันรุ่งขึ้น พวกคนงานพบรอยเลือดที่ราวสะพาน กับรองเท้าบู๊ตข้างหนึ่งที่ผิวน้ำแข็งข้างล่าง จึงมองลงไปยังสายน้ำที่จับตัวเป็นน้ำแข็งก็พบศพรัสปูติน  ผลการชันสูตรศพระบุว่ามีน้ำอยู่เต็มปอด แสดงว่าตอนที่ถูกโยนลงน้ำนั้น รัสปูตินยังมีชีวิตอยู่

ไม่มีการสอบสวนเอาผิดกลุ่มคนที่สังหารรัสปูติน ประชามติชาวรัสเซียเห็นชอบกับการลอบสังหารที่เกิดขึ้น เพราะถือว่าสิ่งที่กลุ่มลอบสังหารทำลงไปเป็นเพราะความรักชาติ และเป็นการปลดปล่อยประเทศชาติจากเงื้อมมือของคนวิกลจริตที่เลวทรามต่ำช้า  เว้นไว้แต่ จักรพรรดินีแห่งรัสเซีย "อเล็กซานดรา" ผู้มีพระวรกายเพรียวระหง พระเกศาสีน้ำตาลเข้ม และพระเนตรกลมโตสีฟ้าอมเทา ที่มักลอบเสด็จไปพบรัสปูตินที่กระท่อมหญิงรับใช้ในบริเวณพระราชวัง ที่หลายคนคาดการณ์ว่าทั้งสองลักลอบเป็นชู้กัน  พระจักรพรรดินีทรงมีอาการป่วยทางจิต พระองค์อาศัยฝิ่นระงับประสาทและสวดภาวนาหน้าหลุมศพรัสปูติน ทรงเตร็ดเตร่ไปทั่ววังเพื่อตามหาดวงวิญญาณของรัสปูติน

ประชาชนชาวรัสเซียที่มีแต่ความหดหู่เริ่มคิดว่า ในเมื่อคนที่มีอำนาจล้นฟ้าอย่างรัสปูตินยังถูกกำจัดได้ง่ายๆ ราชวงศ์ซึ่งเป็นที่ถูกเกลียดชังก็น่าจะถูกกำจัดได้เหมือนกัน เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนลุกขึ้นเดินขบวนต่อต้านรัฐบาล ทหารในองค์จักรพรรดิได้รับคำสั่งให้ยิงกลุ่มผู้ประท้วงเหล่านั้น แต่พวกเขากลับยิงนายทหารผู้บังคับบัญชาของตนทิ้ง และหันไปร่วมมือกับฝ่ายที่ก่อการจลาจล  ต่อมาในวันที่ ๒ มีนาคม ปี ๑๙๑๗ สมเด็จพระจักรพรรดิซาร์นีโคลัสที่ ๒ (Nikolay II) ถูกบังคับให้สละราชสมบัติ ทรงตกเป็นผู้ต้องหาและถูกจองจำ  

ภายในหนึ่งสัปดาห์ ศพของรัสปูตินที่ถูกฝังไว้ในอุทยานของพระราชวังด้วยความรัก ก็ถูกขุดขึ้นมาราดน้ำมันและจุดไฟเผา เปลวไฟโหมลุกท่วมร่างดุจเดียวกับที่กำลังลุกท่วมรัสเซียเหมือนที่เขาเคยทำนายไว้ และในเดือนกรกฎาคม ปี ๑๙๑๘ สมเด็จพระจักรพรรดิซาร์นีโคลัสที่ ๒ จักรพรรดินีอเล็กซานดรา กับโอรสธิาทั้งห้า พร้อมด้วยพระราชวงศ์หลายพระองค์  ก็ถูกปลงพระชนม์อย่างทารุณ ตรงตามที่รัสปูติน...ผู้หยั่งรู้ นักจิตวิญญาณ และชายตัณหาจัดได้มองเห็นล่วงหน้า




ย่อสรุปจาก หนังสือ "Sex with the Queen" Eleanor Herman เขียน : ขจรจันทร์-แปล
สำนักพิมพ์มติชน ผู้พิมพ์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 พฤศจิกายน 2556 19:28:31 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
พลังจิต กับ การพบมนุษย์ต่างดาว
เรื่องราว จากนอกโลก
มดเอ๊ก 0 3470 กระทู้ล่าสุด 26 มิถุนายน 2553 20:41:11
โดย มดเอ๊ก
มองปัญหาด้วยปัญญา: ช่วยอธิบายเรื่อง พลังบุญ กับ พลังจิต
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
หมีงงในพงหญ้า 0 3634 กระทู้ล่าสุด 19 กรกฎาคม 2553 00:31:08
โดย หมีงงในพงหญ้า
พลังจิต (Gsychergy) คืออะัไร มาดูความหมาย และประเภทของพลังจิตกัน
เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
หมีงงในพงหญ้า 5 14005 กระทู้ล่าสุด 03 กันยายน 2553 23:40:20
โดย หมีงงในพงหญ้า
ลามะทิเบต ใช้ พลังจิต รักษาโรคจนหายขาด
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 1098 กระทู้ล่าสุด 08 กรกฎาคม 2559 05:13:30
โดย มดเอ๊ก
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.38 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 12 เมษายน 2567 13:39:54