[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 01:59:29 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ทุกวันนี้พวกเรากินทิ้ง - กินขว้างกันหรือเปล่า ?  (อ่าน 3935 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 10 เมษายน 2553 14:24:01 »



ใครก็ตามกินทิ้ง - กินขว้าง = บาป ! ! !


ตอนนี้ข้าวมีราคาแพง บางคนก็เลยกินดินประทังชีวิต  อย่างเช่นประเทศ เฮติ ในประเทศเฮติ คุณรู้ไหมว่า ชาร์ลีน ดูมัส สาวน้อยผู้ยากจนที่อาศัยอยู่ในสลัมกรุงปอร์โตแปรงซ์ กินอะไรเป็นมื้อกลางวันถ้าได้ฟังคำตอบแล้วคุณอาจจะอึ้งด้วยความสลดใจ เพราะเธอต้อง กินดิน เป็นอาหารประทังชีวิต
ราคาอาหารที่พุ่งขึ้นพรวดพราด ทำให้คนยากจนในเฮติไม่สามารถแม้แต่จะหาข้าวเพียงแค่จานเดียว มาลูบท้องได้ บางคนเลยต้องดิ้นรนหาทางออกที่สิ้นหวังเพื่อเติมเต็มกระเพาะที่ว่างเปล่า
ชาร์ลีนสาวน้อยวัย 16 ซึ่งมีลูกชายอายุหนึ่งเดือนแล้วคนหนึ่ง ต้องหันมาพึ่งพิงวิธีประทังความหิวแบบโบร่ำโบราณของเฮติ นั่นคือ การกินคุ้กกี้ที่ทำด้วยดินเหลืองจากที่ราบสูงทางตอนกลางของประเทศ







...................................กินดินประทังชีวิต..............................



ดินชนิดนี้ถูกใช้เป็นยาลดกรดในกระเพาะ รวมถึงเป็นแหล่งแคลเซี่ยมของผู้หญิงท้อง และเด็กๆ ชาวเฮติมานมนานแล้ว แต่ในสถานที่หลาย ๆ แห่ง อาทิ ในสลัมไซต์ โซลีลที่ชาร์ลีน และลูกน้อยอาศัยอยู่ในบ้านขนาด 2 ห้องร่วมกับพี่น้อง 5 คน และพ่อแม่ที่ตกงานอีก 2
คนแล้วคุ้กกี้ที่ทำจากดิน เกลือ และผักชนิดนี้ได้กลายมาเป็นอาหารประจำวันไปแล้ว

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 เมษายน 2553 15:03:41 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 10 เมษายน 2553 14:29:58 »

ชาร์ลีนบอกว่าเวลาที่แม่ของเธอไม่ได้ทำกับข้าว เธอต้องกินคุ้กกี้ดินเป็นอาหารวันละ 3 มื้อเลยทีเดียว ส่วนลูกน้อยของเธอที่ชื่อว่า วู้ดสัน นั้นนอนนิ่งอยู่บนตักของชาร์ลีน ดูผอมลงเล็กน้อยกว่าเมื่อช่วงแรกเกิดที่มีน้ำหนัก 2.8 กิโลกรัมเสียอีก


ถึงแม้ว่าเธอจะชอบรสชาติที่เหมือนเนย แล้วก็ออกเค็มของคุ้กกี้ชนิดนี้ แต่ชาร์ลีนบอกว่าคุ้กกี้ดินทำให้เธอปวดท้อง แถมเวลาที่เธอให้นม วูดสัน ก็ดูเหมือนว่าบางครั้งลูกน้อยก็จะมีอาการจุกเสียดด้วยเช่นกัน


ทั้งนี้ราคาอาหารในประเทศหมู่เกาะแถบทะเลแคริบเบียนบางแห่งนั้นพุ่งขึ้นมากถึง 40%ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาวะน้ำท่วม ทำให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากฤดูเฮอร์ริเคนเมื่อปีที่แล้ว จนทำให้องค์การอาหารและเกษตรกรรมแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ต้องประกาศภาวะฉุกเฉินในเฮติ และอีกหลายประเทศในภูมิภาคเดียวกัน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 เมษายน 2553 14:43:32 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 10 เมษายน 2553 14:33:20 »




ทางด้านบรรดาผู้นำประเทศแถบแคริบเบียนเองก็ได้จัดการประชุมฉุกเฉินขึ้นใน เดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อหารือกันเรื่องลดภาษีอาหาร และสร้างฟาร์มประจำภูมิภาคขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อลดการพึ่งพิงสินค้านำเข้าที่ตลาดในสลัมลา ซาลิเนส ข้าว 2 ถ้วยวางขายกันอยู่ที่ 60 เซนต์สหรัฐ มีราคาเพิ่มขึ้นจากเมื่อเดือนธันวาคม 10 เซนต์ และเพิ่มขึ้นจากช่วงหนึ่งปีที่แล้วถึง ปัจจุบัน ราคาดินที่นำมาทำคุ้กกี้ 100 ชิ้นนั้นสูงถึง 5 ดอลลาร์
หรือเฉลี่ยชิ้นละประมาณ 5 เซนต์ก็ยังนับว่าถูกอยู่ดีเมื่อเทียบกับอาหารประเภทอื่น
พ่อค้าจะขับรถบรรทุกขนดินจากเมืองฮินเช ทางภาคกลาง มายังตลาดแล้วพวกผู้หญิงก็จะซื้อดินไปทำคุ้กกี้ โดยจะแบกถังบรรจุดิน และน้ำขึ้นบันได
ไปยังหลังคาตึกที่เคยเป็นคุกเก่ามาก่อน แล้วไปคลุกเคล้าส่วนผสม หยอดดินเป็นชิ้นคุ้กกี้ แล้วตากแดดที่ร้อนระอุจนแห้งสนิท 50% เลยทีเดียว
ส่วนราคาถั่ว นมข้นหวาน และผลไม้ก็ขึ้นในอัตราเท่า ๆกัน แม้แต่ราคาของดินที่กินได้ยังขยับขึ้นเกือบ 1.50 ดอลลาร์สหรัฐ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 เมษายน 2553 14:46:12 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 10 เมษายน 2553 14:36:09 »

สลึมสลือ สลึมสลือ สลึมสลือ



คุ้กกี้ที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วจะถูกจัดใส่ถังแล้วแบกกลับไปวางขายที่ตลาด หรือไม่ก็วางขายกันตามถนน
นักข่าวที่ลองกินคุ้กกี้ดูพบว่าเนื้อเหนียวละมุน แต่จะดูดเอาความชื้นทั้งหมดภายในปากออกมาทันทีที่ลิ้นแตะชิ้นคุ้กกี้ แถมรสชาติอันไม่พึงประสงค์ของดินจะยังอบอวลอยู่ในปากต่อไปเป็นเวลานานหลาย ชั่วโมงเลยทีเดียว
สำหรับเรื่องของผลกระทบจากการกินคุ้กกี้ดินนั้น ผลการประเมินออกมาหลากหลายมาก เจอรัลด์ เอ็น คัลลาฮาน ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบภูมิคุ้มกันจากมหาวิทยาลัยรัฐโคโลราโดในสหรัฐซึ่งศึกษา เรื่องการกินดินเป็นอาหารกล่าวว่า ดินอาจมีปรสิตหรือสารพิษที่ทำให้ถึงตายได้ แต่ก็อาจทำให้ภูมิคุ้มกันโรคบางชนิดของทารกในครรภ์แข็งแรงขึ้นได้เช่นกัน
ขณะที่แพทย์ชาวเฮติเองกล่าวว่าการกินคุ้กกี้ดินเป็นอาหารอาจเสี่ยงต่อการขาด สารอาหารได้แต่ชาวเฮติก็โต้ว่า ฉันหวังว่าซักวันหนึ่งจะมีอาหารพอกิน จะได้หยุดกินดินพวกนี้เสียที ฉันรู้หรอกน่าว่ามันไม่ดีต่อตัวเอง
พูดง่าย ๆ ก็คือไม่มีใครอยากกินดินกันหรอก แต่พวกเขามีทางเลือกอื่นนอกจากนี้หรือ................................?




แผ่นดินไหวเฮติ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10 เมษายน 2553 15:05:06 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 10 เมษายน 2553 16:17:01 »




ความหิว..กระหาย..ไม่เคยปราณี..ผู้ใด

ในพระไตรปิฎก  กล่าวไว้ว่า "พระพุทธเจ้า  ฉันข้าววันละ 5 คำ
ก็สามารถดำรงชีวิต  อยู่ได้แล้ว"

นั่นหมายความว่า เมื่อร่างกาย  เข้าสู่ภาวะสมดุลย์
ความต้องการอาหาร  จะน้อยลงไป

นั่นคือ..เส้นทางสู่..ธรรมะ  นั่นคือ..เส้นทางสู่..การดำรงชีวิต..สมถะ
นั่นคือ..เส้นทางสู่..ความสมดุลย์ของร่างกาย

ปริมาณของการบริโภค..บ่งบอก..ความสมดุลย์

แต่การเข้าถึง..สภาวะ..สมถะ..นั้น..ต้องศึกษาเรียนรู้..ความสมดุลย์ของร่างกาย
เพราะถ้าไม่มี..ความเข้าใจ..ไม่มี..ขั้นตอนของการปฎิบัติที่ถูกต้อง..ก็จะมีอันตรายได้
หรือพูดได้ว่า..การจะดำรงชีวิตอย่าง..สมถะ  ต้องคู่กับ  การศึกษา..หาความรู้

นั่นคงพอจะเป็นเหตุผล  บอกให้เรารู้ว่า
"สังคมเศรษฐกิจพอเพียง..ต้องคู่กับ..สังคมการเรียนรู้"
การพยายามสร้าง..สังคมเศรษฐกิจพอเพียง..เพียงฝ่ายเดียว..ไม่น่าจะประสบความสำเร็จ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 เมษายน 2553 08:19:28 โดย เงาฝัน » บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 10 เมษายน 2553 16:25:56 »


           

เราลองย้อนกลับมาดูว่า  ทำไมพระสงฆ์ในศาสนาพุทธ  ไม่ทานอาหารหลังจากเที่ยงวัน
นั่นเป็นเพราะว่า  อาหารที่เราทานเข้าไปนั้น  จะถูกย่อยด้วยกรด  ในกระเพาะอาหาร
ซึ่งจะทำให้เกิดแก๊ส  ในขบวนการย่อยอาหาร  จำนวนมหาศาล  ซึ่งจะซึมเข้าสู่เส้นเลือด
และต้องการ  การระบายออกจากร่างกาย  เพราะแก๊สเหล่านี้เป็นพิษ  ต่อร่างกายเรา

ซึ่งในช่วงบ่าย  กิจกรรม เช่น  การกวาดลานวัด  การเดินจงกรม  ก็จะช่วยระบายแก๊สออกไป
เมื่อแก๊สพิษถูกขับออกจากร่างกายเราแล้ว  ร่างกายเราก็จะเข้าสู่ความสงบ..สมดุลย์

นั่นคือ..พื้นฐานของการปฎิบัติธรรม
ร่างกายเราจะสงบหรือไม่..ขึ้นอยู่กับปริมาณแก๊ส..ที่อยู่ในร่างกายเรา


ในชีวิตประจำวัน  เมื่อเราต้องบริโภค  ผลิตภัณฑ์ที่มาจากโรงงานอุตสาหกรรม
เช่น  น้ำตาล  น้ำแข็ง  สารกันบูด  สีผสมอาหาร  สารปรุงรสต่าง ๆ นั้น 
เราเคยสังเกตุมั๊ยว่า  มันมีผลให้เรา  เกิดอาการหิวทั้งวัน  หิวอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งเป็นสาเหตุ  ของโรคภัยต่าง ๆ มากมาย  เป็นค่าใช้จ่าย  เป็นภาระที่ไม่จำเป็น

ในธรรมชาติของร่างกายเรานั้น  ในรอบ  1 วัน  จะเป็น 1 วัฎจักร
ในช่วงที่เราหลับนอน  ร่างกายเราจะพยายามเข้าสู่  ความสงบโดยธรรมชาติ


ดังนั้น  เมื่อเราตื่นนอนในตอนเช้า  ร่างกายและสมองเรา  จะปลอดโปร่งที่สุด
พฤติกรรมใด ๆ ที่เราปฎิบัติในตอนเช้า  ก็จะเป็นบรรทัดฐาน  ของทั้งวัน

เพราะฉะนั้น  ถ้าเราต้องการฝึกร่างกาย  และความคิดของเรา  ก็ต้องทำในตอนเช้า
เช่น  ผู้สนใจปฎิบัติธรรม  ควรปฎิบัติทุกวันในตอนเช้า  ธรรมะจะอยู่ในใจเราทั้งวัน


การที่เราจะฝึก  ควบคุมความหิวของเรานั้น  ก็ควรทำในตอนเช้า  เช่นกัน
เพราะฉะนั้น  การเริ่มฝึก  ต้องหลีกเลี่ยง  ผลิตภัณฑ์ที่มาจากอุตสาหกรรมทั้งหมด
เช่น  น้ำตาล  น้ำแข็ง  สารกันบูด  สีผสมอาหาร  สารปรุงรสต่าง ๆ
เพราะการบริโภค  สิ่งเหล่านี้  ในตอนเช้า  จะมีผลให้เรามีอารมณ์หิวได้ทั้งวัน

เพราะ..ความหิว..กระหายนั้น..ไม่เคยปราณี..ผู้ใด



 รัก  http://www.abhakara.com/webboard/index.php?topic=3113.0
บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 2.0.157.2 Chrome 2.0.157.2


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 30 กันยายน 2553 01:27:06 »

อ้างถึง






ภาพนี้ได้มาหลายรางวัลมาก ๆ

และเป็นภาพที่สุดแสนจะสะเทืิอนใจ...


ปล. นั่งอ่านกระทู้เก่า ๆ ดี ๆ ตกหน้าไปเยอะเหมือนกัน
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.291 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 10 พฤศจิกายน 2566 21:59:31