[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
27 เมษายน 2567 06:35:03 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โกโก เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และที่มาของโลโกสาวน้อยนางพยาบาล  (อ่าน 4158 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5462


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 07 ธันวาคม 2556 17:04:38 »

.


เครื่องดื่มรสขมที่หลายคนมักนำมาชงให้ออกรสหวานเพื่อการดื่มที่ง่ายขึ้น อย่าง "โกโก้" นั้น รู้หรือไม่ว่า หากชงให้ดี สามารถป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดสมองได้

จากผลงานของทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น โมนาสฮ์ ศึกษากับกลุ่มตัวอย่างชาวออสเตรเลีย จำนวน 2,013 ราย ซึ่งมีความเสี่ยงป่วยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านั้นมีความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง และน้ำหนักตัวมาก

ทั้งนี้ พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่บริโภคโกโก้เข้มข้น 70% ปริมาณ 100 กรัม หรือรับประทานดาร์ค ช็อกโกแลต เพียงหนึ่งบล็อกจากแผง เป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่องราว 10 ปี มีความเสี่ยงจะป่วยเป็น 2 โรคข้างต้นลดลง

ที่เป็นเช่นนั้นเพราะโกโก้ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ชื่อ โพลีฟีนอล มีประสิทธิภาพในการขยายเส้นเลือด จึงสามารถลดความดันเลือดและปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดได้ โดยนอกจากโกโก้แล้ว แอปเปิ้ลแดง บลูเบอรี่ และชาเขียว ก็มีโพลีฟีนอล

สำหรับเมนูดื่มดีได้ประโยชน์จากโกโก้ แนะนำสูตรโกโก้ร้อนเพื่อสุขภาพ ทำง่ายๆ โดยนำนมถั่วเหลือง 2 ถ้วย เทใส่หม้อตั้งไฟปานกลาง พอเริ่มร้อน (แต่ไม่ต้องถึงกับเดือด) จึงเติมผงโกโก้เข้มข้น 70% ลงไป 2 ช้อนชา พร้อมน้ำตาลทรายออกานิค หรือน้ำตาลเทียม 2 ช้อนชา คนให้ส่วนผสมเข้ากัน จากนั้นเทใส่แก้ว ดื่มตอนอุ่นๆ คล่องคอ ช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง แต่ไม่แนะนำให้ปักใจใช้วิธีดื่มโกโก้ หรือรับประทานดาร์ค ช็อกโกแลต เพื่อป้องกันโรคเพียงหนทางเดียว ควรดูแลสุขภาพเพื่อลดความเสี่ยง ส่วนผู้ที่เป็นผู้ป่วยโรคเหล่านี้อยู่แล้ว อาจปรึกษาแพทย์เพื่อใช้วิธีนี้เป็นส่วนเสริม
.ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์



ข้อมูลจากวิกิพีเดีย หอศิลปะกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และข้อมูลจากที่อื่นๆ ระบุว่า โลโก้นางพยาบาลถือกระป๋องเหล็ก "ดรอสเต้โกโก้" และถ้วยช็อกโกแลตหอมกรุ่นนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพวาด "สาวน้อยช็อกโกแลต" หรือ "ลา แบลส์ ช็อกโกลาติแยร์" ภาพวาดสไตล์พาสเทล (คล้ายสีชอล์ก) ที่มีชื่อเสียงที่สุดของฌอง เอเตียน ลิโอตาร์ (Jean-Etienne Liotard) ศิลปินชาวสวิตเซอร์แลนด์ ในราวศตวรรษที่ 17

รูปวาดเป็นภาพสาวน้อยแม่บ้านถือถาดเหล็กเพื่อเสิร์ฟเครื่องดื่มช็อกโกแลตในถ้วยแบบมีหูจับ พร้อมแก้วน้ำเปล่าอีก 1 ใบ ว่าสาวน้อยนางนี้เป็นใครเพราะนายลิโอตาร์วาดขึ้นจากความประทับใจในช่วงที่ราชสำนักประเทศออสเตรีย ว่าจ้างให้วาดภาพเหมือนของพระจักรพรรดินี มาเรีย เทเรเซีย และพระสวามี ที่กรุงเวียนนา ระหว่างปี 2286-2288 ขณะที่นายลิโอตาร์วาดรูปอยู่นั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นแม่บ้านสาวสวย ใบหน้าคมคาย แต่เจ้าหล่อนไม่สนใจลิโอตาร์เลยเพราะสมาธิจดจ่ออยู่กับถ้วยโกโก้บนถาด ลิโอตาร์ประทับใจมากถึงกับวาดภาพเหมือนของเธอแถมให้ราชสำนักไปอีกหนึ่ง

ภายหลัง ลิโอตาร์ขายภาพนี้ให้แก่เคานท์ฟรานเซสโก้ อัลกาโรทติ ซึ่งซื้อภาพนี้ไว้ด้วยความชื่นชมโดยไม่รู้ว่าเป็นภาพที่ลิโอตาร์ดวาดในราชวังออสเตรีย ประวัติศาสตร์ของภาพนี้จึงสูญหายไป



(ซ้าย) สตรีเทช็อกโกแลต (ขวา) ลิโอตาร์

นอกจากนี้ ลิโอตาร์ยังวาดภาพอีกภาพหนึ่งซึ่งมีลักษณะคล้ายกันมากชื่อ "สตรีเทช็อกโกแลต" ซึ่งปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่หอศิลปะแห่งชาติ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

นักวิจารณ์ศิลปะบางท่านยกย่องว่าภาพ "สาวน้อยช็อกโกแลต" สะท้อนระบบชนชั้นในสมัยนั้น สังเกตจากสาวน้อยที่มีฐานะต่ำต้อยต้องทำงานรับใช้สาวผู้อยู่ในวรรณะสูง (พระจักรพรรดินีแห่งออสเตรีย) ซึ่งนักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าเครื่องแต่งกายของสาวน้อยในภาพน่าจะเป็นชุดแต่งกายประจำของแม่บ้านในช่วงศตวรรษที่ 18

ต่อมาภาพ "สาวน้อยช็อกโกแลต" ได้รับการยอมรับว่าเป็นศิลปะร่วมสมัยและเป็นผลงานชิ้นเอกของลิโอตาร์ จากนั้นในปี 2308 มีผู้ซื้อผลงานศิลปะชิ้นนี้ไปประดับในหอศิลปะเกอเมลเดอ กาเลรีอัลเตอร์ ไมส์เตอร์ แดรสเดิล ประจำเมืองแดรสเดิล ประเทศเยอรมนี และในปี 2405 บริษัทเบเกอรี่สัญชาติอเมริกาที่เน้นผลิตภัณฑ์ทำจากช็อกโกแลตซื้อลิขสิทธิ์ของภาพวาดนี้ไป

กระทั่งราวปี 2443 บริษัท "ดรอสเต้โกโก้" ใช้ภาพ "สาวน้อยช็อกโกแลต" เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างโลโก้ผลิตภัณฑ์ผงช็อกโกแลต โดยจ้าง โจฮานเนส มัสเสท นักวาดภาพเพื่อการค้า เขียนภาพแต่ให้แทนภาพสาวน้อยแม่บ้านด้วยนางพยาบาลเพราะให้ความรู้สึกถึงการดูแลและความห่วงใยมากกว่า ภาพนางพยาบาลถือถาดถ้วยโกโก้จึงเป็นสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มดรอสเต้อย่างแยกไม่ออกนับแต่บัดนั้น
  ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด


สาวน้อยช็อกโกแลต[

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 ธันวาคม 2556 17:51:23 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5462


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 07 ธันวาคม 2556 17:57:30 »



ช็อกโกแลต
ชนิดของช็อกโกแลต และประโยชน์หรือโทษของการกินช็อกโกแลต

ชาวเผ่ามายา ได้พบเศษช็อกโกแลตหลงเหลืออยู่ในหม้อของชาวมายาโบราณ เชื่อกันว่าชาวมายาดื่มเครื่องดื่มช็อกโกแลตมากว่า 2,600 ปีมาแล้ว

คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เป็นคนแรกที่ได้เห็นผลของต้นโกโก้ ซึ่งเป็นส่วนผสมหลักในช็อกโกแลต เมื่อปี พ.ศ.2045 แต่เขาไม่ได้ให้ความสนใจ

20 ปีต่อมา นายพลเออร์นานโด คอร์เทส นักสำรวจชาวสเปน สังเกตเห็นว่า จักรพรรดิแห่งเผ่าแอสเท็กซ์ทรงโปรดปรานเครื่องดื่มที่ชื่อว่า โชโกลาต์ เป็นพิเศษแม้จะมีรสขม จึงได้ทดลองดื่มดูและรู้สึกชอบ เมื่อเดินทางกลับสเปนในปี 2071 เขานำผลโกโก้ไปถวายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 5 กษัตริย์ในสมัยนั้น

ต่อมาชาวสเปนพบว่ากรรมวิธีทำให้เมล็ดโกโก้มีกลิ่นและรสดีขึ้น เมื่อนำไปต้มโดยเติมน้ำและน้ำตาล  จะได้เครื่องดื่มชนิดใหม่ที่พวกเขาให้ชื่อว่า ช็อกโกแลต เป็นที่นิยมในหมู่ขุนนางชั้นสูงของประเทศและแพร่หลายไปทั่วยุโรป

ชนิดของช็อกโกแลต โดยทั่วไปมี 3 ชนิด ได้แก่ ช็อกโกแลตดำ (Dark Chocolate) ช็อกโกแลตขาว (White Chocolate) และช็อกโกแลตนม (Milk Chocolate) ความแตกต่างอยู่ที่ส่วนผสม เช่น ช็อกโกแลตขาวจะมีส่วนผสมเหมือนดาร์กช็อกโกแลตแต่ใช้เนยโกโก้ลิเคอร์ จึงทำให้มีสีขาวและหวานมาก ในขณะที่ช็อกโกแลตนมจะลดปริมาณโกโก้ลิเคอร์และเติมนมผงลงไป

ประโยชน์และโทษของช็อกโกแลต ในอดีตนักเคมีเคยพบว่าช็อกโกแลตมี เฟนิล ไธลามิน, ธีโอโบรไมน์ และกาเฟอีน ซึ่งสารเหล่านี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตสูง นอกจากนี้ในช็อกโกแลตยังให้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินเอ ดี เค และธาตุเหล็กค่อนข้างสูง หากกินมากเกินไป อาจส่งปัญหาด้านสุขภาพทำให้เป็นโรคต่างๆ ได้เช่น โรคอ้วน ความดันโลหิตสูง

อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้มีการค้นพบสารฟลาโวนอยด์ในช็อกโกแลต หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมจะมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจหรือแม้กระทั่งมะเร็งบางชนิด และยังพบว่ายังมีสรรพคุณช่วยให้คลายเครียด เนื่องจากมีสารไปกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเคมีแห่งความสุขที่ชื่อเอ็นโดรฟินออกมา ช่วยทำให้รู้สึกอารมณ์ดี

ทั้งนี้ ชาวยุโรปส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าทำให้สุขภาพแข็งแรงและมีอายุยืนยาว อีกทั้งยังสามารถช่วยลดไข้รักษาอาการอาหารไม่ย่อยและช่วยให้มีลมหายใจที่หอมสดชื่นอีกด้วย

ทุกวันแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ หรือวันวาเลนไทน์ ชาวยุโรปและอเมริกันนิยมมอบช็อกโกแลตให้แก่กันแทนดอกกุหลาบ
 ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
น้ำคะน้า เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
สุขใจ ในครัว
Compatable 2 2484 กระทู้ล่าสุด 11 มีนาคม 2556 23:30:36
โดย หมีงงในพงหญ้า
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.297 วินาที กับ 34 คำสั่ง

Google visited last this page 16 เมษายน 2567 00:05:37