[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 มีนาคม 2567 19:03:46 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขอบเขตของจักรวาล + ความโง่ของมนุษย์  (อ่าน 2742 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 22 ตุลาคม 2553 15:42:34 »

ขอบเขตจักรวาล+ความโง่ของมนุษย์


ลามะ อ้างอิงข้อความ:
อ้างถึง
ใครโพสต์ต่อ ไปเคี้ยวหญ้า

ผมกำลังจะตอบปัญหาของคุณที่ว่า มีสองอย่างที่ยังหาขอบเขตสิ้นสุดไม่ได้ นั่นคือ
1 ขอบเขตจักรวาล
2 ความโง่ของมนุษย์

บังเอิญ คุณดันโพสต์ข้อความว่า ใครโพสต์ต่อ ไปเคี้ยวหญ้า ผมก็เลยไม่ขอตอบในกระทู้นั้น มาตั้งกระทู้ใหม่ดีกว่า

คำตอบใน 2 คำถามของคุณที่ทิ้งไว้  มันน่าสนใจเป็นที่สุด  ไม่ตอบก็น่าเสียดาย  จริงๆ คำตอบเหล่านั้น มันพัวพันธ์อยู่กับจิตใต้สำนึก หรือภวังค์จิตของคุณและทุกๆสรรพชีวิต


1.ขอบเขตจักรวาล = พระพุทธเจ้าเรียกว่า "ที่สุดแห่งโลก"

ที่สุดแห่งโลก  = ที่สิ้นสุดความคิดปรุงแต่งในจิต เมื่อความคิดปรุงแต่งในจิตมันสิ้นสุด  มันย่อมเป็นอวกาศหรือความว่างเปล่า  พระผู้มีพระภาคตรัสว่า:

"คำว่าที่สุดแห่งโลกนั้น จะถือเอาอากาศโลกหรือจักรวาลโลกเป็นประมาณนั้นมิได้"

"ที่สุดแห่งจักรวาลโลกเบื้องขวางนั้นมีอนันตจักรวาลเป็นเขต นอกอนันตจักรวาลออกไปก็เป็นอากาศว่างๆ อยู่ จึงว่าโดยขวางมีอนันตจักรวาลเป็นที่สุด"

"ที่สุดแห่งจักรวาลโลกเบื้องบนนั้นมีอรูปพรหมเป็นเขต เพราะอรูปพรหม 4 ชั้นนั้น พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นนิพพานพรหมหรือนิพพานโลก นิพพานโลกนี้เป็นที่ไม่สิ้นสุด



ที่สุดแห่งจักรวาลโลกเบื้องบน...นิพพานโลกนี้เป็นที่ไม่สิ้นสุด = จักรวาลไม่มีที่สิ้นสุดนั่นเอง


2. ความโง่ของมนุษย์  = ไม่หยุดความคิดปรุงแต่งในจิต โดยการดับจิตที่คิดปรุงแต่งไปเลย เหลือแต่จิตที่ไม่คิดปรุงแต่ง(นิพพาน) เมื่อไม่ดับจิตที่คิดปรุงแต่งไปเลย = ไม่ยอมวาง(จิตสังขาร)หรือจิตใจคืนไว้แก่โลกตามเดิมเสียก่อน เมื่อไม่วางจิตสังขาร ซึ่งเป็นโทษ(เป็นทุกขังและอนัตตา)  ก็ไม่อาจถึงพระนิพพานได้

พระพุทธเจ้าตรัสว่า "(ถ้าจะเข้าพระ นิพพาน)ต้องวางจิตใจคืนไว้แก่โลกตามเดิมเสียก่อน ถ้าวางไม่ได้เป็นโทษ ไม่อาจถึงพระนิพพานได้" = ต้องละทิ้งจิตวิญญาณที่เป็นนามรูป เพราะจิตวิญญาณที่เป็นนามรูป เป็นจิตสังขาร เป็นของปรุงแต่ง จึงมีอายุจำกัด  แม้ว่าจะเป็นอรูปพรหมสูงสุด ก็มีอายุแค่ 84,000 มหากัปเท่านั้น  เมื่อสิ้นอำนาจของอรูปฌานแล้ว  ท่านผู้นั้นก็ยังต้องมี เกิดแก่เจ็บตาย มีร้ายและดี มีคุณและโทษ มีสุขและทุกข์อยู่ต่อไป

พระพุทธเจ้าตรัสด้วยว่า "โลกุตตรนิพพานนั้นปราศจากวิญญาณ... วิญญาณยังมี ที่ใด ความเกิดแก่เจ็บตายก็มีอยู่ในที่นั้น" = วิญญาณในที่นี้ เกิดจาก จิตสังขาร  ซึ่งเป็นสังขตธาตุ
   
เมื่อละจิตสังขารที่เป็นสังขตธาตุได้  เราจะเข้าสู่วิราคะจิต ได้จิตปภัสสร เป็นจิตหลุดพ้น  องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า "จิตประภัสสร คือ จิตหลุดพ้นจากกิเลส(นิพพาน)"

เอกนิบาตอังคุตตรนิกาย อรรถกถา ภาค ๑ หน้า ๔๕ ข้อ ๕๐

"ปภสฺสรมิทํ ภิกฺขเว จิตฺตํ ตญฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิปฺปมุตฺติ" ความว่า "ภิกษุทั้งหลาย จิตนี้ประภัสสร ก็จิตนั้นแล หลุดพ้นแล้วจากอุปกิเลสทั้งหลายที่จรมา"

จิตที่หลุดพ้นจากกิเลส พระพุทธเจ้าเรียกว่าอะไรครับ?.....นิพพานใช่ไหมครับ

ดังนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า, องค์พระศาสนาแห่งศาสนาพุทธ, เป็นผู้ตรัสเองว่า "จิตประภัสสร คือ จิตหลุดพ้นจากกิเลส หรือ นิพพาน"

= โลกุตตรนิพพานนั้นไม่มีวิญญาณที่เกิดจากจิตสังขารอยู่  แต่โลกุตตรนิพพานมีจิตวิญญาณที่เป็นปภัสสร หรือ จิตหลุดพ้นจากกิเลส(นิพพาน)อยู่


สรุป


ที่สุดแห่งโลก  = ที่สิ้นสุดความคิดปรุงแต่งในจิต เมื่อความคิดปรุงแต่งในจิตมันสิ้นสุด  มันย่อมเป็นอวกาศหรือความว่างเปล่า  จนกว่าจะหมดอำนาจฌานในจิตสังขารของอรูปพรหม เพราะอรูปพรหมไม่ได้ปล่อยวาง และละทิ้งจิตสังขาร ซึ่งเป็นของโลก(จักรวาล)ออกไป

พระพุทธเจ้าเรียก ที่สุดแห่งโลกว่า นิพพานโลก...เป็นที่ไม่สิ้นสุด  มีอรูปพรหมเป็นเขต  ส่วนนิพพานนั่นอยู่ที่ไหน?

"ดูกรอานนท์ นิพฺพานํ นครํ นาม อันชื่อว่าเมืองพระนิพพานย่อมตั้งอยู่ในที่สุดแห่งโลก โลกมีที่สุดเพียงใด พระนิพพานก็ตั้งอยู่ที่สุดเพียงนั้น พระนิพพานเป็นพระมหานครอันใหญ่ เป็นที่บรมสุข หาที่เปรียบมิได้"

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 01 พฤศจิกายน 2553 21:05:52 »

 

หัวเราะลั่น

อุ๊ยยยยยยยยย แมว ๆๆๆๆๆ น่าร๊ากกกกกกกกก

อวาตาร แมว เหมียว ๆๆๆๆๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.249 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 22 มีนาคม 2567 14:03:57