เมื่อปี 2006 พลูโตถูกลดขั้นจาก "ดาวเคราะห์" ไปเป็น "ดาวเคราะห์แคระ" ถือได้ว่าเป็นข่าวใหญ่ที่สุดในวงการดาราศาสตร์ระดับโลก การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่โตขนาดนี้ย่อมมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ไม่ว่าจะอย่างไรสหภาพดาราศาสตร์สากลก็ยังยึดถือชื่อ "ดาวเคราะห์แคระพลูโต" เรื่อยมานับจากนั้น แต่จากข้อมูลใหม่ในปี 2010 นี้ ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยอาจจะมีความหวังที่จะได้เห็น "ดาวเคราะห์พลูโต" กลับมาอีกครั้ง
ย้อนความกลับไปสักหน่อย วันวานอันแสนชื่นที่วงการดาราศาสตร์เชื่อกันว่าระบบสุริยะของเรามีดาวเคราะห์อยู่ 9 ดวงต้องมีอันพังทลายลงหลังจากการค้นพบ Eris ในปี ค.ศ. 2005 ในตอนนั้นนักดาราศาสตร์เชื่อว่า Eris มีขนาดและมวลมากกว่าพลูโตอยู่เล็กน้อย แต่โคจรห่างจากดวงอาทิตย์ถึง 15,000 ล้านกิโลเมตร ไกลกว่าวงโคจรของพลูโตเกือบสองเท่า ความจริงข้อนี้รบกวนจิตใจของนักดาราศาสตร์ผู้อ่อนไหวอย่างไม่อาจจะทานทน เพราะเริ่มเกิดความไม่แน่ใจว่าควรจะนับ Eris เป็นดาวเคราะห์ดีหรือไม่ แล้วถ้าอนาคตเกิดเจออะไรแบบ Eris เพิ่มขึ้นมาอีก เราจะรู้ได้อย่างไรว่าระบบสุริยะของเรามีดาวเคราะห์กี่ดวงกันแน่
ในปี 2006 สหภาพดาราศาสตร์สากล หรือ International Astronomical Union (IAU) จึงประกาศคำนิยามของดาวเคราะห์เสียใหม่ โดยกำหนดให้วัตถุในอวกาศที่จะเป็นดาวเคราะห์ในระบบสุริยะได้ต้อง
- โคจรรอบดวงอาทิตย์เท่านั้น ไม่ใช่โคจรอยู่วงโคจรของดาวเคราะห์หรือวัตถุในอวกาศอื่นที่โคจรรอบดวงอาทิตย์อีกที
- มีขนาดใหญ่พอที่จะคงรูปร่างทรงกลมได้ด้วยแรงโน้มถ่วงของตัวเอง แต่ไม่ใหญ่จนเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันแบบดาวฤกษ์ได้
- มีอาณาบริเวณของวงโคจรแยกออกจากวัตถุในอวกาศอื่นๆ อย่าง "ชัดเจน" (clearing its neighborhood)
ข้อที่สำคัญที่สุดและเป็นที่ถกเถียงกันมากที่สุดคือข้อสาม เนื่องจากพลูโตและดวงจันทร์ของมัน "ชารอน" ล่องลอยและดูเหมือนว่าจะโคจรไปกับวัตถุอื่นๆ ใน Kuiper Belt (กลุ่มวัตถุนำ้แข็งที่โคจรรอบระบบสุริยะ อยู่เลยจากวงโคจรของดาวเนปจูนออกไป) อาณาบริเวณอย่างชัดเจนของพลูโตจึงเป็นที่น่ากังขายิ่งนัก
ดังนั้นตามคำนิยาม นักดาราศาสตร์เลยจัดกลุ่มใหม่ให้พลูโตอยู่ในประเภทที่เรียกว่า "ดาวเคราะห์แคระ" (Dwarf planet) ซึ่งคำว่า "ดาวเคราะห์แคระ" อันนี้ตั้งขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับวัตถุอวกาศที่เกือบได้เป็นดาวเคราะห์แต่ขาดข้อกำหนดข้อสามข้อเดียว และเพื่อความสบายใจ Eris ก็ถูกเหมายกเข่งให้เป็นดาวเคราะห์แคระไปด้วยเลยในคราวเดียวกัน วงการดาราศาสตร์จะได้จบปัญหากวนใจไปตลอดกาล
แน่นอนว่าในตอนนั้นก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมาย หลายคนข้องใจกับคำนิยามนี้มากๆ บางคนก็อ้างว่ามีนักดาราศาสตร์เข้าร่วมโหวตคำนิยามนี้แค่ 5% เอง จะเอามาตัดสินใจแทนนักวิทยาศาสตร์ทั้งโลกได้อย่างไร