[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 พฤษภาคม 2567 03:17:58 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  [1] 2 3 ... 10
 1 
 เมื่อ: 1 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
หวานมาก "ปูไข่-เจี๊ยบ" ฉลองรัก 11 ปี ขอแต่งงานได้อย่างน่ารัก เพื่อนๆ ร่วมยินดี
         


หวานมาก "ปูไข่-เจี๊ยบ" ฉลองรัก 11 ปี ขอแต่งงานได้อย่างน่ารัก เพื่อนๆ ร่วมยินดี" width="100" height="100  เจี๊ยบ ชมพูนุช - ปูไข่ พงศ์สิรี รักมั่นคง 11 ปี ฝ่ายชายเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน เพื่อนๆ ร่วมยินดีล้นหลาม
         

https://www.sanook.com/news/9389842/
         

 2 
 เมื่อ: 4 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
แอร์โอสเตส ไขข้อสงสัย ทำไมต้องนั่งทับมือ ชี้เป็นทริกสำคัญ ช่วยได้ดีถ้ามีเหตุฉุกเฉิน
         


แอร์โอสเตส ไขข้อสงสัย ทำไมต้องนั่งทับมือ ชี้เป็นทริกสำคัญ ช่วยได้ดีถ้ามีเหตุฉุกเฉิน" width="100" height="100  ได้รู้สักที แอร์โฮสเตส เฉลยทำไมลูกเรือต้องนั่งทับมือตัวเอง ตอนเครื่องบินขึ้น-ลง ชี้เป็นทริกความปลอดภัยที่สำคัญ
         

https://www.sanook.com/news/9389846/
         

 3 
 เมื่อ: 7 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
เปิดกล้องหาความจริง ศพตายคาตู้ไฟฟ้าร้างริมถนน เฉลยเข้าไปอยู่ในนั้นได้ยังไง
         


เปิดกล้องหาความจริง ศพตายคาตู้ไฟฟ้าร้างริมถนน เฉลยเข้าไปอยู่ในนั้นได้ยังไง" width="100" height="100  เปิดกล้องหาความจริง ชายนิรนามกลายเป็นศพ ตายคาตู้ไฟฟ้าร้างริมถนน ย้อนภาพไป 3 วัน รู้แล้วเข้าไปอยู่ในนั้นได้ยังไง
         

https://www.sanook.com/news/9389802/
         

 4 
 เมื่อ: 8 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
ธุรกิจเป็นปกติที่ชเวก๊กโก่ กองกำลัง BGF รัฐกะเหรี่ยงปรับตัวภายใต้แรงกดดัน
 


<span>ธุรกิจเป็นปกติที่ชเวก๊กโก่ กองกำลัง BGF รัฐกะเหรี่ยงปรับตัวภายใต้แรงกดดัน</span>
<span><span>user8</span></span>
<span><time datetime="2024-05-23T17:01:31+07:00" title="Thursday, May 23, 2024 - 17:01">Thu, 2024-05-23 - 17:01</time>
</span>

            <div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><p>กองกำลัง BGF รัฐกะเหรี่ยงซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็นกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNA) ภายใต้การนำของ พ.อ.ซอชิดตู่ ที่ประกาศว่าจะตัดขาดตัวเองจากกองทัพพม่าและกำลังพยายามปรับภาพลักษณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนของตัวเองนั้น อย่างไรก็ตามหากพวกเขาจะพึ่งพาตัวเองในด้านงบประมาณ ก็จะยิ่งต้องเก็บภาษีธุรกิจและบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์และการหลอกลวงต้มตุ๋น ซึ่งจะยิ่งทำให้พวกเขาต้องพึ่งพิงธุรกิจผิดกฎหมายเหล่านี้มากขึ้น</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/53574900625_6d183cdef8_b.jpg" width="1024" height="536" loading="lazy"><p class="text-align-center picture-with-caption">ทหารกองกำลัง BGF รัฐกะเหรี่ยง ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง (ที่มา: BNI/แฟ้มภาพ)</p><p>ฟรอนเมียร์เมียนมา เปิดเผยรายงานเดือนเมษายนที่ผ่านมาถึงสถานการณ์ในรัฐกะเหรี่ยงหลังจากกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) รัฐกะเหรี่ยง ของ พ.อ.ซอชิดตู่ เปลี่ยนชื่อเป็นกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNA) เลิกรับคำสั่งจากกองทัพเผด็จการพม่า โดยยกตัวอย่างกรณีของอ้ายก์จ่อ (Aik Kyaw) นักธุรกิจโรงแรมและนักธุรกิจร้านอาหาร เขาก็เป็นเช่นเดียวกับนักธุรกิจรายอื่นๆ ที่ประกอบการอยู่ที่เมืองชเวก๊กโก่ และรู้สึกกังวล เมื่อกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) รัฐกะเหรี่ยง ประชุมฉุกเฉินเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2566</p><p>"พวกเขาไม่ได้บอกล่วงหน้าอะไรมากว่าจะมีการหารือกันเรื่องอะไรในที่ประชุม" อ้ายก์จ่อ กล่าว "พวกเราคิดว่า BGF กำลังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอะไรสักอย่าง เพราะทุกอย่างเป็นการจัดการที่รวดเร็วมาก"</p><p>กองกำลัง BGF รัฐกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ถูกผนวกเข้าไปอยู่ในสายการบัญชาของกองทัพพม่าตั้งแต่ปี 2553 และประสบกับความระส่ำระส่ายจากปฏิบัติการ 1027 ซึ่งเป็นการบุกของกองกำลังพันธมิตรสามภราดรภาพเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยกองกำลังพันธมิตรสามภราดรภาพอันประกอบไปด้วย กองทัพโกก้าง MNDAA กองทัพตะอาง TNLA และกองทัพอาระกัน AA ได้ยึดพื้นที่รัฐฉานตอนเหนือมาจากกองทัพพม่าได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังปราบกองกำลัง BGF กลุ่มโกก้างอีกด้วย</p><p>กองกำลังพันธมิตรสามภราดรภาพได้รับความช่วยเหลือจากจีน และปฏิบัติการโจมตีทางตอนเหนือของรัฐฉานนั้นมีการให้ความชอบธรรมว่าเป็นการปราบปรามอุตสาหกรรมหลอกลวงต้มตุ๋นออนไลน์ที่ขยายตัวจนยากจะควบคุมที่นั่น ในตอนนี้มีความเชื่อที่ว่าศูนย์กลางธุรกิจหลอกลวงต้มตุ๋นออนไลน์ในพม่ามากระจุกตัวอยู่ที่รัฐกะเหรี่ยงมากที่สุด ซึ่งเจ้าของธุรกิจรายใหญ่โดยส่วนมากจะมีความเกี่ยวข้องกับ BGF รัฐกะเหรี่ยง และคู่หูทางธุรกิจของพวกเขาคือบริษัทยาไตอินเตอร์เนชั่นแนลที่เจ้าของเป็นชาวจีนนั้น ปัจจุบันเป็นนักโทษถูกคุมขังในไทย</p><p>ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมหลอกลวงต้มตุ๋นได้อาศัยการบังคับแรงงานคนที่ถูกลักพาตัวค้ามนุษย์ข้ามแดนจากจีนเพื่อให้มาทำการหลอกลวงต้มตุ๋นคนสัญชาติจีนรายอื่นๆ ในพม่านั้นศูนย์รวมการหลอกลวงต้มตุ๋นมักจะมีกลุ่มแก็งอาชญากรจีนเป็นกลุ่มที่ดำเนินการโดยอาศัยความร่วมมือกับกองกำลังติดอาวุธที่ให้การคุ้มครองพวกเขา</p><p>อ้ายก์จ่อ กล่าวถึงการประชุมเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ไว้ว่าเป็นเสมือนการ "เตือนล่วงหน้า" ต่อกลุ่มเจ้าของธุรกิจที่มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมหลอกลวงต้มตุ๋น</p><p>"พวกเขากำลังเตือนคนเหล่านั้นว่าพวกเขาจะทำการปราบปรามในอีกไม่นานนี้" อ้ายก์จ่อ กล่าว นอกจากนี้ยังเสริมด้วยว่า BGF ให้สัญญาว่าจะทำการคุ้มครองพื้นที่จากคนนอกต่อไป ทั้งจากกองทัพพม่าและจากกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์อื่นๆ</p><p>แต่ก็เช่นเดียวกับกรณีอื่นๆ ที่มักจะเกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมการต้มตุ๋น สิ่งที่ตามมากลายเป็นการปรับตัวเสียมากกว่าการปราบปราม แสดงให้เห็นถึงความที่องค์กรอาชญากรรมยังมีความสามารถในการยึดหยุ่นปรับตัวได้ ซึ่งเชื่อว่ากลุ่มเหล่านี้ทำรายได้นับหลายพันล้านต่อปีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้</p><p>แหล่งข่าวจากชเวก๊กโก่กล่าวว่ามีปฏิบัติการบางส่วนที่มีการระงับชั่วคราวหรือมีการย้ายที่เกิดขึ้นจริง แต่จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามันก็กลับมาเปิดเหมือนเดิม ในขณะเดียวกัน การตัดสินใจเมื่อช่วงไม่นานนี้ของ BGF ที่จะแยกตัวจากกองทัพพม่าก็หมายความว่าพวกเขาจะต้องพึ่งพาตัวเองในทางการเงิน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ในรูปแบบของการเก็บภาษีธุรกิจและบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์และการหลอกลวงต้มตุ๋น ซึ่งจะทำให้พวกเขาต้องพึ่งพิงอุตสาหกรรมผิดกฎหมายเหล่านี้มากขึ้น</p><h2>สถานการณ์ที่เปลี่ยนไป</h2><img src="https://live.staticflickr.com/65535/52934830020_2ebe44e09d_k.jpg" width="2047" height="1071" alt="ชเวก๊กโก่" loading="lazy"><p class="text-align-center picture-with-caption">เมืองใหม่ชเวก๊กโก่ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ภาพถ่ายเมื่อปี 2566 (ที่มา: แฟ้มภาพ/ประชาไท)</p><p>เดือนมกราคมที่ผ่านมา กลุ่ม BGF ประกาศว่าจะตัดสายสัมพันธ์กับกองทัพพม่า ทั้งจะไม่รับเงินเดือนจากกองทัพหรือนำทัพสู้รบในรัฐกะเหรี่ยงอีกต่อไป แต่อ้ายก์จ่อ ก็บอกว่าเจ้าของธุรกิจในพื้นที่ทราบเรื่องนี้จาก BGF มาตั้งแต่เดือนธันวาคมแล้ว ไม่นานนักหลังจากที่มีการประชุมฉุกเฉิน</p><p>แหล่งข่าวจาก BGF ที่ไม่ประสงค์เปิดเผยนามบอกกับฟรอนเทียร์เมียนมาด้วยว่ารัฐบาลทหารพม่าพยายามอย่างอุตลุตที่จะส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงไปเจรจาต่อรอง ได้แก่ หม่องหม่องโอน (Maung Maung Ohn) รัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศและโซมยิ้นต์อู (Soe Myint Oo) ประธานสภาบริหารรัฐกะเหรี่ยง ได้เข้าพบ พ.อ.ซอว์ชิตตู่ ผู้นำ BGF ที่เมืองพะอัน เมืองหลวงของรัฐกะเหรี่ยง เมื่อวันที่ 11 และ 18 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้กลุ่ม BGF ยังอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของกองทัพพม่า</p><p>“หม่องหม่องโอน ผู้เป็นเพื่อนที่ดีกับ ซอว์ชิตตู่ได้ถามว่ามีอะไรเกิดขึ้นในความสัมพันธ์ของพวกเรากับกองทัพพม่าหรือเปล่า แต่ ซอว์ชิตตู่ยังยืนกรานว่า BGF รัฐกะเหรี่ยงไม่ได้ปฏิบัติการภายใต้การบังคับบัญชาของกองทัพพม่าอีกต่อไปแล้ว และจะตั้งตนเป็นอิสระ" แหล่งข่าวจาก BGF กล่าว</p><p>จากนั้น พล.อ.อาวุโส โซวิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้บินไปเมืองพะอันด้วยเฮลิคอปเตอร์ทหารเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา โดยโซวินได้เรียกร้องให้ BGF ยังรับเงินเดือนจากรัฐบาลทหารพม่าต่อไปและให้ปฏิบัติการรบต่อไปในรัฐกะเหรี่ยง นอกจากนี้ยังขอให้ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการพนันผิดกฎหมายหรือสแกมเมอร์ด้วย โดยขอให้รัฐบาลทหารพม่าสามารถเข้าถึงและตรวจสอบชเวก๊กโก่ และพื้นที่อื่นๆ ของเมียวดีได้ถ้าหากมีการร้องขอ และนอกจากนี้ยังขอให้กองทัพพม่ามีบทบาทนำในการปกป้องชเวก๊กโก่หากตกอยู่ภายใต้การโจมตีแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นในภูมิภาคโกก้าง</p><p>ข้อเสนอสุดท้ายอาจจะทำให้ BGF รัฐกะเหรี่ยงตกใจมากกว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้พวกเขา เมื่อพิจารณาเรื่องที่กองทัพพม่าเคยส่งตัวเหล่าผู้นำโกก้างที่เป็นที่ต้องการตัวให้กับจีนหลังจากมีปฏิบัติการ 1027 ทำให้ถึงที่สุดก็ไม่มีข้อตกลงอะไรกัน และ พ.อ.ซอว์ชิตตู่ ก็ยิ่งตอกย้ำในเรื่องความเป็นอิสระของ BGF มากกว่าเดิม</p><p>แหล่งข่าวบอกว่า "โดยหลักๆ แล้ว เหล่าผู้นำของพวกเราไม่สามารถเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของกองทัพพม่า ที่จะนำไปสู่การสู้รบกับกลุ่มกะเหรี่ยงกลุ่มอื่นๆ ได้ หรือไม่ก็จะกลายเป็นการอนุญาตให้กองทัพพม่าเข้ามาตรวจตรากาสิโนชายแดนเมื่อไหร่ก็ได้ที่พวกเขาต้องการ ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ BGF อาจจะถือว่าไม่ได้มีอยู่เลยก็ได้ ... ทหารกะเหรี่ยง BGF ระดับปฏิบัติการต่างก็เบื่อหน่ายกับการสู้รบกับกองกำลังกะเหรี่ยงกลุ่มอื่น"</p><p>นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรื่องการต้มตุ๋นและธุรกิจการพนันผิดกฎหมายกลายเป็นเป็นอุปสรรคขวางกั้นผลประโยชน์ของสองฝ่ายระหว่าง BGF และกองทัพพม่า</p><p>ก่อนหน้านี้ในปี 2563 หลังจากที่รัฐบาลพลเรือนพรรค NLD ประกาศว่าจะสืบสวนเรื่องชเวก๊กโก่ กองทัพพม่าก็ขอให้เหล่าผู้นำ BGF ยุติการมีบทบาทเกี่ยวข้องกับธุรกิจการพนันผิดกฎหมายหรือไม่เช่นนั้นก็ลาออก แต่เมื่อกองทัพพม่ารัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 กลุ่มติดอาวุธที่เก่าแก่ที่สุดในพม่าคือสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) ก็เริ่มฝึกซ้อมและติดอาวุธให้กับฝ่ายต่อต้านเผด็จการ ส่วนรัฐบาลทหารพม่าที่เพิ่งจะขึ้นสู่อำนาจก็ถอนข้อเรียกร้อง และอนุญาตให้ BGF ยังคงเป็นผู้ควบคุมธุรกิจผิดกฎหมายในชเวก๊กโก่เพื่อแลกกับการสนับสนุนในสงครามกลางเมือง</p><p>อย่างไรก็ตามในคราวนี้ รัฐบาลทหารพม่ากลับพบว่าตัวเองกำลังโดดเดี่ยว ในช่วงเวลาที่กะเหรี่ยงกลุ่มต่างๆ ที่เคยบาดหมางกันอาจจะเริ่มกลับมารวมกลุ่มกันได้ โดย พ.ต.หน่ายหม่องซอว์ (Naing Maung Zaw) โฆษกของ BGF ยืนยันกับฟรอนเทียร์เมียนมาเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ว่ากลุ่ม BGF รัฐกะเหรี่ยงจะแยกตัวออกจากกองทัพพม่าและเปลี่ยนภาพลักษณ์ตัวเองใหม่เป็นกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNA)</p><p>พ.ต.หน่ายหม่องซอว์กล่าวว่า "ผู้บัญชาการ BGF ทุกคนเห็นตรงกันและพวกเราก็กำลังแจ้งอย่างเป็นทางการต่อหน่วยขึ้นตรง ทุกหน่วย พวกเราในตอนนี้กำลังยกเลิกอาร์มที่แขนแบบเดิมแล้วเปลี่ยนเป็นแบบใหม่ด้วย ในบางหน่วยนั้นได้มีการเปลี่ยนอาร์มสัญลักษณ์เรียบร้อยแล้ว"</p><p>แต่ที่แตกต่างไปจากอดีตกองกำลัง BGF ในรัฐกะเรนนี ที่หลังจากแปรพักต์ก็กลับมาช่วยฝ่ายต่อต้านในการยึดแม่แจ๊ะ เมืองชายแดนตรงข้าม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน แต่กลุ่ม KNA บอกว่าพวกเขาจะไม่ไปสู้กับกองทัพพม่า</p><p>"เป้าหมายของ KNA ที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาใหม่นี้ ก็เพื่อที่จะเน้นเรื่องเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาคของพวกเรา พวกเราจะไม่บุกโจมตีรัฐบาลทหารพม่า SAC อย่างไรก็ตาม ถ้าหากรัฐบาลทหารพม่าโจมตีพวกเราก่อน พวกเราก็จะไม่นิ่งดูดาย" พ.ต.หน่ายหม่องซอว์ กล่าว</p><p>เจ้าหน้าที่ BGF ผู้ไม่ประสงค์ออกนามยืนยันว่ากลุ่มของพวกเขาได้ถอนกำลังออกจากค่ายทหารในเขตของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง KNU เมื่อสัปดาห์สุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ และความร่วมมือกับกองทัพพม่าก็สิ้นสุดลง เขาบอกว่าการตัดสินใจแยกตัวของ พ.อ.ซอว์ชิตตู่ เกิดขึ้นหลังปรึกษาหารืออย่างไม่เป็นทางการกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงรายอื่นๆ และนั่นก็เป็นการตัดสินใจที่ได้รับการหนุนหลังในหมู่ทหารชั้นผู้น้อยของกองกำลัง BGF</p><p>"พวกเราทุกคนสนับสนุนการตัดสินใจนี้ พวกเราอยู่ในตำแหน่งที่จะต้องยืนหยัดอยู่ในเขตแดนตัวเองให้ได้ด้วยกำลังพลของพวกเราเอง ดังนั้นแล้วมันจึงไม่มีเหตุผลที่ต้องเป็นแค่ส่วนย่อยส่วนหนึ่งของกองทัพพม่า" เจ้าหน้าที่ BGF กล่าว
ถึงแม้ว่าการถอนกำลังจากเขตแดนของ KNU จะเป็นอาจจะเป็นหนึ่งในข้อได้เปรียบอย่างใหญ่หลวงสำหรับกลุ่มต่อต้านเผด็จการ เนื่องจากเป็นการเปิดทางให้ KNU และพันธมิตรเน้นเป้าหมายอื่นได้ หลายวันก่อนหน้านี้ ก็มีรายงานออกมาว่ากองกำลังแนวร่วมฝ่ายต่อต้านได้ยึดฐานที่มั่นใหญ่ๆ ของกองทัพพม่าที่อยู่ใกล้เมืองเมียวดีเอาไว้ได้ (หมายเหตุ: ในเวลาต่อมาทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงและฝ่ายต่อต้านได้ถอนการปิดล้อมทหารพม่ากองพัน 275 และถอนกำลังออกไปจากสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2)</p><h2>แสวงหาเงินทุน</h2><img src="https://live.staticflickr.com/65535/53644516890_300d51446a_k.jpg" width="2048" height="1536" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ประชาชนจากฝั่งเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง รอข้ามแดนในช่วงเช้าวันที่ 10 เม.ย. 67 ในช่วงที่ทหารกะเหรี่ยง KNLA และฝ่ายต่อต้านบุกโจมตีทหารพม่ากองพัน 275 ใกล้ตัวเมืองเมียวดี โดยจนขณะนี้ทหารกะเหรี่ยง BGF หรือ KNA กลุ่มพ.อ.ซอว์ชิตตู่ ยังคงควบคุมตัวเมืองเมียวดี (ที่มา: นักข่าวพลเมือง)</p><p>แต่การแยกตัวออกจากกองทัพพม่าก็หมายความว่ากลุ่มผู้นำ BGF รัฐกะเหรี่ยงจะต้องหาหนทางอื่นในการมีงบประมาณจ่ายเงินเดือนให้กับกองทัพของตัวเอง ซึ่งคิดเป็นเงินประมาณ 7,000 บาทต่อเดือน สำหรับกำลังพล 4,000 นาย รวมถึงเรื่องการหาเสบียงอาหารด้วย</p><p>กลุ่มคนงานและนักธุรกิจในท้องถิ่นบอกว่า เพื่อที่ BGF จะสามารถจุนเจือค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ ทาง BGF ได้เริ่มเก็บภาษีมากขึ้นจากลูกจ้างรายคนในชเวก๊กโก่ เป็นการเก็บเพิ่มเติมจากเดิมที่มีการเก็บภาษีธุรกิจร้อยละ 10 อยู่แล้ว ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาบริษัท Yatai ซึ่งเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจรายหลักของ BGF ก็บอกว่าลูกจ้างของพวกเขาจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 8,890 บาท 1 ครั้ง แล้วตามด้วยภาษีทั่วไป 1,000 บาทต่อเดือน</p><p>โกเต็ด ผู้ที่มีรายได้ 45,000 บาทต่อเดือนจากการทำงานให้กับบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Yatai ซึ่งทำการหลอกลวงต้นตุ๋นและการพนันออนไลน์ กล่าวว่า "มันไม่ได้มีการเขียนไว้ในแถลงการณ์ แต่พวกเราก็ถูกบอกในที่ทำงานว่าเงินพวกนี้จะส่งให้กับ BGF"</p><p>โกเต็ด บอกว่าอุตสาหกรรมสแกมเมอร์ในชเวก๊กโก่มีการปรับตัวนับตั้งแต่มีปฏิบัติการ 1027 เขาบอกว่าลูกจ้างใหม่จะถูก "พิจารณา" หนักขึ้น รวมถึงการลงนามในสัญญาจ้างว่าจะต้องไม่โพสต์รูปใดๆ ในโซเชียลมีเดีย และถูกบอกว่าให้แสดงตัวเหมือนกับคนที่ทำงานให้กับบริษัทการพนัน ไม่ใช่บริษัทสแกมเมอร์</p><p>การแยกแยะระหว่างพนันออนไลน์กับสแกมเมอร์ก็ยังมีความคลุมเครือ หนึ่งในรูปแบบการหลอกลวงต้มตุ๋นคือการล่อลวงให้เหยื่อมาเล่นพนันในรูปแบบการพนันออนไลน์ ซึ่งผลที่ออกมาจะไม่ได้เป็นแบบสุ่มอย่างแท้จริง แต่จะมีการล็อกผลเอาไว้แล้วโดยอาศัยระบบการเรียงข้อมูลที่เรียกว่าอัลกอริทึม บางครั้งพวกเขาก็จะชนะได้เงินเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็จะล่อลวงให้มีการลงพนันต่อไปจนกว่าพวกเขาจะเสียในจำนวนที่มากกว่า</p><p>โกเต็ดยังบอกอีกว่ามีเรื่องการละเมิดสิทธิที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในแหล่งพนันชเวก๊กโก่ที่เขามีความคุ้นเคยด้วย เช่นเรื่องการล่วงละเมิดทางร่างกายต่อคนงาน การบังคับให้ทำงานล่วงเวลา หรืองดให้อาหารคนงาน</p><p>"ผมสังเกตว่ามันเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว" โกเต็ดกล่าว ซึ่งตรงกับช่วงที่พันธมิตรสามภราดรภาพเปิดปฏิบัติการ 1027 และภายหลังจากการประชุมฉุกเฉินของ BGF</p><p>แต่จากคำให้สัมภาษณ์เมื่อไม่นานนี้จากกลุ่มชาวอูกันดาผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวจากศูนย์กลางสแกมเมอร์แห่งหนึ่งในรัฐกะเหรี่ยง ที่ดำเนินงานโดยกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่าย เขาพูดถึงสภาพการทำงานว่า "เสมือนทาส" โดยถูกใช้งาน 17 ชั่วโมงต่อวันและมีการงดให้อาหาร</p><p>เจสัน ทาวเวอร์ ผู้อำนวยการพม่าของสถาบันสันติภาพสหรัฐอเมริกา (USIP) กล่าวว่า ศูนย์การหลอกลวงต้มตุ๋นในพื้นที่นี้เป็น "ความพยายามที่เพิ่มมากขึ้นในการปกปิดการก่ออาชญากรรมของพวกเขา"</p><p>ทาวเวอร์บอกว่าในเดือนธันวาคม 2566 บริษัท Yatai ได้ ออกประกาศต่อสาธารณะว่าพวกเขาจะไม่อนุญาตให้มีอุปกรณ์ทารุณกรรม เช่น เครื่องช็อตไฟฟ้า, กุญแจมือ และมีดที่ผิดกฎหมายในพื้นที่อีกต่อไป</p><p>"ในขณะเดียวกัน ก็มีการออกหลักปฏิบัติที่เข้มงวดมากขึ้นในสถานที่ทำการเพื่อป้องกันไม่ให้แรงงานทาสไซเบอร์สามารถติดต่อกับกลุ่มองค์กรให้ความช่วยเหลือได้ และเพื่อป้องปรามพวกเขาและครอบครัวของพวกเขาไม่ให้ไปหาตำรวจได้ เรื่องนี้รวมถึงการสอดแนมกิจกรรมออนไลน์ที่เข้มงวดขึ้นในสถานที่ รวมถึงเพิ่มการรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่" ทาวเวอร์กล่าว</p><p>เจคอบ ซิมส์ ผู้เชี่ยวชาญอิสระที่ทำการสืบสวนสอบสวนอุตสาหกรรมการหลอกลวงต้มตุ๋นบอกว่า ถึงแม้จะมีการสร้างภาพลักษณ์เหล่านี้ แต่เขาก็เห็นว่ายังไม่น่าจะมีการเปลี่ยนทิศทางจากการกดขี่ภายในสถานทำการธุรกิจหลอกลวงต้มตุ๋น</p><p>"ถ้าพูดโดยทั่วไปเลยคือ ความรุนแรงในพม่ามีความเลวร้ายมากเป็นพิเศษ และจากแหล่งข่าวของผม ผมไม่ได้เห็นหลักฐานใดๆ เรื่องความเปลี่ยนแปลงภายในเขตแดนของ BGF หรือที่อื่นๆ ที่มีอุตสาหกรรมหลอกลวงต้มตุ๋นยังคงมีอยู่ในระดับนี้" ซิมส์กล่าว</p><p>แต่ซิมส์ก็บอกว่าความเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปฏิบัติการ 1207 คือ การเปลี่ยนแปลงจากการใช้เหยื่อที่เป็นคนพูดภาษาจีนกลางในการหลอกลวงต้มตุ๋นและเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่พอใจจากทางการจีน</p><p>"ด้วยสาเหตุที่ว่านี้เอง ทำให้ทั้งในเมียวดีและในกัมพูขา พวกเราจะเห็นเหยื่อที่พูดภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก" ซิมส์กล่าว</p><p>ทาวเวอร์กล่าวว่า ถึงแม้ว่าการปรับภาพลักษณ์ของกลุ่ม BGF มาเป็น KNA จะดูเป็นแค่การสร้างภาพในระดับผิวเผินมากกว่าที่เห็น แต่กลุ่ม BGF รัฐกะเหรี่ยงก็ได้ส่ง "สัญญาณทั้งเชิงบวกและเชิงลบผสมกันในเรื่องความเกี่ยวข้องกับกองทัพพม่า"</p><p>"จุดยืนแบบนี้เป็นสิ่งที่ช่วยกองทัพพม่าได้ เพราะมันทำให้กองทัพพม่าสามารถอ้างได้ว่าแก๊งหลอกลวงต้มตุ๋นอยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเขา ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นเรื่องที่ดีต่อ BGF ในการป้องกันไม่ให้เกิดการปราบปรามในแบบเดียวกับปฏิบัติการ 1027 ที่มีผู้นำปฏิบัติการเป็นองค์กรติดอาวุธชาติพันธุ์กลุ่มอื่นๆ ในพื้นที่" ทาวเวอร์กล่าว</p><h2>แบบแผนของการย้ายถิ่น</h2><p>ซิมส์กล่าวว่ามันยังมีการเปลี่ยนแปลงเชิงกายภาพจากทางตอนเหนือของพม่าด้วยหลังจากที่มีปฏิบัติการ 1027
"อย่างไรก็ตาม มันก็ยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเน้นย้ำว่า การพลัดถิ่นในเชิงภูมิศาสตร์นั้นเกิดขึ้นแทบจะแค่เฉพาะที่ๆ มีอุตสาหกรรมสแกมเมอร์ฝังรากอยู่อย่างไม่มีอะไรมาขัดขวางอยู่แล้วเท่านั้น" ซิมส์กล่าว เขาหมายถึงเมืองเมียวดีและกัมพูชา</p><p>โกเต็ดยืนยันด้วยว่า มีคนงานจำนวนมากจากแหล่งการพนันผิดกฎหมายและสแกมเมอร์ฐานในพื้นที่รัฐฉานตอนเหนือ ได้ย้ายมาที่ชเวก๊กโก่ ภายหลังปฏิบัติการ 1027 ในขณะที่คนอื่นๆ มาจากพื้นที่ตอนในของพม่า หลังมีประกาศกฎหมายการเกณฑ์ทหารฉบับใหม่</p><p>มีคนหนุ่มจำนวนมากที่อายุระหว่าง 18 และ 35 ปี ต้องหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านหรือเข้าไปในพื้นที่ของฝ่ายต่อต้านเพื่อหลบหนีจากการเกณฑ์ทหาร แต่มีบางคนที่ไม่สามารถหนีไปในที่เหล่านี้ได้ จึงเข้ามาที่ชายแดนเพื่อทำงาน</p><p>"บริษัทของพวกเรามีคนงานจ้างเข้ามาใหม่ที่เป็นคนหนุ่มสาวมากกว่า 50 คน ด้วยอัตราการจ้างในระดับนี้ BGF จะทำเงินได้จำนวนมากจากการเก็บภาษีคนงานหน้าใหม่" โกเต็ดกล่าว</p><p>"พวกเราตรวจคัดกรองคนทุกคนที่เข้ามาเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาสามารถทำงานได้จริง" หน่ายหม่องซอว์จากกลุ่ม BGF กล่าว "พวกเราจะรักษาการเติบโตของทรัพยากรมนุษย์เพื่อช่วยให้มีการพัฒนาชเวก๊กโก่"</p><p>มีความพยายามที่เห็นได้ชัดเจนว่าพยายามเอาใจจีนแผ่นดินใหญ่ โดยทาง BGF ได้ส่งตัวชาวต่างชาติมากกว่า 997 ราย ที่ทำงานในศูนย์สแกมเมอร์เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์และต้นเดือนมีนาคม ถึงแม้ว่ามันจะไม่ชัดเจนว่ามีพวกหัวหน้าแก๊งรวมอยู่ในนั้นด้วยหรือไม่ หรือเป็นแค่การส่งตัวเหยื่อค้ามนุษย์ไปเฉยๆ</p><p>"ในฐานะรัฐผู้รับ ประเทศไทยได้รับคนเหล่านี้ไว้ชั่วคราว จากนั้นถึงได้ส่งตัวต่อไปที่จีน พวกเขาส่วนใหญ่เป็นพลเมืองชาวจีน" หน่ายหม่องซอว์ กล่าว</p><p>เจ้าหน้าที่ BGF ผู้ไม่ประสงค์ออกนามเปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะมีการแลกเปลี่ยนไม่นานนี้ ผู้แทนระดับสูงของ BGF ได้พบปะกับเจ้าหน้าที่ทางการจีนในไทย</p><p>ในเดือนกุมภาพันธ์ อ้ายก์จ่อ กล่าวว่าอุตสาหกรรมกาสิโนซบเซาลงจากผลพวงที่เกิดขึ้นโดยทันทีจากปฏิบัติการ 1027 แต่ในตอนนี้ก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง</p><p>"ผู้คนกลับมา ธุรกิจก็กลับมาเปิดตามปกติ อย่างไรก็ตาม BGF ได้บอกพวกเราไว้ว่ามันเป็นแค่ธุรกิจการพนันออนไลน์เท่านั้น ไม่มีสแกมเมอร์ออนไลน์ แต่พวกเราไม่สามารถเยี่ยมชมหรือตรวจตราธุรกิจเหล่านี้ได้ ดังนั้นแล้วเราจึงรู้แค่สิ่งที่พวกเขาบอกเรา" อ้ายก์จ่อกล่าว</p><p><strong>เรียบเรียงจาก</strong></p><p>‘Business is back’: BGF adapts under pressure, Frontier Myanmar, 08-04-2024</p></div>
      <div class="node-taxonomy-container">
    <ul class="taxonomy-terms">
          <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9" hreflang="th">รายงานพิเศhttp://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88" hreflang="th">เศรษฐกิhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8" hreflang="th">ต่างประเทhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%87" hreflang="th">ความมั่นคhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87" hreflang="th">รัฐกะเหรี่ยhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2" hreflang="th">พม่http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C" hreflang="th">สแกมเมอรhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%99" hreflang="th">การพนัhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%99" hreflang="th">กองกำลังพิทักษ์ชายแดhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87" hreflang="th">กองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยhttp://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%B5" hreflang="th">เมียวดhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%8A%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B9%88" hreflang="th">ชเวก๊กโกhttps://prachataistore.net</div>
     
 

http://prachatai.com/journal/2024/05/109318
 

 5 
 เมื่อ: 9 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย Kimleng - กระทู้ล่าสุด โดย Kimleng

เย็นตาโฟทะเลแห้ง สั่งรับประทานที่จังหวัดระยอง ใส่กุ้งสด ลูกชิ้นปลา ปูอัด
ความแปลกอยู่ตรงที่ใส่ถั่วลิสงคั่วบดหยาบมาให้ด้วย



เย็นตาโฟแห้ง มีน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวใส่ถ้วยมาให้ซดคล่องคอ

เย็นตาโฟแห้ง

   เย็นตาโฟ มีความแตกต่างจากก๋วยเตี้ยวทั่วไป ตรงที่ใส่น้ำซอสสีแดง ซึ่งได้จากการนำซอสพริก ซอสมะเขือเทศ
พริกขี้หนูสดสีแดง เต้าหู้ยี้ น้ำกระเทียมดอง และน้ำตาลทราย มาปั่นจนละเอียด ซึ่งจะให้รสชาติกลมกล่อม กลิ่นหอม
เครื่องเย็นตาโฟจะมีผักบุ้งไทยหั่นชิ้นเล็กลวกพอสุก  ลูกชิ้นปลา ปลาหมึกกรอบ แมงกระพรุน เลือดหมูต้ม เต้าหู้ทอด
ปลาเส้นหั่นบาง เกี๊ยวทอดกรอบ  

 6 
 เมื่อ: 9 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
"จูน นาตาชา" เข้าพิธีรับใบประกาศนียบัตร พัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพบก รุ่นที่ 30
         


&quot;จูน นาตาชา&quot; เข้าพิธีรับใบประกาศนียบัตร พัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพบก รุ่นที่ 30" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;จูน นาตาชา เข้าพิธีรับใบประกาศนียบัตรจบหลักสูตร พัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพบก รุ่นที่ 30 พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือประเทศชาติ เป็นปีที่ 10
         

https://www.sanook.com/news/9389754/
         

 7 
 เมื่อ: 12 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
"ปราง" ปล่อยคลิปหวาน ขอบคุณ "โอบ" คอมเมนต์ฝ่ายชายทำคนโสดตายเรียบเลย
         


&quot;ปราง&quot; ปล่อยคลิปหวาน ขอบคุณ &quot;โอบ&quot; คอมเมนต์ฝ่ายชายทำคนโสดตายเรียบเลย" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;หูยยยย ปราง-โอบ ผลัดกันซบ แคปชั่นฝ่ายหญิงว่าหวานแล้ว แต่เจอฝ่ายชายตอบกลับทำกรี๊ดสลบแทนเลยจ้า
         

https://www.sanook.com/news/9389582/
         

 8 
 เมื่อ: 12 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย ใบบุญ - กระทู้ล่าสุด โดย ใบบุญ


Amazon ป่ามหัศจรรย์


ลักษณะทั่วไปทางภูมิศาสตร์
          แอมะซอน (Amazon) ป่ามหัศจรรย์ของโลกก็เนื่องมาจากลักษณะสำคัญต่าง ๆ อย่างมากมาย เช่น ความหลากหลายทางชีวภาพ ขนาดพื้นที่และอีกมากมาย นับเป็นป่าที่ถูกยกให้เป็นป่าลึกลับและเป็นปอดของโลก อันเนื่องมาจากเป็นป่าดิบชื้นเขตร้อนที่มีพื้นที่กว้างใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในโลก โดยมีอาณาเขตพื้นที่ประมาณ 5.5 ล้านตารางกิโลเมตร กินพื้นที่ประมาณ 9 ประเทศในทวีปอเมริกาใต้ คือ บราซิล เปรู โคลอมเบีย เวเนซุเอลา เอกวาดอร์ โบลิเวีย กายอานา ซูรินาม และเฟรนช์เกียนา โดย 60% ตั้งอยู่ในประเทศบราซิล และมีแม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกไหลผ่าน คือ แม่น้ำแอมะซอน  ทิศตะวันตกของป่าคือภูเขาแอนดีส ส่วนทิศตะวันตกคือมหาสมุทรแอตแลนติก มีปริมาณน้ำตลอดปี เนื่องจากมีลักษณะพื้นที่เป็นแอ่งขนาดใหญ่รวมถึงแม่น้ำใต้ดินที่ชื่อว่า แม่น้ำริโอแฮมซ่า ที่มี

พืชและสัตว์หลากหลายสายพันธุ์
          ป่าแห่งนี้เป็นป่าที่ถือว่ามีระบบนิเวศที่สมบูรณ์สุดในตอนนี้ แหล่งรวมพืชพันธุ์นานาชนิด ทั้งชนิดที่หายากและชนิดที่ยังรอการสำรวจและค้นพบอีกมากมาย  จากข้อมูลการสำรวจและประมาณการของนักสำรวจ กล่าวว่า พบต้นไม้ประมาณ 390 พันล้านต้นและมีพันธุ์ไม้ประมาณ 16,000 ชนิด  พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยป่าทึบ ต้นไม้สูงใหญ่จะมีใบขึ้นในส่วนที่สูงที่สุดของลำต้น ทำให้แสงอาทิตย์ไม่สามารถสอดส่องไปยังพื้นดินได้ ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เพียง 1% เท่านั้น  ดินในผืนแห่งนี้จะมีลักษณะไม่หน่าแน่น ทำให้ต้นไม้ต้องหยั่งลึกรากลึกลงไปกินรัศมีในวงกว้าง

          พืชพรรณหายากสามารถหาได้จากผืนป่าแห่งนี้ เช่น ต้นไม้ระเบิด ที่เป็นต้นไม้ที่มีการขยายพันธุ์ที่โดยการระเบิดตัวเองกลายเป็นเม็ดพันธุ์ โดยสามารถขยายพันธุ์ด้วยแรงระเบิดไปได้ไกลถึง 150 ฟุต

          สัตว์ป่าหายากก็สามารถพบได้ที่ป่าแอมะซอนได้เช่นเดียวกัน ตัวอย่างสัตว์ที่พบในป่านี้เท่านั้นก็อย่างเช่น เคเมนหรือไคเมน สีขาว (Caiman) ซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานกลุ่มเดียวกับจระเข้

          ในป่าแห่งนี้จึงขึ้นชื่อว่าเป็นป่าที่รวบรวมสัตว์ดุร้าย รวมถึงมีพิษมากที่สุดในโลก เช่น มดหัวกระสุน ชื่อก็บอกถึงความเจ็บปวดราวกับถูกกระสุนปืนยิงได้เลย โดยความเจ็บนี้อาจเทียบได้ 30 เท่าเมื่อเทียบกับการถูกผึ้งต่อย  เสือจากัวร์ ที่มีความดุร้ายรุนแรงจนสามารถทำกะโหลกของสัตว์ที่เป็นเหยื่อแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ได้ในพริบตา นอกจากนี้ยังมีสัตว์อื่น ๆ อีกมากมายเช่น กบลูกศรพิษ ที่มีความสวยงามแต่มีพิษร้ายแรง รวมไปถึงสัตว์น่ากลัวที่เรารู้จักกันดีอย่าง อนาคอนด้างูยักษ์ และปลาที่ดุร้ายที่สุดอย่างปลาปิรันยา

แม่น้ำสายสำคัญ
          ป่าแอมะซอนมีแม่น้ำสำคัญหลายสายไหลผ่าน เช่น แม่น้ำแอมะซอน ซึ่งถือเป็นแม่น้ำที่มีความยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมีความยาวประมาณ 4,100 ไมล์ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนและสัตว์ป่าในกลุ่มลุ่มแม่น้ำแอมะซอน

กลุ่มชาติพันธุ์
         จากข้อมูลนักสำรวจ ได้รายงานว่า ป่าแอมะซอนเป็นบ้านเกิดของกลุ่มคน 300 กลุ่ม รวมถึงยังมีหลายชนเผ่า ที่คงยังเป็นชนเผ่าที่ปิดตัวเองจากโลกภายนอก ไม่ติดต่อและรับคนต่างถิ่นเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด




ภาพชนเผ่า - ที่มา https://pixabay.com/ , eismannhans

จะเห็นได้ว่าเป็นป่าที่มีความมหัศจรรย์และมีความสวยงามจากธรรมชาติเป็นอย่างมาก  ทำให้แอมะซอนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจจากคนทั่วโลกจากหลาย ๆ กลุ่ม เช่น นักสำรวจ นักธรณีวิทยา นักวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงนักท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากยอมจ่ายเงินให้กับไกด์ท้องถิ่น เพื่อเดินทางไปสัมผัสพืชพรรณหายากและสัตว์ป่าหายากเหล่านี้ แต่ที่เป็นเรื่องที่ไม่น่ายินดีก็คือ การบุกรุกและการรุกล้ำอาณาเขตจากกลุ่มนักลงทุนและแสวงหาผลประโยชน์จากธรรมชาติ ก็มุ่งหวังเข้าไปที่ผืนป่าแห่งนี้เช่นกัน

          ป่าแอมะซอนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีรายงานบันทึก ทุกปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปมากกว่า 700 ล้านคน ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานและสร้างรายได้ให้แก่ชาวบ้านในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี และด้วยความที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และเริ่มมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเริ่มสนใจพื้นที่ป่าแห่งนี้เป็นจำนวนมาก ก็เลยทำให้พื้นที่ป่าแห่งนี้กลายเป็นที่หมายตาของนักลงทุนและแสวงหาผลประโยชน์

          เมื่อนักท่องเที่ยวเริ่มสนใจเข้าพื้นที่ป่า การบุกรุกเพื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างก็เริ่มเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เข้าไปยังป่าแห่งนี้ และนั่นจึงเป็นที่มาของการตัดไม้ทำลายพื้นที่ป่านั่นเอง มีรายงานว่า ในช่วง 50-60 ปีที่ผ่านมา มีการทำลายป่าไปถึง 17% - 20 % ของพื้นที่ป่าทั้งหมด และมีการปลุกคืนพื้นที่เพียง 3 % เท่านั้น ซึ่งเทียบไม่ได้กันเลยกับความเสียหายทั้งหมด

          กลุ่มนักวิจัยที่ชื่อว่า Global Forest Watch ในมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ (University of Merryland) ได้รายงานว่า ในปี 2018 กิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์เป็นเหตุให้เกิดการสูญเสียพื้นป่าหลายแห่งในโลก รวมไปถึง ป่าแอมะซอนแห่งนี้

          เมื่อไม่กี่ปีมานี้ นายทุนแสวงหากำไรได้จัดตั้งโครงการสำรวจ-ขุดเจาะน้ำมัน ในบริเวณที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองแอมะซอน แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ว่า ชนเผ่าพื้นเมืองแอมะซอนชนะคดีพิพาทนี้ โดยศาลระบุว่าชาวพื้นเมืองวาโอรานี่มีสิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญของเอกวาดอร์ในการครอบครองที่ดินที่อาศัยมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ซึ่งรัฐจะต้องการคุ้มครองโดยไม่มีข้อแม้

         ที่ผ่านมามีการบุกรุกทำลายผืนป่าแอมะซอนอย่างต่อเนื่อง จากการแผ้วถางป่าเพื่อแปลงเป็นพื้นที่เกษตรกรรม รวมถึงการตัดไม้และสำรวจแร่ธาตุอย่างผิดกฎหมาย

         ความเสียหายของป่าแห่งนี้เปรียบได้กับการทำลายปอดของโลก ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราควรช่วยกันปกป้องผืนป่าซึ่งเป็นป่าสำคัญของโลกแห่งนี้



ที่มา https://www.scimath.org/article-earthscience/item/10468-amazon-2

 9 
 เมื่อ: 13 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย ใบบุญ - กระทู้ล่าสุด โดย ใบบุญ

เจ้าชายสิทธัตถะเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์กับพระนางปชาบดีโคตมี
ภาพโดย Maligawage Sarlis, via Wikimedia Commons.


“พุทธทำนาย” ของแท้ ศาสนาพุทธจะล่มสลายใน “500 ปี” โดยมี “ผู้หญิง” เป็นต้นเหตุสำคัญ.

ผู้เขียน - อดิเทพ พันธ์ทอง
เผยแพร่ - www.silpa-mag.com - วันพฤหัสที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ.2567


พุทธทำนาย” ของแท้ พระพุทธศาสนาจะล่มสลายใน 500 ปี โดยมี “ผู้หญิง” เป็นต้นเหตุสำคัญ

หมอดูเขาว่าคู่กับหมอเดา” สำนวนไทยที่มักถูกใช้เพื่อลดคุณค่าของโหราศาสตร์ ซึ่งจะได้ยินบ่อยๆ เมื่อคำทำนายออกมาไม่ตรงใจ หรือเมื่อเวลาผ่านไปแล้วผลของคำทำนายไม่เกิดขึ้น แต่โหราศาสตร์ก็อยู่คู่กับคนไทยมาโดยตลอด ในฐานะที่พึงทางใจ ที่แม้ผลทำนายออกมาไม่ดีแต่ก็ล้วนมีทางแก้ ซึ่งบางครั้งกลายเป็นเครื่องมือในการหาประโยชน์จนเกินส่วนของผู้ทำนายไปด้วย

ความผูกพันของคนไทยกับคำทำนายและโหราศาสตร์ เห็นได้จากกิจกรรมสำคัญต่างๆ ของคนไทยที่มักพึ่งพาหมอดูหรือผู้รู้ในด้านโหราศาสตร์ ในการหาฤกษ์ยามเพื่อความเป็นสิริมงคล ตั้งแต่งานบวช งานแต่ง ไปจนถึงงานตาย และในคัมภีร์ หรือบันทึกโบราณของชาวพุทธเองก็มีการกล่าวถึงคำทำนาย ซึ่งว่ากันว่าเป็นคำทำนายของพระพุทธเจ้า ที่มักจะเรียกกันว่า “พุทธทำนาย

ตั้งแต่เด็กผู้เขียนได้ยินบ่อยครั้งว่า “พระพุทธเจ้าเคยทำนายเอาไว้ว่า พระศาสนาของพระองค์จะดำรงอยู่ได้ 5 พันปี” และผู้เขียนก็เชื่อมาโดยตลอดว่า คำทำนายดังกล่าวเป็น “พุทธทำนาย” ของแท้ ที่พระพุทธองค์ตรัสไว้เอง

จนกระทั่งไม่นานมานี้ ผู้เขียนได้ลองตรวจสอบหาที่มาของคำทำนายดังกล่าว โดยอาศัย “พระไตรปิฎก” แหล่งรวมพุทธพจน์ที่น่าจะมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด แต่สิ่งที่พบไม่ได้เป็นตามความที่ผู้เขียนได้รับฟังมา กลับกันพระพุทธองค์ทรงทำนายว่า พระธรรมของพระองค์จะอยู่รอดได้เพียง “500 ปี” เท่านั้น และ “ผู้หญิง” ยังเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้พระธรรมของพระองค์อายุสั้นกว่าที่ควร

พุทธทำนายดังกล่าวปรากฏอยู่ใน พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม 7 ภาค 2 ในตอนที่พระนางมหาปชาบดีโคตมี พระมาตุจฉาของพระพุทธองค์ พยายามทูลขอออกบวชหลายครั้ง แต่พระพุทธองค์ไม่ทรงอนุญาต จนกระทั่งพระอานนท์โน้มน้าวให้พระพุทธองค์ทรงยอมให้พระนางปชาบดีโคตมีออกบวชได้ในที่สุด แต่ขณะเดียวกันพระองค์ตรัสว่า

“ดูก่อนอานนท์ ก็ถ้าสตรีจักไม่ได้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว พรหมจรรย์จักตั้งอยู่ได้นาน สัทธรรมจะพึงตั้งอยู่ได้ตลอดพันปี ก็เพราะสตรีออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตในธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศแล้ว

บัดนี้ พรหมจรรย์จักไม่ตั้งอยู่ได้นาน สัทธรรมจักตั้งอยู่ได้เพียง 500 ปีเท่านั้น ดูก่อนอานนท์ สตรีได้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตในธรรมวินัยใด ธรรมวินัยนั้นเป็นพรหมจรรย์ไม่ตั้งอยู่ได้นาน เปรียบเหมือนตระกูลเหล่าใดเหล่าหนึ่งที่มีหญิงมาก มีชายน้อยตระกูลเหล่านั้นถูกพวกโจรผู้ลักทรัพย์กำจัดได้ง่าย…”

หลังการเสด็จปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ได้มีผู้ออกมาตั้งข้อกังขาในพุทธทำนายดังกล่าวของพระองค์ หนึ่งในนั้นคือ พระเจ้ามิลินท์ หรือเมนันเดอร์ที่ 1 กษัตริย์ชาวกรีกผู้นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล (ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 4 ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ 5) ดังปรากฏใน “มิลินทปัญหา” (เอกสารบันทึกการโต้ตอบระหว่างพระเจ้ามิลินท์ กับพระนาคเสน ปราชญ์ชาวพุทธ ซึ่งเชื่อว่าต้นฉบับน่าจะแต่งขึ้นเป็นภาษาสันสกฤตในช่วงศตวรรษที่ 1 หรือศตวรรษที่ 2 [ราว พ.ศ. 544-743, หลังรัชสมัยของพระเจ้ามิลินท์นับร้อยปี] โดยนักเขียนนิรนาม ถือเป็นเอกสารสำคัญที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์บาลีของพม่าด้วย) พระเจ้ามิลินท์ทรงถามพระนาคเสนว่า

“หลังจากที่ผู้หญิงออกบวช พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสว่า พระธรรมอันบริสุทธิ์จะดำรงอยู่ได้เพียง 500 ปี อย่างไรก็ดีพระองค์ทรงเคยตรัสกับพระสุภัททะว่า ‘ตราบเท่าที่หมู่สงฆ์ยังคงยึดถือพระธรรมเป็นแนวปฏิบัติโดยสมบูรณ์แล้ว โลกนี้ย่อมไม่ขาดแคลนซึ่งพระอรหันต์’ คำพูดทั้งสองย่อมขัดกันเอง”

พระนาคเสนตอบกลับไปว่า คำพูดของพระพุทธองค์ทั้งสองประโยคถูกกล่าวในบริบทที่ต่างกัน หนึ่งคืออายุขัยของพระธรรมอันบริสุทธิ์ อีกหนึ่งคือแนวปฏิบัติในโลกของพระธรรม ซึ่งพระนาคเสนมองว่า ต่างกัน โดยเชื่อว่า หากศิษยานุศิษย์ของพระพุทธองค์ยังคงปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ คำสอนของพระพุทธองค์ย่อมคงอยู่ไม่สูญหาย (แต่อาจจะไม่บริสุทธิ์แล้ว?)

ทั้งนี้ เนื้อหาในมิลินทปัญหาที่ผู้เขียนยกมานั้นเป็นฉบับภาษาอังกฤษ (The Debate of King Milinda) โดย Bhikku Pesala พระชาวอังกฤษที่ได้รับการบวชให้โดยพระชาวพม่า และเข้ามาศึกษาพระธรรมทั้งในพม่าและไทย ตำราอ้างอิงที่พระรูปนี้ใช้จึงเป็นคัมภีร์บาลีของพม่า (รวมไปถึงฉบับแปลในภาษาอื่นๆด้วย) ซึ่งบันทึกไว้ต่างจากฉบับศรีลังกา (และไทย) ที่ระบุว่า “พระสัทธรรมของตถาคตจะตั้งอยู่นานประมาณกำหนดห้าพันปี”

การที่บันทึกฝ่ายไทยไปแปลมิลินทปัญหาโดยระบุระยะเวลาเช่นนั้น ถือเป็นเรื่องแปลก เพราะเนื้อหาในส่วนที่พระเจ้ามิลินท์อ้างถึงคือการบวชของผู้หญิงนั้น “พระไตรปิฎก” ฉบับภาษาไทยก็ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าจะทำให้ “สัทธรรมจักตั้งอยู่ได้เพียง 500 ปี”

ผู้เขียนจึงเชื่อว่า มิลินทปัญหาฉบับศรีลังกาและไทย น่าจะใส่เลขศูนย์เกินไปหนึ่งตัว

ความผิดพลาดดังกล่าวอาจเกิดขึ้นด้วยความจงใจ ด้วยชาวพุทธมักเชื่อว่า พระพุทธองค์ทรง “ตรัสรู้” ย่อมเป็นผู้รู้ในทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็นอดีตปัจจุบัน และอนาคต ทำให้คำทำนายของพระองค์ต้องเป็นจริงแน่นอน การที่พระองค์ตรัสว่าพระธรรมของพระองค์จะตั้งอยู่ได้เพียง 500 ปี แต่พุทธศาสนากลับดำรงอยู่ได้เลยช่วงเวลาดังกล่าว ย่อมทำให้ความเชื่อที่ว่าพระองค์คือผู้รู้ในทุกสรรพสิ่งสั่นคลอน

การเติมศูนย์เพิ่มเข้าไปในเอกสารชั้นรองอย่างมิลินทปัญหา ผู้บันทึกชาวไทยและศรีลังกาคงเห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่การเติมศูนย์เพิ่มเข้าไปในพระไตรปิฎก ซึ่งเป็นเอกสารที่สำคัญที่สุดของชาวพุทธ ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม พระเถระจึงใช้ “อรรถกถา” หรือคำอธิบายเสริมพระไตรปิฎก เพื่อขยายความคำพูดของพระพุทธองค์ออกไปว่า แท้จริงที่พระองค์ตรัสว่า พระสัทธรรมจะตั้งอยู่ได้เพียง 500 ปี เพราะมาตุคามบวช แต่กลับไม่ได้เป็นดังที่พระองค์ทรงตรัส เพราะพระองค์ได้ทรงบัญญัติครุธรรมเพื่อกันความละเมิดไว้ก่อน “ทำให้พระสัทธรรมจักตั้งอยู่ตลอดพันปีที่ตรัสทีแรกนั่นเอง”

นอกจากนี้ อรรถกถายังอธิบายต่อไปว่า การคงอยู่ของพระสัทธรรมหนึ่งพันปีตามที่พระพุทธองค์ตรัสถึงก็ด้วยอำนาจ “พระขีณาสพผู้ถึงความแตกฉานในปฏิสัมภิทา” (พระอรหันต์ขั้นสูง) เท่านั้น แต่พระสัทธรรมจะยังคงอยู่ไปอีกพันปีด้วยอำนาจ “พระขีณาสพสุกขวิปัสสกะ” (พระอรหันต์ขั้นรองลงมา) อีกพันปีด้วยอำนาจ “พระอนาคามี” อีกพันปีด้วยอำนาจ “พระสกทาคามี” และอีกพันปีด้วยอำนาจ “พระโสดาบัน” ทำให้พระสัทธรรมของพระพุทธองค์จะคงอยู่ได้รวม “5,000 ปี”

ด้วยเหตุนี้จึงพอจะกล่าวได้ว่า ความเชื่อในพุทธทำนายที่ว่า พระพุทธศาสนาจะอยู่ได้ 5,000 ปี แท้จริงแล้วมิได้มาจากพระพุทธองค์เอง แต่เป็นการตีความพุทธพจน์ที่เกิดขึ้นภายหลัง (เนื่องจากไม่อาจตีความตามตัวอักษรได้อีกต่อไป) ซึ่งมีการผลิตซ้ำในเอกสารชั้นรองว่า คำทำนายดังกล่าวเป็นของพระพุทธองค์เองเช่นในมิลินทปัญหาฉบับศรีลังกาและไทย

นอกจากนี้ ยังมีการอ้างว่า เมื่อครั้งที่คณะธรรมทูตไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่อินเดียเมื่อ พ.ศ. 2484 ได้พบศิลาจารึกในเขตมหาวิหารในสวนมฤคทายวัน ซึ่งได้ลงจารึกไว้ว่า โลกจะแตกหลังพระพุทธองค์ปรินิพพานแล้ว 5,000 ปี (ไปไกลกว่าเดิม) แต่ก็เป็นเพียงการอ้างลอยๆ ไม่มีการระบุชื่อผู้พบและผู้แปลเป็นที่น่าเชื่อถือแต่อย่างใด.


 10 
 เมื่อ: 14 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
"เมย์ เฟื่องอารมย์" ไลฟ์สไตล์สุดชิคโชว์ผลงานจัดบ้าน แต่ละมุมสวยอลังการมาก
         


&quot;เมย์ เฟื่องอารมย์&quot; ไลฟ์สไตล์สุดชิคโชว์ผลงานจัดบ้าน แต่ละมุมสวยอลังการมาก" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;เมย์ เฟื่องอารมย์ เปิดบ้านหลังงามอลังการงานสร้างทุกมุม ล่าสุดกับโซน Art Toy จัดเต็มแน่นๆ เลย
         

https://www.sanook.com/news/9389482/
         

หน้า:  [1] 2 3 ... 10
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.296 วินาที กับ 21 คำสั่ง

Google visited last this page 04 เมษายน 2567 20:52:25