'iLaw' ย้ำทำไมสมัคร สว. ถึงสำคัญกับการสร้างรัฐธรรมนูญใหม่
<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2024-02-19 13:38</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>iLaw ย้ำทำไมการสมัครรับเลือกตั้ง ‘สว.’ ที่จะเริ่มในกลางปีนี้ ถึงสำคัญกับการสร้างรัฐธรรมนูญใหม่ พร้อมอธิบายหลักการโดยคร่าวของ ระบบเลือกตั้ง ‘กลุ่มอาชีพ เลือกกันเอง’ ระบบเลือกตั้งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน </p>
<p> </p>
<p>19 ก.พ. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานวานนี้ (18 ก.พ.) ที่สำนักงานสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เวลาประมาณ 17.37 น. ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ และสมาชิกโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ 'ไอลอว์' มาร่วมพูดคุยกับสมาชิกเครือข่ายขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ 'พีมูฟ' ถึงกระบวนการสมัครรับเลือกตั้ง และการเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. หนึ่งในหมุดหมายที่จะนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และมาร่วมอธิบายระบบเลือกตั้ง ซึ่งคราวนี้มีการใช้ระบบใหม่ที่เรียกว่า "กลุ่มอาชีพ เลือกกันเอง"</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53538524253_c1eb343724_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">(ซ้าย) ยิ่งชีพ อัชฌานนท์</span></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">5 คูหา: 2 เลือกตั้ง 3 ประชามติ มุ่งหน้าสู่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ของประชาชน</span></h2>
<p>'เดียร์' กล่าวว่า การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ต้องผ่าน 5 คูหา โดยแบ่งเป็นการทำประชามติ 3 ครั้ง และมีการเลือกตั้งอีก 2 ครั้ง แบ่งได้ดังนี้</p>
<p><strong>คูหาที่ 1:</strong> ประชามติครั้งที่ 0 ซึ่งมีคำถามประชามติ เพื่อถามว่า พวกเราอยากจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่กันไหม ก่อนหน้านี้กลุ่ม ConForAll เคยเสนอคำถามประชามติ 2 คำถามหลัก คือ แก้ไขได้ทุกหมวดทุกมาตรา และแก้ไขโดยผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. อย่างไรก็ตาม การทำประชามติครั้งนี้ยังไม่มีการเริ่มทำ </p>
<p><strong>คูหาที่ 2:</strong> เลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. ซึ่งจะเริ่มขึ้นช่วงกลางปี 2567 เนื่องจาก สว.ชุดปัจจุบัน ซึ่งมีจำนวน 250 คน จะหมดวาระในวันที่ 11 พ.ค. 2567 นี้ และจะมีการเปิดรับสมัคร สว.ชุดใหม่ ช่วงระหว่างวันที่ 27 พ.ค. - 2 มิ.ย. 2567 โดยระบบการเลือกตั้งจะใช้เป็นระบบใหม่ ที่เรียกว่า “ระบบกลุ่มอาชีพ เลือกกันเอง” จากนั้น เราก็จะได้ สว. ชุดใหม่จำนวน 200 คน</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ทำไมต้องเลือกตั้ง สว.</span></h2>
<p>ยิ่งชีพ ระบุว่า ทำไมเราต้องให้ความสำคัญกับการเลือกตั้ง สว. เนื่องจากในรัฐธรรมนูญ 2560 สว.มีอำนาจอย่างมาก ในการออกกฎหมาย และเราต้องการเสียงโหวต 1 ใน 3 เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญชุดใหม่ เพราะว่าตอนนี้ สว.ที่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญใหม่ มีไม่ถึง 1 ใน 3 หรือมี สว. เห็นด้วยกับการแก้ไข รธน. แค่ 3 คน ถ้าเราปล่อยไป แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ </p>
<p><strong>คูหาที่ 3: </strong>คือการทำประชามติ แก้ไขมาตรา 256 ซึ่งเดิมรัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนไว้ให้เราแก้ไขได้ โดยเราต้องไปแก้ไขวิธีการ เพื่อเปิดช่องในการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ได้จริงๆ และต้องใช้เสียง สว. 1 ใน 3 </p>
<p><strong>คูหาที่ 4: </strong>คือการเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เพื่อให้ สสร.มาจากการเลือกตั้ง และมาเขียนร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้เราอ่าน ปัจจุบัน เรื่องนี้ยังมีข้อถกเถียงระหว่าง ฝั่งที่เอา สสร.มาจากการเลือกตั้ง 100% กับอีกฝั่งขอให้ สสร.มีสัดส่วนมาจากการเลือกตั้งและแต่งตั้งผสมกัน </p>
<p>ยิ่งชีพ ระบุว่า แนวโน้มจะมี สสร. แต่ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางทำประชามติฯ เขาไม่อยากให้เราเลือกตั้ง สสร. 100% เพราะถ้าให้เราเลือกตั้ง 100% เขาจะแพ้ คนของเราจะเยอะ และคนของเขาจะน้อย เขาคุมเกมไม่ได้ เขาน่าจะมีการออกแบบ สสร.ที่ทำให้เขาเอาคนของตัวเองเข้ามาได้มากกว่าเรา ดังนั้น พอเขาคิดไม่ออก มันเลยไม่คืบหน้าเรื่อง สสร.</p>
<p><strong>คูหาที่ 5: </strong>สภาร่างรัฐธรรมนูญ เขาจะร่างรัฐธรรมนูญให้เราอ่าน ก็จะมีการทำประชามติรับรองร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยเราต้องคิดต่อว่าจะให้เขาร่างเอง หรือเราจะมีส่วนร่วมในกระบวนการดังกล่าว</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เลือกตั้ง สว.มาแน่</span></h2>
<p>ยิ่งชีพ ระบุว่า การเลือกตั้งตั้งแต่คูหาที่ 1 ถึง 5 นี้ คูหาที่ 1 ยังไม่ได้เริ่มทำ เนื่องจากขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล และสภาผู้แทนราษฎร แต่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นแน่นอนคือการเลือกตั้งเลือกสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ 200 คน ซึ่งตามกฎหมายระบุไว้แล้ว และจะเกิดขึ้นกลางปีนี้ (2567)</p>
<p>สว. ชุดใหม่จะมีจำนวน 200 คน โดยแบ่งเป็น 20 กลุ่มอาชีพ อาชีพละ 10 คน โดยระบบการเลือกตั้งมาจากระบบแบบใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนบนโลกเคยใช้ คิดค้นโดย มีชัย ฤชุพันธุ์ หนึ่งในทีมร่างรัฐธรรมนูญปี 2560 </p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53538341676_2d3813c742_b.jpg" /></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">รู้จักระบบเลือกตั้ง สว. ที่ไม่เคยมีที่ไหนทำมาก่อน คือ "กลุ่มอาชีพ เลือกกันเอง" ขั้นตอนสุดมึนงง</span></h2>
<p>ยิ่งชีพ ระบุว่า แต่เรื่องราวไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เพราะว่าคนที่จะใช้สิทธิเลือกตั้ง ต้องไปสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิก สว. ชุดใหม่ก่อน ยกตัวอย่าง เขาทำอาชีพกฎหมายอยู่ แต่เขาจะเข้าไปใช้สิทธิโหวตนักกฎหมายด้วยกันเองได้ ต้องเริ่มจากไปสมัครเข้าไปว่าอยากเป็น สว. และเราก็ไปบอกเจ้าหน้าที่ว่าเราทำอาชีพอะไร และเขาจะนำเราไปรวมกลุ่มกับอาชีพอื่นๆ เช่น คุณประกอบอาชีพชาวนา ชาวไร่ ชาวประมง นักกฎหมาย และอื่นๆ สมมติว่าเราประกอบอาชีพประมง เขาก็จะเอาคุณไปอยู่กับผู้รับสมัครเลือกตั้ง สว. อาชีพประมง และผู้สมัครรับเลือกตั้ง สว. อาชีพประมง จะเลือก สว. ในกลุ่มอาชีพของเขากันเองภายในหมู่ผู้สมัคร</p>
<p>ทั้งนี้ การเลือก สว. จะมีการเลือกทั้งหมด 3 ระดับ เริ่มจากระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับ ประเทศ และจะไม่ได้เลือกแค่อาชีพของตัวเอง </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ระดับอำเภอ</span></h2>
<p>ยิ่งชีพ ยกตัวอย่าง ระดับอำเภอ เขาสมัครรับเลือกตั้ง สว. กลุ่มอาชีพนักกฎหมาย ดังนั้น ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สว. กลุ่มนักกฎหมายทั้งหมดจะได้เลือกผู้สมัคร สว. อาชีพนักกฎหมาย ด้วยกันเองภายในก่อน โดยคนหนึ่งโหวตได้ไม่เกิน 2 โหวต เพื่อหาผู้สมัคร สว.กลุ่มอาชีพนั้นที่ได้รับคะแนนสูงสุด 5 อันดับแรก </p>
<p>จากนั้น ผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 5 อันดับแรกของกลุ่มอาชีพนั้นจะต้องจับฉลากด้วยว่าจะได้ใช้สิทธิโหวตผู้สมัครรับเลือกตั้ง สว.กลุ่มอาชีพอื่นๆ กลุ่มไหน อาทิ ยิ่งชีพ สมัครรับเลือกตั้ง สว. กลุ่มนักกฎหมาย และได้รับโหวตคะแนนสูงสุดในระดับอำเภอ 5 อันดับแรก ยิ่งชีพต้องมาจับฉลากกลุ่มอาชีพอื่นๆ ซึ่งเขาจับได้กลุ่มแพทย์ ประมง และชาวนา ยิ่งชีพ ก็ต้องเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง สว. กลุ่มอาชีพ ชาวนา ประมง และแพทย์ โดยโหวตได้กลุ่มละ 1 โหวต</p>
<p>จากนั้น ผู้รับสมัครเลือกตั้ง สว. แต่ละกลุ่มอาชีพตัวเองที่ได้คะแนนสูงสุด 5 อันดับแรกในระดับอำเภอ และให้คนกลุ่มอาชีพอื่นๆ ที่ได้คะแนนสูงสุด 3 อันดับแรก จะได้เข้าไปเลือกตั้ง สว. ในระดับจังหวัด โดยใช้ระบบเดียวกันลักษณะนี้</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ระดับจังหวัด</span></h2>
<p>ผู้ที่ได้ผ่านเข้ารอบจากระดับอำเภอ จะได้เข้ามาโหวตในระดับจังหวัด ผู้สมัคร สว. กลุ่มนักกฎหมายในระดับจังหวัด จะเลือกกันเองได้คนละ 2 โหวต และหาผู้ได้คะแนนสูงสุด 5 อันดับแรก จากนั้น ผู้ได้คะแนนสูงสุด 5 อันดับแรก จะเข้าไปจับฉลากเพื่อหาว่าเราจะใช้สิทธิโหวตเลือกอาชีพอื่นๆ อาชีพใด เช่น การศึกษา การท่องเที่ยวการโรงแรม และอื่นๆ จากนั้น ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดจากการเลือกภายในกลุ่มอาชีพของตัวเอง จะได้ใช้สิทธิโหวตกลุ่มอาชีพอื่นๆ กลุ่มละ 1 โหวตตามที่จับฉลากได้ เพื่อหาคนที่ได้รับคะแนนสูงสุด 2 อันดับแรก จากการโหวตข้ามอาชีพ</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ในระดับประเทศ </span></h2>
<p>ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดในระดับจังหวัด 2 อันดับแรกจากการโหวตข้ามอาชีพ จะได้เข้ามาโหวตในระดับประเทศ จากนั้น ผู้สมัครฯ สว. กลุ่มอาชีพจะใช้สิทธิโหวตไม่เกิน 10 โหวต เลือกภายในกลุ่มอาชีพของตัวเอง และเลือกผู้ได้คะแนนสูงสุด 40 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มอาชีพ จากนั้น 40 อันดับแรกนี้จะต้องมาจับฉลากเพื่อหาว่าพวกเขาจะได้โหวตเลือกผู้สมัครฯ สว. กลุ่มอาชีพอื่นๆ อาชีพใดที่ไม่ใช่กลุ่มอาชีพของตัวเอง กลุ่มละ 5 โหวต และหา 10 อันดับแรกที่ได้คะแนนสูงสุด ในสายนั้นๆ เพื่อเข้าไปเป็น สว.ชุดใหม่ ทั้งนี้ อันดับ 11-15 ของแต่ละกลุ่มอาชีพ จะได้เข้าไปเป็นรายชื่อสำรอง </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ไม่ง่าย ต้องช่วยกันสมัครเข้าไปเป็น สว.</span></h2>
<p>"แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้น"</p>
<p>ยิ่งชีพ กล่าวว่า อุปสรรคของการสมัครเลือกตั้ง สว. มีหลายประการ เขาระบุว่า ถ้าเราอยู่ดีๆ เดินเข้าไปสมัครโดยไม่มีใครรู้จัก คนในกลุ่มวิชาชีพของเราก็จะไม่มีใครโหวตให้ เพราะว่าเขาไม่รู้จักเรา กลับกัน ถ้าผู้สมัคร สว.เป็นผู้มีอิทธิพลในวงการอาชีพนั้นๆ เช่น เป็นประธานสมาคม หรือมีเพื่อนฝูงจำนวนมาก สามารถระดมสมัครพรรคพวกไปเลือกเขาได้ </p>
<p>ถ้าคุณเป็นชาวนา และไปสมัคร สว.กลุ่มชาวนา เราจะเจอชาวนาที่มีเส้นสาย หรือเพื่อนฝูงเยอะ เราก็จะแพ้ นี่คือระบบมีชัย ออกแบบเพื่อให้เขาได้ สว.คนของเขาอีก 200 คนเข้าไปข้างในสภา</p>
<p>ยิ่งชีพ กล่าวต่อว่า ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องสมัครรับเลือกตั้ง สว. เราไม่จำเป็นต้องคาดหวังว่า เราสมัครเพื่อไปเป็น สว. แต่เราสามารถเข้าไปสมัครเพื่อใช้สิทธิโหวตคนที่เป็นด้วยกับประชาธิปไตย หรือไม่อยู่กลุ่มก้อนอำนาจการเมืองใด เพราะถ้าเราไม่สนใจอะไรเลย พวกเจ้าพ่อแต่ละเมืองแต่ละจังหวัด พวกคนใหญ่คนโตที่รับงานรับเงินแต่ละจังหวัด เขาก็จะจัดตั้งคนของตัวเองเข้าไปสมัครเยอะๆ เพื่อให้โหวตพวกเขาเป็น สว. และเราก็จะได้คนหน้าเดิมๆ ที่เข้าไปขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และขวางการเปลี่ยนแปลง </p>
<p>“สิ่งที่ผมอยากให้เราเข้าใจก็คือว่าจริงๆ แล้ว กระบวนการนี้เรามีส่วนร่วมได้ ถ้าเรานอนอยู่บ้าน เราไม่สนใจอะไร เดี๋ยวเขาไปสมัครเขาเลือกเสร็จเรียบร้อย แต่ถ้าเราสนใจจริงๆ เรามีส่วนร่วมได้ ก็คือเราต้องเดินไปสมัคร ถ้าเรานอนอยู่บ้าน และเราจะไปเข้าคูหา แบบเลือกตั้ง สส. ไม่มีนะ แต่เราต้องไปสมัครก่อน เราต้องเดินไปสมัครก่อนว่าเราอยากเข้าร่วมกระบวนการ สว. ชุดใหม่” ยิ่งชีพ กล่าว</p>
<p>นอกจากนึ้ ยังมีข้อจำกัดอื่นๆ สำหรับการเข้าไปเลือกตั้งเป็น สว. เช่น ค่าใช้จ่ายในการสมัคร จำนวน 2,500 บาท ค่าเดินทาง ครอบครัวส่งสมาชิกสมัครเลือกตั้ง สว.ได้เพียงคนเดียว ต้องไม่มีหุ้นสื่อ ไม่เป็นข้าราชการหรือทำงานในหน่วยงานของรัฐ ไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง ต้องอายุอย่างต่ำ 40 ปี และอื่นๆ ขณะเดียวกัน คุณสมบัติก็เปิดโอกาสให้ประชาชน และสมาชิกจากพีมูฟ สามารถสมัครเข้าไป เพื่อเข้าไปเปลี่ยนแปลงประเทศได้ </p>
<p>"ประชาชนใครก็ได้ที่มีหัวใจเป็นประชาธิปไตย เป็นใครก็ได้ ไม่ต้องแบบประชาธิปไตยสุดๆ ถ้าเดินไปสมัคร 1 หมื่นคน ผมเชื่อว่าเราจะได้ สว. ที่โอเค ถึงประมาณ 1 ใน 3 ที่จะเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ได้ แต่ถ้ามีคนหัวใจโอเคเดินไปสมัคร 2 หมื่นคน เราได้ สว.เกินครึ่งแน่นอน …และอะไรก็ตามที่นำเสนอสู่สภา ผมเชื่อว่าทำได้" สมาชิกไอลอว์ ระบุ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/02/108134