[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 พฤษภาคม 2567 22:05:52 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  [1] 2 3 ... 10
 1 
 เมื่อ: 42 นาทีที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
หวยลาววันนี้ 22 พฤษภาคม 2567 ผลหวยลาววันนี้ ออกอะไร
         


หวยลาววันนี้ 22 พฤษภาคม 2567 ผลหวยลาววันนี้ ออกอะไร" width="100" height="100  ลุ้นสด หวยลาววันนี้ 22/5/67 ถ่ายทอดสดหวยลาว หวยลาวล่าสุด หวยลาวพัฒนา 22 พ.ค. 67 หวยลาวย้อนหลัง หวยลาว 6 ตัว วันนี้ออกอะไร งวด 22 พฤษภาคม 2567
         

https://www.sanook.com/news/9389130/
         

 2 
 เมื่อ: 1 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
10 ปี 'ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน' กลางพายุคดียุครัฐประหารถึงยุคเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
 


<span>10 ปี 'ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน' กลางพายุคดียุครัฐประหารถึงยุคเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์</span>
<span><span>user007</span></span>
<span><time datetime="2024-05-22T19:19:12+07:00" title="Wednesday, May 22, 2024 - 19:19">Wed, 2024-05-22 - 19:19</time>
</span>

            <div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><p>ศูนย์ทนายความฯ จัดงานมีอายุครบรอบ&nbsp;10 ปีท่ามกลางพายุคดียุครัฐประหารจนถึงช่วงเยาวชนออกมาเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ปี 63 ชวนผู้ที่ถูกดำเนินคดีมาเล่าประสบการณ์ทั้งคดีสหพันธรัฐไท คดีครอบครองหนังสือบันทึก 10 ข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันฯ และเยาวชนที่ต้องเผชิญกระบวนการยุติธรรมที่ไม่เป็นธรรมของศาลเยาวชนฯ</p><p>22 พ.ค.&nbsp;2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 พ.ค.) เวลา&nbsp;15:30 น ที่หอศิลปหาะวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนจัดนิทรรศการ “วิสามัญยุติธรรม” ในวาระครบรอบ&nbsp;10 ปีรัฐประหาร&nbsp;2557 และยังเป็นการครบรอบ&nbsp;10 ปีของศูนย์ทนายความด้วย และในงานมีเสวนาเปิดตัวหนังสือ “ผู้ต้องหาเสรีภาพ” ที่เล่าถึงผู้ที่ถูกดำเนินคดีในยุคการปกครองของรัฐบาลทหาร คสช.มาจนถึงปัจจุบัน&nbsp;</p><p>ผู้ที่มาร่วมเสวนา ประพันธ์ หรือป้าเปียอดีตจำเลยคดีสหพันธรัฐไทย ณัฐนน ไพโรจน์ นักกิจกรรมทางการเมืองและเป็นผู้ต้องหาในคดีครอบครองหนังสือปกแดง “ปรากฏการณ์สะท้านฟ้า&nbsp;10 สิงหา”&nbsp;ที่บันทึกข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ณิชการนต์ หรือ มีมี่ นักกิจกรรมเยาวชนเฟมินิสต์ และนพพล อาชามาส เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลผู้ดูแลเนื้อหาต่างๆ บนเว็บไซต์ของศูนย์ทนายความฯ และเป็นบรรณาธิการของหนังสือเล่มนี้</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/53739019254_5c5932d477_b.jpg" width="1024" height="768" loading="lazy"><p>นพพล อาชามาส เริ่มจากเล่าถึงการทำหนังสือเล่มนี้ว่าเป็นหนังสือเล่มที่ 2 ของศูนย์ทนายความณ แล้วที่กล่าวถึงผู้ที่ถูกดำเนินคดีจากการออกมาใช้สิทธิเสรีภาพการแสดงออก ในวาระครบรอบ&nbsp;10 ปีก็เลยได้คุยกันว่าอยากจะออกหนังสือที่การสัมภาษณ์เรื่องราวของผู้ที่ถูกดำเนินคดีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาที่ได้มาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากมุมมองของพวกเขาที่น่าจะทำให้เข้าถึงคนอ่านได้ง่ายกว่าเพียงการเล่าถึงการต่อสู้คดีในศาลเพียงอย่างเดียว โดยคัดมาทั้งหมด&nbsp;18 ตั้งแต่คดีในยุค คสช.มาจนถึงคดีที่เกิดขึ้นในช่วงการเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชนในช่วงปี&nbsp;63 เป็นต้นมาเพื่อเป็นการรวบรวมการละเมิดสิทธิ์ทีมมนุษยชนที่เกิดขึ้นว่ามีอะไรบ้างในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา</p><p>บก.หนังสือเล่าว่าเรื่องที่ยากในการทำหนังสือเล่มนี้คือการเลือกเรื่องมาเล่าเพราะว่ามีเรื่องจำนวนมากกว่าร้อยเรื่องซึ่งก็ต้องทำงานร่วมกันระหว่างขนของศูนย์ทนายกับคนนอกที่ต้องมาทำงานเป็นบกให้หนังสือ หลายเรื่องที่ไม่ได้ลงก็เป็นเรื่องน่าเสียดายเหมือนกันแต่ก็พยายามที่จะเลือกเลือกให้กระจายได้เห็นภาพตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่คิดว่าน่าจะทำให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ของคนที่ถูกดำเนินคดีมากขึ้น ชีวิตของพวกเขาที่ต้องเจอความยากลำบากในการต่อสู้คดีต่างๆ ตัวบทกฎหมายมันอาจจะถูกเอามาใช้แต่อาจจะมองไม่เห็นภาพ แต่คนที่ถูกดำเนินคดีและกระบวนการทางกฎหมายที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทำให้เราเห็นมิติอื่นนอกจากตัวบทกฎหมายที่นักเรียนกฎหมายเมืองไทยหลายคนอาจมองไม่เห็นถึงมิติพวกนี้ ถ้าหากมองข้ามความเป็นมนุษย์และผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับสังคมว่าเป็นอย่างไรบ้าง</p><p>ประพันธ์ หรือ เปีย เล่าว่าเธอโดนจับในคดีสหพันธรัฐไทยจากการที่มีเสื้อดำที่มีสัญลักษณ์ของกลุ่มซึ่งเธอคิดว่าเป็นคดีที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้นแต่ก็ทำให้เธอต้องถูกคุมขังอยู่ถึง 2 ปีพอถึงช่วงที่พ้นโทษแล้วก็เป็นช่วงที่เกิดการระบาดของโควิดพอดี ไม่มีคนมารับตอนออกมาก็ออกมาคนเดียวก็กังวลทั้งเรื่องที่อยู่ในพื้นที่การระบาดสีแดงและก็ยังมีเชื้อโควิดด้วย เงินติดตัวมีไม่มากนักบัตรประชาชนก็ไม่มีทำให้ไปเปิดโรงแรมไม่ได้ พอไปหมอชิตเพื่อหาที่นอนก็ปรากฏว่าปิดจนต้องไปนอนที่หน้าร้านขายมือถือเขาก็คิดค่าที่นอน 100 บาท</p><p>ประพันธ์บอกว่าตอนนั้นก็มีทั้งความกังวลและรู้สึกเซงมาก พอเช้าวันรุ่งขึ้นก็นึกถึงศูนย์ทนายความฯ ขึ้นมาจึงไปขอความช่วยเหลือทางศูนย์ทนายความฯ ก็ให้เจ้าหน้าที่มาเปิดให้แต่ก็คงมีความกังวลกันเรื่องการระบาดของโควิดด้วยเหมือนกัน แต่ก็ทำให้เธอได้มีที่อาบน้ำซักผ้าและยังได้ตรวจโควิดด้วยก็พบว่ามีเชื้ออยู่</p><p>นอกจากนั้นประพันธ์ยังได้เล่าถึงการออกมาต่อสู้ทางการเมืองของเธอด้วยว่า ที่ผ่านมาก็มีทั้งรัฐบาลที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศได้บ้าง หรือบางทีก็โดนกดขี่บ้างเธอก็ออกมาต่อสู้ จนทุกวันนี้ก็คิดว่าอย่างน้อยก็ได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้ว ส่วนรัฐบาลจะทำดีไม่ดีก็ตามจะเอาไม่เอารัฐบาลนี้ก็แค่รอไปอีก 4 ปี แต่ก็ต้องสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเพราะว่าเธอเองก็สู้มาตั้งแต่ตอนที่เรียกร้องให้มีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง พอได้เลือกตั้งแล้วก็ต้องพยายามประคับประคองให้การเลือกตั้งนี้อยู่ไปนานๆ ไม่ให้เกิดการรัฐประหารขึ้นอีก</p><p>ประพันธ์กล่าวด้วยว่าการต่อสู้ที่ผ่านมาผลในวันนี้ก็ถือเป็นความหวังได้ ตอนที่มีการชุมนุมชู 3 นิ้วก็มีตั้งหลายปีแล้ว ตอนที่อยู่ในคุกเธอก็ได้เห็นว่ามีเด็กๆ ออกมาชู 3 นิ้วกันในตอนปี 63 ก็รู้สึกดีใจว่าได้ส่งต่อแล้วจากที่เคยคิดว่าตัวเองเคยได้แค่ออกมาชู 3 นิ้วในห้างจนภายหลังมีเยาวชนออกมาต่อสู้ก็ถือว่าได้ผลเยอะ แต่การต่อสู้ที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้เห็นผลในช่วงชีวิตตัวเองแต่อาจจะได้มาในช่วงของลูกหลานก็ได้</p><p>ณัฐชนน ไพโรจน์เล่าว่าบทสัมภาษณ์ในเล่มเป็นช่วงที่ใกล้ถึงนัดวันคำพิพากษาคดีม.112 จากการถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ครอบครองหนังสือที่บันทึกข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ซึ่งเป็นหนังสือที่พิมพ์แล้วตั้งใจจะเอาไปแจกในงานวันที่ 19 ก.ย.63 ที่สนามหลวงแต่ถูกตำรวจมาดักจับและยึดไปทั้งหมด&nbsp;45,080 เล่ม ที่แม้ว่าสุดท้ายแล้วคดีของเขาศาลจะยกฟ้องว่าเขาไม่มีความผิดแต่หนังสือก็ยึดไว้ต่อไป</p><p>ณัฐชนนเล่าว่าส่วนเรื่องคดีความในตอนนี้ตอนนี้ก็เขายังมีอีกหลายคดีที่ยังไม่เสร็จสิ้น แล้วคดีส่วนใหญ่ก็ศาลก็พิพากษาลงโทษเป็นหลัก แต่เขาก็ยังทำงานทางการเมืองอยู่</p><p>ณัฐชนนเล่าย้อนไปว่า วันที่ คสช.ทำรัฐประหารเมื่อปี 57 ตัวเขาเองอายุแค่&nbsp;14 ปีเท่านั้น แล้วก็เพิ่งมาทำกิจกรรมทางการเมืองได้ไม่กี่ปีแต่การต่อสู้ที่ผ่านมาก็ทำให้ได้เรียนรู้ในหลายเรื่องมีหลายเรื่องให้คิดแล้วพอได้มาดูงานของศูนย์ทนายความฯ ก็ทำให้ได้คิดถึงว่าในช่วงเวลานั้นๆ ตัวเขาเองคิดอะไรอยู่บ้างแล้วก็ได้คิดว่าจะทำยังไงให้ชนะ สิ่งที่ทำไปเหล่านี้เขาทำไปทำไม ก็ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ทำไมถึงเชื่อแบบนี้ ทำไมถึงใช้ชีวิตแบบนี้จนถึงขั้นว่าสุดท้ายแล้วชัยชนะที่ว่าคืออะไร ทำให้ได้คุยกับตัวเองค่อนข้างเยอะ</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/53737759597_6c83acb1b1_b.jpg" width="1023" height="682" loading="lazy"><p>ณิชกานต์ หรือ มีมี่ เล่าว่าเธอเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองตั้งแต่ 2563 แล้วคดีแรกที่โดนก็เกิดขึ้นจากเหตุการณ์&nbsp;15 ต.ค.2563 ที่ราชประสงค์ที่ตอนนั้นออกมาเรียกร้องสิทธิให้ผู้ต้องขังทางการเมืองและเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมืองคดีด้วย แต่คดีที่โดนตอนนั้นเพราะตำรวจเข้าใจผิดว่าเธอคือมายด์ ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล แล้วคดีของเธอก็เป็นคดีเยาวชนคดีแรกแต่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางก็ยกฟ้องไป จากนั้นมาก็ยังโดนอีก&nbsp;7-8 คดีจากการทำกิจกรรมของกลุ่มเฟมินิสต์ด้วย และก็ยังมาโดนคดีจากการแสดง&nbsp;performance art ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการด้วย แล้วศูนย์ทนายความฯ ก็มาช่วยเหลือทุกคดี</p><p>มีมี่เล่าว่าตอนรัฐประหารเมื่อ&nbsp;10 ปีก่อนเธอเพิ่งจะอายุ&nbsp;10 ขวบถ้าอีก&nbsp;10 ปีก็อายุ&nbsp;30 ถ้าวันนั้นมองกลับมาจะเห็นอะไร เธอก็คิดว่าถ้าการออกมาเรียกร้องความยุติธรรมแล้วมันจะสิ้นสุดที่การถูกดำเนินคดีก็ทำให้ได้เห็นความไม่เป็นธรรม สิ่งที่อยากเห็นก็คืออยากเห็นกระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรมกับเยาวชนมากขึ้นตั้งแต่ชั้นตำรวจ อัยการ สถานพินิจ แล้วก็ชั้นศาลด้วย และยังมีรายละเอียดอีกเยอะมากที่รู้สึกว่าเมื่อเป็นคดีทางการเมืองก็มีความไม่เป็นธรรมเพราะว่าเขาใช้มาตรฐานเดียวกับคดีอาญาปกติและคนในกระบวนการยุติธรรมก็มองว่าเป็นเด็กเลว เป็นเด็กที่ต้องถูกแก้ไข และไม่อยากเห็นเยาวชนถูกดำเนินคดีทางการเมืองอีกแล้ว และก็ยังอยากเห็นเยาวชนในอนาคตหรือคนที่โตไปแล้วเมื่อมองกลับมาเห็นว่าตัวเองก็มีสิทธิในการแสดงออกทางการเมืองด้วยเหมือนกัน</p><p>นพพลกล่าวถึงงานของศูนย์ทนายความฯ ว่า ถ้าสถานการณ์ไม่ได้เป็นอย่างทุกวันนี้ศูนย์ทนายความฯ ก็คงไม่ต้องมาอยู่ถึงวันนี้และก็คงไปทำงานทางสังคมด้านอื่นๆ ไปช่วยเหลือคนในคดีอื่นๆ ได้มากกว่านี้ แต่ตอนนี้ก็ยังมีคดีจำนวนมากและงานของศูนย์ทนายความฯ ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนดูเหมือนไม่มีจุดสิ้นสุด</p><p>เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลศูนย์ทนายความฯ กล่าวถึงความคาดหวังของตัวเองว่า คดีเหล่านี้จะมีวันสิ้นสุดลงแล้วงานของศูนย์ทนายความฯ ก็คงมีจำเป็นน้อยลงได้ไปทำงานอื่นๆ ที่ทำให้สังคมดีขึ้นได้กว่านี้ไม่ต้องมาทำงานตามสถานการณ์รายวันอย่างทุกวันนี้ เช่น การเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำการละเมิดสิทธิหรือคุกคามอื่นๆ ที่ตอนนี้ยังไม่มีใครทำถึงส่วนนี้ แล้วก็คงจะได้ทำการบันทึกรวบรวมเอกสารต่างๆ ที่เกิดขึ้นในคดีตลอดช่วงที่ผ่านมาเพื่อเก็บรักษาหลักฐานพวกนี้ให้อยู่ต่อไปให้คนรุ่นต่อๆ ไปได้มาศึกษา</p><p>นพพลได้กล่าวถึง สถานการณ์ล่าสุดในการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมซึ่งถือเป็นความหวังของคนที่ถูกดำเนินคดีทางการการเมืองในเวลานี้ว่า ทางศูนย์ทนายความฯ แล้วก็องค์กรเครือข่ายก็ได้ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนแล้วก็เพิ่งให้ประชาชนได้ร่วมลงชื่อกันไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้วตอนนี้ร่างกฎหมายของภาคประชาชนก็ได้บรรจุเข้าไปในเว็บไซต์รับฟังความเห็นของรัฐสภาแล้ว</p><p>นพพลบอกว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้แม้ว่าจะเป็นแค่จุดเริ่มต้นของการแก้ไขความขัดแย้งแต่ยังไม่ใช่จุดสิ้นสุด เพราะว่าเป็นเพียงแค่การทำให้ประชาชนที่ถูกดำเนินคดีได้ปลดภาระทางคดีออกไป ทำให้ความขัดแย้งได้คลี่คลายในระดับหนึ่งเท่านั้น ทำให้การพูดถึงเรื่องการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง หรือเรื่องการปฏิรูปสถาบันฯ สามารถพูดได้อย่างสันติ แต่ก็ไม่รู้ว่าที่ตอนนี้มีการตั้งกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณาจะมีรายงานออกมาว่าอย่างไร จะมีการรวมมาตรา&nbsp;112 หรือไม่ แต่ทางศูนย์ทนายความฯ ก็ยืนยันว่าคดี&nbsp;112 เป็นคดีทางการเมืองและควรจะต้องอยู่ในการนิรโทษกรรมด้วย&nbsp;</p></div>
      <div class="node-taxonomy-container">
    <ul class="taxonomy-terms">
          <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" hreflang="th">ข่าhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" hreflang="th">การเมือhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99" hreflang="th">สิทธิมนุษยชhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%A8%E0%B8%B9%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99" hreflang="th">ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1" hreflang="th">วิสามัญยุติธรรhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3" hreflang="th">รัฐประหาhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B9%8C" hreflang="th">ปฏิรูปสถาบันกษัตริยhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B9%84%E0%B8%97" hreflang="th">สหพันธรัฐไhttps://prachataistore.net</div>
     
 

http://prachatai.com/journal/2024/05/109312
 

 3 
 เมื่อ: 3 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
สถิติหวยลาววันนี้ 22/5/67 สถิติหวยลาวย้อนหลัง หวยลาวย้อนหลัง หวยลาวพัฒนา
         


สถิติหวยลาววันนี้ 22/5/67 สถิติหวยลาวย้อนหลัง หวยลาวย้อนหลัง หวยลาวพัฒนา" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;สถิติหวยลาวย้อนหลัง หวยลาววันนี้ หวยลาวออกอะไร ตรวจหวยลาวพัฒนาย้อนหลัง
         

https://www.sanook.com/news/9256886/
         

 4 
 เมื่อ: 5 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย Kimleng - กระทู้ล่าสุด โดย Kimleng




พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ เรื่องที่ ๑๙๑ มหากัณหชาดก
สุนัขดำกินคน

          ในอดีตกาล พุทธเจ้าเปลื้องมหาชนให้พ้นจากเครื่องผูกพันคือกิเลส ด้วยจตุราริยสัจเทศนา ทำพระนครคือพระนิพพาน คือพระนิพพานให้เต็มแล้วเสด็จปรินิพพาน
          ครั้นกาลล่วงมานานศาสนาก็เสื่อม ภิกษุทั้งหลายเลี้ยงชีพด้วยการแสวงหาไม่สมควร ทำการเกี่ยวข้องกับพวกภิกษุณีจนมีบุตรธิดา ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสกและพราหมณ์ ต่างละธรรมของตนเสียสิ้น โดยมากพวกมนุษย์ประพฤติอกุศลกรรมบถสิบ ผู้ที่ตายไปๆ จึงไปอัดแน่นกันอยู่ในอบาย
          ครั้งนั้น ท้าวสักกเทวราชไม่เห็นเทวบุตรใหม่ๆ จึงตรวจดูมนุษยโลกก็ทรงทราบว่า พวกมนุษยโลกไปเกิดในอบาย (สถานที่ชั่วร้าย) ทรงเล็งเห็นความที่ศาสนาของพระศาสดาเสื่อมโทรม ทรงดำริว่า “จักทำอย่างไรดีหนอ” ทรงเห็นอุบายมีอยู่อย่างหนึ่ง จึงตกลงพระทัยว่าเราจักต้องทำให้มนุษย์สะดุ้งกลัว แล้วค่อยปลอบโยนแสดงธรรม ยกย่องพระศาสนาที่เสื่อมแล้วให้ถาวรต่อไปได้อีกพันปี
          รับสั่งให้มาตลีเทพบุตรแปลงเพศเป็นสุนัขดำใหญ่เท่าม้าอาชาไนย มีรูปร่างดุร้าย มีเขี้ยวเท่าผลกล้วย มีรัศมีร้อนเป็นไฟพลุ่งออกจากเขี้ยวทั้งสี่ รูปพิลึกน่าสะพรึงกลัว หญิงมีครรภ์เห็นเข้าอาจแท้งลูกได้ มีเชือกผูกอยู่ห้าแห่ง คือ ที่เท้าทั้งสี่ และที่คอ บนศีรษะประดับพวงดอกไม้แดง
          ท้าวสักกะแปลงเพศเป็นนายพรานป่า นุ่งห่มผ้าย้อมน้ำฝาด มุ่นผมข้างหน้าไว้ข้างหลัง แล้วประดับพวงดอกไม้แดง มีขวาถือปลายเชือกที่ผูกสุนัข มือซ้ายถือธนูใหญ่มีสาย มีสีดังแก้วประพาฬ กวัดแกว่งวชิราวุธด้วยพระนขา เหาะลงในที่ห่างพระนครโยชน์หนึ่ง ส่งเสียงขึ้นสามครั้งว่า “มนุษย์ผู้เจริญทั้งหลาย โลกจักพินาศ” ทำให้ชาวบ้านทั้งหลายหวาดเสียว แล้วไปชานพระนครส่งเสียงขึ้นอีก พวกชาวเมืองเห็นสุนัขนั้นก็หวาดเสียวพากันเข้าพระนคร กราบทูลความเป็นไปให้พระราชาทรงทราบ พระราชารับสั่งให้ปิดพระนครโดยด่วน เมื่อท้าวสักกะมาถึงก็พาสุนัขกระโดดข้ามกำแพง
          สุนัขดำใหญ่ยกขาหน้าขึ้นเกาะบานประตูแล้วเห่าลั่น เสียงสุนัขเห่าดังสนั่นเบื้องล่างถึงอเวจี เบื้องบนถึงภวัคคพรหม สกลจักรวางสะเทือนทั่วถึงกันหมด เสียงดังเช่นนี้ได้มีในชมพูทวีปสามครั้ง คือ เสียงของพระเจ้าปุณณกราชในปุณณกชาดกครั้งหนึ่ง เสียงของพระยาสุทัศนนาคราช ในภูริทัตชาดกครั้งหนึ่ง และเสียงในมหากัณหชาดกนึ้ครั้งหนึ่ง ชาวพระนครพากันกลัวสะดุ้งหวาดเสียว แม้บุรุษคนไหนก็ไม่อาจมาเจรจากับท้าวสักกะได้
   ขณะนั้นเอง พระราชาเท่านั้นดำรงสติไว้มั่นคง เยี่ยมพระแกล เรียกท้าวสักกะมาตรัสว่า “นายพรานผู้เจริญ สุนัขของท่านเห่าเพื่ออะไร?”
          ท้าวสักกะตอบว่า “เห่าด้วยความหิว พระเจ้าข้า”
          พระราชาตรัสว่า “ถ้าเช่นนั้น เราจักให้ข้าวแก่สุนัขของท่าน แล้วรับสั่งให้ข้าวที่หุงไว้สำหรับคนในราชสำนักและสำหรับพระองค์ทั้งหมด  สุนัขได้กินข้าวทั้งหมดเพียงคำเดียว แล้วสุนัขก็เห่าขึ้นอีก พระราชาตรัสถามอีก ทรงสดับว่า บัดนี้ สุนัขของเรายังหิวอยู่ จึงรับสั่งให้นำอาหารที่หุ้งไว้สำหรับช้างม้าเป็นต้นทั้งหมดมาให้สุนัขได้กินคำเดียวหมดเหมือนกัน รับสั่งให้อาหารที่หุ้งไว้สำหรับพระนครทั้งสิ้น มันก็กินหมดเสียคำเดียว แล้วก็เห่าขึ้นอีก พระราชาทรงตกพระทัยสะดุ้งกลัว ทรงดำริว่า 
          นี่เห็นจะไม่ใช่สุนัขธรรมดาเสียแล้ว ต้องเป็นยักษ์โดยไม่ต้องสงสัย เราจะถามเหตุที่มาของนายพรานนี้ ได้ตรัสว่า “ท่านผู้มีความเพียร สุนัขตัวนี้ดำจริง ดุร้าย มีเขี้ยวขาว มีความร้อนพุ่งออกจากเขี้ยว ท่านผูกไว้ด้วยเชือกถึง ๕ เส้น สุนัขของท่านจะทำอะไร”
          ดูก่อนพระเจ้าอุสินนระ สุนัขตัวนี้ดำจริง ดุร้าย มีเขี้ยวขาว มีความร้อนพุ่งออกจากเขี้ยว ท่านผูกไว้ด้วยเชือกถึง ๕ เส้น สุนัขของท่านจะทำอะไร 
          “ดูก่อนพระเจ้าอุสินนระ สุนัขนี้มิได้มาเพื่อต้องการกินเนื้อ แต่เพื่อจะกินมนุษย์ทั้งหลาย เมื่อใดจักมีมนุษย์ทำความพินาศให้แก่มนุษย์ทั้งหลาย เมื่อนั้นสุนัขสีดำตัวนี้จะหลุดไปกินมนุษย์”
          ลำดับนั้น พระราชาตรัสถามท้าวสักกะว่า “นายพรานผู้เจริญ สุนัขดำของท่านจักกินเนื้อมนุษย์ทุกคนหรือว่าจักกินแต่ผู้ที่มิใช่มิตรของท่านเท่านั้น” ท้าวสักกะตอบว่า “พระราชาผู้ใหญ่ สุนัขจักกินเนื้อมนุษย์ที่มิใช่มิตรของเราเท่านั้น คนเช่นไรที่มิใช่มิตรของท่านในที่นี้ คนที่ไม่ยินดีในธรรม มีความประพฤติไม่เรียบร้อย ชื่อว่าผู้มิใช่มิตร ขอท่านจงกล่าวลักษณะคนเหล่านั้นให้เราทราบก่อน”
          ลำดับนั้น ท้าวสักกเทวราชเมื่อจะตรัสบอกแก่พระราชา ได้ตรัสคาถาสิบคาถาว่า
          ผู้ที่ปฏิญาณตนว่าเป็นสมณะ มีบาตรในมือ มีศีรษะโล้น คลุมผ้าสังฆาฏิ ทำไร่ไถนาเลี้ยงชีพ คนเหล่านี้เป็นคนทุศีล มิใช่มิตรของเรา สุนัขของเราจักฆ่ากินเนื้อได้เมื่อใด สุนัขดำจะหลุดจากเชือกห้าเส้นไปเมื่อนั้น
          เมื่อใดจักมีหญิงผู้ปฏิญาณตนว่ามีตบะ บวชมีศีรษะโล้น คลุมผ้าสังฆาฏิเที่ยวบริโภคกามคุณอยู่ เมื่อนั้นสุนัขดำตัวนี้จะหลัดไปกินหญิงเหล่านั้น
          เมื่อใดชฏิลทั้งหลายมีหนวดอันยาว มีฟันเขลอะ มีศีรษะเกลือกกลั้วด้วยธุลี เที่ยวภิกขาจาร รวมทรัพย์ไว้ให้กู้ ชื่นชมยินดีด้วยดอกเบี้ยเลี้ยงชีพ เมื่อนั้นสุนัขดำตัวนี้จะหลุดไปกินชฎิลเหล่านั้น
          เมื่อใดพราหมณ์ทั้งหลายเรียนเวท คือ สาวิตติศาสตร์ ยัญญวิธี และยัญญสูตร แล้วรับจ้างบูชายัญ เมื่อนั้นสุนัขดำตัวนี้จะหลุดไปกินพราหมณ์เหล่านั้น
          เมื่อใดผู้มีกำลังสามารถจะเลี้ยงดูมารดาบิดาได้ แต่ไม่เลี้ยงดูมารดาบิดาผู้แก่เฒ่าชรา เมื่อนั้นสุนัขดำตัวนี้จะหลุดไปกินคนเหล่านั้น
          อนึ่ง เมื่อใด ชนทั้งหลายจักกล่าวดูหมิ่นมารดาบิดาผู้แก่เฒ่าชราว่าเป็นคนโง่เง่า เมื่อนั้นสุนัขดำตัวนี้จะหลุดไปกินคนเหล่านั้น
          อนึ่ง เมื่อใด คนในโลกจะคบหาภรรยาของอาจารย์ ภรรยาเพื่อน ป้าและน้าเป็นภรรยา เมื่อนั้นสุนัขดำตัวนี้จะหลุดไปกินคนเหล่านั้น
          เมื่อใด พวกพราหมณ์จักถือโล่และดาบ คอยดักอยู่ที่ทางฆ่าคนชิงเอาทรัพย์ เมื่อนั้นสุนัขดำตัวนี้จะหลุดไปกินพราหมณ์เหล่านั้น
          เมื่อใด นักเลงหญิงทั้งหลายขัดสีผิวกายบำรุงร่างกายให้อ้วนพี ไม่รู้จักหาทรัพย์ ร่วมสังวาสกับหญิงหม้ายที่มีทรัพย์ ครั้นใช้สอยทรัพย์ของหญิงหม้ายนั้นหมดแล้ว ก็ทำลายมิตรภาพไปหาหญิงอื่นต่อไป เมื่อนั้นสุนัขดำตัวนี้จะหลุดไปกินนักเลงหญิงเหล่านั้น
          เมื่อใด คนมีมารยาปกปิดโทษตน เปิดเผยโทษผู้อื่น คิดให้ทุกข์ผู้อื่น มีความคิดอย่างอสัตบุรุษอยู่ในโลก เมื่อนั้น สุนัขดำจะหลุดพ้นจากเชือก ๕ เส้น ไปกินคนเหล่านั้นทั้งหมด
          ก็แหละครั้งตรัสอย่างนี้อล้ว ท้าวสักกะได้ตรัสว่า “มหาราช คนเหล่านี้มิใช่มิตรของเรา” แล้วทรงแสดง สุนัขทำเป็นอยากจะวิ่งไปกัดพวกอธรรมนั้นๆ ขณะนั้นมหาชนมีจิตหวาดกลัว ท้าวสักกะทำเป็นฉุดเชือกรั้งสุนัขไว้ แล้วละเพศนายพราน เหาะขึ้นไปในอากาศดังดวงอาทิตย์แรกขึ้นรุ่งเรืองอยู่ด้วยอานุภาพของพระองค์ แล้วตรัสว่า มหาราช เราคือท้าวสักกเทวราช มาเห็นด้วยว่าโลกนี้จักพินาศ เพราะเดี๋ยวนี้มหาชนพากันประมาทประพฤติอธรรม ตายไปๆ แออัดอยู่ในอบาย เทวโลกดุจว่างเปล่า ตั้งแต่นี้ไปเราจักรู้สิ่งที่ควรทำสำหรับผู้ไม่ประพฤติธรรม ท่านจงเป็นผู้ไม่ประมาทเถิดพระมหาราช แล้วทรงแสดงธรรมด้วยพระคาถาที่มีค่าตั้งร้อยสี่พระคาถา ให้มนุษย์ทั้งหลายตั้งอยู่ในธรรมและศีล ทำพระศาสนาที่เสื่อมโทรมให้สามารถเป็นไปได้อีกพันปี แล้วพามาตุลีเสด็จไปยังพิมานของพระองค์
   

นิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“อย่ามีชีวิตอยู่อย่างประมาท”

พุทธศาสนสุภาษิตประจำเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ
จงยังประโยชน์ให้สำเร็จ ด้วยความไม่ประมาท (๑๐/๑๔๘)

ที่มา : นิทานชาดกจากพระไตรปิฎก : พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ ฉบับสมบูรณ์ จัดพิมพ์เผยแพร่ธรรมโดยธรรมสภา สถาบันบันลือธรรม

 5 
 เมื่อ: 5 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
เหมือนถูกหวย! หนุ่มน้อยวัย 16 ดีใจเจอ "ก้อนอำพันทะเล"  ตามความฝัน ลั่นพร้อมขายทันที
         


เหมือนถูกหวย! หนุ่มน้อยวัย 16 ดีใจเจอ &quot;ก้อนอำพันทะเล&quot;  ตามความฝัน ลั่นพร้อมขายทันที" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;เหมือนถูกหวย!  หนุ่มน้อยสตูล วัย 16 ปี ดีใจหลังพบ "อ้วกวาฬ" ลอยมาติดหาด พร้อมขายเอาเงินมาลงทุน
         

https://www.sanook.com/news/9389254/
         

 6 
 เมื่อ: 8 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
หมอเตือนเรื่อง "กินน้ำ" เจอสาวอายุแค่ 20 ติดเชื้อรุนแรงทั้งร่างกาย อัตราตายกว่า 50%
         


หมอเตือนเรื่อง &quot;กินน้ำ&quot; เจอสาวอายุแค่ 20 ติดเชื้อรุนแรงทั้งร่างกาย อัตราตายกว่า 50%" width="100" height="100&nbsp;&nbsp; สาวอายุแค่ 20 ไข้สูงจนหมดสติ ติดเชื้อรุนแรงทั้งร่างกาย อัตราตายกว่า 50% หมอย้ำความสำคัญของการ "กินน้ำ"
         

https://www.sanook.com/news/9389190/
         

 7 
 เมื่อ: 9 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย Maintenence - กระทู้ล่าสุด โดย Maintenence



เทพบันดาล
โดย พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร เมืองพัทยา ชลบุรี


ความสุขที่ได้จากข้าวของเงินทองนี้มันสู้ความสุขที่ได้จากความสงบไม่ได้ ความสุขที่ได้จากความสงบมันดีกว่า มันสุขมากกว่า แล้วมันไม่มีพิษมีภัยเหมือนกับความสุขที่ได้จากข้าวของเงินทอง จากการมีแฟน เพราะข้าวของเงินทองมันก็ไม่แน่นอน แฟนก็ไม่แน่นอน วันดีคืนดีเขาอาจจะจากเราไปเมื่อไหร่ก็ได้ พอเขาจากเราไปทีนี้ ความสุขที่ได้จากเขาก็เลยกลายเป็นความเศร้าโศกเสียใจ แต่ความสุขที่ได้จากความสงบนี้ไม่มีพิษมีภัย ถึงแม้มันจะหายไปมันก็ไม่ได้ทำให้เราเศร้าโศกเสียใจ แต่มันจะทำให้เราอยากจะกลับเข้าไปอยู่เรื่อยๆ

ดังนั้น ต้องพยายามเข้าให้ถึงความสงบนี้ให้ได้ แม้แต่เพียงครั้งเดียวก็ตาม แล้วก็ชั่วแป๊บเดียวก็ตาม ถ้าใครมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อน บางท่านอาจจะเคยมีบุญเก่ามา แล้ววันดีคืนดีไปอยู่คนเดียวตามลำพังสักแป๊บหนึ่ง จิตก็อาจจะรวมขึ้นมาโดยอัตโนมัติก็ได้ โดยที่ไม่คาดฝันมาก่อน เหมือนพระพุทธเจ้าสมัยที่เป็นเด็ก เคยถูกปล่อยให้นั่งอยู่คนเดียวใต้ร่มไม้ วันนั้นมีงานในวัง พวกที่คนคอยดูแลอุปัฏฐากไปช่วยงาน ปล่อยให้เจ้าชายสิทธัตถะราชกุมารนั่งอยู่คนเดียวใต้โคนไม้ พอไม่มีใครมายุ่งกับท่าน ใจของท่านที่เคยมีความสงบมาจากอดีตชาติ มันก็สงบขึ้นมาทันทีเพราะบรรยากาศมันเอื้อต่อความสงบ พอกายวิเวกจิตก็วิเวกโดยที่ไม่ได้ไปตั้งใจนั่งสมาธิ ดูลมหายใจ หรือพุทโธ หรืออะไรแต่อย่างใด อันนี้เรื่องของบุญเก่า ท่านถึงเรียกว่าเป็นมงคลอย่างหนึ่ง

การที่ได้มีการกระทำบุญเก่าไว้ วันดีคืนดีบุญเก่ามันส่งผลให้กับเราได้ เช่น บางทีเราตกทุกข์ได้ยาก ก็มีคนยื่นมือมาช่วยเหลือเรา โดยที่เราไม่ต้องไปขออะไรจากใคร อันนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องของบุญเก่า เราเคยช่วยคนอื่นมามาก พอถึงเวลามันจะกลับมาหาเราเองเวลาที่เราเดือดร้อน เวลาที่เราต้องการความช่วยเหลือ ไม่ต้องไปขอ เพราะเทวดาไปขอให้แทน เคยได้ยินว่า “เทพบันดาล” ไหม เพราะคนที่มีบุญนี้เทพจะปกครอง จะคุ้มครอง จะคอยดูแลรักษา พอรู้ว่าขาดเหลืออะไร เดือดร้อนอะไร เดี๋ยวเทพไปเข้าฝันคนนั้นคนนี้เอง เดี๋ยวคนนั้นคนนี้ก็อยู่ดีๆ ก็มาหามาช่วยเรา โดยที่เราไม่ต้องไปขออะไร ขอให้เรามีบุญเท่านั้นแหละ ขอให้เรามีบุญในอดีต บุญเก่า แล้วมันจะมาเป็นสิ่งที่จะมาคุ้มครองเราในยามที่เราตกทุกข์ได้ยาก ท่านถึงบอกว่าคนที่มีบุญนี้เป็นคนที่ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ บุญนี่แหละจะคุ้มครองพวกเรา

ถ้าพวกเรายังไม่มีก็ทำกันเสียแต่บัดนี้ ยังมีเวลาทำได้ เพราะเราอาจยังต้องอยู่ต่อไปในอนาคตอีกนาน อาจยังต้องกลับมาเกิดใหม่อีกหลายรอบด้วยกัน ถ้าเรายังไม่สามารถทำพระนิพพานให้แจ้งในรอบนี้ได้ เราก็อาจจะต้องกลับมาเกิด ดังนั้นเราอย่าประมาทในบุญ ถึงแม้ว่าเราจะไปภาวนาก็ตาม แต่ถ้าเรามีเวลามีโอกาสที่จะทำบุญได้เราก็ควรจะทำ ช่วยเหลือใครได้ก็ช่วยเหลือเขาไป เพราะเราไม่ขาดทุน เพราะเงินทองเหลือใช้ ตายไปก็เอาไปไม่ได้ เก็บไว้เฉยๆ ก็ไม่ได้ทำประโยชน์อะไร เก็บไว้ทำไม สู้เอามาทำเป็นบุญไม่ดีกว่าหรือ เพราะบุญนี้เป็นเหมือนซื้อประกันชีวิตซื้อประกันภัย เดี๋ยวเวลาที่เราตกทุกข์ได้ยาก ประกันภัยของบุญจะมาช่วยเหลือเราต่อไป


ธรรมะหน้ากุฏิ
วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๓
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี

 8 
 เมื่อ: 10 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย Maintenence - กระทู้ล่าสุด โดย Maintenence


ขุททกนิกายภาค ๑  เอกนิบาต ๑. อปัณณกวรรค
๙. มฆเทวชาดก ว่าด้วยเทวทูต

พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระเชตวันวิหาร ทรงปรารภการเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้

สมัยหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายนั่งพรรณนาการเสด็จออกบรรพชาของพระทศพล ลำดับนั้น พระศาสดาเสด็จมายังโรงธรรมสภา ประทับนั่งบนพุทธอาสน์ ตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาถามว่า

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอนั่งสนทนากันด้วยเรื่องอะไรหนอ ?”

ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ ผู้เจริญ ข้าพระองค์ทั้งหลายนั่งพรรณนาการเสด็จออกบรรพชาของพระองค์ พระพุทธเจ้าข้า”

พระศาสดาตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตถาคตออกเนกขัมมะในบัดนี้เท่านั้นก็หามิได้ แม้ในกาลก่อนก็ได้ออกเนกขัมมะแล้วเหมือนกัน”

ภิกษุทั้งหลายจึงอาราธนาพระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อตรัสเรื่องนั้นให้แจ่มแจ้ง พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงแสดงเรื่องในอดีต ดังต่อไปนี้

ในอดีตกาล ในกรุงมิถิลา วิเทหรัฐ ได้มีพระราชาพระนามว่า มฆเทวะ เป็นพระมหาธรรมราชาผู้ดำรงอยู่ในธรรม พระเจ้ามฆเทวะนั้นทรง ให้กาลเวลาอันยาวนานหมดสิ้นไปวันหนึ่ง ตรัสเรียกช่างกัลบกมาว่า

“ดูก่อน ช่างกัลบกผู้สหาย ท่านเห็นผมหงอกบนศีรษะของเราในกาลใด ท่านจงบอก แก่เราในกาลนั้น”

ฝ่ายช่างกัลบกก็ได้ทำให้เวลาอันยาวนานหมดสิ้นไป วันหนึ่ง เห็นพระเกศาหงอกเส้นหนึ่งในระหว่างพระเกศาทั้งหลายอันมีสีดังดอกอัญชัน ของพระราชา จึงกราบทูลว่า

“ข้าแต่สมมติเทพ พระเกศาหงอกเส้นหนึ่งปรากฏแก่พระองค์”

พระราชาตรัสว่า “สหาย ถ้าอย่างนั้นท่านจงถอนผมหงอกนั้นของเราเอามาวางในฝ่ามือ”

เมื่อพระราชาตรัสอย่างนั้น ช่างกัลบกจึงเอาแหนบทองถอนแล้วให้พระเกศาหงอกประดิษฐานอยู่ในฝ่าพระหัตถ์ของพระราชา

ในกาลนั้น พระราชายังมีพระชนมายุเหลืออยู่ ๘๔,๐๐๐ ปี แม้เมื่อเป็นอย่างนั้น พระราชาได้ทรงเห็นผมหงอกแล้ว ก็ทรงสำคัญประหนึ่งว่าพระยามัจจุราชมายืนอยู่ใกล้ ๆ และประหนึ่งว่าตนเองมาอยู่บรรณศาลาอันไฟติดโพลงอยู่ ฉะนั้น ได้ทรงถึงความสังเวช จึงทรงพระดำริว่า

“ดูก่อนมฆเทวะผู้เขลา เจ้าไม่อาจละกิเลสเหล่านี้จนตราบเท่าผมหงอกเกิดขึ้น”

เมื่อพระเจ้ามฆเทวะนั้นทรงรำพึงถึงผมหงอกที่ปรากฏแล้ว ความเร่าร้อนภายในก็เกิดขึ้น พระเสโทในพระสรีระไหลออก จนชุ่มเครื่องทรง

พระเจ้ามฆเทวะนั้นทรงพระดำริว่า “เราควรออกบวชในวันนี้แหละ” จึงทรงพระราชทานบ้านชั้นดีแก่ช่างกัลบก แล้วรับสั่งให้เรียกพระโอรสพระองค์ใหญ่มาตรัสว่า

“ดูก่อนพ่อ ผมหงอกปรากฏบนศีรษะของพ่อแล้ว พ่อเป็นคนแก่แล้ว ก็กามของมนุษย์พ่อได้บริโภคแล้ว บัดนี้ พ่อจักแสวงหากามอันเป็นทิพย์ นี้เป็นการออกบวชของพ่อ เจ้าจงครอบครองราชสมบัตินี้ ส่วนพ่อบวชแล้วจักอยู่กระทำสมณธรรมในอัมพวันอุทยานชื่อมฆเทวะ”

อำมาตย์ทั้งหลายเข้าไปเฝ้าพระราชา แล้วทูลถามว่า

“ข้าแต่สมมติเทพอะไรเป็นเหตุแห่งการทรงผนวชของพระองค์ ?”

พระราชาทรงถือผมหงอก ตรัสพระคาถานี้แก่อำมาตย์ทั้งหลายว่า

“ผมที่หงอกบนศีรษะของเรานี้เกิดแล้ว เป็นเหตุนำวัยไป เทวทูตปรากฏแล้ว นี้เป็นสมัยแห่งการบรรพชาของเรา”

พระเจ้ามฆเทวะนั้น ครั้นตรัสอย่างนี้แล้วจึงสละราชสมบัติบวชเป็นฤๅษีในวันนั้นเอง ประทับอยู่ในเมฆอัมพวันนั้นนั่นแหละ เจริญพรหมวิหาร ๔ อยู่ ๘๔,๐๐๐ ปี ดำรงอยู่ในฌานอันไม่เสื่อม สวรรคตแล้วบังเกิดในพรหมโลก จุติจากพรหมโลกนั้น ได้เป็นพระราชาพระนามว่า เนมิ ในกรุงมิถิลา นั่นแหละอีก สืบต่อวงศ์ของพระองค์ที่เสื่อมลง จึงทรงผนวชในอัมพวันนั้นนั่นแหละ เจริญพรหมวิหาร กลับไปเกิดในพรหมโลกตามเดิมอีก

แม้พระศาสดาก็ได้ตรัสว่า

“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ตถาคตออกมหาภิเนษกรมณ์ในบัดนี้เท่านั้นก็หามิได้ แม้ในกาลก่อนก็ได้ออกแล้วเหมือนกัน”

ครั้งทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดงแล้ว จึงทรงประกาศอริยสัจ ๔ ในเวลา จบอริยสัจ ภิกษุบางพวกได้เป็นพระโสดาบัน บางพวกได้เป็นพระสกทาคามี บางพวกได้เป็นพระอนาคามี

พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประชุมชาดกว่า

ช่างกัลบกในครั้งนั้น ได้เป็น พระอานนท์ในบัดนี้

บุตรในครั้งนั้น ได้เป็นพระราหุลในบัดนี้

ส่วนพระเจ้ามฆเทวะได้เป็นเราตถาคตแล


ที่มา วัดโพรงจระเข้ จ.ตรัง

 9 
 เมื่อ: 10 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
ปาร์ตี้วันเกิด "แหวนแหวน" ธีมซาฟารี รวมซุปตาร์คนดังจัดเต็มอลังการทำถึงทุกคน
         


ปาร์ตี้วันเกิด &quot;แหวนแหวน&quot; ธีมซาฟารี รวมซุปตาร์คนดังจัดเต็มอลังการทำถึงทุกคน" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;แหวนแหวน ปวริศา จัดงานวันเกิดธีมทุ่งหญ้าสะวันนา รวมซุปตาร์คนดังจัดเต็มแต่งถึงกันทุกคนจริงๆ
         

https://www.sanook.com/news/9389078/
         

 10 
 เมื่อ: 13 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
เปิดภาพความเสียหาย สิงคโปร์แอร์ไลน์ส SQ321 ตกหลุมอากาศ เละเทะทั้งลำ
         


เปิดภาพความเสียหาย สิงคโปร์แอร์ไลน์ส SQ321 ตกหลุมอากาศ เละเทะทั้งลำ" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;เปิดภาพความเสียหาย สิงคโปร์แอร์ไลน์ส SQ321 ประสบเหตุตกหลุมอากาศ สภาพห้องโดยสารเละเทะทั้งลำ  
         

https://www.sanook.com/news/9389014/
         

หน้า:  [1] 2 3 ... 10
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.372 วินาที กับ 24 คำสั่ง

Google visited last this page 04 เมษายน 2567 20:52:25