สู้มา 13 ปี ศาลอุทธรณ์สั่ง สตช. จ่าย 380,000 ชดเชย 'ฤทธิรงค์' เหยื่อตำรวจซ้อม เดิมสั่งชดเชย 3 ล้าน
<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2023-12-22 15:47</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ศาลอุทธรณ์สั่ง สตช. จ่าย 380,000 บาท เดิมศาลชั้นต้นสั่งจ่ายค่าชดเชย 3,380,000 บาท คดี “ฤทธิรงค์ ชื่นจิตร” เหยื่อตำรวจซ้อมทรมาน ถูกคลุมถุ<wbr></wbr>งดำให้<wbr></wbr>ขาดอากาศหายใจ เพื่อบังคับให้รับสารภาพในคดีวิ่<wbr></wbr>งราวทรัพย์เมื่อปี 2552 ก่อนตำรวจจะพบว่าจับผิดคน ซึ่งขณะนั้นฤทธิรงค์อายุเพียง 18 ปี โดยคดีนี้ฤทธิรงค์ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมากว่า 13 ปี</p>
<p> </p>
<p>22 ธ.ค. 2566 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ที่ผ่านมา ศาลแพ่งกรุงเทพใต้อ่านคำพิ<wbr></wbr>พากษาชั้นอุทธรณ์สั่งสำนั<wbr></wbr>กงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพียง 380,000 บาท แต่เดิมศาลชั้นต้นอ่านคำพิ<wbr></wbr>พากษาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 3,380,000 บาท กรณีคดีฤทธิรงค์ ชื่นจิตร เหยื่อตำรวจซ้อมทรมานคลุมถุ<wbr></wbr>งดำเป็นโจทก์ฟ้องสำนั<wbr></wbr>กงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นจำเลย เรียกค่าเสียหาย 13 ล้าน ส่วนคำขอให้ลบทะเบียนประวัติ<wbr></wbr>อาชญากรของโจทก์ให้ยกฟ้อง </p>
<p>คดีนี้สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่<wbr></wbr>อวันที่ 28 ม.ค. 2552 ฤทธิรงค์ ชื่นจิตร ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกั<wbr></wbr>บการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวั<wbr></wbr>ดปราจีนบุรีจับกุมและซ้<wbr></wbr>อมทรมานทำร้ายร่างกาย โดยมีการใช้ถุงดำคลุมศีรษะให้<wbr></wbr>ขาดอากาศหายใจ เพื่อบังคับให้รับสารภาพในคดีวิ่<wbr></wbr>งราวทรัพย์ ซึ่งจากการสืบสวนในภายหลังพบว่<wbr></wbr>าเป็นการจับผิด ขณะนั้นฤทธิรงค์มีอายุเพียง 18 ปี เท่านั้น ต่อมาปี 2558 ฤทธิรงค์ได้ฟ้องดำเนินคดีอาญาต่<wbr></wbr>อเจ้าหน้าที่ผู้กระทำความผิ<wbr></wbr>ดในกรณีดังกล่าวรวม 7 นาย โดยในคดีนี้ ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาถือว่าถึ<wbr></wbr>งที่สุดว่า พันตำรวจโทท่านหนึ่ง(จำเลยที่ 3) กระทำความผิดจริง ตามประมวลอาญา มาตรา 157, 200 วรรคสอง, 295, 296, 309, 310 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 83 เป็นกรรมเดียวผิดต่<wbr></wbr>อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จึงลงโทษฐาน “เป็นเจ้าพนักงานมี<wbr></wbr>อำนาจหน้าที่สืบสวนสอบสวนคดี<wbr></wbr>อาญา กระทำการเพื่อจะแกล้งให้บุ<wbr></wbr>คคลหนึ่งบุคคลใดต้องรับโทษ” ซึ่<wbr></wbr>งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด โดยลงโทษจำคุก 2 ปี และปรับ 12,000 บาท แต่ศาลลดโทษให้โดยเห็นว่าคำให้<wbr></wbr>การของจำเลยเป็นประโยชน์แก่<wbr></wbr>การพิจารณา จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 1 ปี 4 เดือน และปรับ 8,000 บาท เมื่อคำนึงถึงประวัติ อาชีพ และสภาพความผิดแล้ว และไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รั<wbr></wbr>บโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษเพื่อให้<wbr></wbr>โอกาสจำเลยกลับตัว กล่าวคือรอลงอาญาไว้เป็นเวลา 2 ปี</p>
<p>เดิมศาลชั้นต้นพิพากษา ให้ สตช.ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่<wbr></wbr>ฤทธิรงค์ ประกอบด้วย ค่าเสียหายต่อชีวิตร่างกายและศั<wbr></wbr>กดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 1 ล้<wbr></wbr>านบาท ค่าเสียหายต่อการถูกกักขังหน่<wbr></wbr>วงเหนี่ยวตั้งแต่เวลา 15.00-19.00 น. จำนวน 8 หมื่นบาท ค่าเสียหายต่อชื่อเสี<wbr></wbr>ยงโดยคำนวนจากสถานภาพของฤทธิ<wbr></wbr>รงค์ ขณะถูกทำร้<wbr></wbr>ายและโอกาสในการประกอบอาชี<wbr></wbr>พในอนาคต ให้ 3 แสนบาท และสุดท้ายค่าเสียหายต่อจิตใจ โดยศาลได้พิจารณาจากคำเบิ<wbr></wbr>กความของแพทย์ที่รักษาโจทก์<wbr></wbr>มาเป็นเวลาหลายปี ว่าโจทก์มีอาการทางจิตเวชหรือ P<wbr></wbr>TSD หรือโรคเครียดอย่างรุ<wbr></wbr>นแรงจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญดั<wbr></wbr>งกล่าว จำนวน 2 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,380,000 บาท โดยให้คิดดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันทำละเมิดต่อโจทก์เมื่<wbr></wbr>อวันที่ 28 มกราคม 2552 จนถึงวันที่ 10 เมษายน 2564 หากรวมดอกเบี้ยถึงวันฟ้อง และให้คิดดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันที่ 11 เมษายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระให้แก่ฤทธิรงค์ เสร็จสิ้น ให้ยกคำขอให้ให้ลบประวัติ<wbr></wbr>อาชญากรของฤทธิรงค์ อีกด้วย </p>
<p>ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาปรับลดค่<wbr></wbr>าสินไหมทดแทนของศาลชั้นต้น โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจ่<wbr></wbr>ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ฤทธิรงค์ ชื่อจิตร โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้</p>
<p>1. ค่าเสียหายต่อชีวิตร่<wbr></wbr>างกาย ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ สตช ชำระค่าเสียหายส่วนนี้ 1 ล้านบาท ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเหมาะสมแล้ว </p>
<p>2. ค่าเสียหายต่อชื่อเสี<wbr></wbr>ยงเกียรติยศ ที่โจทก์เรียกค่าเสียหายเป็<wbr></wbr>นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท โดยมีพยานหลักฐานว่าขณะเกิดเหตุ<wbr></wbr>โจทก์มีอายุเพียง 18 ปี เคยสอบคัดเลือกเข้าเรียนโรงเรี<wbr></wbr>ยนนายร้อย นอกจากนี้โจทก์ไม่มีพยานหลั<wbr></wbr>กฐานอื่นมาแสดงว่าโจทก์เป็นบุ<wbr></wbr>คคลมีชื่อเสียงได้รั<wbr></wbr>บความเคารพนับถือนวงสังคมไม่ว่<wbr></wbr>าจะเป็นบริเวณที่พักอาศัยหรื<wbr></wbr>อดรงเรียน การที่โจทก์ถูกกลั่นอก้งดำเนิ<wbr></wbr>นคดี อัยการก็มีคำสั่งไม่สั่งฟ้อง ทั้งเรื่องราวการถูกซ้<wbr></wbr>อมทรมานให้รับสารภาพถูกเผยแพร่<wbr></wbr>และได้รับความเห็นใจต่<wbr></wbr>อสาธารณะชน ไม่น่าจะทำให้ชื่อเสียงเกียรติ<wbr></wbr>คุรของโจทก์เสียหายมาก ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ สตช ชำระ 3 แสนบาท ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเหมาะสมแล้ว </p>
<p>3. ค่าเสียหายต่อเสรีภาพ ที่ศาลชั้นต้นสั่งให้จ่าย 8 หมื่<wbr></wbr>นบาท ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเหมาะสมแล้ว</p>
<p>4. ค่าเสียหายอย่างอื่นอั<wbr></wbr>นมิไช่ตัวเงิน เมื่อพิจารณาแล้ว ขณะเกิดเหตุโจทก์มีอายุเพียง 18<wbr></wbr> ปี แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกั<wbr></wbr>บพวกใช้กำลังทำร้ายร่างกาย ทั้งยังใช้ถุงพลาสติกมาครอบศี<wbr></wbr>รษะและรวบปากถุงบริเวณต้นคอเพื่<wbr></wbr>อไม่ให้โจทก์มีอากาศหายใจ โดยมีการกระทำเช่นนี้หลายครั้ง เพื่อให้รับสารภาพ การกระทำเช่<wbr></wbr>นนั้นย่อมส่งผลต่อจิตใจของโจทก์<wbr></wbr>เป็นอย่างมาก โจทก์เข้ารับการรักษาที่สถาบั<wbr></wbr>นกัลยาณ์ราชนครินทร์ ซึ่งแพทย์ผู้ตรวจรักษาโจทก์เห็น โจทก์มีอาการระแวง มีความเครียดหลังเจอเหตุการณ์<wbr></wbr>สะเทือนขวัญ หรือ PTSD การถูกระทำดังกล่าวส่<wbr></wbr>งผลต่อสภาพจิตใจต้องใช้<wbr></wbr>เวลายาวนานในการบำบัดฟื้นฟูให้<wbr></wbr>กลับมามีสภาพใกล้เคียงกก่อนเกิ<wbr></wbr>ดเหตุ ที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้จ่าย 2 ล้านบาท ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ยังน้อยเกินไป สมควรกำหนดให้ 3 ล้านบาท รวมค่<wbr></wbr>าเสียหายที่สตช.ต้องชดใช้ค่าสิ<wbr></wbr>นไหมทดแทนจำนวนเงินทั้งสิ้น 4,<wbr></wbr>380,000 บาทแก่โจทก์ </p>
<p>5. ศาลอุทธรณ์มีปัญหาต้องวิ<wbr></wbr>นิจฉัยในกรณี การนำเงินที่ดาบตำรวจและผู้กำกั<wbr></wbr>บ 2 นาย นำเงินมาชดใช้แก่โจทก์ จำนวน 4 ล้านบาท หักออกจากค่าสินไหมทดแทนที่<wbr></wbr>จำเลยชดใช้กับโจทก์หรือไม่ ศาลอุทธรณ์มีความเห็นในทำนองว่า ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้<wbr></wbr>องมาทั้งหมดเป็นค่าเสี<wbr></wbr>ยหายจากการกระทำของตำรวจทั้<wbr></wbr>งหมดทั้งเจ็ดนาย ไม่มีการแยกแยะว่าเจ้าพนั<wbr></wbr>กงานตำรวจคนใดจะต้องรับผิ<wbr></wbr>ดชอบในส่วนค่าเสียหายนี้ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงในคดีอาญา ที่โจทก์ฟ้องเจ้าพนักงานตำรวจทั้<wbr></wbr>งเจ็ดต่อศาลปราจีนบุรี มีดาบตำรวจและผู้กำกับ 2 นายเจร<wbr></wbr>จาตกลงกับโจทก์และชดใช้ค่าเสี<wbr></wbr>ยหาย 4 ล้านบาท โจทก์จึงถอนฟ้องดาบตำรวจและผู้<wbr></wbr>กำกับ 2 นายดังกล่าว ความเสียหายที่โจทก์ได้รั<wbr></wbr>บการชดใช้บางส่วนแล้ว จึงต้องนำเงินมาหักจากที่โจทก์<wbr></wbr>เรียกร้องเอาจากจำเลย มิฉะนั้นจะกลายเป็นโจทก์ได้รั<wbr></wbr>บชดใช้ความเสียหายเกินความเสี<wbr></wbr>ยหายที่แท้จริง ศาลอุทธรณ์จึงกำหนดให้<wbr></wbr>จำเลยชดใช้ค่าเสียหายต่อโจทก์<wbr></wbr>รวม 380,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย นอกจากนี้ให้เป็นไปตามคำพิ<wbr></wbr>พากษาศาลชั้นต้น</p>
<p>“มันสะเทือนใจว่าเราถูกพรากสิ<wbr></wbr>ทธิมาตั้งแต่วันแรกที่ลู<wbr></wbr>กโดนตำรวจซ้อม ทรมานลู<wbr></wbr>กหมดอนาคตเพราะป่วยจิตเวช ตลอดชี<wbr></wbr>วิต ครอบครัวทุกข์ทรมานมาจนถึ<wbr></wbr>งปัจจุบัน ในวันนี้ฟังคำพิ<wbr></wbr>พากษาศาลอุทธรณ์ กำหนดค่าเสี<wbr></wbr>ยหายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจ่<wbr></wbr>ายเพียง380,000บาท เราไม่เห็นด้<wbr></wbr>วยกับศาลอุทธรณ์อย่างยิ่ง เราต้<wbr></wbr>องอดทน ความอดทนคือความยุติ<wbr></wbr>ธรรมหรอ? เดินทางมา 10 กว่าปี วั<wbr></wbr>นนี้รู้สึกเหมือนถูกพรากความยุ<wbr></wbr>ติธรรม” หลังฟังคำพิพากษา สมศั<wbr></wbr>กดิ์ ชื่นจิตร พ่อของฤทธิรงค์ ก<wbr></wbr>ล่าว</p>
<p> </p>
<p>มูลนิธิผสานวัฒนธรรม จึงขอเชิญชวนสื่<wbr></wbr>อมวลชนและประชาชนที่สนใจร่วมติ<wbr></wbr>ดตามและให้กำลังใจครอบครัวชื่<wbr></wbr>นจิตรเหยื่อซ้อมทรมาน ที่เดินทางต่อสู้เรียกร้<wbr></wbr>องมาตลอด 13 ปี เพียงต้องการความเป็<wbr></wbr>นธรรมจากกระบวนการยุติธรรมซึ่<wbr></wbr>งเป็นเสาหลักที่สำคั<wbr></wbr>ญของประเทศนี้ ว่าจะสามารถเป็นเสาหลักที่แท้<wbr></wbr>จริงให้กับเหยื่อ ผู้ถูกกระทำละเมิดให้ได้รั<wbr></wbr>บความเป็นธรรมที่แท้จริงได้หรื<wbr></wbr>อไม่ ต่อไป </p>
<p> </p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/12/107339