เจาะลึก “พ.ร.บ. คู่ชีวิต” กับ “กฎหมายคู่สมรส” ต่างกันอย่างไร!
สาระสำคัญของ พ.ร.บ คู่ชีวิต .......คู่ชีวิต หมายถึง บุคคลสองคนซึ่งเป็นเพศเดียวกันโดยกำเนิดและได้จดทะเบียนคู่ชีวิตตาม พ.ร.บ.นี้
การกำหนดให้ศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีเยาวชนและครอบครัวมีอำนาจพิพากษาคดีตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้
กำหนดให้การจดทะเบียนคู่ชีวิตจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อบุคคลทั้งสองฝ่ายยินยอม มีอายุ 17 ปีบริบูรณ์ และทั้งสองฝ่ายมีสัญชาติไทย หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสัญชาติไทย
กำหนดให้กรณีที่ผู้เยาว์จดทะเบียนคู่ชีวิตจะต้องได้รับความยินยอมจากบิดาและมารดา ผู้รับบุตรบุญธรรม ผู้ปกครอง หรือ ศาล รวมทั้งกำหนดให้ผู้เยาว์ย่อมบรรลุนิติภาวะเมื่อจดทะเบียนคู่ชีวิต
กำหนดให้คู่ชีวิตมีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหาย เช่นเดียวกับสามีหรือภรรยา และมีอำนาจ ดำเนินคดีต่างผู้ตายต่อไปเช่นเดียวกันกับสามีหรือภรรยา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
กำหนดบทบัญญัติเกี่ยวกับทรัพย์สินระหว่างคู่ชีวิตโดยแบ่งเป็นสินส่วนตัวและสินทรัพย์ร่วมกัน
คู่ชีวิตสามารถรับบุตรบุญธรรมได้ และคู่ชีวิตสามารถฝ่ายหนึ่งจะจดทะเบียนรับผู้เยาว์ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของคู่ชีวิตอีกฝ่ายหนึ่ง มาเป็นบุตรบุญธรรมของตนเองก็ได้
เมื่อคู่ชีวิตฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตาย ให้คู่ชีวิตฝ่ายหนึ่งมีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับคู่สมรสตามบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยมรดก
กำหนดให้นำบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยคู่สมรส (มาตรา 1606, 1652, 1563) ครอบครัว และบุตรบุญธรรม มาใช้บังคับแก่คู่ชีวิตด้วยโดยอนุโลม
เจาะลึก “พ.ร.บ. คู่ชีวิต” กับ “กฎหมายคู่สมรส” ต่างกันอย่างไร!
"ร่าง พ.ร.บ. คู่ชีวิต" กับ "กฎหมายแพ่งว่าด้วยการสมรส" นั้น มีหลักการ 6 ประการที่ “เหมือนกัน” 1.ไม่ว่าจะเป็นชายและหญิง หรือ หญิงและหญิง หรือ ชายและชาย ต่างมีสิทธิหมั้นและสมรสกันได้
2.การหมั้นหมายหากมีอายุ 17 ปีแต่ยังไม่ถึง 20 ปีต้องได้รับความยินยอมจากพ่อแม่ ผู้ปกครอง
3.มีข้อห้ามในการจดทะเบียน คือ ห้ามสมรสซ้อน ห้ามสมรสกับบุคคลวิกลจริตที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ และห้ามสมรสกับญาติตามสายโลหิต
4.การจัดการสินสมรสนั้นบางกรณีต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง
5.รับบุตรบุญธรรมร่วมกันได้
6.รับมรดกของคู่สมรสอีกฝ่ายได้ กรณีที่ไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้
เจาะลึก “พ.ร.บ. คู่ชีวิต” กับ “กฎหมายคู่สมรส” ต่างกันอย่างไร!
ข้อ “แตกต่าง” ระหว่างร่าง พ.ร.บ คู่ชีวิต กับกฎหมาย คู่สมรส1.ชาย-หญิงจดทะเบียนสมรสกันได้กรณีอายุ 17 ปีแต่ยังไม่ถึง 20 ปีต้องได้รับความยินยามจากพ่อแม่ ส่วนร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต กำหนดให้บุคคลทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะหญิง-หญิง หรือ ชาย-ชาย มีอายุ 18 ปีแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปีต้องได้รับความยินยอมจากพ่อแม่ก่อน
2.การมอบของหมั้น สำหรับคู่สมรสชายหญิง กำหนดให้ฝ่ายชายมอบให้ฝ่ายหญิง ขณะที่ ร่าง พ.ร.บ.คู่ชีวิต กำหนดให้ ฝ่าย “ผู้หมั้น” มอบให้แก่ “ผู้รับหมั้น” หรือ สามารถแลกเปลี่ยนของหมั้นกันได้
3.การมอบสินสอดให้ฝ่ายชายมอบให้แก่บิดามารดาของหญิง ใน ร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต กำหนดให้ ฝ่ายผู้หมั้นมอบให้แก่บิดามารดาของผู้รับหมั้น หรือ สามารถมอบให้แก่บิดามารดาของทั้งสองฝ่ายได้
4.การเข้าถึงสิทธิประโยชน์และสวัสดิการของรัฐได้ตามกฎหมายกำหนดให้ คู่สมรส และ สามี-ภริยา ส่วนร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิตนั้น กำหนดให้ได้ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ คู่สมรส เช่น สิทธิเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ การรับประโยชน์ทดแทนตาม พ.ร.บ.ประกันสังคม
เจาะลึก “พ.ร.บ. คู่ชีวิต” กับ “กฎหมายคู่สมรส” ต่างกันอย่างไร!
ที่มา
https://www.wongnai.com/articles/act-spouse