เชิงอรรถ ๑. Chogyam Trungpa , 1981 Seminary Transcripts : Vajaradhatu ( Boulder : Vajradhatu Publications ) , p . 32 .
๒. ท่านสอนวัชรกิลัย การฝึกบาร์โดในความมืดเพียงลำพัง และซ็อกเชนซึ่งเป็นการปฏิบัติ ในนิกายญิงมา
๓. การสอนในหัวข้อนี้ต่อเนื่องกับการปูพื้นเรื่อง
ซ็อกเชน กอร์เด รูเชน ( แยกสังสารวัฏออก จากนิพพาน ) ซึ่งผู้ปฏิบัติจะผ่านประสบการณ์ใน
ภพภูมิทั้งหกหรือสภาวะจิตหกประการ การ แจกแจงสภาวะอันสับสนฟุ้งซ่านเหล่านี้อย่างละเอียด ทำให้นักปฏิบัติหยั่งเห็นถึงธรรมชาติ แห่งการตรัสรู้ ธรรมชาตินี้ถูกปกคลุมด้วยม่านอวิชชาในขณะที่อยู่ในสภาวะของภพภูมิทั้งหก มาโดยตลอด การบรรยายของตรุงปะสองในสามครั้งของปี ๑๙๗๑ หาอ่านได้ในหนังสือ Transcendind Madness
๔. คำว่ายานในภาษาธิเบต คือ เธกปะ เธกหมายถึง
" ยกขึ้น " หรือ
" พาไป " เติมปะเข้าไป กลายเป็นคำนาม ดังนั้นเธกปะจึงหมายถึง
" สิ่งที่ยกคุณขึ้นไป " บางครั้งตรุงปะโยงความ หมายของ ยาน กับคำว่า
lift ซึ่งใช้ในภาษาอังกฤษ แต่อเมริกันจะเรียก
elevator ๕. ริมโปเชมักวิจารณ์อย่างรุนแรง เรื่องที่การสอนพุทธธรรมที่ไม่ถูกต้องจะนำไปสู่อันตราย และขาดการปูพื้นซึ่งจะทำให้ชาวตะวันตกเข้าใจผิด
" อาจารย์ตะวันออกบางคนดดูจะตื่นเต้น กับชาวต่างชาติ ' โอ ! ในที่สุดเราก็ได้สอนพวกต่างชาติ คนละซีกโลก ' อาจารย์พวกนี้มักจะ โอนอ่อนให้นักศึกษาโดยไม่จำเป็น เพราะความหลงใหลได้ปลื้มกับคนเหล่านี้ แม้ว่าอาจารย์ เหล่านี้จะใจกว้างพอที่จะยอมรับศิษย์ชาวตะวันตกด้วยใจจริงและด้วยเมตตา แต่ใจดีมากเกิน ไปก็กลับเป็นอันตรายได้ " จาก Journey without Goal , p . 50 . ในขณะเดียวกันท่านได้ทุ่มเท ความพยายามทุกอย่างเพื่อฝึกให้นักศึกษาทุกคนเข้าถึงมรรควิธีของวัชรยาน
๖. Chogyam Trungpa , in Herbert V. Guenter and Chogyam Trungpa , The Dawn of Tantra , p . 79 .
๗. Chogyam Trungpa , 1986 Seminary Transcripts : Hinayana - Mahayana ( Boulder : Vajradhatu Publications ) , p . 13 .
๘. Journey without Goal , p . 2 .
๙. Crazy Wisdom , p . 9 .
๑o . ดู The Past Is the Goal , หน้า ๒๖ " มันเป็นเรื่องที่ยากมาก ลำบากมาก ด้วยเหตุนี้ เราจึงเรียกหีนยานอันเป็นบันไดขั้นแรกว่าเป็นทางสายแคบ ซึ่งเป็นทางที่เข้มงวด สุดโหด ไม่ใช่เรื่องที่จะมาทำสนุกหรือแค่ทำใจให้มีความสุข มันเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก "
๑๑. ผู้เขียนตัดสินใจที่จะนำสาระสำคัญของแต่ละยานมาเสนอเพื่อให้เห็นปรัชญาพื้นฐาน ของแต่ละยาน หีนยานให้ความสำคัญกับ
อริยสัจจ์ ๔ ( ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย ( เหตุแห่งทุกข์ ) นิโรธ ( ความดับทุกข์ ) และ มรรค ( หนทางแห่งความดับทุกข์ ) และกฏแห่งไตรลักษณ์ ( อนิจจตา ทุกขตา อนัตตา ) ) นอกจากนี้ หีนยานยังเน้นความสำคัญของการบรรลุถึงสภาวะ แห่งนิพพาน หรือความดับสิ้นแห่งทุกข์ การไปถึงที่สุดแห่งมรรคในนิกายหีนยานนี้
พุทธบริษัททั้งหลายต้องตั้งสัตย์อธิษฐานถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะ อันได้แก่
พระพุทธ ( ตัวอย่างของผู้ดำเนินในมรรค ) พระธรรม ( คำสั่งสอน ) และพระสงฆ์ ( กลุ่มพุทธบริษัท ) จุดหมายสูงสุดคือ การเป็นอิสระจากอาสวะกิเลสทั้งปวงของปัจเจกบุคคล ( โซโซ ทาร์ปา ) คำสอนนิกายหีนยานยังได้อธิบายในเรื่องกฏแห่งกรรม ( เป็นเรื่องที่เชอเกรียม ตรุงปะเคย ใช้เป็นหัวข้อหลักของการอบรมที่กรรมโชลิงในปี ๑๙๗๒ ) หลักปรัชญาของหีนยานบัญญัติ ไว้ในพระไตรปิฏก แบ่งออกเป็นสามหมวด ๑. สุตันตปิฏก เป็นหมวดพระสูตร คำสอนของ พระพุทธเจ้า ๒. พระวินัย เป็นประมวลสิกขาบทสำหรับภิกษูและภิกษุณี ๓. พระอภิธรรม ปิฏก เป็นประมวลหลักธรรมและคำอธิบายในธรรมชาติของสัจธรรม โดยเฉพาะความหลง ในอัตตา และขบวนการเกิดดับของอัตตาทั้งวงจร ( ดูหัวข้อพิเศษบรรยายโดย เชอเกรียม ตรุงปะ ใน Glimpse of Abhidharma )
๑๒. Journey without Goal , p . 2 .
๑๓. lbid , ดู also chaper 7 , " The Open Way , " in Cutting Through Spiritiual Materialism , p .91 - 104 บทที่ชื่อเดียวกันนี้ในเรื่อง The Myth of Freedom และ Training The Mind and Cultvating Loving - Kindness ( 1993 ) p . 4 . ซึ่งเชอเกรียม ตรุงปะกล่าวว่านิกายมหายานเป็น " ทางสายหลักที่ทุกคนต้องก้าวเดิน เป็นทางสาย กว้างใหญ่ไพศาล และเปิดออกอย่างมิมีประมาณ "
๑๔. Journey without Goal , p . 3 .
๑๕. Cutting Through Spiritiual Materialism , p . 97 .
๑๖. G.I. Gurdjieff เป็นอาจารย์ชาวกรีก - อาร์เมเนียน ผู้สอนศาสนมรรคตารมวิธีของตน โดยไปเผยแผ่ในยุโรปและอเมริกาในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ยี่สิบ เชอเกรียม ตรุงปะ ยกย่อง เกอร์ดจีฟ และความหยั่งรู้ในจิตวิญญาณของเขา
๑๗. lllusion ' Game , p , 29 ,
๑๘. ท่านอธิบายเรื่องนี้ไว้ว่า
" เรื่องนี้อาจทำให้หลายคนสับสับสน แต่ผมเกรงว่าความรัก คงจะไม่ใช่ประสบการณ์อันงดงามรื่นรมย์พาฝันถ่ายเดียว ความรักจะรวมเอาความน่าเกลียด ความเจ็บปวดและความก้าวร้าว พอ ๆ กับความสวยสดงดงามของโลก ความรักไม่ใช่การ ล่องลอยอยู่ในสรวงสวรรค์ ความรักหรือความกรุณาอันเป็นทางเปิด คือการเกี่ยวเนื่องกับ " สิ่งที่เป็นอยู่ " เพื่อที่จะบ่มเพาะความรัก รักสากล รักครอบจักรวาล หรือคุณจะเรียกอะไร ก็ตามที เราจะต้องยอมรับสถานการณ์ทั้งหมดของชีวิตตามที่มันเป็น ทั้งที่สว่างและมืดมิด ทั้งที่ดีและเลว จาก Cutting Through Spiritiual Materialism ( 2002 ), p . 97 .
๑๙. lblid , p , 93 ,
๒o. จาก Training The Mind and Cultvating Loving - Kindness ( 1993 ) p . 1 . หลักปฏิบัติ ของหีนยานจะอยู่บนพื้นฐานของการสงบรำงับจิต ส่วนมหายานจะเน้นที่การฝึกปฏิบัติมากกว่า
๒๑. การฝึกนี้อยู่บนพื้นฐานของคติพจน์ข้อที่ ๗ ของพระอาจารย์อติชา ( ๙๘๒- ๑o๕๕ ) " การให้และการรับควรฝึกสลับกันไป จงทำให้สองสิ่งนี้อยู่ในลมหายใจเข้าออก " หลัก ปฏิบัตินี้มาจากคัมภีร์ดั้งเดิมของท่านอติชา บัญญัติเจ็ดประการสำหรับการฝึกจิต ท่านอติชา ละทิ้งชีวิตในปราสาทราชวังที่คุ้นเคยตั้งแต่ยังหนุ่ม จากนั้นได้ศึกษาและฝึกฝนในอินเดีย อีกหลายปี แล้วจึงไปธิเบตและสอนพุทธศาสนาเป็นเวลา ๑๓ ปี จนกระทั่งมรณภาพ คำ สอนของท่านกลายเป็น คัมภีร์พื้นฐานสำหรับศาสนาพุทธในหลายนิกาย
๒๒. Training The Mind and Cultvating Loving - Kindness ( 1993 ) p . 13 .
๒๓. lblid , p , 13-14 ,
๒๔. จูดิธ แอล ลิฟ บรรณาธิการ ผู้เขียนคำนำใน Training The Mind and Cultvating Loving - Kindness ( 2003 ) , คำนำหน้า ๑๔ มีหลายครั้งที่เชอเกรียม ตรุงปะขอถ่าย ทอดการฝึกฝนนี้ ดังที่ผู้เขียนได้เคยกล่าวเกี่ยวกับ
การฝึกสมถะ - วิปัสสนา ในการ สอนสมาธิขั้นเริ่มแรกไม่อาจสอนด้วยการบรรยายดังกล่าวเพียงอย่างเดียว แต่ต้อง สอนกันตัวต่อตัว
๒๕. ขอยกตัวอย่างจากหนังสือที่น่าอ่านเป็นอย่างยิ่งของดิลโก เคียนเซ เรื่อง Enlightened Courage ( Ithaca , NY : Snow Lion Publications , 1993 ) p . 32 .
" เธอต้องนึกถึงพระคุณ ของมารดาผู้ให้กำเนิดในชาติที่เป็นมนุษย์แก่เธอ หากมารดาไม่ได้ให้กำเนิดแก่เธอ เธอจะเป็น อย่างไร ? เธอจึงควรรำลึกถึงพระคุณของมารดาให้มาก ๆ ไม่เพียงแต่เฉพาะมารดาในชาติ นี้ แต่ในทุกชาติอันมิอาจนับได้ เพราะสรรพสัตว์ทั้งหลายเคยเป็นมารดาของเธอ เคยเลี้ยง ดูเธอดุจเดียวกับมารดาในชาตินี้ " ๒๖. สิ่งที่แตกต่างคือ วิธีการที่ท่านคิดค้นขึ้น แต่หลักคำสอนยังเหมือนเดิม
๒๗. Training The Mind and Cultvating Loving - Kindness ( 1993 ) p . 1 .
๒๘. เปมา โชดรอน ศิษย์คนหนึ่งของตรุงปะเป็นผู้สอนการฝึกทองเลน ได้กล่าวถึงปัญหา นี้ว่า " เมื่อไรที่สอนทองเลนมักจะมีสิ่งที่น่าสนใจเกิดขึ้น คือคนจะเริ่มหลับ เรื่องนี้มันยาก ที่จะอดทนฟัง ที่ใดก็ตามที่ไปพูดเรื่อง
ทองเลน จะมีคนไม่ต่ำกว่าสามคนเดินออก ส่วนที่ เหลือก็คงง่วงเต็มทน " The Wisdom of No Escape and the Past of Loving - Kindness ( Boston Shambhala Publications , 1990 ) , p . 63 .
๒๙. Training The Mind and Cultvating Loving - Kindness ( 1993 ) p . 14 - 15 .
๓o. ความพิเศษของคำสอนในมหายานคือ การอธิบาย
โพธิจิต ( จิตที่ตื่นรู้ ) ไว้สองอย่าง คือ
สัมพัทธโพธิจิต กับ อันติมโพธิจิต ซึ่งบางครั้งอาจเรียกว่า ความกรุณากับความว่าง การเข้าใจหลักของสุญตา ( ความว่าง ) และนำมาใช้ในการฝึกฝนบารมีหกหรือ การ บำเพ็ญปารมิตา ๖ อันได้แก่ ทานบารมี ศีลบารมี ขันติบารมี วิริยะบารมี ฌานบารมี ปัญญาบารมี อุดมคติของนักปฏิบัติมิใช่พระอรหันต์แต่คือการบรรลุเป็นพระโพธิสัตว์ ซึ่งเป็นอุดมคติของนิกายนี้ เพราะเขาหรือเธอได้ตั้งปณิธานว่าจะไม่ตรัสรู้ถึงพระนิพพาน จนกว่าสรรพสัตว์ทั้งหลายจะหลุดพ้นจากห้วงทุกข์
๓๑. Journey without Goal ( 2000 ) , p . 5 .
๓๒. Crazy Wisdom , p . 125 . ( คำสอนนี้มีขึ้นในเดือนธันวาคม ๑๙๗๒ )
๓๓. The Part Is the Goal , p . 14 .
๓๖. The Lion ' Roar , p . 55 .
๓๕. Journey without Goal ( 2000 ) , p . 54 .
๓๖. Rene Guenon , Apescus sur l ' lnitiation ( Perspective on lnitiation ) ( Paris : Editions Traditionnelles , 1992 ) p . 27. คำกล่าวนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ที่เราจะปฏิบัติ อยู่นอกสายธรรม มิฉะนั้นแล้ว มิติพื้นฐานของการถ่ายทอดจะสุญหายไป แม้ว่าผู้ศึกษา ธรรมจะมีความกระตือรือร้นเพียงใดก็ตาม
๓๗. ใน The Torch of Centainty เขียนโดยจัมกอน คองตรูล แปลโดยจูดิธ แฮนซัน ( บอสตัน : สำนักพิมพ์ซัมบาลา , ๑๙๘๖ ) กล่าวถึงการตอบคำถามหลายข้อเกี่ยวกับ การปฏิบัติปฐมบทนี้ของเชอเกรียม ตรุงปะ กาลู ริมโปเช และเดชุง ริมโปเช ซึ่งทำให้ เราซาบซึ้งในวิสัยทัศน์เฉพาะตัวของท่าน บทสัมภาษณ์ตรุงปะเป็นข้อมูลที่สำคัญเกี่ยว กับการปฏิบัติในขั้นนี้แก่สาธารณชนทั่วไป เมื่อถามท่านว่า " แนวทางการปฏิบัติปฐม บท ๔ ที่ท่านสอนในตะวันตกนี้ ต่างจากที่ปฏิบัติกันในธิเบตหรือไม่ อย่างไร ? " ท่านตอบว่า " เนื่องจากวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน การฝึกปฏิบัคิปฐมบท ๔ ย่อมเป็น อะไรที่แปลกใหม่สำหรับนักศึกษาชาวตะวันตก เพราะพวกเขาไม่คุ้นเคยกับภูมิหลัง ทางวัฒนธรรมของพุทธศาสนามาก่อนเลย ดังนั้นเมื่อมาปฏิบัติปฐมบทก็ย่อมต้องประ สบกับช่องว่างทางวัฒนธรรมที่ต้องมาทำความเข้าใจกันใหม่ให้ได้ เราจึงพยายามที่จะ ไม่ใส่ประเพณีทางธิเบตให้กับพวกเขา แต่จะสอนพื้นฐาน ' การทำงานของจิต ' ให้เลย " ( หน้า ๑๒ - ๑๓ )
๓๘. นำมาอ้างโดยได้รับอนุญาติจากไดอาน่า เจ. มุกโป
๓๙. การปฏิบัติสาธนาในหมู่สงฆ์ตามแบบของเชอเกรียม ตรุงปะออกจะมีลักษณะพิเศษ คู่มือปฏิบัติวัชรโยคินีมีคำอธิบายอย่างละเอียดลออเป็นร้อย ๆ หน้า รวมทั้งเอกสารเกี่ยว กับพิธีกรรมทั้งหมด ซึ่งลงราลละเอียดโดยคณะแปลนาลันทา ซึ่งใช้เวลาทำงานร่วมกัน หลายสิบชั่วโมง เช่นเดียวกับจักรสังวร ( ซึ่งเป็นการปฏิบัติขั้นต่อจากจากวัชรโยคินี ) ตรุงปะอธิบายก่อนหน้านี้ว่าเป็นการปฏิบัติที่ศิษย์ของท่านจะต้องอุทิศตัวให้อย่างจริงจัง แต่ในปี ๑๙๘๑ เมื่อมีบางคนขอให้ท่านถ่ายทอดให้ ดอร์เจ ล็อปปอนเล่าว่า ท่านตอบไป ว่า " กิจธุระนี้เป็นเรื่องของผม ไม่ใช่เรื่องของคุณ " เดือนตุลาคมปี ๑๙๘๕ ท่านร่วมพิธี อัคคีบูชาครั้งที่ ๒ ของการตระหนักรู้ในกรรม ๔ อุทิศถวายแด่วัชรโยคินี ซึ่งเป็นขั้นตอน แรกก่อนที่จะรับพิธ
ีจักรสังวราภิเษก ท่านวางแผนอยู่หลายปีโดยพาเทงกา ริมโปเช อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในพิธีกรรมวัชรยานของนิกายกาคิวมาสอนเรื่องนี้อย่างละเอียดใน โลกตะวันตก เมื่อปี ๑๙๘๕ คณะแปลทำงานกันอย่างขะมักขเม้น เพื่อที่จะแก้ไขปรับ ปรุงงานแปลบทสาธนาและเตรียมทำคู่มืออธิบายวิธีปฏิบัติ ในช่วงนี้เองที่ตรุงปะจัดทำ เรื่องนี้ให้นักศึกษาโดยไม่คำนึงถึงปัญหาสุขภาพของท่านเอง ทำให้เราได้รับทราบว่า ท่านได้สอนข้อปฏิบัติไม่กี่ข้อแต่ลงลึกในรายละเอียดอย่างที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อจะ ถ่ายทอดหัวใจสำคัญของหลักธรรม ท่านจะรอเวลาจนกว่าศิษย์พร้อมเสียก่อน จึงจะ สอนขั้นต่อไป เพื่อที่นักศึกษาจะได้เข้าใจข้อธรรมนั้นจริง ๆ วิธีการของท่านก็คืออธิบาย รายละเอียดของการปฏิบัติ จากนั้นจึงให้ศิษย์นำไปปฏิบัติตามภูมิปัญญาของตน
๔o. Journey without Goal ( 2000 ) , p . 89 .
๔๑. ท่านอธิบายประเด็นนี้ไว้ว่า
" ตามธรรมเนียมปฏิบัติในอินเดียและธิเบตแต่โบราณ จะ กำหนดวันพิธีหกเดือนล่วงหน้า นั่นเท่ากับนักปฏิบัติมีเวลาเตรียมตัวถึงหกเดือน ต่อมาตาม ธรรมเนียมของนิกายตันตระกลับย่อหย่อน อาจารย์บางท่านในธิเบตถึงกับยกเลิกกฏที่ให้ ศิษย์ต้องมาจำศีลหกเดือน ซึ่งดูจะเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ " Journey without Goal ( 2000 ) , p . 88-89 . เห็นได้ชัดว่า ตรุงปะให้ศิษย์เตรียมตัวให้พร้อม ด้วยการนำวิธีโบราณ กลับมาใช้ เพื่อฟื้นฟูพลังแห่งรหัสยานซึ่งถูกทำให้หม่นมัวไป
๔๒. เรอเน่ เก-นง มักจะพูดว่า การถ่ายทอดที่ทำกันโดยทั่วไป กับการถ่ายทอดอย่างแท้จริง นั้น แตกต่างกันมาก การถ่ายทอดที่แท้จริงต้องมีการปฏิบัติตามข้อวัตรวินัยจริง ๆ และต้อง ทุ่มเทตนต่อการปฏิบัติทุกข้อที่ได้รับ
๔๓. Journey without Goal ( 2000 ) , p . 134 . ท่านได้กล่าวต่อไปว่า
" ในทำนองเดียวกัน อติ ถือเป็น ' จักรพรรดิ ' เพราะเมื่อเมื่อมองจากวิถีของอติโยคะแล้ว วินัยของหีนยานดูจะ ครอบคลุมกว้างขวาง วินัยของมหายานก็ดูกว้างขวาง นิกายตันตระก็กว้างขวางเช่นกัน หากคุณมองย้อนสิ่งที่เราได้พูดกันมาตลอดในหนังสือเล่มนี้ คุณจะเห็นว่าเราได้หยิบแง่มุม นี้มาพูดกันแล้ว เราได้พูดคุยทุกอย่างที่มาจากการมองในวิถีของอติแล้ว " ๔๔. ตามทฤษฎี
มหามุทราคือ
วิถีที่จะไปสู่มรรคแห่งสัมโภคกาย เพื่อที่จะตระหนักรู้ใน ธรรมกาย นี่คือมรรคที่ยกระดับจิตจากความฟุ้งซ่านมาเป็นการตระหนักรู้ ทว่าอติแสดง ถึงการตระหนักรู้ในธรรมกายโดยตรง และทำให้การปฏิบัตินี้แพร่กระจายอยู่ในยานต่าง ๆ เพราะทำให้เราสัมผัสโลกในวิถีทางต่าง ๆ ดังที่เชอเกรียม ตรุงปะเองก็ได้นำมาประยุกต์ ในการสอนของท่านเป็นส่วนมาก
๔๕.
อตีศะ ถือกำเนิดในราวปี ๙๘๒ ในครอบครัวขุนนางที่เมืองวิกรมปุระ แคว้นเบงกอลตะวันออก ท่านเลือกที่จะใช้ชีวิตทางธรรมตั้งแต่ยังหนุ่ม หลังจากเป็นโยคีได้สิบสองปี ท่านก็ได้ตัดสินใจบวชเป็นพระสงฆ์ และรับตำแหน่งสำคัญในมหาวิทยาลัยนาลันทา โอตันตะบุรี และที่สำคัญ ที่สุดคือที่วิกรมศีลซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์สามแห่งที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ในปี ๑o๔๒ ที่ธิเบตนี่เองที่ท่านได้เขียน
A Lamp for the Path to Enlightenment โพธิปกประทีปเป็นงานเขียนสั้น ๆ แค่หกสิบหกบรรทัด แต่มีอิทธิพลอย่างสูง โดยถูกนำมาศึกษาและกล่าวถึงจากทุกนิกาย ในธิเบต ในหนังสือเล่มนั้น
ท่านอตีศะกล่าวสรรเสริญปณิธานของโพธิสัตว์และความสำคัญของการตระหนักรู้ในสุญญตา ๔๖. The Royal Song of Saraha : A Study in the History of Buddhist Thought , translated and annotated by Herbert V. Guenther ( Boulder : Shambhala Pubbications , 1973 ) , p . 66 stanza 18 @ 1968 University of Washington Press .
๔๗ . Journey without Goal ( 2000 ) , p . 135 .
๔๘. The Myt of Freedom ( 2002 ) , p . 50 .
๔๙.
เชอเกียม ตรุงปะมักจะสอนหลักการของทั้ง
เก้ายานเป็นประจำอยู่แล้ว โดยอธิบายด้วยพลังและความชัดเจนอย่างไม่มีใครเปรียบ แต่เป้าหมายของผู้เขียนไม่ได้ต้องการที่จะนำการสอนทั้งหมดของท่านมาพูดถึง เพราะการกล่าวถึงแค่สามนิกายในที่นี้ก็เพียงพอสำหรับ การปูพื้นฐานไปสู่การทำความเข้าใจในหลักพุทธศาสนาแล้ว อีกทั้งเป็นการปูพื้นให้เข้าใจในงานและอัจฉริยภาพในการสอนศาสนธรรม ได้อย่างมีชีวิตชีวา สำหรับผู้อ่านที่มีความสนใจจะศึกษาหลักปฏิบัติเก้าขั้นตอน ซึ่งจริง ๆ แล้วท่านจะเก็บไว้สอนเฉพาะศิษย์ที่ใกล้ชิด มากกว่าในอบรมพิเศษ ก็จะขอแนะนำหนังสือที่ดีที่สุดในเรื่องนี้คือ
The Lion ' Roar : An Introduction to Tantra , ซึ่งรวบรวมการสอน เก้าขั้นตอนทั้งสองครั้งเข้าด้วยกัน และเป็นบทเรียนในการสอนอบรมที่ซานฟรานซิสโก เดือนพฤษภาคม ปี ๑๙๗๓ และที่เมืองโบลเดอร์ เดือนธันวาคม ปี ๑๙๗๓
๕o. The Lion ' Roar , p . 210 .
๕๑. Cutting Through Spiritiual Materialism ( 2002 ), p . 4 .
๕๕. Chogyam Trungpa , Collected Vajra Assemblies , vol . 1 ( Halifax : Vajradhatu Publications , 1990 ) , pp , 83ff .
http://www.buddhayan.com/board.php?subject_id=379&ss=