[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
11 พฤษภาคม 2567 13:29:06 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "Together We Are One" เราคือหนึงเดียว โดย ท่าน ติช นัท ฮันห์  (อ่าน 1168 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5081


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 50.0.2661.271 Chrome 50.0.2661.271


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 09 สิงหาคม 2559 01:26:11 »



ปาฐกถาธรรม เราคือหนึ่งเดียว
๙ เมษายน ๒๕๕๖
ห้องประชุมรอยัลพารากอนฮอลล์ สยามพารากอน

ในค่ำคืนนี้หลวงปู่จะแบ่งปันเรื่อง ทำอย่างไรที่เราจะเป็นทุกข์น้อยลงและสร้างชั่วขณะแห่งความสุขได้มากขึ้น พวกเรามักจะคิดถึงความสุขในแง่ของการบริโภค ยิ่งบริโภคมาก ก็จะมีความสุขมาก เราเชื่อว่าถ้าหากเราไม่มีเงินมากๆ ไม่มีชื่อเสียง ไม่มีอำนาจ ไม่มีความสัมพันธ์ทางเพศ เราก็ไม่อาจจะมีความสุข แต่ถ้าเรามองไปรอบๆ ตัว จะเห็นว่า หลายคนมีเงินมาก มีชื่อเสียง มีอำนาจ มีกามารมณ์ แต่เขาเต็มไปด้วยความทุกข์ และ เป็นความทุกข์ที่ลึกมาก ถ้าเรามีความเข้าใจ มีความรักในหัวใจก็จะกลายเป็นคนที่มีความสุข ความเข้าใจและความรักเป็นสิ่งที่เราสร้างและบ่มเพาะได้ด้วยการฝึกสติ



ความรักคือการอยู่ตรงนั้น

ความรักคือการอยู่ตรงนั้น และนี่คือสิ่งพิเศษสุดที่เธอจะมอบให้กับคนที่เธอรัก  เดินเข้าไปหาคนที่เธอรัก มองตาของเขาแล้วกล่าวว่า ที่รัก ฉันอยู่ที่นี่เพื่อเธอ ถ้าเธอเดินอย่างมีสติ ตามลมหายใจอย่างมีสติ เธอจะรู้วิธีสร้างความสดใสกับตัวเธอเอง เพื่อมอบความสดชื่นนั้นต่อคนที่เธอรัก บางครั้งเธอทำงานเธอเหนื่อยล้ามาทั้งวัน ไม่เหลือความสดชื่น ไม่มีความสามารถที่จะหยิบยื่นอะไรให้คนที่เธอรัก ในวิถีการปฏิบัติของนักบวช เรามีหลายอย่างเพื่อแลกเปลี่ยนกับฆราวาสเพื่อฟื้นความสดชื่นกลับคืนมา เธออาจจะนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์และลืมอย่างสิ้นเชิงว่าเธอมีร่างกายอยู่ ในชุมชนที่ฉันอยู่ ทุกคนมีโปรแกรมนาฬิกาแห่งสติอยู่ในคอมพ์พิวเตอร์ มันจะดังทุกๆ 15 นาที เมื่อเสียงนาฬิกานี้ดังขึ้นทุกคนจะกลับมาเบิกบานกับการตามลมหายใจเข้า หายใจออก เบิกบานกับชั่วขณะนั้น

เดินในวิถีแห่งสติ

เธอสามารถฝึกการเดินในวิถีแห่งสติจากลานจอดรถไปยังสำนักงาน การเดินในวิถีแห่งสติจะสร้างทุกย่างก้าวเพื่อฟื้นความสดใส ความงดงามในตัวเธอ พระพุทธองค์สอนอย่างเป็นรูปธรรมถึงในวิธีการปฏิบัตินี้ ขอให้เราใส่ใจกับลมหายใจ เมื่อหายใจเข้า เบิกบานกับลมหายใจเข้าของเรา ฝึกการตามลมหายใจอย่างมีสติ ทุกลมหายใจเข้าคือความเบิกบาน คือการบำรุงหล่อเลี้ยง คือการรักษาและเยียวยา ทุกลมหายใจออก สามารถปลดปล่อยความตึงเครียดในร่างกายของเราได้

จากลานจอดรถไปสู่ที่ทำงานเราย่างก้าวในวิถีเช่นนี้ ปลดปล่อยความตึงเครียด สัมผัสความสดชื่นสดใส เมื่อหายใจเข้าก้าวไปสัก ๒ ก้าว ใส่ใจกับทุกย่างก้าว ขณะที่ฝ่าเท้ากำลังสัมผัสพื้นดิน ถ้าตระหนักรู้อย่างเต็มเปี่ยมที่ฝ่าเท้าสัมผัสแนบกับพื้นดิน นี่เป็นการตระหนักรู้ที่เยี่ยมยอดมาก เธอรู้ว่าเธอกำลังมีชีวิตอยู่บนผืนโลกอันงดงามนี้ การฝึกเดินในวิถีแห่งสติเช่นนี้เราจะเบิกบานกับทุกย่างก้าว

‘ฉันมาถึงแล้ว’ หมายถึง มาถึง ณ ที่นี่ ในขณะนี้ เธอมาถึง ณ ที่ซึ่งทุกอย่างมีพร้อมอยู่แล้วสำหรับชีวิตของเธอ การกล่าวว่า ฉันมาถึงแล้ว ไม่ใช่เพียงมนตร์ที่ท่องประกาศ แต่เป็นการตระหนักรู้อย่างแท้จริงว่า เธอกำลังสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของชีวิตอันประเสริฐ ณ ปัจจุบันขณะ และเพื่อให้เราได้มาถึงแล้วอย่างแท้จริง และให้สิ่งนี้ประสบความสำเร็จเธอควรจะทุ่มเทกายและใจอย่างเต็มร้อย เมื่อเราฝึกฝนตัวสัก ๒-๓ วัน เธออาจจะเดิน เพื่ออยู่ที่นี่ และ ขณะนี้ได้ เต็มร้อย เพื่อที่จะดำรงอยู่ ณ ที่นี่ ในขณะนี้ เธอจำเป็นต้องมีพลังแห่งสติและสมาธิ ถ้าเธอมีสติในลมหายใจ เธอมีสติกับการย่างก้าว เมื่อนั้นเธอจะปลดปล่อยสิ่งต่างๆ ที่มีมาในอดีต ปลดปล่อยสิ่งต่างๆ ที่เธอกำลังคิดถึงในอนาคต ปลดปล่อยโครงการต่างๆ ในสมองของเธอ หยุดคิด แล้วเบิกบานในทุกย่างก้าวขณะที่เธอก้าวไป



นั่งสมาธิด้วยกัน

เมื่อเธอนั่งสมาธิสิ่งแรกที่พึงกระทำก็คือ การตระหนักรู้ในร่างกายของเรา ปลดปล่อยความตึงเครียดในร่างกายของเรา การปลดปล่อยความตึงเครียดออกจากร่างกายเป็นการฝึกปฏิบัติที่น่าเบิกบานยินดี ถ้าเธออยู่กับคู่ของเธอ อยู่กับครอบครัวของเธอ เธอควรจะจัดเวลาช่วงเช้าก่อนที่จะไปทำงาน ก่อนที่เด็กจะไปโรงเรียน เธอฝึกที่จะนั่งเบิกบานกับลมหายใจสัก 2-3 นาที เธออาจจะหาระฆังเล็กๆ ไว้ที่บ้าน ก่อนที่จะออกไปทำงาน ก่อนที่เด็กๆ จะออกไปโรงเรียน เธอนั่งลงด้วยกัน เชิญระฆัง ตามลมหายใจด้วยกัน ก่อนนอนตอนกลางคืน นั่งลงด้วยกัน ตามลมหายใจด้วยกัน พร้อมกับเสียงระฆัง เมื่อเธอเดินไปที่ป้ายรถเมล์ก็เบิกบานกับลมหายใจ กับก้าวย่างอย่างมีสติ

เมื่อเธอหายใจเข้าอย่างมีสติ นำใจของเธอกลับมาสู่เรือนกาย เมื่อเธอมีกายและใจเป็นหนึ่งเดียว ดำรงอยู่ ณ ที่นี่ ในขณะนี้ นั่นคือเธอกำลังอยู่บ้านแล้ว อยู่ ณ ที่นี่ ในขณะนี้ สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของชีวิต พลังแห่งสติจะทำให้เธออยู่ตรงนั้นอย่างเต็มเปี่ยม มีชีวิตในที่นี่ ณ ขณะนี้ เธอกลายเป็นความเป็นจริง น้ำชาเป็นจริง ไม่ใช่ความฝัน เป็นชีวิตที่แท้ หลวงปู่ดื่มชาในวิถีนี้เสมอ ไม่มีการคิด เพียงมีสติอย่างเต็มเปี่ยมกับการดื่มชา

เธอไม่ต้องมีเวลามากเพื่อฝึกสติ เมื่อขับรถเธอมีสติในการขับรถ สร้างพลังแห่งสติในการขับรถ เมื่อเธออาบน้ำ เธออาบน้ำอย่างมีสติ นี่คือการฝึกปฏิบัติ เมื่อเธอมีสติ เธอจะมีพลังโอบรับความโกรธ ความกลัว ความเจ็บปวดได้ง่ายดายและสงบ รำงับ ความรู้สึกเหล่านั้นได้ เมื่อแม่โอบลูกน้อยไปสักระยะ คุณแม่ก็จะพอรู้ได้ว่าลูกร้องไห้เพราะอะไร ถ้าลูกร้องไห้เพราะหิวก็ให้น้ำนม เมื่อเธอโกรธและโอบกอดความโกรธได้สักระยะหนึ่งเธอจะเห็นถึงสาเหตุเบื้องหลังสิ่งนั้น เธอจะรู้ว่า ความโกรธ ความกลัว เกิดจากการรับรู้ผิด เธอจะแปรเปลี่ยนความโกรธ ความกลัว ให้เป็นความเบิกบาน ความสุข พระสูตรอานาปานสติไม่ใช่พระสูตรเพื่อนักบวชเท่านั้น ฆราวาส บุคคลทั่วไปก็สามารถฝึกพระสูตรนี้ได้ การฝึกปฏิบัติเหล่านี้เราจะปลดปล่อยความเจ็บปวด ฟื้นคืนความสงบ หยิบยื่นความสดใสของเราให้กับคนที่เรารัก หากเธออยากเป็นคนรักที่แท้จริงเธอต้องฝึกปฏิบัติ เพราะการฝึกปฏิบัติจะทำให้เธอบ่มเพาะความสงบ ความสดชื่น สดใส

เธอมีพอแล้ว

เมื่อเราตามลมหายใจอย่างมีสติ นำใจกลับมาสู่กาย เราดำรงอยู่ในขณะนี้ เราจะตระหนักรู้ถึงเงื่อนไขแห่งความสุขต่างๆ ที่เรามีอยู่แล้ว และ สร้างความรู้สึกปิติเบิกบานให้เกิดขึ้นได้ในทันทีทันใด เมื่อเราฝึกตามลมหายใจด้วยการตระหนักรู้ถึงดวงตา

หายใจเข้า ฉันตระหนักรู้ถึงดวงตาของฉัน
หายใจออก ฉันยิ้ม ให้กับดวงตาของฉัน


การหายใจเช่นนี้เธอสร้างพลังแห่งสติ ตระหนักรู้ได้ว่า ดวงตายังอยู่ในสภาพดี นี่คือสรวงสวรรค์ของรูปทรง สีสัน ซึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้านี้ เมื่อเธอลืมตาขึ้นก็ได้สัมผัสกับสรวงสวรรค์แล้ว สำหรับคนตาบอด สวรรค์แห่งรูปทรงและสีสันไม่ได้อยู่ตรงนี้ ดวงตาของเรายังคงดีอยู่ สรวงสวรรค์อยู่ตรงนี้กับเราเสมอ เราเบิกบานได้ทุกเวลา การตามลมหายใจอย่างมีสติจะทำให้ตระหนักรู้ถึงเงื่อนไขอันมากมายเป็นร้อยพันที่รายล้อมรอบตัวเรา มีเพียงพอที่จะทำให้เรามีความสุข เมื่อเราหายใจเข้าตระหนักรู้ถึงหัวใจของเรา เราพบว่าหัวใจของเรายังทำงานได้ดี คนที่ไม่มีหัวใจที่ทำงานได้อย่างปกติอย่างนี้ เสี่ยงต่ออาการหัวใจวายตลอดเวลา เขาปรารถนาเพียงขอให้มีหัวใจปกติอย่างเราบ้าง ฉะนั้นสติ ช่วยให้เราตระหนักว่า หัวใจยังทำงานได้อย่างปกติ และ พอแล้วที่เธอจะมีความสุข

หากเธอหยิบกระดาษสักแผ่นเขียนเงื่อนไขต่างๆ ที่ทำให้เธอมีความสุข และ เงื่อนไขเหล่านี้เธอมีอยู่แล้ว บางทีกระดาษเพียง ๒ หน้าก็อาจจะไม่พอ เรามีเงื่อนไขแห่งความสุขมากมาย ไม่ต้องวิ่งไปข้างหน้าเพื่อจะตามหาความสุขมาเพิ่มอีก เมื่อเธอมีความสดชื่น ความงดงาม ความสงบ ความสุข นี่ก็เพียงพอที่เธอจะหยิบสิ่งเหล่านี้ให้กับคนที่เธอรัก



รับฟังด้วยความกรุณา

การฝึกรับฟังด้วยความกรุณาจะช่วยให้อีกฝ่ายทุกข์น้อยลง บางทีคนผู้นั้นทุกข์มายาวนานแต่ไม่เคยมีใครสามารถนั่งลงและรับฟังด้วยความเข้าใจ ด้วยความกรุณา เมื่อเธอรับฟังจัดการกับความทุกข์ที่อยู่ในตัวเธอได้ เธอจึงรับฟังความทุกข์ของเขาและบรรเทาทุกข์ในตัวเขาได้ เธอจะเข้าใจได้ว่าเพราะอีกฝ่ายไม่ได้ฝึกปฏิบัติ เมื่อเขาพูดจึงพูดด้วยความโกรธ ความขมขื่น ถ้าเธอไม่รู้วิธีฟังด้วยความกรุณา เธอจะโกรธขึ้นมา รู้สึกอึดอัด เพียงแค่รับฟังเพียง ๒-๓ นาที แต่ถ้าเธอตามลมหายใจขณะที่ฟัง และ เตือนตัวเองว่า เธอรับฟังเพื่อบรรเทาทุกข์ของอีกฝ่าย ถ้าระหว่างการรับฟังนั้นเธอสามารถตระหนักรู้เช่นนี้เพียงแค่เสี้ยววินาที การรับฟังด้วยความกรุณาก็จะเป็นไปได้ เธอจะได้รับการปกป้องคุ้มครองด้วยพลังแห่งสติ พลังแห่งความรักและกรุณา ดังนั้นไม่ว่าอีกฝ่ายจะกล่าวอะไรเธอก็จะไม่โกรธ บางทีคนผู้นั้นอาจจจะพูดด้วยความขมขื่น ความเข้าใจผิด ความโกรธ เธอยังฟังต่อไปด้วยพลังแห่งความกรุณา เธอบอกกับตัวเองว่า คนผู้นี้เต็มไปด้วยการรับรู้ผิด แต่ฉันจะไม่ขัดขวางการพูดของเขา ถ้าฉันพยายามแก้ไขหรือขัดจังหวะ ก็จะกลายเป็นว่า ฉันไม่ได้รับฟัง กลายเป็นการโต้เถียง ทะเลาะกัน หลังจากนี้สัก ๓-๔ วัน ฉันจะให้ข้อมูลใหม่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ขณะนี้ เมื่อเธอมีทัศนคติเช่นนี้ เธอจะรับฟังเขาได้ถึง ๑ ชั่วโมง หรือกว่านั้น และคนผู้นั้นจะมีความทุกข์น้อยลงอย่างยิ่ง ด้วยวิถีนี้เราจะฟื้นคืนการสื่อสาร การพูดคุย ความปรองดอง ความสุขให้กลับคืนมา

ดังนั้นการปฏิบัติในวิถีแห่งสติไม่เพียงช่วยให้คู่สมรส พ่อกับลูก ฟื้นคืนความสัมพันธ์เท่านั้น แต่ช่วยให้กลุ่มบุคคลฟื้นคืนการปรองดองได้ด้วย ในประเทศของเรามีกลุ่มการเมือง พรรคการเมือง องค์กรทางการเมือง ก็สามารถฝึกปฏิบัติเพื่อฟื้นคืนการปรองดองสมานฉันท์ให้กลับมาใหม่ หลวงปู่ทราบว่า พรรครัฐบาลก็อยากจะปรองดองกับพรรคฝ่ายค้าน และฝ่ายค้านก็อยากจะปรองดองกับรัฐบาล ทั้งสองฝ่ายต้องการฟื้นคืนความปรองดองเพราะรู้ว่าประชาชนต้องการความปรองดองสมานฉันท์ แต่นี่เป็นความรู้ในทางความคิด ทำให้ปรากฏเป็นจริงไม่ได้ เพราะแต่ละฝ่ายก็เต็มไปด้วยความทุกข์มหาศาล ไม่มีความสงบ ไม่มีความสุขเพียงพอในตัวของเขา

ฝึกปฏิบัติเพื่อรับใช้บ้านเมือง

เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม หลวงปู่มีงานปาฐกถาธรรมสำหรับผู้นำทางการเมือง หลวงปู่แนะนำให้ทุกคนฝึกตามลมหายใจอย่างมีสติ นั่งลงเพื่อมองอย่างลึกซึ้งกลับเข้าไปในความทุกข์ของเขา มองกลับไปถึงความทุกข์ของพรรคการเมือง แล้วจะเห็นว่าเรามีความทุกข์มากมายพรรคการเมืองของเรามีความทุกข์และไม่ได้หมายความว่าอีกพรรคจะไม่มีความทุกข์ เขาก็อาจเป็นทุกข์เช่นเดียวกับเรา ถ้าเราศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า ฝึกปฏิบัติตามคำสอน ดูแลใจให้สงบ เราจะสงบศานติเพื่อรับใช้ประเทศชาติ ถ้าเราไม่สงบเพียงพอ มีความโกรธ ความกลัวมากมายเหลือเกิน เราจะไม่เหลือความชัดเจนแจ่มใสเพื่อบริหารประเทศ เพื่อทำงานให้กับพี่น้องประชาชนของเรา การปฏิบัติเพื่อดูแลความสงบ ดูแลตัวเอง ดูแลคนในพรรค นั่นคือสิ่งแรกที่เราต้องทำ เมื่อพรรคของเราสงบเพียงพอ ไม่แบ่งแยกในพรรค เราจะอยู่ในฐานะรับใช้ประเทศชาติได้อย่างมีประสิทธิผล ไม่จำเป็นต้องเป็นพรรครัฐบาลก็ทำงานเพื่อประเทศชาติเพื่อพี่น้องของเราได้ในฐานะพรรคฝ่ายค้าน ถ้าเราสงบ มีศานติ มีความชัดเจนเพียงพอ เราจะนำข้อเสนอต่างๆ แผนงานต่างๆ เพื่อให้ประเทศชาติมีทางออก เธอจะบอกกับพรรครัฐบาลได้ว่า หากพรรครัฐบาลดำเนินงานตามแผนนี้ ทำตามข้อเสนอนี้ ก็จะนำพาประเทศออกจากความยากลำบาก บริหารประเทศต่อไปได้ นี่คือการฝึกปฏิบัติวาจาแห่งรัก พรรครัฐบาลก็สามารถฝึกเช่นนี้ได้ พรรครัฐบาลสามารถที่จะบอกกับพรรคฝ่ายค้านว่า ฉันรู้ว่าพรรคของเธอมีความทุกข์มากมาย โปรดรู้เถิดว่า พรรคของเราก็มีความทุกข์ ฉันจะรับฟังความทุกข์ของเธอ รับฟังความคิด ข้อเสนอของเธอเพื่อช่วยเหลือประเทศ เราจะทำงานร่วมงานเพื่อดูแลประเทศร่วมกัน นำพาประเทศ หลวงปู่เชื่อว่า พรรครัฐบาลฝึกปฏิบัติได้ เราสามารถที่จะรวมปัญญารู้แจ้งของทั้งสองพรรคเพื่อรับใช้ประเทศได้ พรรคฝ่ายค้านก็อาจจะพูดได้ว่า ฉันก็ต้องการเธอเช่นกัน ต้องการให้เธอพูดความทุกข์ ความยากลำบาก รับฟังความคิด เพื่อจะรับใช้ประเทศชาติร่วมกัน ถ้าเป็นเช่นนี้พรรคฝ่ายค้านก็จะเป็นพรรคฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์ เราจะสามารถรวมความคิด ปณิธานดีงาม เพื่อรับใช้ประเทศชาติ ทั้งหมดนี้ต้องการความสงบมากพอ

ถ้าพ่อกับลูกชาย แม่กับลูกสาว สามี-ภรรยา สามารถฝึกปฏิบัติเพื่อคืนดีกันได้ พรรคการเมืองก็ฝึกได้เช่นกัน.

จาก http://www.thaiplumvillage.org/index.php?option=com_content&view=category&layout=blog&id=8&Itemid=13&limitstart=11

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
ท่าน ว.วชิรเมธี ปั้นพระ "ยอดครู" รู้ทันโลก-แกร่งทางธรรม
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
หมีงงในพงหญ้า 0 3374 กระทู้ล่าสุด 24 มิถุนายน 2553 22:42:46
โดย หมีงงในพงหญ้า
ฟัง/ดาวน์โหลด เสียงอ่านหนังสือ "เชิญตะวัน" ท่าน ว.วชิรเมธี
เอกสารธรรม
sati 4 5033 กระทู้ล่าสุด 22 ธันวาคม 2553 13:52:16
โดย wondermay
พื้นที่ชีวิต - "พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์" ( สัมภาษณ์ ท่าน ดาไล ลามะ )
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 1598 กระทู้ล่าสุด 15 มีนาคม 2555 22:47:21
โดย มดเอ๊ก
ตอบโจทย์ : หมู่บ้าน "พลัม" ธรรม "ปฏิบัติ" วิถีพุทธ "ติช นัท ฮันห์"
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 1403 กระทู้ล่าสุด 27 มิถุนายน 2559 05:04:35
โดย มดเอ๊ก
“ประตู ๓ บาน เพื่อการหลุดพ้น” ธรรมบรรยายโดย ท่าน ติช นัท ฮันห์
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 1106 กระทู้ล่าสุด 09 สิงหาคม 2559 00:42:22
โดย มดเอ๊ก
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.593 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 17 เมษายน 2567 15:28:28