3) การละหมาดศพ - อิหม่ามหรือผู้นำละหมาดควรเป็นญาติใกล้ชิดทางสายโลหิตของผู้ตาย วิธีการเริ่มจาก นำผู้ตายไปวางยังที่จะทำพิธีละหมาดญะนาซะห์ ศพ โดยวางศพตามขวางกับทิศอันเป็นที่ตั้งของเมืองมักกะฮ ประเทศซาอุดิอารเบีย ศพผู้ชายให้หันศีรษะไปทางทิศใต้ ศพผู้หญิงหันศีรษะไปทางทิศเหนือ ข้อบังคับในการละหมาดญะนาซะห์ มี 7 ประการ คือ (1) ยืนตรงหันหน้าไปทางศพ (2) ตักบีร คือกล่าวว่า อัลลอฮผู้ยิ่งใหญ่ ครั้งที่ 1 พร้อมเนียต ตั้งเจตนา (3) อ่านบิสมิ้ลลาและฟาติฮะห์จนจบ (4) ตักบรีครั้งที่ 2 แล้วอ่านซอละวัตนาบี คำสรรเสริญศาสดามุฮัมมัด (5) ตักบีรครั้งที่ 3
แล้วอ่านดูอา ขอพร (6) ตักบรีครั้งที่ 4 แล้วอ่านดุอาอีก (7) กล่าวสลาม เมื่อเสร็จพิธีละหมาดแล้วรีบนำศพไปฝังที่กุโบร์ สุสาน
4) การฝังศพ - การฝังนั้นต้องขุดหลุมให้ลึกพอที่จะระงับกลิ่นที่จะมีในภายหลัง และป้องกันสัตว์ร้ายมาคุ้ยเขี่ยศพ โดยปกติจะขุดหลุมลึกประมาณ 2 เมตร กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร วิธีการฝัง ให้ญาติพี่น้องใกล้ชิดเป็นผู้นำศพลงหลุม โดยวางนอนตะแคงขวา หันหน้าไปทางทิศอันเป็นที่ตั้งของเมืองมักกะฮ
หลักการใหญ่ ๆ ของพิธีศพมี 4 ข้อดังกล่าวข้างต้นเท่านั้น แต่ในสังคมมุสลิมเองก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เข้าใจหลักการใหญ่ๆ ของพิธีศพ ทำให้มีการปฏิบัติที่แตกต่างหลากหลาย มีรายละเอียดแตกต่างกันออกไป
สำหรับการไปร่วมงานศพของคนต่างศาสนานั้น ชาวมุสลิมสามารถทำได้ในเงื่อนไขที่ว่า ไปเพื่อปลอบทุกข์หรือแสดงความเห็นใจแก่ครอบครัวหรือญาติของผู้ตาย แต่จะร่วมทำพิธีกรรมทางศาสนาไม่ได้................................กรณีศพที่ไม่ได้เสียชีวิตตามปกติ........................
ที่กล่าวมีข้างต้นเป็นพิธีศพของศพที่เสียชีวิตตามปกติ แต่ในช่วงปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตที่ไม่ปกติขึ้น เช่น กรณีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์การปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มัสยิดกรือเซะ เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 หรือกรณีผู้เสียชีวิต 85 ศพจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมประท้วงที่ตากใบเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน หรือกรณีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มอันดามันเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ซึ่งกว่าจะพบศพ เวลาก็ล่วงเลยไปหลายวัน กรณีเหล่านี้นำไปสู่คำถามเกี่ยวกับหลักการพิธีศพของชาวมุสลิมในกรณีที่ศพไม่ได้เสียชีวิตตามปกติ
ผู้บรรยายกล่าวว่า ตามหลักศาสนาอิสลามไม่สามารถผ่าศพเพื่อชันสูตรได้ เพราะอิสลามถือว่าร่างอันไร้วิญญาณนั้นยังคงมีเกียรติยศแห่งความเป็นมนุษย์ อย่างสมบูรณ์อย่างไรก็ดี บางสำนักคิดในศาสนาอิสลามมีการอนุโลมในกรณีการผ่าศพสตรีมีครรภ์เพื่อช่วย ชีวิตทารก หรือผ่าศพเพื่อเอาทรัพย์สินคืนแก่เจ้าของ ทั้งนี้โดยคำนึงถึงคุณประโยชน์จากการช่วยชีวิตทารกและปกป้องมิให้ทรัพย์สูญ เปล่า ซึ่งมีความสำคัญกว่าความเสื่อมเสียเกียรติแห่งความเป็นมนุษย์ของศพ ดังนั้น ในกรณีผู้เสียชีวิต 85 ศพจากเหตุการณ์ที่ตากใบ ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดนั้น ผู้บรรยายเห็นว่า น่าจะอนุโลมให้มีการชันสูตรศพได้ เพื่อจะได้ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิต