จากวรรณคดีเรื่องอิเหนา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงนิพนธ์ ทำให้เราสามารถศึกษาถึงลักษณะของการจัดริ้วกระบวนแห่พระบรมศพของพระมหากษัตริย์ ได้ดังความตอนงานพระบรมศพท้าวหมันยา รวมทั้งทำให้ทราบถึงการแต่งกายของเจ้าหน้าที่ในริ้วกระบวน
บัดนั้น | ฝ่ายเจ้าพนักงานน้อยใหญ่ | |||
ครั้นจวนกำหนดไม่นอนใจ | ก็ตระเตรียมเทียมพิชัยราชรถ | |||
รถใหญ่สำหรับใส่พระโกศทอง | เรืองรองรจนาปรากฏ | |||
รถโยงปรายข้าวตอกเป็นหลั่นลด | รถอ่านหนังสือรถใส่ท่อนจันทน์ | |||
เกณฑ์ไพร่ไว้สำหรับชักฉุด | ใส่เสื้อเสนากุฏขบขัน | |||
ที่บ่าวไพร่ใครช้ามาไม่ทัน | ก็พากันวิ่งวุ่นทุกมูลนาย | |||
บรรดาหมู่คู่แห่เข้ากระบวน | ก็มาถ้วนตามบัญชีที่มีหมาย | |||
ล้วนใส่เสื้อครุยกรุยกราย | สมปักลายลำพอกถือดอกบัว | |||
คนชักรูปสัตว์จัดหนุ่มหนุ่ม | ใส่ศีรษะโมงครุ่มครอบหัว | |||
ทับทรวงสังวาลลอดสอดพันพัว | แต่งตัวนุ่งโถงโจงกระเบน | |||
กิดาหยันจัดกันตามตำแหน่ง | เชิญพระแสงหอกดาบดั้งเขน | |||
ตั้งตาริ้วรายไปใกล้พระเมรุ | พรั่งพร้อมตามเกณฑ์ทั้งไพร่นาย |
การจัดริ้วกระบวนแห่งานพระเมรุมาศ สมัยรัตนโกสินทร์
กระบวนแห่พระบรมศพจากพระบรมมหาราชวัง ไปยังพระเมรุมาศมีการจัดกระบวนตามพระราชประเพณีโดยมีระเบียบการจัดริ้วกระบวนมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งอาจศึกษาได้จากงานพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ริ้วกระบวนนั้นจัดขึ้นเมื่อมีการเตรียมการสร้างพระเมรุมาศแล้ว กระบวนเริ่มด้วยกระบวนแห่พระบรมสารีริกธาตุสู่พระเมรุมาศ ตามด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงช้าง ทรงม้า เป็นกระบวนตามลำดับพระยศ ยกเว้นกรมสมเด็จพระเดชาดิศร ทรงพระราชยานกงและมีกระบวนแห่เครื่องสูง กลองชนะ สังข์และแตร กระบวนแห่นั้นเริ่มต้นกระบวนที่หน้าวัดพระเชตุพน แห่มาตามถนนหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ ตรงไปเลี้ยวศาลาคู่มาเปลื้องเครื่องที่หน้าวัดมหาธาตุ จบกระบวนแห่เจ้านายแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงเครื่องแล้วเสด็จโดยพยุหยาตรา ๔ แถว เสด็จประทับเปลื้องเครื่องที่พลับพลา กระบวนแห่อีกระบวนคือกระบวนพยุหยาตราของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
กระบวนแห่พระบรมสารีริกธาตุ ออกจากประตูวิเศษไชยศรีไปเลี้ยวป้อมเผด็จดัสกรเข้าสู่พระเมรุด้านตะวันออก แล้วอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นประดิษฐานบนพระเบญจา พระสงฆ์ราชาคณะ ๘๐ รูป เจริญพระปริตรในพระเมรุ ที่สำสร้างรอบพระเมรุทั้งสี่ด้าน มีพระสงฆ์ในกรุงและหัวเมือง ๔๐๐ รูป เจริญพระปริตร ตอนเย็นเสด็จออกพลับพลาทรงโปรยทาน วันรุ่งขึ้นตั้งบายศรีเวียนเทียนแลทรงโปรยทาน เวลาค่ำจุดดอกไม้เพลิง และกระทำการสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ
กระบวนแห่พระบรมศพประดิษฐานบนพระมหาพิชัยราชรถ มีกระบวนแห่รูปสัตว์ มีรถพระประเทียบและนางสนมตามเบื้องหลัง พร้อมคนเดินกระบวนแห่ ๗,๐๐๐ คน
สำหรับกระบวนพยุหยาตราในการแห่พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจากพระที่นั่งอัมพรสถานไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ถวายน้ำสรงพระบรมศพ ริ้วกระบวนได้ปรับเปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง ทั้งนี้เพราะได้มีกองทหารเพิ่มขึ้นอีกหลายเหล่า ริ้วกระบวนมีดังนี้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวถวายน้ำสรงพระบรมศพ เจ้าพนักงานประโคมแตรสังข์ กลองชนะ มโหระทึก จากนั้น เจ้าพนักงานกรมพระภูษามาลา มีพระยาราชโกษา พระเทพาภรณ์ ถวายเครื่องทรงอย่างบรมขัตติยาธิราช แล้วอัญเชิญประดิษฐานในพระลองเงิน พระเจ้าอยู่หัวถวายพระมหากฐิน เจ้ากรมพระตำรวจเชิญพระลองลงจากพระที่นั่งอัมพรสถานขึ้นพระเสลี่ยงหิ้ว ประดิษฐานบนพระที่นั่งสามลำคาน มีพระมหานพปฎลเศวตฉัตรคันดาลกั้นพระลอง แถวทหารมหาดเล็กถวายวันทยาวุธ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เจ้าพนักงานประกอบพระโกศทองใหญ่แล้ว พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าดิลกนพรัฐ และพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าสุริยงค์ประยูรพันธ์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์ครุย ประคองพระโกศ มีขุนนางผู้ใหญ่ เข้าเป็นคู่เคียงซ้ายขวา ๘ คู่ คือ
๑.นายพลโท เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี | กับ | นายพลโท พระยาสุรเสนา สมุหราชองครักษ์ | ||
๒.พระยาวรพงษ์พิพัฒน์ | พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ | |||
๓.นายพลโท พระยาสีหราชเดโชไชย | กับ | นายพลตรี พระยาประสิทธิ์ศัลการ | ||
๔.พระยาอนุรักษราชมณเฑียร | กับ | พระยาบำเรอภักดิ์ | ||
พระยาอนุชิตชาญไชย | กับ | พระยาอภัยรณฤทธิ์ | ||
๖.พระยาราชสงคราม | กับ | พระยาสามภพพ่าย | ||
๗.พระยานรฤทธิ์ราชหัช | กับ | พระยาศิริสัตย์สถิตย์ | ||
๘.พระยาเวียงไนยนฤบาล | กับ | พระยาศุภกรณ์บรรณสาร |
กระบวนแห่ทหารบก
ตำรวจมหาดเล็ก เดินเป็นสี่สาย
กลองชนะทอง | ๒๐ | |||
กลองชนะเงิน | ๒๐ | |||
กลองชนะแดงลายทอง | ๘๐ | |||
จ่าปี่ | ๒ | |||
จ่ากลอง | ๒ | |||
แตรงอน | ๑๖ | |||
แตรฝรั่ง | ๑๒ |
อินทร์เชิญ ต้นไม้เงิน พรหมเชิญ ต้นไม้ทอง
มหาดเล็กเชิญ พระกลด บังสุริย์ พัดโบก
มหาดเล็กเชิญ พระแสงหว่างเครื่องหน้า ๖ หลัง ๔
มหาดเล็กเชิญ เครื่องราชูปโภค เดินหลังพระที่นั่ง
นาลิวันสยายผม เดินหลังเครื่องสูง
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องเต็มยศมหาดเล็ก
ทรงพันผ้าดำทุกข์ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ พระราชดำเนินต่อท้ายเครื่องสูง
นายทหารเชิญธงบรมราชธวัช ตามเสด็จ
ตามด้วย | พระบรมวงศานุวงศ์ มีทั้งทรงเครื่องเต็มยศและทรงเครื่องผ้าทรงขาวทรงเครื่องราชอิสริยาภรณ์ | |||
ทหารมหาดเล็ก | เดินแซงข้างละ ๒ แถว ต่อพระบรมวงศานุวงศ์ ในระหว่างกลาง | |||
พนักงานกรมม้า | จูงม้าพระที่นั่ง ๔ ม้า | |||
ข้าทูลละอองธุลีพระบาท ฝ่ายทหารและพลเรือนแต่งเต็มยศพันแขนดำ | ||||
ทหารเรือ อยู่ท้ายขบวน ผ่านถนนราชดำเนิน ข้ามสะพานมัฆวานรังสรรค์ | ||||
สะพานผ่านภพลีลา และสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ผ่านเข้าถนนหน้าพระลาน | ||||
เข้าพระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษไชยศรี | ||||
เจ้าพนักงานเชิญพระโกศขึ้นประดิษฐานบนแว่นฟ้าทองคำ ภายใต้พระนพปฎลเศวตฉัตร | ||||
บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ประดับรอบด้วยเครื่องสูงและตั้งเครื่องราชูปโภคและเครื่องนมัสการ |
ต่อมาในเดือนมีนาคม รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๙ พ.ศ.๒๔๕๔ มีการถวายพระเพลิงพระบรมศพ มีการจัดริ้วกระบวนแห่พระบรมศพ คือ อัญเชิญพระบรมศพจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ออกประตูศรีสุนทรไปตามถนนมหาราช ถนนเชตุพน ถนนสนามไชย ไปทรงพระมหาพิชัยราชรถที่หน้าวัดพระเชตุพน โดยกระบวนพระยานมาศสามลำคาน ปักนพปฎลเศวตฉัตร มีสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอทรงประคองพระโกศ ประทับพระราชยานกงทรงโยง ทรงโปรย และมีพระสงฆ์นำพร้อมด้วยกระบวนพระราชอิสริยยศ เครื่องสูง แตร สังข์ กลองชนะ มโหระทึก และคู่แห่มีคู่เคียงและมหาดเล็กเชิญพุ่มต้นไม้ ทองเงิน เชิญจามรทองแผ่ลวดอยู่หน้าพระราชยานกงพระสงฆ์ มีเครื่องสูงหักทองขวาง ต่อจากเครื่องสูงทองแผ่ลวด และนำพระมหาพิชัยราชรถ ตามด้วยเครื่องสูงหักทองขวางหลัง
กระบวนแห่เป็น ๔ สาย ตำรวจอยู่สายนอก มหาดเล็กอยู่สายใน เครื่องสูงหักทองขวางอยู่ ๒ ข้าง หน้าพระยานมาศสามลำคาน มีหารบกสายนอกต่อกรมตำรวจ กรมทหารเรือสายใน ต่อกรมมหาดเล็ก รวมคู่แห่กรมทหารบก กรมทหารเรือ ๔๙ คู่ และกรมพระตำรวจกับกรมมหาดเล็ก ๗๖ คู่ ตรงสายกลาง เป็นริ้วเครื่องสูงทองแผ่ลวดจามรทองแผ่ลวด และเครื่องสูงหักทองขวาง สังข์แตร กลองชนะ มโหระทึก ตามด้วยริ้วของนาลิวันและมหาดเล็กเชิญเครื่องตามท้ายกระบวนด้วยริ้วพระยาม้าต้น และกระบวนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่นำด้วยธงกระบี่ธุช ธงครุฑพ่าห์ ส่วนธงมหาราช ราชองค์รักษ์และภูษามาลาอยู่งานพระกลดนั้นตามกระบวนเสด็จ
สำหรับกระบวนแห่พระบรมศพจากหน้าวัดพระเชตุพนนั้น มีราชรถสำหรับพระสงฆ์นำ พระบรมศพถูกอัญเชิญขึ้นจากพระยานมาศสามลำคานด้วยเกริน นำขึ้นประดิษฐานบนพระมหาพิชัยราชรถ พระราชยานกง ทรงโปรย และทรงโยง ตามด้วยกระบวนของพระบรมวงศานุวงศ์ เจ้าพระยา เสนาบดี เจ้าผู้ปกครองประเทศราช ราชทูต และข้าราชการชั้นพานทอง
กระบวนแห่พระอิสริยยศพระเมรุมาศ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีลักษณะเช่นเดียวกับพระบรมศพรัชกาลที่ ๕ แต่ตัดราชรถโยง ราชรถโปรยออก ส่วนตอนเวียนพระเมรุมาศนั้น ใช้รถปืนใหญ่รางเกวียน ตั้งพระโกศพระบรมศพแทนพระยานมาศสามลำคาน และพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ ๘ ก็ปฏิบัติอนุโลมตามแบบอย่างนี้
อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการเข้าใจถึงการเข้าพระบวนแห่พระบรมศพด้วยพระมหาพิชัยราชรถ สามารถทราบได้จากการแห่พระบรมศพ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เมื่อวันที่ ๒๒-๒๔ เมษายน พ.ศ.๒๔๙๙ จัดอนุโลมแบบสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถเป็นหลัก
ริ้วกระบวนอัญเชิญพระบรมศพสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๙ ได้มีการตัดทอนจำนวนราชรถ และผู้เข้าร่วมกระบวนแห่ลงจากเดิมมาก คือ ราชรถน้อยที่เดิมเข้ากระบวน ๓ องค์ ก็เหลือเพียงองค์เดียว เฉพาะสมเด็จพระสังฆราช อ่านพระอภิธรรม โดยตัดราชรถสำหรับทรงโปรยข้าวตอกดอกไม้ และราชรถสำหรับโยงพระภูษาออก รวมทั้งราชรถรอง คือเวชยันตราชรถก็ตัดออกเช่นกัน ทั้งนี้เพื่อความเหมาะสมนั่นเอง และจากการปรับริ้วกระบวนพระอิสริยยศในครั้งนั้นก็ได้นำมาเป็นแบบอย่างอีกครั้ง ในงานพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ เมื่อวันที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๒๘ ด้วยเช่นกัน โดยมีริ้วกระบวนพระราชอิสริยยศพระบรมศพทั้งหมด ๖ ริ้วกระบวน คือ
ริ้วกระบวนที่ ๑ เชิญพระโกศพระบรมศพจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปยังพระมหาพิชัยราชรถ ที่หน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
ริ้วกระบวนที่ ๒ เชิญพระบรมศพจากหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามไปยังพระเมรุมาศที่ท้องสนามหลวง
ริ้วกระบวนที่ ๓ กระบวนอัญเชิญจากพระบรมศพเวียนพระเมรุมาศ
ริ้วกระบวนที่ ๔ กระบวนอัญเชิญพระบรมอัฐิและพระราชสรีรางคารจากพระเมรุมาศ เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง
ริ้วกระบวนที่ ๕ กระบวนอัญเชิญพระบรมอัฐิจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขึ้นประดิษฐานบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
ริ้วกระบวนที่ ๖ กระบวนอัญเชิญพระราชสรีรางคารไปบรรจุ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
ซึ่งรายละเอียดในแต่ละริ้วกระบวน ได้มีการปรับเปลี่ยนในส่วนปลีกย่อย เพื่อความเหมาะสมอีกเช่นกัน
np.๑๖๗