พระราชกุศลทรงบาตรขึ้นปีใหม่
ประเพณีวันขึ้นปี ใหม่ของไทย ตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระ จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังคงถือวันทางจันทรคติขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 เป็นวันขึ้นปีใหม่ โดยมีการจัดงานสมโภชและเลี้ยงคณะลูกขุน ส่วนกำหนดการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลขึ้นปีใหม่นั้น โปรดเกล้าฯ ให้มีการพระราชกุศลสดับปกรณ์พระบรมอัฐิ ณ พระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัยในเวลาเช้า ส่วนเวลาค่ำจะเชิญพระสยามเทวาธิราช เจว็ดรูปพระภูมิเจ้าที่จากหอแก้วมาตั้งที่บุษบกมุขเด็จ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พร้อมทั้งตั้งเครื่องสังเวยที่พื้นชาลาหน้ามุขเด็จ ตั้งพระราชอาสน์ที่ประทับ ณ ศาลาคต มีละครหลวงแสดงและตั้งโต๊ะพระราชทานเลี้ยง
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นทางสุริยคติ โดยให้วันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่และโปรดให้ใช้รัตนโกสินทร์ศกในการนับปีตั้งแต่ ร.ศ. 108 เป็นต้นไป สำหรับพระราชพิธีนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเลี้ยงและ พระราชทานฉลากแก่พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการบางคน ณ ท้องพระโรงกลาง พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท แล้วเสด็จทอดพระเนตรละครหลวง ณ ชาลาหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ส่วนวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่มาแต่โบราณนั้น ทรงเปลี่ยนแปลงกำหนดให้เป็นวันจัดงานพระราชพิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราชตลอด มาจนทุกวันนี้
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้พุทธศักราชแทนรัตนโกสินทร์ศก เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2455 เป็นต้นไป และโปรดให้รวมพระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์เถลิงศกสงกรานต์ พระราชพิธีสัจจปานกาล ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาเข้าด้วยกัน เรียกว่า พระราชพิธีตรุษะสงกรานต์ โดยเริ่มการพระราชพิธีตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม ถึงวันที่ 3 เมษายน
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล วันขึ้นปีใหม่ของไทยได้เปลี่ยนเป็นวันที่ 1 มกราคม เพื่อให้ตรงกับนานาประเทศและคติความเชื่อทางพุทธศาสนา คือ ให้ใช้ฤดูหนาวเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ การเปลี่ยนแปลงนี้ได้เริ่มใช้เป็นทางการตั้งแต่วันที่
1 มกราคม พ.ศ. 2484 พร้อมกำหนดการพระราชพิธีขึ้นปีใหม่เป็น 3 วัน ดังนี้
วันที่ 31 ธันวาคม พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
วันที่ 1 มกราคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินสรงน้ำพระพุทธมหามณีรัตน ปฏิมากร ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แล้วทรงเวียนเทียนสดับปกรณ์ผ้าคู่พระบรมอัฐิสมเด็จพระบรมวงศ์ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ส่วนที่พระบรมมหาราชวัง ทางสำนักพระราชวังจะจัดที่สำหรับลงพระนาม และนามถวายพระพรไว้ตั้งแต่เวลา 10 นาฬิกา ถึง 16 นาฬิกา
วันที่ 2 มกราคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินสรงน้ำพระพุทธมหามณีรัตน ปฏิมากร และพระพุทธรูปสำคัญแล้วสดับปกรณ์ผ้าคู่พระบรมอัฐิสมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรและพระอัฐิพระราชวงศ์
ต่อมา พ.ศ. 2490 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ โปรดเกล้าให้ยกการพระราชกุศลสดับปกรณ์ผ้าคู่ในวันขึ้นปีใหม่ ไปไว้ในพระราชพิธีสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 13 – 15 เมษายน ซึ่งเป็นการฟื้นฟูพระราชพิธีที่มีมาแต่โบราณ นอกจากนี้ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนแปลงการพระราชกุศลสวดมนต์ เลี้ยงพระในวันขึ้นปีใหม่เป็นเสด็จออกทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทรงบาตรวันขึ้นปี ใหม่ ในวันที่ 31 ธันวาคม ณ บริเวณสนามหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โดยเริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2501 เป็นต้นไป ต่อมา พ.ศ. 2518 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีดังกล่าวเป็นการส่วนพระองค์ ณ พระราชฐานที่ประทับเป็นประจำทุกปีจนกระทั่งปัจจุบัน
ที่มา :
https://www.dra.go.th/th/cmsdetail-4-26-1-80.htmlhttp://