[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
01 พฤศจิกายน 2567 06:16:43 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความทรงจำนอกมิติ : โลกร้อน-อเมริกากับรัสเซีย คลินตัน-กอร์กับบุ  (อ่าน 1463 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5162


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 28 กรกฎาคม 2553 07:40:10 »

http://i193.photobucket.com/albums/z117/bradaricjakov/AnInconvenientTruth.jpg
ความทรงจำนอกมิติ : โลกร้อน-อเมริกากับรัสเซีย คลินตัน-กอร์กับบุ



ผู้อ่านแทบจะทุกคนก็รู้ว่าสงครามเย็นระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียต หรือระหว่างค่ายประชาธิปไตยตัวแทนกับประชาธิปไตยคอมมิวนิสต์นั้นได้จบมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1989-90 แต่ทั้ง 2 ก็ดูเหมือนเป็นศัตรูกันลึกๆ ที่ภายใน โดยเฉพาะฝ่ายหลังที่กลายเป็นประเทศรัสเซียไป เพราะคิดเอาเองว่าดูจะไม่ไว้ใจทุนนิยมที่เสรีอย่างสุดๆ คงจะบกพร่องบ้าง แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร รัสเซียจึงมีมาเฟียค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นปกติสำหรับประเทศที่มีประชาธิปไตยตัวแทนใหม่ๆ และผู้อ่านแทบจะทุกคนก็รู้ว่า ที่สหรัฐอเมริกานั้น ทุกวันนี้มีพรรคการเมืองที่ใหญ่จริงๆ อยู่ 2 พรรค คือ พรรครีพับลิกัน กับเดโมแครต ที่ผลัดกันได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี - ที่ผู้เขียนคิดว่าความคิดหลักอันสำคัญที่สุดคือ ความเป็นอเมริกันอย่างเดียวที่เหมือนกันเปี๊ยบ นั่นคือ ประชาชนมีอิสรเสรีอย่างที่สุดเท่าที่จะมีได้ ทั้งของปัจเจกบุคคล และทั้งสังคมของมนุษย์โดยรวม ซึ่งก็คือโอกาสของความเท่าเทียมกันของมนุษย์ผู้ใหญ่ยิ่งที่สุดและมีวิวัฒนาการทางด้านชีววิทยาหรือเฉพาะทางด้านกายภาพอันพิเศษสูงที่สุด อย่างน้อยก็ในโลกนี้ที่ตาสามารถมองเห็นได้ ผู้เขียนคิดเพียงแต่ว่าวัฒนธรรมความเป็นอเมริกันนั้นเป็นเรื่องของความจริงทางสังคมตามที่ตาเรามองเห็น      และสังคมเองก็เป็นผลรวมของปัจเจกแต่ละคนส่วนหนึ่งคิด ซึ่งย่อมแตกต่างกันระหว่างบุคคลกับบุคคล  หรือสังคมกับสังคม และแตกต่างกันที่ยุคสมัยหรือกาลเวลา จึงคิดว่าหากเรามองธรรมชาติหรือจักรวาลตามความจริงที่แท้จริงด้วยสายตาของคนตะวันออก วัฒนธรรมความเป็นอเมริกันเป็นวัฒนธรรมที่ขัดกับธรรมชาติอย่างที่สุด โดยทุกสิ่งทุกอย่างทุกปรากฏการณ์ที่มีของมันเองนั้น ชาวตะวันออกจะคิดว่ามันล้วนถูกควบคุมด้วยกฎแห่งกรรม - ส่วนหลักการรองๆ ของพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตนั้นจะมีความแตกต่างกัน แต่ก็ต่างกันที่ดีกรีมากกว่ารูปแบบแผน และที่จะพูดกันในที่นี้คือเรื่องของดิน ฟ้า ป่า อากาศ  เรื่องของเกียวโตโปรโตคอล ที่เดโมแครตโดยบิล คลินตัน และอัล กอร์ เซ็นในยกแรก แต่ต่อมาในยกสุดท้ายที่สำคัญกว่า-รีพับลิกันประธานาธิบดีบุช-เชนีย์ กลับไม่เซ็น ผู้เขียนไม่เห็นด้วยกับความเป็นอเมริกันอยู่แล้ว ไม่เห็นด้วยกับระบบต่างๆ กับวัฒนธรรมของตะวันตก โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจทุนนิยมที่ชูแต่  “ตัวกูของกู” กับตัณหาราคะ และผู้เขียนเชื่อว่าระบบสังคมของตะวันตก ซึ่งตั้งอยู่บนหลักการทางกายภาพแยกส่วน ตามที่ตาเห็นอย่างเดียวโดยไม่สนใจจิตภาพและจิตวิญญาณ ท้ายที่สุดก็จะนำไปสู่โลกพัง ในฐานะของประชาชนของโลกคนหนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ย่อมจะหนีไปอยู่โลกอื่นไม่ได้ จึงได้แต่หวังที่จะให้เห็นการเปลี่ยนแปลงโลกทัศน์ที่ทำลายธรรมชาตินี้เสีย


ตอนนี้ใครๆ ก็พูดถึงเรื่องของโลกร้อนและระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศสูง - เพราะบรรษัทน้ำมันกับการพัฒนาสังคมให้ก้าวหน้า พูดง่ายๆ ก็เพราะน้ำมือของมนุษย์กับความโลภจากระบบเศรษฐกิจทุนนิยมการตลาดเสรีที่ก็เป็นน้ำมือของมนุษย์เหมือนกัน - และผลพวงจากโลกร้อนและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะทำให้น้ำแข็งตามขั้วโลกและยอดภูเขาสูงๆ เช่น ภูเขาหิมาลัยละลายกลายเป็นน้ำ  ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำทะเลหรือมหาสมุทรมีระดับสูงขึ้นอันเป็นสาเหตุของน้ำท่วมโลก เราคิดกันง่ายๆ แค่นั้น ทั้งหมดเป็นเหตุให้เกิดภาวะของปรากฏการณ์ภัยธรรมชาติมากขึ้นๆ ในที่ต่างๆ ของโลกดังที่เราได้ยินได้อ่านกันเป็นประจำวัน ถี่ขึ้นและถี่มากขึ้นจนประชาชนทั้งโลกเคยชินและชาชินกับมันจนเฉยเมย ยกเว้นผู้ที่อยู่ในสถานที่นั้นและกำลังประสบกับภัยนั้นๆ เพราะจริงๆ แล้วเราก็ทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย  เพราะสายเกินไป นอกจากรอว่าเมื่อใดภัยนั้นจะมาถึงเรา สุดท้ายโลกก็พัง ซึ่งมันจะเกิดและต้องเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้


นั่น-ในฐานะนักเขียนที่อ่านวิทยาศาสตร์มาบ้างจึงเชื่อมั่นอย่างไม่มีข้อสงสัย ซึ่งก็ได้นำมาเขียนตลอดมา แล้วนั่น-ในฐานะนักเขียนที่อ่านเรื่องทางจิตและศาสนา โดยเฉพาะความรู้ที่เร้นลับ (mysticism)  มาบ้าง จึงเชื่อมั่นอย่างไม่มีข้อสงสัยเหมือนกัน ซึ่งก็ได้นำมาเขียนตลอดมาเช่นกัน แถมยังระบุปีและเวลาเสียด้วย


แปลก! ที่เรื่องปรากฏการณ์ภาวะภัยธรรมชาติ - ที่ใครๆ พูดถึง ใครๆ ก็กลัวกัน แทนที่ทุกประเทศในโลก - รวมทั้งองค์การสหประชาชาติ โดยไอพีซีซี ที่ประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับลมฟ้าอากาศกว่า 2,500 คนทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้สรุปเบ็ดเสร็จว่าน้ำท่วมโลกแน่นอนภายในก่อนสิ้นศตวรรษที่ 21 นี้ เพราะโลกร้อนและจากน้ำทะเลเอ่อขึ้นมาท่วมโลก และแม้เวลานี้เราทุกคนต่างก็เห็นกันชัดๆ แต่เราไม่ได้ข่าวจากรัสเซียเลย ทั้งเราก็ไม่รู้ว่านักวิทยาศาสตร์ของรัสเซียที่อยู่ที่ไอพีซีซีว่าอย่างไรบ้างในเรื่องนี้ ผู้เขียนเองก็เคยเรียนวิทยาศาสตร์ทั่วไปมาบ้าง แม้ว่าจะไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์สายตรงก็ตาม แต่เชื่อมั่นแทบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่านักวิทยาศาสตร์ - หากไม่มีข้อมูลพร้อมหรือแปลข้อมูลผิดก็อาจจะผิดได้ แต่วิทยาศาสตร์ไม่เคยผิดเลย การที่ผู้เขียนพูดว่าเราไม่ได้ข่าวจากรัสเซียในเรื่องนี้เลยนั้น อาจดูเหมือนว่ารัสเซียไม่สนใจ หรือเป็นประหนึ่งว่ารัสเซียไม่เชื่อเรื่องโลกร้อนและน้ำจะท่วมโลกภายในเร็ววันนี้ เหมือนกับยูเอ็น หรือเหมือนนักวิทยาศาสตร์ของอังกฤษ อเมริกา หรือประเทศในค่ายประชาธิปไตย ฯลฯ แล้วก็ตีโพยตีพายป่าวร้องให้ประเทศต่างๆ หันมาใช้พลังงานทางเลือกแทนน้ำมัน เราไม่รู้ร้อยเปอร์เซ็นต์จริงๆ ว่ารัสเซียมองเรื่องของโลกร้อนและน้ำท่วมโลกหรือภัยธรรมชาติที่ย่อมจะเกิดกับทุกๆ ประเทศในโลกอย่างไร


เร็วๆ นี้ผู้เขียนเผอิญได้อ่านรายงาน 2 ฉบับที่พูดถึงเรื่องดิน ฟ้า ป่า อากาศ (ที่ใช้คำที่ความหมายเหมือนกัน (climate) แต่ใช้เรียกถึง 2 คำนั้น เพราะผู้เขียนคุ้นกับคำว่าลมฟ้าอากาศมานานนักหนาแล้ว  แต่เร็วๆ นี้พบคำใหม่ที่คิดว่าสมบูรณ์กว่าจึงใช้คละกัน) ในวารสารวิทยาศาสตร์  (Nexus 2010 กับ Dawn     2009) จึงเล่าให้ผู้อ่านฟังดูว่าฝ่ายใดน่าเชื่อกว่า


ดังที่ได้เคยบอกมาแล้ว ในโลกนี้และปัจจุบันนี้ มีวารสารด้านวิทยาศาสตร์อยู่ 2 ฉบับเท่านั้นที่ชมรมนักวิทยาศาสตร์ให้ความเชื่อถือมากที่สุด โดยแทบจะไม่มี หรือจะพูดว่าไม่มีข้อสงสัยเลยก็ว่าได้ วารสารรายเดือนทั้ง 2 ฉบับนั้นตีพิมพ์ออกมาโดยสมาคมวิทยาศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดอย่างเป็นทางการ - ของประเทศในเครือของจักรภพอังกฤษ กับประเทศสหรัฐอเมริกาคนละฉบับ (Nature กับ Science) และในวารสารเนเจอร์นั่นเองได้มีรายงานละเอียดของการเจาะชั้นหิมะของธารน้ำแข็ง ชั้นของตะกอนดินพื้นมหาสมุทร (sediment cores) ซึ่งบอกถึงอายุของยุคสมัยต่างๆ ที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้เจาะจากสถานีวอสต็อกของรัสเซียที่ขั้วโลกใต้ที่ทวีปแอนตาร์กติก ซึ่งผลของการวิจัยไปตรงกันกับผลของการวิจัยศึกษาวงแหวนของต้นไม้ (tree rings) ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์คำนวณได้อย่างแม่นยำว่า แท้ที่จริงโลกเรากำลังย่างเท้าเข้าสู่ยุคน้ำแข็งเต็มรูปแบบต่างหาก (ไมใช่สมัยน้ำแข็งย่อย little ice-age นะครับ) ผลวิจัยที่วอสต็อกยิงตรงกันเป๊ะๆ กับทฤษฎีของมีลูติน มีแลงโกวิช นักคณิตศาสตร์ชาวฮังการีที่ประกอบด้วย 3  วัฏจักรของความสัมพันธ์ของโลกกับดวงอาทิตย์ ทฤษฎีเดียวที่นักวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับลมฟ้าอากาศแทบทุกคนให้ความเชื่อถือมาตั้งแต่ปี 1941 ซึ่งอธิบายถึงสาเหตุของการเกิดยุคน้ำแข็งสมบูรณ์ของโลก  ซึ่งเกิดขึ้น “สม่ำเสมอ” ในทุกๆ 100,000 -110,000 ปี 3 วัฏจักรที่ประกอบด้วย หนึ่ง วงโคจรของโลกไปรอบดวงอาทิตย์ - จากค่อนข้างเป็นวงกลม (circular) เป็นวงรี (elliptical) ยาวในทุก 100,000 ปี ทำให้โลกรับแสงแดดแตกต่างกัน สอง แกนของโลกทำมุมเอียงห่างจากดวงอาทิตย์ (ระหว่าง 21.5-24.5 ดีกรี  ในทุก 41,000 ปี) ทำให้โลกโดยเฉพาะซีกโลกด้านเหนือได้รับแสงแดดไม่เท่ากัน สาม การเคลื่อนที่ของงเวลาที่เท่ากันของกลางวันกับกลางคืน (equinoxses) ที่เกิดจากการสั่นไหว (wobbling) ของแกนโลกไปตามแนวโคจรของโลก ซึ่งเกิดขึ้นทุก 23,500 ปี การคำนวณของทั้ง 3 วัฏจักรนี้จะทำให้โลกจะต้องมียุคน้ำแข็งที่สมบูรณ์เต็มรูปแบบในทุก 110,000 ปี เช่นเดียวกันกับที่เรามีฤดูกาลประจำปี


นั่น-เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสต์เกี่ยวกับลมฟ้าอากาศเชื่อว่าจะเกิดขึ้นกับโลกมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1941 และบางคนก็เชื่อมาจนถึงวันนี้ ถ้าหากไม่ไปหลงเชื่อ คาร์ล เซกัน นักดาราศาสตร์ของมหาวิทยาลัยคอนเนลที่ใหญ่มากๆ-ป๊อปปูลาร์ที่สุดของอเมริกาและของโลก นักดาราศาสตร์ นักดาวเคราะห์ระดับโลกและองค์การนาซา เป็นนักคิดนักเขียนที่ได้รับรางวัลมากมาย รวมทั้งรางวัลพูลลิเซอร์ คาร์ล เซกัน เป็นคนที่มีบุคลิกดีมาก ยิ้มง่ายและมีเสน่ห์สามารถเอาชนะใจสื่อประเภทต่างๆ ได้แทบทั้งหมดเลย และเป็นคาร์ล เซกัน ผู้นี้เองที่บอกในทศวรรษที่ 1970 ว่า เพราะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ - ที่ได้จากน้ำมันฟอสซิลของคาร์บอนที่มนุษย์ขุดขึ้นมาใช้ - นี่เองที่เป็นต้นเหตุของอุณหภูมิโลกให้สูงขึ้นทำให้โลกร้อนขึ้นมากในช่วงนี้  และเพราะผู้เขียนคิดเอาเองว่า คาร์ล เซกัน เป็นคนที่มีเสน่ห์บุคลิกดีนี้เองบวกกับเหตุผลที่น่าเชื่อที่ทำให้สื่อประเภทต่างๆ ยอมรับและช่วยกันประโคมข่าวเรื่องภาวะโลกร้อนจนนักวิทยาศาสตร์แทบว่าจะทั่วทั้งโลกพากันลืมมิเลงโกวิชกับทฤษฎีของเขาไปเลย และที่สำคัญ-องค์การสหประชาชาติและไอพีซีซีเชื่อว่าเป็นเหตุที่ทำให้ประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทยเราเดือดร้อนกันไปทั่วในทุกวันนี้


แต่รัสเซียกับผลงานวิจัยที่วอสต็อกคิดไปอีกอย่าง พวกเขารู้สึกจะเชื่อทฤษฎีของมิแลงโกวิชกับ 3   วัฏจักรของความสัมพันธ์ระหว่างดวงอาทิตย์กับโลกดังกล่าวไปแล้ว ที่สำคัญที่สุดคือ ทฤษฎีของมิแลงโกวิชที่เขาใช้เวลาถึงกว่า 20 ปี คำนวณอย่างรอบคอบนั้นดังได้กล่าวแล้ว ยุคน้ำแข็งใหญมีความคงที่ของมัน  (regular) เหมือนกับฤดูกาลประจำปีที่เรามี คือมันย่อมจะมีในทุกๆ 110,000 ปี ไม่ว่าจะมีภาวะโลกร้อนจากการเผาน้ำมันหรือไม่ ข้อมูลจากวอสต็อกกราฟแตกต่างจาก “ไม้ตีลูกฮอกกี้” ที่อัล กอร์ กับภาพยนตร์ของเขา (Inconvenient Truth) ตรงที่ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับน้ำมันฟอสซิลของคาร์บอนเลย (นั่นคือ จอร์จ บุช-ดิค เชนีย์ กับบรรษัทน้ำมันจงเจริญ!)  ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศที่เกิดจากโลกที่ร้อนของมันเองตามวัฏจักรทุกๆ 110,000 ปี ของยุคน้ำแข็งจริงๆ - ซึ่งจะต้องมีอุณหภูมิโลกสูงขึ้นไปก่อนถึง 800 ปีล่วงหน้า อุณหภูมิของโลกถึงจะค่อยๆ ลดต่ำลงในฤดูหนาวจนกระทั่งถึงยุคน้ำแข็งจริงๆ มาถึง  และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศที่สูงขึ้นนั้น เป็นผลของโลกที่ร้อนขึ้นมากกว่าจะเป็นเหตุ ตามที่คลินตัน-กอร์และภาพยนตร์ รวมทั้งไอพีซีซีคิดและเชื่อมั่น


แต่ผู้เขียนทั้งเชื่อและไม่เชื่อข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ทั้ง 2 ทั้งหมด แต่เชื่อคนละครึ่ง คือเชื่อว่า สาเหตุของภาวะโลกร้อนจากน้ำมันและตัณหาโลภจริตจากระบบทุนนิยมมีจริงๆ เช่นเดียวกับเชื่อมิแลงโกวิชว่ายุคน้ำแข็งมีจริง และขณะนี้โลกเราก็ถึงวันนั้นครบ 110,000 ปีจริงๆ คือทั้ง 2 กรณี ทั้งสาเหตุปฐมและตัวเร่งมีจริง เคยบอกมาแล้วว่าวิทยาศาสตร์ไม่เคยผิดหากเราแปลข้อมูลไม่ผิด และต้องรู้วิทยาศาสตร์สาขาอื่นๆ ด้วย เช่น สนามแม่เหล็กโลกตอนนี้หายไปไหน? หรือจุดดำที่ดวงอาทิตย์เป็นอย่างไร?  หรือวงโคจรของระบบสุริยะกับกาแล็กซี? ฯลฯ ที่สำคัญคือเราต้องคิดประเด็นทางจิตหรือฟิสิกส์ใหม่ด้วย  ก็จักรวาลนี้มีทั้งกายกับจิตหรือรูปธรรมกับนามธรรมไม่ใช่หรือ? คัมภีร์โบราณหรือศาสนาทุกศาสนาที่ได้มาจากปรีชาหยั่งรู้ (เช่น จากสมาธิ) ต่างบอกไว้เหมือนๆ กันว่ามนุษย์จะมีการเปลี่ยนแปลงที่จิตวิญญาณ  (spirituality) หลังปี 2012 ไปแล้ว.


http://www.thaipost.net/sunday/250710/25305

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
รหัสสัญญาณอันตราย 'ไวรัสอุบัติใหม่' โรคร้าย - โลกร้อน
รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ 1 2156 กระทู้ล่าสุด 22 มกราคม 2553 18:40:35
โดย sometime
ความทรงจำนอกมิติ : รูป นาม วิญญาณกับจักรวาลวิทยา
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก 0 2622 กระทู้ล่าสุด 21 กุมภาพันธ์ 2553 14:00:45
โดย มดเอ๊ก
ความทรงจำนอกมิติ : วิวัฒนาการสุดท้ายของสังคมมนุษย์
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก 0 2953 กระทู้ล่าสุด 08 มีนาคม 2553 08:52:02
โดย มดเอ๊ก
โลกร้อน วิกฤติอนาคต ผู้หญิง
รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
หมีงงในพงหญ้า 0 2367 กระทู้ล่าสุด 05 มิถุนายน 2553 22:21:17
โดย หมีงงในพงหญ้า
10 ปรากฎการณ์ประหลาด ผลกระทบวิกฤต "โลกร้อน!"
รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
หมีงงในพงหญ้า 0 2194 กระทู้ล่าสุด 12 มิถุนายน 2553 15:32:04
โดย หมีงงในพงหญ้า
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.386 วินาที กับ 34 คำสั่ง

Google visited last this page 27 ตุลาคม 2567 12:05:30