[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 มีนาคม 2567 19:32:05 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ผู้วิเศษจอมปลอม เงิน สาวก ชื่อเสียง เซ็กซ์ ! อันตรายถึงชีวิต !  (อ่าน 9728 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
วันศุกร์ นัดทานข้าว
นักโพสท์ระดับ 6
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 79


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 33.0.1750.154 Chrome 33.0.1750.154


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 01:48:07 »

ผู้วิเศษจอมปลอม เงิน สาวก ชื่อเสียง เซ็กซ์ ! อันตรายถึงชีวิต !



ผู้วิเศษจอมปลอม เจ้าลัทธิ มีมาช้านานและมีมาทั่วโลก อันตรายถึงชีวิต เสียเงินทอง และแม้แต่เสียตัว มีเป็นข่าวดังมาแล้วทั่วโลก
มีทั้งสร้างลัทธิเล็กๆ ถึงใหญ่ๆ และอาจจะไม่มีชื่อลัทธิเป็นทางการ เกิดกันมากมายขึ้นทุกที ผมได้นำเรื่องราวของลัทธิอันตรายต่างๆ
จากทั่วโลกมาลงเป็นกรณีศึกษา

สิ่งที่ผู้วิเศษจอมปลอมจะได้ อาจจะได้บางอย่างหรือทั้งหมด

1. Ego boost - ได้รู้สึกมั่นใจ ข้าวิเศษ ดีเลิศกว่าชาวบ้าน เรื่องอื่นอาจจะธรรมดา หรือไม่ได้ดีเลิศ แต่คนเชื่อว่าข้าวิเศษ หรือข้าเชื่อว่าข้าวิเศษ ย่อมรู้สึกดี เติมเต็มปมด้อยตัวเอง
2. Followers - ได้สาวก มาคอยตาม คอยไหว้ คอยชม คอยถามนั่นนี่ หรืออาจมีของฝาก อบอุ่น เป็นดาราน้อยๆ นี่เอง
3. Money - ได้เงิน เงินบริจาคมั่ง บ้างอ้างไม่ได้ขอเขาให้เอง บ้างก็ขอตรงๆ ไปออกรายการบ้าง จัดสัมนาบ้าง ขายของวิเศษบ้าง ขายหนังสือบ้าง ดูดวงบ้าง
4. Fame - ได้มีชื่อเสียง จากคนธรรมดา กลายเป็นผู้วิเศษ คนกล่าวถึง ท่านนี้เป็นผู้วิเศษ เรื่องอื่นอาจไม่มีอะไรเด่นดัง แต่ความวิเศษไม่ค่อยมีใครจะมี ถึงแม้จะไม่ได้มีจริงก็ตาม
5. Sex - ได้เมีย ผู้วิเศษผู้ชายก็จะพูดจาหว่านล้อมลูกศิษย์ที่ถูกใจ หรือแม้แต่บอกว่ามีเซ็กซ์กับตนนั้นดีจะทำให้ชีวิตดี อย่างไรเขาก็เห็นเราวิเศษแล้ว ก็หาเมียจากผู้ติดตามนี่แล มีเยอะแยะเห็นถมไป มันเข้าทางผู้วิเศษบ้ากาม ถูกใจนักแล

สุดท้ายก็รับกรรมกันไป ใครทำเลวอะไรไว้ก็ได้รับกรรมตามนั้น ตามนี้แล เรื่องจริง พูดตรง

อยากให้ทุกคนได้ศึกษาบทความต่อไปนี้ เพื่อจะได้รู้ทันผู้นำลัทธิ และความอันตรายของลัทธิต่าง เพื่อจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ!




Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
วันศุกร์ นัดทานข้าว
นักโพสท์ระดับ 6
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 79


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 33.0.1750.154 Chrome 33.0.1750.154


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 01:51:17 »



Cult หรือลัทธิ มักจะมีผู้นำคนหนึ่งที่เชื่อว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ โดยเฉพาะเป็นผู้ถูกเลือก แม้กระทั้งเป็นคนสำคัญทางศาสนากลับชาติมาเกิด เช่น บอกว่าเป็นพระเยซู กลับชาติมาเกิด พระศรีอาริย์ และอื่นๆ

บางลัทธิ จุดจบคือตายหมู่อย่างน่าอนาถ ความเชื่อนั้นสามารถเป็นสิ่งน่ากลัว ถ้าเอาศรัทธาไปฝากไว้กับผู้วิปลาส
อย่าลืมว่าลัทธิ อาจจะไม่ได้มีชื่อลัทธิอย่างเป็นทางการ อาจจะเป็นเพียงมีผู้นำ และมีกลุ่มที่เป็นสาวกเพียงไม่กี่คน

สมัยนี้เป็นยุค social media ดังนั้นลัทธิ อาจจะไม่มีที่ทำการที่เป็นอาคาร อาจจะเป็นที่ๆ หนึ่งในเว็บที่สาวกจะมาชุมนุมกัน และอื่นๆ

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีกลุ่มความเชื่อที่ผิดไปจากหลักศาสนามากมาย คนพวกนี้มักอ้างความคิด แนวคิดที่แปลกประหลาด และพยายามทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนมาศรัทธาลัทธิของตน และใช้ผลประโยชน์จากบุคคลเหล่านั้นเพื่อตนเอง เช่น ผู้นำลัทธิมักมากในกาม ก็สอนว่ามีภรรยาได้หลายคน สาวกสาวอยากเข้าใกล้พระเจ้าต้องมีเพศสัมพันธ์กับผู้นำ ผู้นำอยากดัง คืออยากมีชื่อเสียง ผู้นำอยากสบาย สาวกต้องหาเงินทองมาสนับสนุนเป็นต้น หรือบางคนมีความต้องการหลายๆอย่างร่วมกันและสาวกไม่มีสิทธิ์ตรวจสอบพฤติกรรมเหล่านั้นเพราะเป็นสิทธิที่ผู้นำได้รับจากพระเจ้า เป็นต้น



บันทึกการเข้า
วันศุกร์ นัดทานข้าว
นักโพสท์ระดับ 6
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 79


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 33.0.1750.154 Chrome 33.0.1750.154


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 01:52:52 »



Jeffrey Lundgren



เจฟฟรีย์ ลุนด์เกรน (เกิด 3 พฤษภาคม 1950) เป็นเจ้าลัทธิ ที่เขาก่อตั้งในปี 1984 ในบ้านพักบนถนน ชิลลิโคเท โอไฮโอ โดยใช้หลักคำสอนผิดๆ โดยเขาประกาศว่าเขาได้ยินเสียงพระเจ้าให้เขาเผยแพร่ "คำพยากรณ์สุดท้ายแห่งพระเจ้า" นำสาวกไปต้อนรับการเสด็จกลับสู่โลกมนุษย์ของพระคริสต์เจ้า (โดยเขาย้ายที่อยู่ไปเรื่อย)มีหลายคนเชื่อเขาและขอเป็นสาวก ซึ่งเขาขอเงินจากผู้สนับสนุนหลายคนยินดีออนเงินจนได้หลายพันดอลลาร์ และเขาก็มีหลายคดีในการฆาตกรรรมสังหารล้างครัวเดนนิส อาเวรี หนึ่งในสาวกของเขาเองที่ไม่สนับสนุนและขัดขวางเขาโดยเขาและสาวกได้ใช้อาวุธปืนยิงเดนนิสกับภรรยาและลูกสาวของเขารวม 5ศพอย่างโหดเหี้ยม สุดท้ายเขาเสียชีวิตเมื่อ 24 ตุลาคม 2006 จากการถูกพิพากษาประหารชีวิต


บันทึกการเข้า
วันศุกร์ นัดทานข้าว
นักโพสท์ระดับ 6
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 79


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 33.0.1750.154 Chrome 33.0.1750.154


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 01:54:02 »



Restoration of the 10 Commandments



หรือชื่อเต็มคือ Movement for the Restoration of the Ten Commandments of God แปลว่า การเคลื่อนไหวเพื่อการบูรณะบัญญัติสิบประการของพระเจ้า เป็นลัทธิที่แตกมาจากคริสตจักรโรมันคอทอลิค ก่อตั้งโดยนางซีเครโดเนีย มเวรินเดและนายโจเซฟ คิบเบเทียร์ ก่อตั้งในปลายทศวรรษ 1980 ในหมู่บ้านปาลา ยูกันดา โดยนางซีเคนโดเดนียเคยเป็นสาวบาร์มาก่อนเธอได้อ้างว่าเธอสามารถติดต่อพระนางพรหมจารีย์มารีย์ได้ ซึ่งเขาได้เข้าหานายโจเซฟซึ่งเป็นนักการเมืองว่าเขาได้ถูกรับเลือกในการเป็นศาสดา และนายโจเซฟก็เชื่อ ทั้งสองได้ก่อตั้งลัทธิหนึ่งเพื่อความมั่งคั่งของตนเอง และมีอำนาจเหนือชาวบ้านทั้งๆ ที่ชาวบ้านมีสภาพความเป็นอยู่ที่แล้งแค้น โดยเป้าหมายของลัทธินี้คือการเคลื่อนไหวเพื่อการบูรณะบัญญัติสิบประหารของพระเจ้าคือการปฏิบัติตามบัญญัติสิบประการและทั้งสองออกกฎแปลกๆ เช่น อย่าพูดสื่อสารกันให้ใช้ภาษามือ และให้กินอาหารหนึ่งมื้อในวันศุกร์และจันทร์ พวกเขาได้อ้างว่าพระแม่บอกว่าโลกจะแตกในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ.2000 แต่เอาเข้าจริงปรากฏว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งสองเลยเฉไฉไปว่า พระเจ้ายังไม่ทรงต้องการทำลายโลก แต่เลื่อนไปเป็นวันที่ 17 มีนาคม ปีเดียวกัน และตามบทบัญญัติแห่งลัทธิบอกว่ามนุษย์ควรกำจัดตนเองให้สูญสิ้นจากโลกก่อนที่โลกนี้จะถึงจุดพินาศย่อยยับในปี 2000 ส่งผลทำให้ชาวยูกันดาหลายพันคนฆ่าตัวตายประมาณครึ่งหนึ่งเป็นเด็กที่ถูกฆ่าด้วยยาพิษ กากไม่ตายก็จะถูกทุบหัวด้วยกระบองหรือแทงด้วยมีด ซึ่งกลางปี 1999 มีการสังหารหมู่หลายครั้งหลายคราวในในหมู่บ้านคานังกู ซึ่งเป็นบ้านเกิดของแม่ซีเครโดเนีย

และเมื่อถึงในที่ 17 มีนาคม 2000 นางซีเครโดเนียได้นัดหมายสาวกของเธอให้ไปรวมตัวกันในสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นโรงนาในปาลา สมาชิกกว่า 600 คนซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยผู้หญิงและเด็กได้เข้าพิธีสวดมนต์ทั้งคืนและรับประทานอาหารมือสุดท้ายคือข้าวโอ๊ตผสมนมและน้ำตาล โดยคำสั่งสุดท้ายของเจ้าลัทธิคือให้การเผาโบสถ์โดยทำการประตูหน้าต่างปิดมิดชิดไม่ให้สาวกหนีออกมาได้ ส่งผลทำให้มีศพผู้เสียชีวิตที่เป็นตอตะโกจำนวน 513 ศพรวมทั้งศาสดาคิบเวเทียร์(ความจริงไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าเป็นศพของเขาหรือเปล่า แต่กระนั้นก็ไม่พบร่องรอยว่าเขามีชีวิตอยู่ หากมีเขาคงฆ่าตัวตายไปแล้ว) นอกจากนี้ยังมีการพบศพจำนวน 265 ศพถูกฝังไว้ใต้ดินในที่ดินที่นายคิบเวเทียร์ครอบครองอยู่แต่ละศพมีร่องรอยการถูกแทงไม่ก็ถูกวางยาพิษรวมอยู่ด้วย ส่วนแม่ซีเครโดเนียถูกจับในเดือนเมษายน 2000


บันทึกการเข้า
วันศุกร์ นัดทานข้าว
นักโพสท์ระดับ 6
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 79


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 33.0.1750.154 Chrome 33.0.1750.154


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 01:55:30 »



NeoNazi



ลัทธินีโอนาซี เป็นลัทธิที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อแสวงหาการฟื้นฟู นาซีนิยม เกิดขึ้นอีกครั้งเพราะพวกเขาเชื่อว่า “คนขาวที่เป็นเยอรมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่ดีที่สุด” พวกนีโอนาซีมักจะโกนหัว ไว้ทรงผมสกินเฮด คล้ายพังค์ สักลายสวัสดิกะ หรือ สัญลักษณ์นาซีไว้ที่ตัว

นโยบายของลัทธินีโอนาซีมีความแตกต่างกันไปจากลัทธินาซีเดิม แต่กระนั้นเนื้อหาโดยรวมยังเหมือนเดิม พวกเขาจะสวามิภักดิ์ต่อ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ,เหยียดเชื้อชาติต่างๆ,เหยียดสีผิว,เทิดทูนคนอารยันเยอรมัน,เหยียดเกย์ เยียดยิว สลาฟ อังกฤษ ฯลฯ โดยปัจจุบันสมาชิกลัทธินี้มีอยู่ทั่วโลก ซึ่งส่วนมากเป็นยุโรป พบมากในแถวชายแดนระหว่างประเทศที่ติดกับเยอรมัน โดยเฉพาะในรัสเซียพบมากที่สุดใน กรุงมอสโก เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายของบุคคลกลุ่มนี้ได้แก่ ยิว สลาฟ เอเชีย ตาตาร์ ยูเครน เบลารุส นิโกร ลูกครึ่ง มักถูกทำร้ายจนตาย บางประเทศในยุโรปมีกฎหมายห้ามลัทธินาซี การเหยียดผิว และการเหยียดเชื้อชาติ


บันทึกการเข้า
วันศุกร์ นัดทานข้าว
นักโพสท์ระดับ 6
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 79


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 33.0.1750.154 Chrome 33.0.1750.154


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 01:58:46 »



Charles Manson and The family



ชาร์ลส แมนสัน เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 1934 เป็นเด็กที่เต็มไปด้วยปัญหา เขาก่ออาชญากรรมเล็กๆ น้อย เข้าคุกเป็นว่าเล่น เมื่อออกจากคุกเขาหันมาเป็นพวกฮิปปี้ และได้รวบรวมกลุ่มคนโดยใช้ชื่อลัทธิว่า “แมนสันและครอบครัว” โดยเขาได้พูดถึงวันสิ้นโลกไว้ว่า "ในไม่ช้าจะเกิดสงครามระหว่างคนขาวกับคนดำจะเกิดขึ้น มันจะกลายเป็นชนวนนำไปสู่สงครามปรมาณู คนดำจะเป็นฝ่ายชนะ แต่เนื่องจากพวกมันไม่มีความสามารถในการปกครอง แมนสันและครอบครัวโดยมีข้าเป็นผู้นำจะเป็นเชื้อสายบริสุทธิ์เพียงหนึ่งเดียวที่เหลือรอด และกลายเป็นผู้ปกครองโลกตลอดกาล"

ฟังดูไร้สาระ แต่ในเมื่อชาร์ลสเชื่อ สาวกก็เชื่อด้วย จากตรงนี้เองที่พวกเขาเริ่มคิดถึงการก่ออาชญากรรมแล้วป้ายความผิดให้กับคนผิวดำเพื่อให้สงครามเกิดขึ้นเร็วๆ และกำจัดบุคคลที่เขาขัดขวางพวกเขา ส่งผลทำให้มีผู้เป็นเหยื่อของลัทธินี้หลายราย และบางรายถูกฆ่าอย่างทารุณ โดยกรณีดังที่สุดคือ ในวันที่ 8 สิงหาคม 1969 ภรรยากำกับหนังคนดังชื่อ โรมัน โปแลนสกี้และดาราสาว ชื่อ ชารอน เทท อายุ26 ปี และเพื่อนที่มาร่วมงานดินเนอร์แบบเป็นกันเอง 3 คน ถูกสาวกของชาร์ลสก็ฆ่าทุกคนตายเรียบ แต่ชารอน เททหนักสุด เพราะเหล่าสาวกรุมแทงเธอถึง 16 แผล จากนั้นก็ใช้มีดผ่าท้องของเธอจนเหวอะหวะ และถูกไม้ตีที่ศีรษะซ้ำยังไม่สะใจ พวกมันจับเธอ มัดโยงกับเพดานแขวนไว้ พวกมันตัดเต้านมของเธอทิ้งทั้งเป็น แล้วใช้มีดเล่มนั้นชำแหละกรีดตั้งแต่บริเวณยอดอก จนถึงหัวหน่าวเลือดสดๆของเธอกระจายเต็มบ้าน มิหนำซ้ำ ยังใช้แปลงจุ่มเลือดเขียนคำว่า "PIG"ตัวโตไว้ที่บานประตูบ้านสุดท้ายในวันที่ 13 เดือนธันวาคม 1969 ทั้งหมดถูกจับได้ยกลัทธิรวมทั้งชาร์ลส์ แมนสัน

ทุกวันนี้ ชาร์ลส์ แมนสัน ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในคุก ที่แคลิฟอร์เนีย และบรรดาสาวกก็แก่เป็นคุณปู่ คุณยายไปหมดแล้ว แต่กระนั้นก็มีเหล่าบรรดาสาวกใหม่ของชาร์ลส์ที่มีทั้งของแท้และของเทียมและแฟนพันธุ์แท้ที่ยังเชื่อคำสอนของเขายังคงมีอิทธิพลอยู่ในเจ้าลัทธิต่างๆ ในปัจจุบัน


บันทึกการเข้า
วันศุกร์ นัดทานข้าว
นักโพสท์ระดับ 6
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 79


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 33.0.1750.154 Chrome 33.0.1750.154


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 02:00:14 »



Asahara and the Aum Supreme Truth



ญี่ปุ่นนี้เป็นประเทศที่มีลัทธิต่างๆ มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกก็ว่าได้ เพราะความสับสนทางศาสนาในยุคปัจจุบันที่ไม่ค่อยมีความรู้สึกว่าตัวเองนับถือศาสนาใดอย่างเฉพาะเจาะจงนัก เวลางานแต่งงานใช้ศาสนาคริสต์ งานศพใช้ศาสนาพุทธ ทำให้มีลัทธิใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างไม่ขาดสาย บางลัทธิดีก็ดีไป แต่บางลัทธิไม่ดีนะสิก็เป็นปัญหาเหมือนกัน อย่าง ลัทธิอาซาฮาระ โชโค (เกิดเมื่อ 2 มีนาคม 1955) ซึ่งอดีตเป็นแค่ลูกช่างทำเสื่อ ไร้การศึกษาและตาบอด แต่เขาหลงในเรื่องปาฏิหาริย์ต่างๆ จึงเริ่มฝึกโยคะและวิชาเซียนที่อินเดีย อ้างว่าตัวเองไปที่เทือกเขาหิมาลัยและ"หลุดพ้น"(ตรัสรู้?)ที่นั่น และ ปี 1987 ได้ก่อตั้งเป็นฃ"โอมชินริเคียว"หมายถึง"การสร้างสรรค์" "การคงอยู่" และ"การทำลาย"ของจักรวาลซึ่งรวมทั้งหมดแล้วหมายถึง "อนิตยา" (ความไม่เที่ยงแท้) โดยมีความเชื่อหลักของกลุ่มว่า ประเทศสหรัฐจะเป็นผู้จุดชนวนสงครามโลกครั้งที่ ๓ และจะนำไปสู่วันสิ้นสุดของโลก โดยในวันนั้นมนุษย์จะหมดไปจากโลกและยังเชื่อว่าวันดังกล่าวจะมาถึงอย่างแน่นอน ดังนั้นเพื่อให้เป็นการเร่งให้วันดังกล่าวมาถึงเร็วขึ้น จึงสร้างสถานการณ์ความรุนแรงเพื่อก่อให้เกิดวันสิ้นสุดของโลก โดยมีเขาเป็นศูนย์กลางและสาวกทั้งหมดจะรอดเมื่อถึงวันนั้น

ลัทธินี้มีฐานใหญ่อยู่ที่เมืองฟูจิมิยะ จังหวัดชิสึโอกะ และมีการขยายสาขาไปทั่วประเทศญี่ปุ่นและต่างประเทศกว่า 49,000 คน สาวกส่วนใหญ่ มีอายุอยู่ในช่วง 20-30 ปี บางคนเป็นถึงด็อกเตอร์ ศาสตร์จารย์มหาลัย หรือผู้มีอิทธิพลต่างๆ โดยทั้งหมดเชื่อหลักคำสอนลัทธินี้เพราะว่ามีการใช้เรื่องเหนือธรรมชาติมาเป็นตัวโฆษณา

ส่วนหลักคำสอนของลัทธินี้เด่นๆ ก็เช่นฆ่าคนชั่วไม่มีความผิด ทรัพย์สินสาวกทั้งหมดต้องให้เจ้าลัทธิ ห้ามกินเน้นกินนี้(แต่เจ้าลัทธิสามารถกินได้) ซึ่งหลายข้อสาวกทำไม่ได้เลยพยายามตีตนออกห่าง ทำให้มีการฆ่าปิดปากสาวกเหล่านั้นเพื่อไม่ให้เรื่องเหล่านี้เปิดเผย โดยมีคดีดังที่เกี่ยวข้องกับลัทธิหลายคดี จนกฎหมายเริ่มจับตา จนเป็นเหตุทำให้เกิดคดีปล่อยแก๊สซารินที่สถานีรถไฟใต้ดิน 5 สายขึ้นเพื่อเป็นการเบนข่าวลัทธินี้ โดย20 มีนาคม 1995 เวลา 8 โมงเช้า ในรถไฟใต้ดินโตเกียวจำนวน 5 สาย (สาวกของลัทธินํากระเป๋าซึ่งบรรจุแก๊สซารินเหลวมายังสถานีรถไฟใต้ดินในชั่วโมงเร่งด่วน จากนั้นก็ทําการเจาะกระเป๋าให้ แตกออกโดยใช้ ร่มปลายแหลมและแล้วซารินจำนวนมากเกิดเป็นแก๊สพิษทำให้คน 12 คนเสียชีวิต และบาดเจ็บ 5,510 คน เป็นคดีฆาตกรรมอย่างไม่เลือกตัวครั้งใหญ่ที่สุดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และสร้างความตื่นตระหนกไปจนทั่วโลก

หลังเหตุการณ์แก๊สซาริน ทำให้เจ้าหน้าทีตำรวจตัดสินใจบุกลัทธิโอมเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม และสามารถจับกุมอาซาฮาระพร้อมแกนนำได้ อาซาฮาระปฏิเสธเกือบข้อหา ในศาล เขามักจะแสร้งทำตัวพูดไม่รู้เรื่องหรือแกล้งบ้าเพื่อจะได้พ้นข้อกล่าวหาเนื่องจากไม่มีความสามารถในการรับผิดชอบ และตัวเขาก็ถูกตัดสินโทษประหารด้วยการแขวนคอ ส่วนสาวกได้รับโทษประหารชีวิตแบบเดียวกัน และยังมีสาวกอีกหลายคนอยู่ระหว่างการหลบหนีจนปัจจุบันนี้ และลัทธิโอมถูกประกาศว่าเป็นลัทธิอันตราย และถูกสั่งให้ยกเลิก แต่ก็ยังมีกลุ่มที่ยังศรัทธาลัทธิอยู่ และได้ตั้งชื่อใหม่เป็น “กลุ่มแอลป์” และปฎิบัติตามคำสอนของลัทธินี้อยู่จนถึงปัจจุบัน


บันทึกการเข้า
วันศุกร์ นัดทานข้าว
นักโพสท์ระดับ 6
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 79


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 33.0.1750.154 Chrome 33.0.1750.154


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 02:01:30 »



Heaven’s gate



"เฮฟเวน'สเกต" หรือ "ประตูสู่สวรรค์" เป็นลัทธิศาสนาที่เชื่อเรื่องยูเอฟโอ ฐานใหญ่อยู่ในซานดิเอโก ก่อตั้งโดยมาร์แชลล์ แอปเปิลไวท์(1931-1997) เจ้าลัทธิหัวหลอดไฟที่หน้าตาเหมือนมนุษย์ต่างดาว โดยประวัติความเป็นมาของลัทธินี้เริ่มขึ้นเมื่อตัวมาร์แชลล์ได้ฟื้นตัวจากอาการหัวใจวายซึ่งเมื่อรอดตายมาได้เขาอ้างว่าเขาได้พบมนุษย์ต่างดาว จากนั้นเขาก็ได้เขียนหนังสือถึงประสบการณ์นั้นแม้ว่าจะไม่ประสบผลสำเร็จอะไรมากมายแต่ก็สามารถทำให้คนหลายคนจากทั่วประเทศเดินทางมาหาเขาและเริ่มก่อตั้งลัทธิ “ประตูสวรรค์” ขึ้น โดยมีความเชื่อมนุษย์หาได้มาจากการสร้างของพระเจ้า หากแต่มาจากพ่อแม่ที่เป็นมนุษย์ต่างดาว และดาวเคราะห์โลกกำลังจะถูกรีไซเคิล(ทำความสะอาดขึ้นมาใหม่ หรือฟื้นฟูสภาพ)โอกาสเดียวที่จะรอดคือการออกไปจาโลกทันทีและต้องทำโดยเร็วด้วย โดนวิธีการฆ่าตัวตายโดยทิ้งร่างกายไว้ โดยจะมียานอวกาศมารับบรรดาวิญญาณ เพื่อเดินทางไปยังดาวต้นกำเนิดที่อยู่ด้านหลังของดาวหาง เฮล-บ็อบซึ่งความเชื่อนี้นำมาซึ่งเหตุฆ่าตัวตายหมู่เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 1997 ที่บ้านพักคฤหาสน์ เมืองซานดิเอโก สหรัฐ ในช่วงดาวหาง ฃเฮล-บ็อบมายังโลก เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปพบร่างผู้เสียชีวิตฆ่าตัวตายถึง 39 คน ศพชาย 18คน และหญิง 21 คน รวมไปถึงนายมาแชล แอปเปิ้ลไวท์ อายุ 66 ปีขณะนั้นรวมอยู่ ทั้งหมดตายด้วยวอดก้าผสมยาพิษชนิดร้ายแรงให้ดื่ม แล้วนอนตายอย่างสงบบนเตียงของแต่ละคน



หลังจากเหตุการณ์ฆ่าตัวตายของลัทธิประตูสวรรค์ส่งผลทำให้คำสอนของลัทธินี้เผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วในสื่อต่างๆ ทำให้มีหลายลัทธิได้นำเรื่องยูเอฟโอมาใช้โฆษณาเรียกสาวกเข้ากลุ่มมากยิ่งขึ้น และกรณีนี้ได้กลายเป็นตัวอย่าง การฆ่าตัวตายทางศาสนาที่น่าเป็นเครื่องเตือนใจเป็นอย่างดี
บันทึกการเข้า
วันศุกร์ นัดทานข้าว
นักโพสท์ระดับ 6
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 79


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 33.0.1750.154 Chrome 33.0.1750.154


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 02:03:38 »



Branch Davidians



Branch Davidians หรือ กิ่งก้านแห่งดาวิเดียน แต่เดิมลัทธินี้มีชื่อ Davidian Seventh Day Adventists ("ดาวิเดียน") ซึ่งตอนแรกหลักคำสอนเดิมของลัทธินี้คือ “วันพิพากษโลกจะเกิดขึ้นเมื่อปี 22 เมษายน 1959 แต่ปรากฏว่าคำทำนายนี้ไม่เป็นจริง ทำให้ในปี 1955 นิกายนี้ได้สร้างใหม่โดย เดวิด โคเรช มาเป็น “ลัทธิกิ่งก้านแห่งดาวิเดียน” พร้อมหลักคำสอนใหม่ว่า อีกไม่นานโลกจะถึงยุค “อมาเกดอน” หรือวันวิบัติโลก ซึ่งเขาผู้รับคำสั่งจากเบื้องบนมาปลดทุกข์ เขาคือตัวแทนของเหล่าพระองค์ที่มาหว่านเมล็ดพันธุ์ใหม่ของมนุษย์ ภายหลังวันพิพากษาโลก เผ่าพันธุ์ใหม่(หรือสาวกของเขา)เหล่านี้จะเป็นผู้รอดชีวิตและฟื้นฟูโลกใหม่ ก่อนที่จะปิดท้ายว่าพระเจ้ากำหนดให้เขาต้องมีภรรยา 140 คน

ด้วยหลักคำสอนนี้ทำให้เดวิดนั้นสามารถมีภรรยาหลายคน ซึ่งภรรยาส่วนใหญ่นั้นเคยเป็นภรรยาของสาวกของเขานั้นเอง นอกจากนี้เขายังชอบมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก ส่งผลทำให้ลัทธินี้เริ่มเสื่อมศรัทธาจากหลายๆ ประเทศ ที่ครั้งหนึ่งเคยโด่งดังไปถึงญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มาบัดนี้กลายเป็นลัทธิเล็กๆ เท่านั้น แต่กระนั้นก็มีสาวกหลายคนยึดมั่นในตัวเดวิดอยู่ เนื่องจากเดวิดใช้วิธีการสอนสมาชิกด้วยวิธีล้างสมอง โดนเริ่มใส่โปรแกรมภาพความรุนแรง ความโหดร้ายต่างๆ จากภาพยนตร์และสารคดีให้แก่สมาชิกได้ชมทุกๆ วัน เพื่อให้มีความเชื่อฝังหัวว่าวาระสุดท้ายของโลกใกล้มาถึงแล้ว

Branch Davidians เป็นที่จับตาของกฎหมายมาหลายปี เนื่องจากมีคดีทารุณต่อเด็กและสตรีและสะสมอาวุธสงครามมาครอบครอง ทำให้ทางราชการต้องสู้รบกับสมาชิกต่อเนื่อง จนกระทั้งในปี ค.ศ.1993 เอฟ.บี.ไอ.ไล่ต้อนสาวกของลัทธินี้จนมุมที่เมืองวาโค รัฐเท็กซัส และผู้นำลัทธิเดวิด และผู้ติดตามได้ฆ่าตัวตายโดยการจุดไฟเผาเนื่องจากไม่อยากให้เจ้าหน้าที่บุกจับ ส่งผลให้เขาและสาวกตายกว่า 83 คน(จากรายงานของทางราชการพบศพ 79 ศพ)สิ่งที่สลดอย่างที่สุดคงจะเห็นไม่เกินซากศพมากจำนวนหนึ่งในห้องที่มีผนังคอนกรีตหนาและสูง(ห้องหลบภัย) คาดว่าเป็นสมาชิกของเด็กและผู้หญิงที่ทั้งหมดเอามารวมกันไว้อยู่ในสภาพไหม้เกรียมซึ่งมีมากถึง 41 ศพและเหตุการณ์เหล่านี้ได้ถูกสื่อมวลชนมากมายถ่ายทอดให้ประชาชนชาวอเมริกันนับล้านคนได้ดูทางทีวี


บันทึกการเข้า
วันศุกร์ นัดทานข้าว
นักโพสท์ระดับ 6
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 79


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 33.0.1750.154 Chrome 33.0.1750.154


ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 02:07:14 »


ส่งท้ายด้วยลัทธิระดับตำนานของโลก The People’s Temple



เรื่องราวลัทธินี้ได้กลายเป็นตำนานที่กล่าวถึงคนธรรมดาที่อยากเป็นใหญ่แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวและกลายเป็นโศกนาฏกรรมสังหารหมู่คลั่งศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก

จิมส์ โจนส์ เกิดเมื่อ 13 พฤษภาคม 1931 ในครอบครัวยากจนที่รัฐอินเดียน่า ประเทศอเมริกา ในครอบครัวที่แม่เชื่อว่าเขาเป็นนักบุญมาตั้งแต่เกิด เขาจึงเติบโตขึ้นเป็นผู้ศรัทธาในศาสนาคริสต์อย่างแรงกล้า และเขาได้ก่อตั้งลัทธิโบสถ์มวลชน และได้เริ่มทำการเผยแพร่ศาสนาเป้าหมายคือคนผิวสี ด้วยความมีพรสวรรค์ในการเทศน์ทำให้มีผู้ศรัทธาในตัวเขาจึงเพิ่มขึ้น เขาช่วยเหลือผู้ยากจน มีส่วนร่วมในการปกครองส่วนท้องถิ่น สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองด้วยการอวดอ้างคุณงามความดีที่เขาทำให้ กับสังคม ในขณะเดียวกันก็ใส่ร้ายให้โทษลัทธิอื่นๆโดยกล่าวหาว่าลัทธิอื่นเป็นศาสน พาณิชย์ มุ่งแต่หาผลประโยชน์ กอบโกยเงินทองโดยไม่สนใจความทุกข์ยากของประชาชน มีแต่ลัทธิเขาเท่านั้นที่ดี ด้วยการพูดเช่นนี้ส่งผลทำให้โบสถ์มวลชนขยายตัวอย่างรวดเร็ว เขามีสาวกในมือมากราวกับเป็นกิจการขนาดใหญ่ สร้างเส้นสายในหมู่นักการเมืองซึ่งทำให้โบสถ์มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ แม้สมัยนั้นจะเป็นยุคเหยียดสีผิวก็ตาม

เมื่อจิมส์ โจนส์ ตั้งสิทธิตนเองได้ เขาประกาศว่า "ในไม่ช้าโลกจะถูกปรมาณูฆ่าล้างผลาญ มีแต่ผู้อยู่ในเวโลโอริซอนเด้ในบราซิลและยูเกียในแคลิฟอร์เนียเท่านั้นที่จะรอดชีวิต" เขาสอนให้ดำรงชีวิตแบบสังคมนิยม ปลูกผักเลี้ยงสัตว์บริโภคกันเองสังคมให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

แต่กระนั้นเมื่อนานเข้าลัทธินี้ก็ไม่ชอบมาพากลเมื่อมีข่าวว่าจิมส์เริ่มมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับสาวก (ทั้งกับผู้หญิงและผู้ชาย) ทำเขาสร้างฮาเร็มขึ้นในหมู่สาวก แต่กลับตั้งกฎให้งดเว้นการมีเซ็กซ์ระหว่างสามีภรรยาเพื่อให้ความสัมพันธ์ของครอบครัวอ่อนลง เด็กๆถูกแยกจากพ่อแม่ เขาสั่งให้สาวกเรียกตัวเองว่า"บิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์"จิมส์ชักชวนให้สาวกบริจาคสมบัติทั้งหมดแก่โบสถ์และมาใช้ชีวิตในโบสถ์ โดยบอกว่านี่เป็นการสร้างหนทางสู่สวรรค์ และเริ่มเทศน์ว่าท้ายที่สุดนั้น สาวกทุกคนต้องฆ่าตัวตายพร้อมกัน เพื่อที่วิญญาณของทุกคนจะได้เป็นหนึ่งเดียวและได้รับความสุขอันเป็นนิรันดรที่ดาวดวงอื่น

ปี 1973 จิมส์เริ่มวางแผนจะย้ายสาวกไปยังกีอาน่าในอเมริกาใต้และสร้าง"โจนส์ทาวน์"ขึ้นบนพื้นที่กว่า 300 เอเคอร์“วิหารเทวาลัย” เป็นจุดศูนย์กลาง โดยในปี 1978 มีผู้อยู่อาศัยในโจนส์ทาวน์ 1,000 คน ดินแดนแห่งนี้ตัดขาดจากโลกภายนอกไม่รับอนุญาตให้คนนอกเข้า ทำให้ที่นี่เป็นเหมือนเมืองในระบบเผด็จการของจิมส์ กฎมากมายถูกกำหนดขึ้น คนที่จำไม่ได้ คนที่ไม่ปฏิบัติตามและคนที่ทำท่าจะหนีออกไป ถูกลงโทษอย่างรุนแรงซึ่งยกระดับขึ้นเรื่อยๆ จากการใช้กำลังเป็นการทรมาน และจากการทรมานเป็นการใช้กำลังทางเพศหากถูกจับได้จะถูกนำมาทิ้งที่บ่อลึก ซึ่งรู้จักในชื่อ “โพรงแห่งทุกข์ทรมาน” โดยจะโยนทิ้งในเวลาเที่ยงคืน จากนั้นก็ไม่มีใครได้พบเห็นหน้าผู้เคราะห์ร้ายนั้นอีกเลย กลางป่าลึก โดยมี

ค.ศ.1978 ลีโอ รายอัน สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ กับผู้สื่อข่าว ได้เข้าไปที่โจนส์ทาวน์เนื่องจากได้รับคำร้องเรียนจากอดีตสาวกและครอบครัวของสาวกที่ยังอยู่ที่นั่น รายอันได้แอบนำสาวกที่เปลี่ยนใจซ่อนตัวออกมาเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับ แต่ความแตก บรรดาสาวกที่บ้าคลั่งพากันขับรถตามมาสังหารรายอันกับสาวกที่แปรพักตร์และผู้สื่อข่าวอีก 3 คนตายเกลี้ยง

วันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ.1978 หลังจากเกิดการฆาตกรรมสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ จิมส์รู้ดีว่า ทุกอย่างกำลังจะถึงจุดอวสาน ตำรวจไม่ปล่อยเอาไว้แน่ เขาเรียกประชุมสาวกทั้งหมดมาที่โจนส์ทาวน์

จิมส์ประกาศผ่านลำโพงกระจายเสียง “ถ้าหากเราไม่สามารถอยู่อย่างสันติได้ก็ขอตายอย่างสันติ” สิ้นเสียงประกาศเหล่าสมาชิกก็ปรบมือขานรับอย่างกึกก้อง

คริสติน มิลเลอร์ (Christine Miller) หนึ่งในสาวกไม่เห็นด้วย เธอบอกกับจิมว่า “หากชีวิตยังไม่สิ้นก็ยังคงมีความหวัง”

จิมสวนกลับทันทีว่า “ทุกคนต้องตายไม่วันใดก็วันหนึ่ง”

จากนั้นก็มีเสียงตะโกนออกมาจากกลุ่มสมาชิกว่า “ถูกต้อง ถูกต้อง”

คริสตินไม่ละความพยายาม “ถ้าอย่างนั้นขอให้ปล่อยเด็กๆ”

จิมปฏิเสธคำร้องขอของคริสติน “การตัดสินครั้งสำคัญที่เราจะให้ได้ก็คือการลาจากโลกที่เส็งเคร็งใบนี้” แล้วเสียงปรบมือสนับสนุนดังลั่นขึ้นอีกครั้ง จากนั้นเขาก็สั่งให้ดื่มเครื่องดื่มที่ผสมไซยาไนด์อย่างแรงเพื่อฆ่าตัวตาย


และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น สาวกของจินอยู่อยู่ด้านนอกของโจนส์ทาวน์ต่างพากันฆ่าตัวตายถี่ขึ้น และมีหลายรายมีรายงานว่า “ถูกบังคับให้กินยาพิษ” ถ้ามีผู้ปฏิเสธก็จะถูกยิง รัดคอ หรือไม่ก็ถูกจับฉีดไซยาไนด์เข้าเส้นเลือด เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสำรวจพบว่ามีคนตายทั้งหมด 914 กว่าคน คนที่เสียชีวิตนั้น คาดการณ์ว่ามีถึง 300 กว่าคนที่ถูกฆ่าโดยคนอื่น มีทั้งศพที่ถูกยิงจากข้างหลัง และศพที่อยู่ห่างจากแก้วยาพิษจนไม่มีความเป็นไปได้ที่เขาจะเอื้อมไปถึง เกือบ 300 ศพจากทั้งหมดเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีส่วนศพของจิมส์ถูกพบบนแท่นเวที ที่ศีรษะด้านขวามีรอยกระสุน ไม่ทราบว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรมกันแน่ แต่ดูจากสถานการณ์โดยรวม คนส่วนใหญ่ต่างก็ลงความเห็นว่านี่น่าจะเป็นการฆ่าตัวตายมากกว่า และนี้คือเหตุการณ์ฆ่าตัวตาย ที่ได้รับการบันทึกประวัติศาสตร์ว่าเป็นการฆ่าตัวตายหมู่โดยเจตนามากที่สุดในโลก!!



บันทึกการเข้า
วันศุกร์ นัดทานข้าว
นักโพสท์ระดับ 6
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 79


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 33.0.1750.154 Chrome 33.0.1750.154


ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 02:09:49 »



ตัวอย่างเด่นๆ ของเจ้าลัทธิ เพิ่มเติมให้คนคิดดีๆ เวลาจะไปร่วมลัทธิ บางทีไปร่วมลัทธิ ตัวเองยังไม่รู้ตัวจนสักพักเพิ่งจะรู้ตัว อ้าวนี่มันลัทธินี่หว่า

แค่เห็นคนๆ นั้นพูดจาดี มีเหตุผล พูดเก่ง น่าศรัทธา น่าเชื่อถือ ก็หลงไปเป็นสาวกลัทธิอย่างไม่รู้ตัว เมื่อคุณให้ความศรัทธากับเขาไปแล้ว คุ็ณก็เป็นสาวกเจ้าลัทธิแล้ว คุณก็จะยอมเขาต่างๆ นาๆ ระวังตัวให้ดี!!

1. เจ้าลัทธิมักจะบิดเบือน - ลัทธิมักจะเป็น spin-off คือบอกว่าลัทธิตัวเองมีหลักการมาจากศาสนาหลักๆ ของโลก เช่นเป็นคำสอนจาก พุทธ หรือ คริสต์ แต่ฟังไปฟังมาคำสอนบิดเบือน หรือแม้แต่เอาศาสนาหลายๆ ศาสนามายำๆ รวมกัน โดยเฉพาะบิดเบือนเข้าข้างตัวเอง ความคิดตัวเอง คิดเองเออเอง คำสอนที่พูดเกินคำสอนเดิมในศาสนามักจะเยอะ ผู้ที่ไม่ได้ศึกษาศาสนาของแท้อย่างจริงจังมักจะไม่ทันเกม

2. เจ้าลัทธิ พูดอะไร สอนอะไร เขาว่าเป็นความจริงทั้งสิ้น - เถียงคำสอนของเจ้าลัทธิไม่ได้ เพราะเขาว่าอย่างไรก็อย่างนั้น ถึงจะไม่ตรงกับคำสอนของศาสนา แต่ลัทธิว่าเป็นอย่างนั้นต้องตามนั้น บ้างก็อ้างคำสอนเดิมนั้นผิดในจุดนี้จุดนั้น หรือตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว สวรรค์เขามีมัตติใหม่แล้วเป็นต้น

เจ้าลัทธิมักจะบอกว่าตนไม่เคยผิด ไม่ผิด ทำนายไม่ผิด พูดไม่ผิด ถ้ากำหนดวันแล้วไม่เกิด อาจเพราะตนเป็นคนทำให้ไม่เกิด (classic explanation) หรือเลื่อน หรือไปเกิดที่อื่นเป็นต้น แต่ไม่มีพูดผิดแน่นอน (เพราะเขาเป็นผู้วิเศษ สิ่งที่เข้าพูดไม่มีผิด)

3. ห้ามใครสงสัย ตั้งคำถามแนวว่า คำสอนเจ้าลัทธิอาจจะคิดผิด สอนผิด คิดไปเอง - เจ้าลัทธิไม่ชอบพวก critical thinker ให้เชื่ออย่างเดียว เจ้าลัทธิว่าอย่างไรก็อย่างนั้น เจ้าลัทธิชังพวกไม่ศรัทธา พวกนี้ให้ถือว่าปรามาส บาปกรรม ใครสงสัย ถามซอกแซก เขาจะโดนคำขู่ เช่น ทำร้ายทางทิพย์ จะไม่สบาย ไม่บรรลุ จะโดนพระเจ้าลงโทษ ตกนรก เป็นต้น ทั้งๆ ที่ความจริงทำไม่ได้แม้แต่น้อย เพราะมโนไปเอง แท้จริงอ่อน กระจอก ไร้สาระ และมีปมด้อยอย่างมาก ข่มขู่เพื่อปกป้องสถานะและความน่าเชื่อถือของตัวเอง ให้คงอยู่เป็นเจ้าลัทธิต่อไป

4. เจ้าลัทธิมักจะมีปมด้อย - ถ้าสืบประวัติเจ้าลัทธิ มักจะพบว่าเป็นผู้ไม่ประสบความสำเร็จ ในชีวิต เอาดีไม่ได้ มีปมด้อย เลยหันมาเป็นผู้วิเศษจอมปลอม เพราะวิธีนี้จะทำให้ตัวเองรู้สึกดี มั่นใจ เพราะเอาดีทางโลกไม่ได้ เลยหันมาเอาดีทางความวิเศษ

5. เจ้าลัทธิ มักจะพูดให้คิดว่าตนวิเศษ แบบเนียนๆ - การที่ออกมาพูดตรงๆ ว่าตัวเองวิเศษ อาจจะได้รับการต่อต้าน แต่การนำเรื่องมาเล่าว่าเกิดนั่นนี่แก่ตน ตนได้พบนั่นนี่ หรือ พูดว่ารู้นั่นนี่ ทางโลกวิญญาณ ทางทิพย์ ทางพระเจ้า ก็ทำให้คนคิดไปว่า คนนี้วิเศษ เทียบกับเทคนิค advertising คือ การทำ infomercial น้อยๆ พูดเหมือนให้ความรู้แต่จริงๆ เป็น ad นั่นเอง พอคนศรัทธาแล้วคราวนี้จะพูดอะไรก็ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ จะว่าตัวเองวิเศษ อย่างไรสาวกก็เชื่อกันหมด ค่อยๆ ล่อให้ศรัทธา

6. เจ้าลัทธิไม่ชอบคู่แข่ง - เจ้าลัทธิจอมปลอมมักจะเต็มไปด้วยความอิจฉา เพราะความหวนแหนซึ่งศรัทธา (ความงมงาย) และความรักของสาวกของเขา ไม่ชอบใครวิเศษกว่าตน ไม่ชอบสาวกพูดชื่นชม คนอื่นๆ เขามักจะโจมตีผู้อื่น โดยเฉพาะคนที่เด่นดังเกินไป ทั้งทางตรงทางอ้อม เขาย่อมอย่ากเป็นที่หนึ่งในความวิเศษ เช่น มีคนมาถามถึงคู่แข่ง ชื่อ ... เป็นไง เขาก็จะพูดแบบ discredit ว่าไม่ดีมั่ง ว่าธรรมดามั่ง กระจอกมั่ง หรือพูดอ้อมๆ ให้คิดว่าธรรมดาๆ ไม่ใช่ทางที่ถูกต้องเป็นต้น

7. เจ้าลัทธิมักจะพูดเก่ง พูดดี วางตัวดี น่าเชื่อถือ - ผู้หัวอ่อนมักจะโดนหลอกให้คล้อยตามวาทะศิลป์ของเจ้าลัทธิได้ง่าย เพราะสิ่งสำคัญของการเป็นเจ้าลัทธิ เป็นผู้วิเศษจอมปลอม การจะทำให้คนคล้อยตามได้นั้น คือการพูดที่เก่ง พูดดูดี น่าเชื่อถือ มีจิตวิทยา ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการจะเป็นผู้นำลัทธิ เหมือนกับ salesman ขายของเก่งเพราะพูดเก่ง เมื่อเจ้าลัทธิพูดเก่ง ก็ย่อมเขียนหนังสือเก่งเป็นธรรมดา จึงเขียนหนังสือขายได้ไปด้วย หรือพิมพ์ข้อความในเน็ตสั่งสอนต่างๆ ตอบคำถามตางๆ ดูดีได้ด้วย


บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
เงิน « 1 2 3 4 »
สุขใจ ห้องสมุด
sithiphong 62 34613 กระทู้ล่าสุด 03 สิงหาคม 2553 19:21:25
โดย sithiphong
สาวก ไฟแช็ก Zippo มาดูการจุดไฟแบบแนว ๆ
ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ 0 2692 กระทู้ล่าสุด 14 กันยายน 2553 21:19:27
โดย 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪
5 สัตว์สวย แต่ฤทธิ์ร้าย อันตรายถึงชีวิต
สุขใจ ห้องสมุด
หมีงงในพงหญ้า 0 1891 กระทู้ล่าสุด 30 มกราคม 2554 14:18:44
โดย หมีงงในพงหญ้า
[ไทยรัฐ] - หมอช้างจัดอันดับ 3 ราศีดวงดีที่สุด ม.ค. 66 เงิน งาน โชคลาภสุดปัง
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 110 กระทู้ล่าสุด 10 มกราคม 2566 21:35:46
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ไทยรัฐ] - วันแห่งความรัก เซ็กซ์ และ HIV การรักษาก้าวหน้า ทัศนคติล้าหลัง
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 105 กระทู้ล่าสุด 14 กุมภาพันธ์ 2566 12:15:28
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.324 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page วานนี้