[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 02:05:49 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เมืองจีนในอดีตและวันตรุษจีน  (อ่าน 8566 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2553 16:52:07 »


ถ่ายภาพโดย.............................บางครั้ง เองแหละ





<a href="http://www.slide.com/r/slideshow" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.slide.com/r/slideshow</a>


วันตรุษจีน คือวันขึ้นปีใหม่ของจีน (วันที่ 1 เดือน 1 ของวันจีน) ถือเป็นเทศกาลใหญ่ ที่ประหนึ่งรวมเทศกาลวันตรุษ และอาจรวมเทศกาลไหว้สิ้นปี เข้ากับเทศกาลวันตรุษ ซึ่งจะต่างกับวันไทย และวันสากล ในขณะที่วันของไทย เป็นวันข้างขึ้น และข้างแรม เดือนหนึ่งมี 30 วัน ของจีนจะเป็นเดือนสั้น และเดือนยาว เดือนสั้นมี 29 วัน เดือนยาวมี 30 วัน
วันจีนจะช้ากว่าวันข้างขึ้น ข้างแรม ในปฏิทินอยู่ 2 เดือน ยกตัวอย่าง วันไหว้พระจันทร์ ตรงกับวันที่ 15 เดือน 8 เมื่อดูในปฎิทินจะเป็นขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 หรือสมมติว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2535 ตรงกับวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 2 ก็คิดกลับเป็นวันจีนจะเป็นวันที่ 8 เดือน 12 จากนั้นนับต่อจากวันที่ 8 ไปเป็นวันที่ 9 เดือน 12 ของจีน คือ วันที่ 1 มกราคม 2536 นับไปเรื่อย ๆ จนครบวันที่ 30 เดือน 12 ของจีน ซึ่งจะตรงกับวันที่ 22 มกราคม 2536 ของไทย ดังนั้นวันตรุษจีน คือ วันที่ 1 เดือน 1 ของจีน ก็จะตรงกับวันที่ 23 มกราคม 2536
วันตรุษจีน  คือวันขึ้นปีใหม่ของจีน Chinese New Year  (วันที่ 1 เดือน 1 ของวันจีน) วันตรุษจีนในปฏิทินสุริยคติ

ปีชวด 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551  25 มกราคม พ.ศ. 2563

ปีฉลู 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 26 มกราคม พ.ศ. 2552  12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ปีขาล 28 มกราคม พ.ศ. 2541 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553  1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

ปีเถาะ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2542  3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554  22 มกราคม พ.ศ. 2566

ปีมะโรง 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543  23 มกราคม พ.ศ. 2555  10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

ปีมะเส็ง  24 มกราคม พ.ศ. 2544 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556  29 มกราคม พ.ศ. 2568

ปีมะเมีย  12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 31 มกราคม พ.ศ. 2557  17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2569

ปีมะแม 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558   6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2570

ปีวอก 22 มกราคม พ.ศ. 2547  8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559   26 มกราคม พ.ศ. 2571

ปีระกา 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548  28 มกราคม พ.ศ. 2560  13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2572

ปีจอ  29 มกราคม พ.ศ. 2549  16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561  3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2573

ปีกุน 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550  5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562  23 มกราคม พ.ศ. 2574

ขอบคุณข้อมูล http://www.tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538722196&Ntype=46

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กุมภาพันธ์ 2553 17:53:28 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2553 17:04:40 »



ถ่ายภาพโดย..........................บางครั้ง เองแหละ





วันก่อนวันตรุษจีนนั้นเป็นวันแห่งการการรอคอยจะว่าไป ถือวันที่น่าตื่นเต้น มากที่สุด ในบรรดาการฉลองทั้งหมดเห็นจะได้ ประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ นั้นผูกไว้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ อาหาร ไปจนถึงเสื้อผ้า อาหารค่ำนั้นประกอบด้วยอาหารทะเล และอาหารนึ่งเช่นขนมจีบ ซึ่งแต่ละอย่างจะมีความหมายต่างๆกัน อาหารอันโอชะอย่างเช่นกุ้งจะหมายถึงชีวิตที่รุ่งเรือง และความสุข เป๋าฮื้อแห้งหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ดี สลัดปลาสดจะนำมาซึ่งโชคดี จี้ไช่ (ผมเทวดา) สาร่ายดูคล้ายผมแต่กินได้จะนำความความร่ำรวยมาให้ และขนมต้ม (Jiaozi) หมายถึงบรรพชนอวยพร และเป็นธรรมดาเสื้อผ้าที่ใส่สีแดงถือเป็นสีที่เป็นมงคลเป็นการไล่ปีศาจร้าย ให้ออกไป และการใส่สีดำหรือขาวเป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งสีเหล่านี้ถือว่าเป็นสีแห่งการไว้ทุกข์ หลังจากอาหารค่ำทุกคนในครอบครัวนั่งกันจนเช้าเพื่อรอวันใหม่โดยการเล่นเกม เล่นไพ่ หรือดูรายการทีวีที่เกี่ยวกับวันตรุษจีน และในวันนี้จะต้องไม่โกรธ ริษยา หรือ ไม่พอใจ เพื่อเป็นสิริมงคลที่ดีสำหรับปีที่กำลังจะมาถึง
เมื่อถึงวันตรุษจีนประเพณีตั้งแต่โบราณมาเรียกว่า อังเปา ซึ่งหมายถึง กระเป๋าแดง เป็นการที่คู่แต่งงานให้เงินเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้แต่งงานในซองสีแดง หลังจากนั้นทุกคน ในครอบครัว ต่าง ออกมาเพื่อกล่าวสวัสดีปีใหม่ เริ่มจากญาติ ๆ แล้วต่อด้วยเพื่อนบ้าน โดยส่วนใหญ่จะพูดว่า ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาไฉ ซึ่งคงคล้ายกับการที่ชาวตะวันตกพูดว่า Let bygones be bygones(อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป) ในวันตรุษนี้ อารมณ์โมโหโกรธาจะถูกลืม และไม่สนใจ การฉลองวันตรุษจีนสิ้นสุดลงในงานโคมไฟ ซึ่งฉลองโดยการร้องเพลง เต้นรำ และงานแสดงโคมไฟ ถึงแม้ว่าการฉลองวันตรุษจีน จะมีแตกต่างกันออกไปแต่สิ่งที่เหมือนกัน คือ การอวยพร ความสงบ และความสุขให้กับคนในครอบครัวและเพื่อนทุกคน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กุมภาพันธ์ 2553 17:52:42 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2553 17:06:29 »



ถ่ายภาพโดย..............................บางครั้ง เองแหละ





ตำนานความเป็นมาของวันตรุษจีน


ตรุษจีน เป็นวันสำคัญของจีนที่มีมาแต่โบราณที่เรียกว่า กว้อชุนเจี๋ย หรือ กว้อเหนียน เล่ากันว่าในสมัยโบราณ ในป่าทึบแห่งหนึ่ง มีสัตว์ป่าที่ดุร้ายและน่ากลัวมากตัวหนึ่ง เรียกว่า เหนียน มันออกอาละวาดกินคนเป็นประจำ พระเจ้าจึงลงโทษมัน อนุญาตให้มันลงมาจากเขาได้เพียงหนึ่งครั้งใน 365 วัน ดังนั้น เมื่อฤดูหนาวใกล้จะผ่านไป ฤดูใบไม้ผลิเวียนมาใกล้ เหนียน ก็จะออกมาทำร้ายผู้คน เพื่อป้องกันการมาของ เหนียน ทุก ๆ ครัวเรือนจึงต่างสะสมเสบียงอาหาร และกับข้าวจำนวนหนึ่งไว้ในบ้าน เมื่อถึงตอนค่ำของวันที่ 30 เดือน 12 ก็จะปิดประตูและหน้าต่างเอาไว้ ไม่หลับไม่นอนตลอดคืน เพื่อต่อสู้กับ เหนียน จนกระทั่งถึงรุ่งเช้าก็จะเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 1 เมื่อ เหนียน กลับไปแล้ว ทุก ๆ ครัวเรือนก็จะเปิดประตูออกมาแสดงความยินดีต่อกัน ที่โชคดีไม่ได้ถูก เหนียน ทำร้าย
ต่อมาพบว่า เหนียน มีจุดอ่อน มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อเหนียน มาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังหวดแส้เล่นกัน เมื่อ เหนียน ได้ยินเสียงแส้ดังเปรี้ยงปร้างก็เลยตกใจเผ่นหนีไป เมื่อ เหนียน ไปถึงหมู่บ้านอีกแห่งหนึ่ง เห็นมีชุดเสื้อผ้าสีแดงตากอยู่หน้าบ้านของครอบครัวหนึ่ง สีแดงฉูดฉาดนั้น ทำให้ เหนียน ตกใจและเผ่นหนีไปอีก เมื่อ เหนียน มาถึงหมู่บ้านแห่งที่สาม ปรากฏว่าไปพบเห็นกองเพลิงกองหนึ่งบนถนน แสงเพลิงที่เจิดจ้าทำให้ เหนียน ต้องเผ่นหนีไปอีก ตั้งแต่นั้นมา ผู้คนต่างรู้ว่า แม้ว่า เหนียน จะดุร้ายแต่มันก็กลัวสีแดง เสียงดัง และไฟ ทำให้ผู้คนสามารถคิดหาวิธีกำจัด เหนียน ได้โดยไม่ยากนัก
เมื่อวันส่งท้ายตรุษจีนเวียนมาอีกครั้งหนึ่ง ทุก ๆ ครัวเรือนจึงต่างนำกระดาษสีแดงมาติดไว้บนประตูหน้าบ้าน แขวนโคมไฟสีแดง พร้อมกับจุดประทัดและตีฆ้องรัวกลองอย่างต่อเนื่อง เมื่อ เหนียน มาถึงในตอนเย็น เห็นทุก ๆ ครัวเรือนมีแสงไฟสว่างไสว มีเสียงประทัดดังสนั่นจึงตกใจเผ่นหนีกลับเข้าป่าไป และไม่กล้าออกมาอาละวาดอีก ทุก ๆ คนจึงผ่านพ้นคืนแห่งอันตรายไปอย่างปลอดภัย เมื่อฟ้าสางแล้ว ผู้คนจึงออกมาจากบ้าน กล่าวคำอวยพรซึ่งกันและกันอย่างมีความสุข พร้อมกับการนำอาหารออกมารับประทานร่วมกันอย่างสนุกสนาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กุมภาพันธ์ 2553 17:52:11 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2553 17:09:29 »



ถ่ายภาพโดย....................บางครั้ง เองแหละ





อาหารไหว้เจ้า



ในวันฉลองตรุษจีนอาหารจะถูกรับประทานมากกว่าวันไหนๆในปี อาหารชนิดต่าง ๆ ที่ปฏิบัติกันจนเป็นประเพณี จะถูกจัดเตรียมเพื่อญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง รวมไปถึงคนรู้จักที่ได้เสียไปแล้ว ในวันตรุษครอบครัวชาวจีนจะทานผักที่เรียกว่า ไช่ ถึงแม้ผักชนิดต่าง ๆ ที่นำมาปรุง จะเป็นเพียงรากหรือผักที่มีลักษณะเป็นเส้นใยหลายคนก็เชื่อว่าผักต่าง ๆ มีความ หมายที่เป็น มงคลในตัวของมัน
เม็ดบัว - มีความหมายถึง การมีลูกหลานที่เป็นชาย
เกาลัด - มีความหมายถึง เงิน
สาหร่ายดำ - คำของมันออกเสียงคล้าย ความร่ำรวย
เต้าหู้หมักที่ทำจากถั่วแห้ง - คำของมันออกเสียงคล้าย เต็มไปด้วยความร่ำรวย และ ความสุข
หน่อไม้ - คำของมันออกเสียงคล้าย คำอวยพรให้ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสุข เต้าหู้ที่ทำจากถั่วสดนั้นจะไม่นำมารวมกับอาหารในวันนี้เนื่องจากสีขาวซึ่ง เป็นสีแห่งโชคร้าย สำหรับปีใหม่และหมายถึงการไว้ทุกข์
อาหารอื่น ๆ รวมไปถึงปลาทั้งตัว เพื่อเป็นตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกัน และความอุดม- สมบรูณ์ และไก่สำหรับความเจริญก้าวหน้า ซึ่งไก่นั้นจะต้องยังมีหัว หางและเท้าอยู่ เพื่อ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ เส้นหมี่ก็ไม่ควรตัดเนื่องจากหมายถึงชีวิตที่ยืนยาว
ทางตอนใต้ของจีน จานที่นิยมที่สุดและทานมากที่สุดได้แก่ ข้าวเหนียวหวานนึ่ง บ๊ะจ่างหวาน ซึ่งถือเป็นอาหารอันโอชะ ทางเหนือ หมั่นโถ และติ่มซำ เป็นอาหารที่นิยม อาหารจำนวน มากที่ถูกตระเตรียมในเทศกาลนี้มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวยของบ้าน
ผลไม้ที่ใช้ไหว้ จะนิยมเลือกชนิดที่มีอะไรที่เป็นมงคลอยู่ในตัว
ส้ม เรียกว่า ไต้กิก แปลว่า โชคดี
องุ่น เรียกว่า พู่ท้อ แปลว่า งอกงาม
สับปะรด เรียกว่า อั้งไล้ แปลว่า มีโชคมาหา
กล้วย มีความหมายถึงการมีลูกหลานสืบสกุล
ที่ ในกระถางธูปที่ใช้ไหว้เจ้า บางคนนิยมใส่ โหงวจี้ สำหรับปักธูป ประกอบด้วย เมล็ด 5 อย่าง คือ ข้าวสาร ข้าวเหนียว ถั่วเขียว ถั่วดำ และเชื้อแป้ง (ยีสต์) โดยถือว่าเมล็ดทั้งห้า คือบ่อเกิดของการเจริญเติบโตอุปมาอุปไมยให้การไหว้เจ้านี้นำมาซึ่งความเจริญ รุ่งเรือง


credit by http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=3906.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กุมภาพันธ์ 2553 17:51:36 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2553 17:11:30 »


ถ่ายภาพโดย......................บางครั้ง เองแหละ





ส่วนธรรมเนียมการแต๊ะเอียนั้น จะมีเฉพาะบ้านที่มีฐานะดี การให้นี้ คือ นายจ้างให้ลูกจ้าง กับให้กันเองในครอบครัวว่าพ่อแม่ให้ลูกหลาน แต่ถ้าลูกได้ทำงานแล้ว หรือออกเรือนแล้ว ก็จะเป็นฝ่ายให้พ่อแม่ ซึ่งพ่อแม่ที่ฐานะดี ก็มักจะแต๊ะเอีย กลับคืนมาในจำนวนที่เท่ากัน หรือเพิ่มให้มากขึ้น ได้แต่จะให้เป็นเงินของพ่อแม่เอง ไม่ใช่เอาเงินที่ลูกให้มานั้นให้กลับคืนมา ส่วนเขย สะใภ้ ตามธรรมเนียมก็ควรให้น้องสามีและน้องภรรยา ส่วนคน ที่มีศักดิ์เป็นลุง ป้า น้า อา ก็ควรมีแต๊ะเอียให้หลาน ๆ เช่นกัน ธรรมเนียมการแต๊ะเอียนี้ ผู้ใหญ่ที่พิถีพิถันจะเอาเงินใส่ซองแดงอย่างมีเคล็ด คือให้เป็น เลขที่ดีที่สุด เรียกว่า ซี่ลี่ เพราะถือว่าเป็นเลขสิริมงคล ซี่ กับ สี่ คือเลข 4 ซี่สี่ ก็คือ คู่สี่ นั่นเอง
ตัวอย่างการให้แต๊ะเอียเป็น เลข ซี่สี่ คือ 400 จะเป็นตัวเลข 4 กับแบงก์ร้อย 4 ใบ หรือจะให้เป็น 2 เท่า 3 เท่าของซี่สี่ เช่น 800,1200 ก็ได้ อีกเกร็ดหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับเทศกาลตรุษจีน คือ การเล่นไพ่ โดยเฉพาะการเล่นยี่อิด จะนิยมกันมากผู้ใหญ่หลายท่านถือเอาการเล่นไพ่ ในวันตรุษเป็นเรื่องเสี่ยงทาย ถ้าเล่นได้ก็ถือเป็นเคล็ดว่าตลอดปีใหม่นี้จะเฮงหรือโชคดี และที่พลาดไม่ได้ คือ การติดยันต์แผ่นใหม่ที่หน้าประตูบ้าน เพื่อเป็นสิริมงคลและคุ้มครองภัย


credit by http://www.tumsrivichai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538722196&Ntype=46
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กุมภาพันธ์ 2553 17:50:40 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2553 17:14:13 »


ถ่ายภาพโดย......................บางครั้ง เองแหละ




สำหรับสถานที่จัดงานปีนี้...............สามารถไปเที่ยวได้ดังนี้.................


เทศกาลตรุษจีนไชน่าทาวน์ เยาวราช จะมีขึ้นวันที่ 14 - 15 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 12.00 - 24.00 น. บริเวณถนนเยาวราช ตั้งแต่บริเวณซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ - แยกลำพูนไชย
งานตรุษจีนปากน้ำโพ ประจำปี 2553
วันที่  7 – 18  กุมภาพันธ์  2553  
ณ..........................บริเวณปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์
งานตรุษจีนกรุงเก่าอยุธยามหามงคล ครั้งที่ 4 ประจำปี 2553
กำหนดจัดงาน วันที่  15-19 กุมภาพันธ์ 2553
สถานที่จัดงาน บริเวณถนนนเรศวร (ตั้งแต่ตลาดเจ้าพรหม - เจดีย์เจ้าอ้ายเจ้ายี่) ตำบลหอรัตนไชย อำเภอพระนครศรีอยุธยา
ทศกาล ตรุษจีนเมืองตรัง ระหว่างวันที่ 12-14  กุมภาพันธ์  2553  ณ บริเวณถนนราชดำเนิน   กิจกรรมประกอบด้วย  การประกวดหนูน้อยอั่งเปา  การประกวดไชน่าเกิร์ล  การแสดงเชิดสิงโตเต็มรูปแบบ  รำวงย้อนยุค  การโชว์ตัวดารา/นักร้อง การแสดงบนเวที  การจำหน่ายอาหารตลอดเส้นทางถนนราชดำเนิน และอื่น ๆ อีกมากมาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 กุมภาพันธ์ 2553 17:49:49 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2553 19:33:54 »






 ตลก ยิ้ม


บันทึกการเข้า
Sweet Jasmine
นักโพสท์ระดับ 9
****

คะแนนความดี: +8/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 503


Knowledge is not wisdom.

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #7 เมื่อ: 08 กุมภาพันธ์ 2553 20:46:10 »

กระทู้บอกอายุ คริคริ
บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2553 01:17:24 »

กระทู้บอกอายุ คริคริ


ไปแซวเค้าอีก ... ว่างจัด

๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2553 09:27:40 »




<a href="http://www.ijigg.com/songs/V2BFGBB7PAD" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.ijigg.com/songs/V2BFGBB7PAD</a>



ตรุษจีนเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของจีน วันตรุษจีนปี 2010 ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ประเพณีตรุษจีนมีมาช้านานแล้ว เป็นประเพณีขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจันทรคติของจีน ตรุษจีน ภาษาจีนกลางเรียกว่า ชุนเจี๋ย แปลว่า เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ
ตั้งแต่สมัยโบราณ จีนมีสำนวนมากมายที่สะท้อนการเริ่มต้นในฤดูใบไม้ผลิ โดยเฉพาะในเขตชนบทยิ่งให้ความสำคัญอย่างมากกับการแรกนา ไถนา และปลูกข้าวในฤดูใบไม้ผลิ
จีนเป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนมหาศาล การทำเกษตรกรรมไร่นาเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องประชาชนจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ สุด เทศกาลฤดูใบไม้ผลิสำหรับคนจีนก็เป็นเทศกาลที่หยุดยาวที่สุดก่อนลงมือทำนา ปลูกข้าว
หลังผ่านตรุษจีนแล้ว ฤดูหนาวที่อากาศหนาวจัดจะผ่านพ้นไปและจะย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิ อากาศเริ่มดีขึ้น ซึ่งพื้นที่ต่างๆ ต้องลงมือเตรียมทำนาทำไร่อย่างเป็นเรื่องเป็นราว จึงมีการฉลองและไหว้ขอพรเทพเจ้าในเทศกาลตรุษจีนอย่างยิ่งใหญ่เพื่อความเป็น สิริมงคล และอวยพรให้ปีใหม่นี้ทำงานได้ดี ทำนาได้ผล ขอให้การเก็บเกี่ยวผลิตผลพืชไร่อุดมสมบูรณ์ กิจการค้าก้าวหน้ารุ่งเรือง
ในเชตชนบทจึงมีการเฉลิมฉลองตรุษจีนหลายวัน เพื่อพักผ่อนให้เต็มที่และต้อนรับปีใหม่ด้วย โดยเริ่มหยุดงานเตรียมฉลองตั้งแต่วันที่ 23 ของเดือน 12 จนถึงขึ้น 15 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นเวลากว่า 20 วัน
แต่วันงานที่สำคัญมี 3 วันเท่านั้น คือ วันที่ 30 เรียกว่า วันไหว้ วันชิวอิด เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามจันทรคติของจีน และอีกวันหนึ่งคือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือนอ้ายหรือเรียกว่า เทศกาลโคมไฟซึ่งเป็นวันสิ้นสุดของเทศกาลตรุษจีน
วันไหว้มีการไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว ตอนเช้าไหว้เทพเจ้า ตอนสายไหว้บรรพบุรุษ ในอดีต คนจีนพิถีพิถันกับการไหว้ ก่อนวันไหว้ ต้องออกไปจับจ่ายของกินของใช้มากมายที่ใช้ในพิธีไหว้ เช่น ขนม ผลไม้ ดอกไม้สด และอาหารคาวหวานอีกหลายอย่าง รวมถึงอาหารโปรดของบรรพบุรุษที่ล่วงลับ และต้องจัดพิธีไหว้ในช่วงที่ฤกษ์งามยามดี
พิธีเซ่นไหว้ต่างๆของคนจีน ล้วนเพื่อความสุขของทุกคนในครอบครัว การได้แสดงความกตัญญูกตเวทิตา การได้แสดงน้ำใจไมตรี ความรักความหวังดีต่อกัน เพื่อความเป็นสิริมงคล และนำมาซึ่งความสุข ความเจริญแก่ครอบครัว
แต่ปัจจุบัน คนรุ่นหลังในเมืองไม่ค่อยจัดพิธีไหว้แล้ว ชาวชนบทส่วนใหญ่ยังไหว้กัน ก่อนวันไหว้ สมาชิกในครอบครัวจะช่วยกันทำความสะอาดบ้านเรือน ปัดกวาดเช็ดถู ถือเป็นการกวาดเอาโชคร้ายและสิ่งที่สกปรกออกจากบ้าน การตกแต่งบ้านเรือนของคนจีน มักนิยมสีแดง เพราะตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวจีนถือว่าสีแดงเป็นสีแห่งความเป็นสิริมงคล สามารถขับไล่ภูตผีปีศาจไปไกลๆ ได้ และมักมีการเขียนคำมงคลในกระดาษแดง อย่างเช่น อยู่ดีมีสุข ร่ำรวย และเจริญรุ่งเรืองเป็นต้น ปิดไว้ที่หน้าต่างและประตู เพื่อเป็นการให้กำลังใจว่า ปีใหม่จะมีแต่สิ่งดีๆและของใหม่เอี่ยมเข้าบ้าน


แหล่งข้อมูลจาก................http://thai.cri.cn/381/2010/02/01/21s169486.htm
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 กุมภาพันธ์ 2553 09:45:42 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.559 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 22 มีนาคม 2567 09:29:26