ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2553 23:49:45 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2553 23:51:00 » |
|
ความจริง!! แห่งปมปริศนาและเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังคัมภีร์ BIBLE ความจริง!! แห่งกำเนิดมนุษย์ กำเนิดอาดัมและอีฟ ความจริง!! แห่งพระเจ้าและกิเลสตัณหาของพระเจ้า ความจริง!! แห่งชนชาติยิวแห่งอิสราเอล และที่มาแห่งความฉลาด ความจริง!! แห่งเรือโนอาห์และน้ำท่วมโลก ความจริง!! แห่งอายุขัยของมนุษย์ และที่มาแห่งความโบราณของมนุษย์ ความจริง!! แห่งวิทยาศาสตร์ที่จะทำให้มนุษยชาติก้าวหน้าและเป็นอมตะ
#####################
จากหนังสือ สาส์นจากต่างดาว THE MESSAGE FROM EXTRA-TERRESTRIALS http://rael.org/thai
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2553 23:52:20 » |
|
ส่วนเล่มนี้เป็นการไขข้อข้องใจต่างๆ เช่น "ใครสร้างพระเจ้า" "ชีวิตคืออะไร" "ความตายคืออะไร" "จักรวาลเป็นอย่างไร" "ดาวเอโลฮิมอยู่ห่าง 1 ปีแสงได้ยังไงในเมื่อ ดาวฤกษ์ใกล้สุดอยู่ห่าง 4 ปีแสง" ขนาด 800 KB http://www.rael.org/request.php?58
ความคืบหน้าของพวกเขาครับ ขนาด 900 KB http://www.rael.org/request.php?63
Video Clip ครับ ขนาด 21 MB http://video.rael.or...ruth_256_en.wmv
Video Clip ครับ ขนาด 33 MB http://video.rael.or...ancient_256.wmv
เล่มจริง แต่เป็นภาษาอังกฤษ Intelligent Design - Message from the Designers http://rael.org/request.php?1
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 13 กุมภาพันธ์ 2553 23:53:53 » |
|
'เอาล่ะ เห็นจะต้องจากกันแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้เวลาเดียวกัน ให้กลับมาใหม่ พร้อมด้วยคัมภีร์ไบเบิ้ล อย่าลืมเอาเครื่องไม้เครื่องมือ มาจดโน้ตด้วย อย่าได้นำวัตถุที่เป็นโลหะติดตัวมาและอย่าเล่าให้ใครฟัง ถึงการพบปะในวันนี้ มิฉะนั้นเราจะไม่ได้พบกันอีกเลย' เขาเอาเสื้อโคทมาคืน แล้วพาผมลงบันไดเล็กๆ เมื่อสวมเสื้อโค้ทแล้วผมก็จับมืออำลา บันไดม้วนกลับขึ้นไป และประตูได้ปิดลงโดยปราศจากเสียงแม้แต่น้อย จากนั้นจานบินก็ค่อยๆ ลอยสูงขึ้นไปจนถึงระดับประมาณ 400 เมตร แล้วก็ลับสายตาไปในกลุ่มเมฆหมอก
- - - - - - - - [[ บทที่ 2 ]] - - - - - - - -
- - - - - [ ความจริง ] - - - - -
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 00:00:02 » |
|
วันรุ่งขึ้น ผมไปตามนัดหมายพร้อมด้วยสมุดจก ปากกา และไบเบิ้ล ยานอวกาศมาปรากฏตัวตามเวลา ชายตัวเล็กเชิญผมเข้าไปนั่งที่เก้าอี้อันแสนสบายตัวนั้นอีก ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องการพบปะให้ใครฟังเลย แม้แต่คนที่สนิทที่สุด มนุษย์ต่างดาวพอใจกับความ ระมัดระวังของผม เขาแนะให้ผมลงมือจด และเริ่มพูด
"กาลนานมาแล้ว บนดวงดาวที่ใกลโพ้น พวกเรา ได้บรรลุผลถึงระดับวิทยาการและเทคโนโลยี ที่พวกคุณกำลังก้าวไปถึงในไม่ช้านี้ นักวิทยาศาสตร์ ของเราเริ่มสร้างสิ่งมีชีวิตขั้นต้น นั่นคือ เซลล์ที่มีชีวิต ในหลอดทดลอง ทุกคนตื่นเต้นมาก พวกเขาได้ปรับปรุงเทคนิคจนสมบูรณ์ และในที่สุดได้สร้างสัตว์ประหลาดเล็กๆ ขึ้น แต่เสียงประชามติและรัฐบาลได้ยับยั้งการ ทดลองของนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ เพราะเกรงกลัวว่าจะมี การสร้างสัตว์ประหลาดที่เป็นอันตรายต่อสังคม ความจริงสัตว์ประหลาดที่สร้างขึ้น ตัวหนึ่งเคยหนีออกมา และกว่าจะจับได้ก็ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย
ในขณะเดียวกัน การสำรวจดวงดาวและกาแล็กซี่ก็รุดหน้าไปเช่นกัน พวกนักวิทยาศาสตร์จึงตัดสินใจไปหาดวงดาวที่ห่างใกล ซึ่งประกอบด้วยสภาพแวดล้อมพอที่พวกเขาจะดำรงชีวิตได้เพื่อ ดำเนินการทดลองต่อไป และพวกเขาได้เลือกโลกที่พวกคุณอยู่นี่เอง ด้วยเหตุนี้ ผมจึงให้คุณเอาไบเบิ้ลมาด้วย และคุณจะได้เห็น ร่องรอยของความเท็จจริง แม้ว่าจะมีการคลาดเคลื่อนไปบ้าง เนื่องจากผู้บันทึกยังขาดความรู้ทางเทคนิค จึงพรรณาปรากฏการณ์ต่างๆ เป็นไปในลักษณะลึกลับ และเหนือธรรมชาติ
ในไบเบิ้ล เฉพาะส่วนที่ผมจะเล่าให้ฟังเท่านั้นที่มีความสำคัญ ส่วนอื่นๆ ซึ่งเป็นกาพย์กลอนเสียส่วนใหญ่ เราจะไม่พูดถึง อย่างไรก็ตามจากกฏที่ว่าจากการลอกไบเบิ้ล ห้ามมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แม้แต่เครื่องหมายวรรคตอนเพียงเล็กน้อยก็ตาม ความหมายดั้งเดิมจึงได้รับการสงวนไว้ แม้ว่าข้อความซึ่งสะสมมาเป็นเวลาหลายร้อยหลายพันปีจะเต็มไปด้วย ความลึกลับและประโยคที่ไร้สาระก็ตาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 00:02:25 » |
|
เอาละ ลองเปิดบทที่ 1 ของ Genesis ดู
"เมื่อเดิม เอโลฮิมได้นฤมิตสร้างฟ้าและดิน" (Genesis 1:1)
ในไบเบิ้ลบางฉบับ แปล เอโลฮิม (Elohim) ว่าเป็น "พระเจ้า" ซึ่งไม่ถูกต้อง แท้ที่จริงคำว่า เอโลฮิมในภาษาฮิบรู มีความหมายว่า "ผู้มาจากท้องฟ้า"
และเป็นพหูพจน์ ในที่นี่หมายถึงพวกนักวิทยาศาสตร์ที่มาจาก โลกของเราเพื่อสำรวจหาดวงดาวที่เหมาะสมกับการทดลองของตน พวกเขาได้ "สร้าง" ซึ่งแท้ที่จริงคือการค้นพบโลกและพบว่า แม้ว่าบรรยากาศจะไม่ค่อยเหมือนกับโลกของตน แต่ก็มี องค์ประกอบ ต่อการสร้างชีวิตเทียมอยู่ครบถ้วน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 00:04:04 » |
|
"และพระวิญญาณของเอโลฮิมได้ปกคลุมอยู่เหนือน้ำนั้น" (Genesis 1:2) >>พวกนักวิทยาศาสตร์ได้ลงมือสำรวจ และได้จัดวางดาวเทียมไว้รอบโลก เพื่อตรวจสอบองค์ประกอบกับ บรรยากาศในตอนนั้น โลกถูกปกคลุมด้วยน้ำและหมอกทึบ
"เอโลฮิมทรงเห็นว่าความสว่างนั้นดี" (Genesis 1:4) >>การที่จะสร้างชีวิตบนโลก จำเป็นต้องตรวจสอบให้รู้ว่า แสงอาทิตย์เป็นพิษเป็นภัยต่อพื้นผิวโลกหรือไม่ ปรากฏว่าดวงอาทิตย์ให้ความอบอุ่นแก่โลกอย่างเหมาะสม และไม่แผ่รังสีที่เป็นอันตราย "ความสว่างนั้นดี"
"มีเวลาเย็น และ เวลาเช้า เป็นวันหนึ่ง" (Genesis 1:5) >>การสำรวจนี้กินเวลายาวนานมาก "วันหนึ่ง" ในที่นี้หมายถึง ช่วงระยะเวลาที่ดวงอาทิตย์ของพวกคุณ ขึ้นในราศีเดียวกัน ในวันที่กลางวันกับกลางคืนเท่ากัน ในฤดูใบไม้ผลิ หรือ ประมาณ 2,000 ปี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 00:05:14 » |
|
"แล้วได้แยกน้ำที่อยู่ใต้พื้นอากาศออกจากน้ำที่อยู่เหนือพื้นอากาศนั้น" (Genesis 1:7) >>หลังจากได้ตรวจสอบแสงคอสมิกเหนือเมฆแล้ว พวกนักวิทยาศาสตร์ได้ลงไปใต้เมฆ แต่ยังอยู่เหนือน้ำ กับน้ำส่วนล่างหรือมหาสมุทรที่ครอบคลุมโลกทั้งหมด
"ได้ให้น้ำที่อยู่ใต้ฟ้านั้นรวบรวมเข้าแห่งเดียวกัน ให้ที่แห้งปรากฏขึ้น" (Genesis 1:9) >>หลังจากสำรวจพื้นผิวมหาสมุทรแล้ว พวกเขาก็สำรวจ ก้นสมุทร และรู้ว่าไม่ค่อยลึกเท่าไหร่ อีกทั้งอยู่ในระดับ ใกล้เคียงกัน ต่อจากนั้นได้ใช้ระเบิดขนาดแรงมาก ซึ่งทำหน้าที่คล้ายแทรกเตอร์กว้านเอาสสารจากท้องสมุทร ขึ้นมากองรวมกันกลายเป็นพื้นดินหรือพื้นทวีป ฉะนั้นเดิมทีโลกมีเพียงทวีปเดียว นักวิทยาศาสตร์ของ พวกคุณก็ได้ตระหนักดีว่าทวีปทั้งหมดต่างแยกมาจาก พื้นดินแผ่นเดียวกัน และสามารถประกบกันเป็น ผืนใหญ่ได้อย่างเหมาะเจาะ [url=http://www.dhevil.com/kulachatr/continental%20drift/Continental_Drift.htm]http://www.dhevil.com/kulachatr/continental%20drift/Continental_Drift.htm[/url]
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 กุมภาพันธ์ 2553 00:42:58 โดย ไอย »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 00:45:48 » |
|
"ให้ต้นหญ้าต้นผักที่มีเมล็ดและต้นไม้ที่มีผล ที่มีเมล็ดในผลตามชนิด ของมันงอกขึ้นในแผ่นดิน" (Genesis 1:11) >>บนสถานทดลองอันยิ่งใหญ่มโหฬารนี้ พวกนักวิทยาศาสตร์ ได้สร้างเซลล์พืชโดยใช้เคมีเท่านั้นและได้พืชพันธุ์หลากหลายชนิดทีเดียว พวกเขาได้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดให้กับเป้าหมายที่สำคัญ อันหนึ่งคือ การสืบพันธุ์ ใบหญ้าที่พวกเขาสร้างขึ้นจำต้องแพร่พันธุ์ ได้ด้วยตัวมันเอง พวกนักวิทยาศาสตร์ได้จัดกลุ่มแยกกระจาย ไปทั่วทวีปอันมหึมา และต่างก็ได้สร้างพืชพันธุ์ชนิดต่างๆ ขึ้นตามจินตนาการ และสภาพภูมิอากาศ พวกเขาได้นัดพบกันเป็นประจำเพื่อเปรียบเทียบ การค้นคว้าและสิ่งประดิษฐ์ของแต่ละกลุ่มบนดวงดาวที่ใกลโพ้น ได้มีการจับตาเฝ้าดูความคืบหน้าของพวกเขาด้วยความหวาดหวั่นและเร้าใจ พวกนักศิลปะชั้นนำได้เข้ามาร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์เพื่อช่วยตกแต่ง พืชพันธุ์ส่วนหนึ่งให้งดงามขึ้น อาจจะเป็นในแง่รูปพรรรสัณฐาน หรือในแง่กลิ่นหอม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 00:48:52 » |
|
"ให้มีดวงสว่างบนพื้นฟ้าอากาศ เป็นที่แบ่งวันออกจากคืน ให้ดวงสว่างนั้นเป็นที่กำหนดฤดูวันปี" (Genesis 1:14) >>จากการสังเกตดวงดาวกับดวงอาทิตย์ พวกนักวิทยาศาสตร์ ก็สามารถวัดความยาวของวันเดือน และปีบนโลก สิ่งนี้ช่วยให้พวกเขาสามารถปรับชีวิตความเป็นอยู่ให้เข้ากับโลก ซึ่งแตกต่างไปจากโลกของพวกตนอย่างมากมาย ความยาวของวัน และของปีก็ไม่เท่ากัน จากการค้นคว้าทางดาราศาสตร์ ทำให้ทราบ ตำแหน่งของพวกตนได้แม่นยำ และช่วยให้เข้าใจโลกได้ดีขึ้น
"ให้ฝูงสัตว์ที่มีชีวิตเกิดพืชพันธุ์ทวีขึ้นบริบูรณ์ในน้ำ และให้มีนกบินไปมาในอากาศเหนือแผ่นดิน" (Genesis 1:20) >>ต่อจากนั้นพวกนักวิทยาศาสตร์ได้สร้างสัตว์น้ำ เริ่มจากแพลงค์ตอน และปลาเล็กจนถึงปลาใหญ่พวกเขายังได้สร้างสาหร่ายให้ปลาเล็กกิน และให้ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ฯลฯ เพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่ได้ และอยู่ในลักษณะดุลภาพตามธรรมชาติ ป้องกันไม่ให้สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง ทำลายสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่งจนสูญพันธุ์ไป ระบบนี้คือสิ่งที่คุณเรียกว่า นิเวศวิทยา ปรากฏว่าประสบความสำเร็จ
พวกเขาพบปะกันบ่อยครั้งและได้จัดให้มีการประกวดเพื่อตัดสินว่า นักวิทยาศาสตร์ทีมใดที่ได้สร้างสัตว์ที่สวยงามและน่าสนใจมากที่สุด ต่อจากปลา พวกเขาได้สร้างนก และเห็นจะต้องพูดว่าเป็นเพราะ พวกนักศิลปะซึ่งรักแต่จะเสริมแต่งรูปร่างและสีสรรค์ให้สวยงาม แปลกประหลาดที่สุด นกบางชนิดจึงต้องบินอย่างทุลักทุเล เพราะมีขนประดับจนอุ้ยอ้าย การประกวดก้าวไปใกลกว่านั้นอีก นอกเหนือจากลักษณะทางกายภาพแล้ว พวกเขายังได้ดัดแปลงพฤติกรรมของสัตว์ ในช่วงผสมพันธุ์ทำให้นกเต้นระบำแปลกๆ ในการเรียกหาคู่ แต่นักวิทยาศาสตร์ บางทีมกลับสร้างสัตว์ประหลาดน่ากลัวขึ้น เช่นพวกมังกรหรือที่พวกคุณเรียกว่าไดโนเสาร์ เป็นต้น สิ่งนี้เท่ากับพิสูจน์ว่าการคัดค้านการทดลองสร้างสิ่งมีชีวิตบนดวงดาว ของตนเองเป็นเรื่องถูกต้อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 00:51:48 » |
|
" ให้ฝูงสัตว์มีชีวิตบังเกิดขึ้นที่แผ่นดินตามชนิดของมัน คือ สัตว์ใช้ สัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ป่าทั้งปวงตามชนิดของมัน : ก็เป็นดังนั้น" (Genesis 1:24) >>หลังจากในทะเลและบนท้องฟ้าแล้ว พวกนักวิทยาศาสตร์ ก็ได้สร้างสัตว์บกเนื่องจากบนพื้นทวีป พืชพันธุ์ได้เจริญงอกงามมาก พวกสัตว์กินพืชจึงถูกสร้างขึ้นเป็นชนิดแรก ต่อจากนั้นก็สร้างสัตว์กินเนื้อ เพื่อรักษาความสมดุลย์
บุคคลที่เข้าร่วมในกิจกรรมเหล่านี้มาจากดวงดาวของเรา และผมเองก็เป็นผู้หนึ่งที่สร้างชีวิตบนโลกนี้ และแล้วคนที่มี ความเชี่ยวชาญมากที่สุดในกลุ่มพวกเราก็คิดสร้างมนุษย์เทียม ที่คล้ายคลึงกับพวกตนขึ้นมา แต่ละทีมเริ่มลงมือทำงาน และไม่ช้าไม่นานก็ สามารถเปรียบเทียบสิ่งประดิษฐ์ของซึ่งกันและกัน แต่ผู้คนบนดวงดาวของ เราตกใจมากเมื่อทราบว่าพวกเรากำลังสร้าง "เด็กในหลอดทดลอง" เพราะเกรงว่าวันหนึ่งมนุษย์เหล่านี้จะเดินทางมาคุกคามดวงดาวของตน และหวั่นเกรงว่าถ้ามนุษย์เกิดมีพลังและความสามารถเหนือกว่าพวกผู้สร้าง แล้วก็อาจจะเป็นอันตรายได้ พวกเราจึงตกลงกันว่าจะให้มนุษย์อยู่อย่าง โบร่ำโบราณ ไม่ให้รู้เรื่องวิทยาศาสตร์ และปกปิดการกระทำของเราไว้ เป็นเรื่องลึกลับ จำนวนผู้สร้างมีอยู่กี่ทีม รู้ได้ไม่ยากเพราะมนุษย์แต่ละ เชื้อชาติขึ้นอยู่กับผู้สร้างแต่ละทีม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 00:53:58 » |
|
"จงให้เราสร้างมนุษย์ตามแบบฉายาของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในอากาศ และฝูงสัตว์ใช้ ให้ปกครองแผ่นดินทั่วไป และสรรพสัตว์ ที่เลื้อยคลานบนแผ่นดินทั้งสิ้น" (Genesis 1:26) >>ตามแบบฉายาของเรา! คุณเห็นไหมว่าเราคล้ายคลึงกันเพียงไร ทีนี้ก็เกิดปัญหาขึ้นมา กล่าวคือทีมนักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในประเทศ ซึ่งในปัจจุบันเรียกกันว่า อิสราเอล ซึ่งในขณะนั้นอยู่ไม่ใกลจากกรีก และตุรกี บนพื้นผิวทวีปเดิมนั้นเป็นกลุ่มที่ฉลาดมาก ในดินแดนนี้ สัตว์สวยงามที่สุด และพืชพันธุ์หอมหวานที่สุด นี่คือบริเวณที่พวกคุณ เรียกว่า สวนเอเดน และมนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้น ณ ที่นี้ก็เฉลียวฉลาดที่สุด พวกผู้สร้างจึงต้องระมัดระวังไม่ให้สิ่งที่สร้างขึ้นมีความฉลาดเหนือพวกตน พยายามปกปิดความลับทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็ให้การศึกษาในระดับหนึ่ง เพื่อจะได้วัดความฉลาดของมัน
"บรรดาผลไม้ทุกอย่างในสวนนี้เจ้ากินได้ทั้งหมด เว้นแต่ต้นไม้ที่ให้รู้ ความดี และความชั่ว ผลของต้นนั้นเจ้าอย่าได้กินเป็นอันขาด ถ้าเจ้าขืนกินในวันใด เจ้าจะตายในวันนั้นเป็นแน่" (Genesis 2:16-17) >>สิ่งนี้นหมายความว่า : คุณสามารถเรียนรู้ และอ่านทุกสิ่งทุกอย่างจาก หนังสือทั้งหมดของพวกเรา แต่ถ้าไม่อยากตาย จงอย่าได้แตะต้องกับหนังสือวิทยาศาสตร์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 00:55:54 » |
|
" ยาเวห์เอโลฮิมได้ทรงสร้างบรรดาสัตว์ป่าและนกในอากาศให้เกิดขึ้นแต่ดิน แล้วจึงพามายังอาดัม เพื่อดูว่าเขาจะเรียกชื่ออย่างไร อาดัมได้เรียกสัตว์ ทั้งปวงที่มีชีวิตชื่อใด ก็นั่นแหละเป็นชื่อสัตว์' (Genesis 2:19) >>เพื่อให้เลี้ยงตนเองได้ จึงจำเป็นต้องให้มนุษย์รู้จักพืชและสัตว์ที่อยู่รอบตัว อุปนิสัยใจคอ และวิธีจัดหามา พวกผู้สร้างได้สอนให้มนุษย์รู้จักชื่อ และความสามารถของสิ่งมีชีวิตรอบตัว เพราะเห็นว่าวิชาพฤศาสตร์และ สัตว์ศาสตร์ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อพวกเขา
ลองจินตนาการดูซิว่า นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้จะรู้สึกปลื้มอกปลื้มใจเพียงใด ที่มีเด็กชายหญิง 2 คนเที่ยวกระโดดโลดเต้นอยู่รอบๆ และตั้งหน้าตั้งตา เรียนรู้ทุกสิ่งที่อยากรู้ไปจากพวกเขา
"งู....พูดกับผู้หญิง....ผลไม้ต้นที่อยู่กลางสวนนั้น...เจ้าจะไม่ตายจริงดอก เพราะเอโลฮิมทรงทราบอยู่ว่า เจ้ากินผลไม้นั้นเข้าไปในวันใด ตาของเจ้า จะสว่างขึ้นในวันนั้น แล้วเจ้าจะเป็นเหมือนพระ จะรู้จักความดีและชั่ว" (Genesis 3:1-5) >>ในนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ บางคนเกิดเอ็นดูรักใคร่เด้กๆ ขึ้นมา อย่างจับจิตจับใจ อยากให้มีความรอบรู้ เท่าเทียมกับพวกตน พวกเขาได้บอก วัยรุ่นเหล่านี้ซึ่งกำลังเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวว่า ถ้าศึกษาเล่าเรียนวิทยาศาสตร์แล้ว ก็จะสามารถเฉลียวฉลาดได้อย่างเดียวกับผู้สร้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 00:57:55 » |
|
"(เมื่อทั้งสองกินผลไม้นั้นแล้ว) ตาของเขาทั้งสองก็สว่างขึ้น จึงรู้สึกว่าเปลือยกายอยู่" (Genesis 3:7) >>ดังนั้น มนุษย์จึงรู้ว่าพวกเขาก็เป็นผู้สร้างได้เหมือนกัน และพวกเขาโกรธแค้น พ่อของตนมากที่ห้ามพวกเขา แตะต้องหนังสือวิทยาศาสตร์ โดยมองพวกเขา ราวกับว่าเป็นสัตว์ร้ายในห้องทดลอง
"ยาเวห์เอโลฮิมจึงตรัสแก่งูว่า : เพราะเหตุที่เจ้ากระทำเช่นนี้ เจ้าก็เป็นที่แช่งสาปมากกว่าสัตว์ใช้และสัตว์ป่าทั้งปวง จะต้องเลื้อยไปด้วยท้อง จะต้องกินผงคลีดินจนสิ้นชีวิต" (Genesis 3:14) >>"งู" หรือพวกผู้สร้างกลุ่มน้อยที่ต้องการสอนความจริงให้กับ อาดัมกับอีฟได้ถูกรัฐบาลบนดวงดาวประณามและถูกเนรเทศ ให้อยู่บนโลก ส่วนผู้สร้างอื่นๆ ได้ถูกสั่งให้หยุดยั้งการทดลอง และให้ไปพ้นจากโลก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 01:01:32 » |
|
"ยาเวห์เอโลฮิมได้ทรงทำเสื้อด้วยหนังสัตว์ให้อาดัมกับภรรยา สวมปกปิดกายของเขา" (Genesis 3:21) >>พวกผู้สร้างได้มอบปัจจัยในการดำรงชีวิตขั้นพื้นฐานให้กับทั้งสอง เพื่อจะให้อยู่รอดต่อไป โดยไม่ต้องติดกับพวกผู้สร้าง ในส่วนนี้ไบเบิ้ลได้สงวนไว้ซึ่งถ้อยความ จากเอกสารเดิมไว้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์
"แล้วยาเวห์เอโลฮิมตรัสว่า ดูเถิดมนุษย์กลายเป็นเช่นผู้หนึ่ง ในพวกเราในการที่รู้จักความดีและความชั่วแล้ว บัดนี้เกรงว่าเขาจะยื่นมือหยิบผลไม้ที่ให้ชีวิตเจริญ กินเข้าไป ทำให้อายุยืนอยู่เป็นนิตย์" (Genesis 3:22) >>ชีวิตของมนุษย์สั้นมาก แต่ก็มีวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่จะยืด ชีวิตออกไปได้มากปกตินักวิทยาศาสตร์ที่ทำการศึกษาค้นคว้า ตลอดชีวิต จะมีสติปัญญาและความรอบรู้อย่างลึกซึ้ง และมักค้นพบ สิ่งน่าสนใจในยามแก่เฒ่า การมีอายุสั้นจึงถ่วงความเจริญก้าวหน้าของ มนุษย์ยาวขึ้น 10 เท่า พวกเขาก็จะยกระดับขึ้นมาเท่าเทียมกับพวกเรา ได้ในไม่ช้า เพราะสมองของพวกเขาดีเด่นเหนือกว่าของพวกเราอยู่เล็กน้อย พวกเขาไม่ตระหนักถึงศักยภาพของตนเอง โดยเฉพาะชาวอิสราเอล ซึ่งในการประกวดครั้งหนึ่งเคยได้รับเลือกว่าเป็นมนุษย์ที่เฉลียวฉลาดที่สุดของโลก นี่เองที่อธิบายว่าทำไมชาวอิสราเอลถึงได้ถือว่าพวกตนเป็น "ชนชาติที่พระเจ้าเลือกสรร" เป็นความจริงที่ว่าพวกเขาเป็นมนุษย์ที่ได้รับเลือกโดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งมาชุมนุมกันเพื่อตัดสินผลงานของพวกตน คุณเองก็คงสังเกตเห็นว่า ชนชาตินี้ได้ผลิตอัจฉริยะบุคคลไว้ไม่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 01:04:00 » |
|
เมื่อไล่ชายนั้นออกไปแล้ว เอโลฮิมทรงตั้งคะรูบีมไว้ข้าง ทิศตะวันออกแห่งสวนเอเดนและตั้งกระบี่เพลิงอันมีเปลวไฟ วับวาบไว้รอบทุกทิศ เพื่อที่จะคอยรักษาทางที่จะเข้าไปถึง ต้นไม้ที่ให้ชีวิตเจริญนั้น" (Genesis 3:24) >>กองทหารที่ติดอาวุธปรมาณูได้ถูกจัดวางไว้ ณ ปากทางเข้าสู่ ที่พักอาศัยของพวกผู้สร้างเพื่อป้องกันไม่ให้มนุษย์มาแย่งชิง ความรู้ทางวิทยาศาสตร์อื่นๆ
- - - - - [ อุทกภัย ] - - - - -
ต่อไป เรื่องก็ข้ามมาถึงบทที่ 4 ของ Genesis
"อยู่มาวันหนึ่ง คายินได้นำผลที่เกิดแต่ไร่นามาบูชาถวายยาเวห์ ส่วนเฮเบลนำเครื่องบูชามาด้วย คือ แกะหัวปีกับมันสัตว์" (Genesis 4:3-4) >>พวกนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกเนรเทศและอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของทหาร ได้ให้มนุษย์นำอาหารมาให้ เพื่อเป็นการแสดงให้ผู้ที่มีอำนาจเบื้องบนเห็นว่า มนุษย์ที่สร้างขึ้นนั้นดี และจะไม่ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อพ่อของพวกเขา เป็นอันขาด ด้วยเหตุนี้ พวกผู้นำของมนุษย์รุ่นแรกจึงได้รับผลประโยชน์จาก "ต้นไม้ที่ให้ชีวิต" บุคคลเหล่านั้นจึงมีอายุยืนยาวเป็นพิเศษ อาดัมมีชีวิตอยู่ถึง 930 ปี เสท 912 ปี และอาโนช 905 ปี ฯลฯ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 01:05:52 » |
|
"อยู่มาวันหนึ่งเมื่อมนุษย์ทวีมากขึ้นที่แผ่นดิน และมีบุตรสาวบังเกิดขึ้น บุตรชายของเอโลฮิมเห็นว่าบุตรสาวของมนุษย์สวย ก็รับเขาไว้เป็นภรรยา ตามใจชอบของตน" (Genesis 6:1-2) >>พวกผู้สร้างที่ถูกเนรเทศได้เลือกผู้หญิงที่สวยที่สุดของมนุษย์มาเป็นภรรยาตน
"วิญญาณของเราจะไม่สถิตกับมนุษย์นานเป็นนิตย์ เพราะมนุษย์เป็นแต่เนื้อหนัง เขาจะดำรงชีวิตอยู่ได้ก็เพียงร้อยยี่สิบปี" (Genesis 6:3) >>การมีอายุยืนไม่ได้เป็นกรรมพันธุ์ ลูกหลานมนุษย์จึงไม่ได้รับผลประโยชน์ ต่อเนื่องจาก "ต้นไม้ที่ให้ชีวิต" ผู้มีอำนาจบนดวงดาวอันใกลโพ้นจึงโล่งอก ฉะนั้นความลึกลับจึงสาปสูญ และความเจริญก้าวหน้าของมนุษย์ได้ล่าช้าลง
"ทั้งภายหลัง เมื่อบุตรเอโลฮิมได้สมสู่กับบุตรสาวมนุษย์ จึงเกิดมีคนชนิดนั้น เขาเหล่านั้นเป็นคนเก่งที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในกาลโบราณ" (Genesis 6:4) >>ในที่นี้ คุณจะเห็นว่าพวกผู้สร้างสามารถสมสู่กับลูกสาวของมนุษย์ที่ถูก สร้างขึ้นมาคล้ายพวกตน การจับคู่เช่นนี้ก่อให้เกิดเด็กๆ ที่เยี่ยมยอด แต่ในสายตา ของผู้คนบนดวงดาวอันใกลโพ้นกลับเห็นว่าสิ่งนี้เป็นอันตรายยิ่ง พวกเขาจึง ได้ตัดสินใจทำลายสิ่งที่ตนเองสร้างขึ้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 01:09:25 » |
|
"ยาเวห์ทรงเห็นมนุษย์กระทำความชั่วมากทวีขึ้นบนแผ่นดิน และทรงเห็นว่าความคิดนึกในใจของเขาล้วนเป็นความชั่วเสมอไป" (Genesis 6:5) >>ความชั่วในที่นี้หมายถึงความปรารถนาที่จะมีความเท่าเทียมกับ พวกผู้สร้างมีความเป็นเอกเทศทางวิทยาศาสตร์ของตนเอง ส่วนความดีในสายตาของพวกผู้สร้างก็คือ การที่มนุษย์ดำรงอยู่ บนโลกในลักษณะโบร่ำโบราณ ส่วนความชั่วคือ การที่มนุษย์ใฝ่ฝัน ความก้าวหน้า และสักวันหนึ่งอาจจะไล่ขึ้นมาเทียมทันกับพวกผู้สร้าง
ดังนั้น พวกผู้สร้างบนดวงดาวอันใกลโพ้นจึงตัดสินใจทำลายชีวิต บนโลกทั้งหมดโดยการยิงด้วยจรวดนิวเคลียร์ แต่พวกผู้สร้างที่ถูก เนรเทศซึ่งตระหนักถึงแผนการนี้ได้บอกโนอาห์ให้สร้างจรวด ซึ่งจะใช้บินโคจรรอบโลกขณะที่เกิดภัยพิบัติ ในจรวดจะมีสิ่งมีชีวิต อย่างละคู่เอาไว้เพื่อเป็นการสงวนพันธุ์
อย่าไรก็ตามนี่เป็นการพูดให้เห็นภาพพจน์เท่านั้น ในความเป็นจริงแล้ว การมีเซลล์ที่มีชีวิตของตัวผู้และตัวเมียเพียงอย่างละเซลล์ก็เพียงพอ สำหรับการสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาใหม่ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของพวกคุณ จะช่วยให้เข้าใจเรื่องนี้ได้ในไม่ช้าเรื่องนี้มีส่วนคล้ายกับเซลล์แรกที่อยู่ ในท้องของแม่ ซึ่งมีองค์ประกอบที่จำเป็นทั้งหมด ในอันที่จะช่วยให้ กลายเป็นมนุษย์ขึ้นในสักวันหนึ่ง ละเอียดลงไปจนถึงเรื่องสีของผมและตา นี่เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่นัก แต่ก็สร้างเสร็จทันเวลา เมื่อเกิดการระเบิดขึ้น ชีวิตได้รับการสงวนไว้ในระดับหลายพันกิโลเมตรเหนือผิวโลก ส่วนพื้นทวีปต้องจมอยู่ใต้คลื่นอันมโหฬารซึ่งทำลายล้างทุกชีวิตบนผิวโลก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 01:12:07 » |
|
"หนุนนาวาให้ลอยขึ้นจากพื้นดิน" (Genesis 7:17) >>ตรงนี้เห็นได้ชัดว่า มันลอยขึ้นเหนือพื้นดิน ไม่ใช่ลอยขึ้นเหนือน้ำ หลังจากนั้นก็ต้องรอจนกว่ากัมมันตรังสีหมดสิ้นไป
"น้ำได้ท่วมแผ่นดินอยู่ถึงร้อยห้าสิบวัน" (Genesis 7:24) >>ทวีปจมอยู่ใต้น้ำด้วยคลื่นน้ำขนาดยักษ์ (tsunami) ซึ่งจะทำลาย ชีวิตต่างๆ ทุกรูปแบบที่อยู่บนพื้นผิว จากนั้นจะต้องรอคอยจนกว่า จะถึงเวลาที่ไม่มีละอองกัมมันตรังสีที่เป็นอันตรายอีก
"เอโลฮิมทรงระลึกถึงโนอาห์...จึงบันดาลให้ลมพัดมาเหนือพื้นดิน และน้ำทั้งปวงก็กลับลดลง" (Genesis 8:1) >>จรวดซึ่งมี 3 ชั้น ("จงต่อเรือที่มีดาดฟ้า 3 ชั้น") ได้กลับลงมาจอด บนพื้นดิน ภายในนั้นนอกจากโนอาห์แล้วก็มีชนชาติต่างๆ ของมนุษย์โลก อย่างละคู่หลังจากที่ได้กำจัดกัมมันตภาพรังสีด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์แล้ว พวกผู้สร้างได้บอกให้โนอาห์ปล่อยสัตว์ออกมาเพื่อดูว่าพวกมันสามารถ ทนต่ออากาศได้หรือไม่ พวกสัตว์จึงได้ออกไปสู่อากาศสดใสภายนอก พวกผู้สร้างได้บอกให้พวกเขาทำงานและแพร่พันธุ์ เพื่อเป็นการแสดงความ ขอบคุณต่อผู้มีพระคุณที่ได้สร้างและช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ โนอาห์ได้รับผิดชอบจัดสรรผลเก็บเกี่ยวและสัตว์เลี้ยงส่วนหนึ่งไว้สำหรับ การเป็นอยู่ของพวกผู้สร้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 01:13:48 » |
|
"โนอาห์ก็ก่อแท่นบูชายาเวห์ แล้วเลือกสัตว์และนกที่สะอาดทุกอย่าง มาเผาถวายที่แท่นบูชานั้น" (Genesis 8:20) >>พวกผู้สร้างรู้สึกยินดีที่เห็นว่ามนุษย์ไม่ได้โกรธแค้นพวกตน และได้สัญญาว่า จะไม่พยายามทำลายล้างมนุษย์ในอนาคต เพราะพวกเขาได้เข้าใจแล้ว ว่าเป็นธรรมดาที่มนุษย์จะใฝ่หาความก้าวหน้า
"ความคิดในใจของมนุษย์นั้นล้วนแต่ชั่ว" (Genesis 8:21) >>เป้าหมายของมนุษย์ คือ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ผู้คนแต่ละชนชาติ ถูกจัดวางกลับสู่ถิ่นฐานดั้งเดิมที่พวกเขาถูกสร้างขึ้น และสัตว์ทั้งหมดได้ถูกสร้าง ขึ้นใหม่จากเซลล์ที่เก็บไว้ในเรือ
"และจากคนเหล่านี้ ชาติทั้งปวงในแผ่นดินก็แบ่งแยกออกเป็นส่วนๆ" (Genesis 10:32)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
กำลังโหลด...