ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 01:40:47 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 01:42:41 » |
|
คำทำนายวันโลกาวินาศจากแหล่งอื่น
66 % ของคริสตชนผู้ใหญ่ เชื่อว่าพระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมาสู่โลก ในปี 2008 และมีมติเพิ่มเติมว่า มิฉะนั้นก็น่าจะเป็นวันที่ 1 มกราคม ปี 2009 (โล่งอกไปที ผ่านมาแล้ว เรายังอยู่กันครบ)
คำพยากรณ์ของแดเนียล(เป็นบทกลอน)อ่านได้ความว่า พระเยซูเจ้า ในฐานะพระเมสสีอาส(พระศรีอารย์)จะกลับมาสู่โลกในปี 2016
วันโลกาวินาศปี 2012 ซึ่งจะเป็นวันสุดท้ายของโลกมนุษย์นั้น ได้มาจาก ปฏิทินของคนเผ่ามายัน(Mayan Calendar)และแหล่งอื่น เพื่อให้แน่ใจ ควรอ่านคำทำนายของพระคัมภีร์ตามตัวอักษร คอยดูว่าปี 2012 โลกจะเป็น อย่างไร ปกติ หรือ เกิดตามคำทำนาย
วันพระจันทร์สีเลือด(Blood Moons)ที่พระเยซูจะกลับมาในโลก ปี 2015
พระเยซูเจ้าจะกลับมาในปี 2015 หรือ? หรือจะตั้งตารางเวลาเริ่มฤดูใบไม่ร่วงนี้? และตารางเวลาการเกิดคราส(Eclipses)ขององค์การนาซา(NASA) จะช่วย เราในเรื่องนี้ได้หรือไม่? ท่าน Pastor Mark Blitz ได้ให้ความเห็นว่า สุริยคราสและจันทรคราสสีเลือด(Solar and Blood Moon Eclipses) ในปี 2015 อาจจะสามารถเติมเต็มสำเร็จตามหลักหมุดกำหนดในคำทำนาย ของพระคัมภีร์....บางคนยังคิดว่าน่าจะเกิดห้าปีก่อนหน้านี้แล้ว ลองไปอ่าน หนังสือวิวรณ์(Revelation) ที่กล่าวว่า : หนึ่งปีวันจะหดลงเหลือ 360 วัน หลังจากเกิดปรากฎการณ์คราส(Eclipses) ตามที่ทำนายไว้.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 01:43:43 » |
|
ถ้าจะย้อนไปดูบันทึก(อย่าว่าประวัติศาสตร์เลย)ที่รวบรวมไว้ เคยมีคน(มนุษย์แบบเราท่านนี่แหละ)ทำนายปีที่โลกจะวินาศ บางท่านเก่งกล้าขนาดระบุวันเดือนปีที่โลกจะแตกดับเสียด้วยซ้ำไป แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนที่ตั้งตัวเป็นศาสดาพยากรณ์ต่างล้มหายตายจากไป บางคนพาชาวบ้านไม่รู้อีโหน่อีเหน่ไปตายเป็นร้อยเป็นพัน โลกก็ยังอยู่ มนุษย์รุ่นคุณรุ่นผมก็ยังอยู่ เอ...(รำพึงนะ)..แล้ว วันสิ้นโลกจริงๆ (ที่ฝรั่งเรียกน่ากลัวว่าDoomsday)ตามหลักวิทยาศาสตร์นั้น น่าจะเป็นอย่างไร จะมาถึงเมื่อใด ขอยกยอดไปบรรยายแบ่งปันให้ทราบในคราวหน้า – ครับ
Ad Majorem Dei Gloriam --- Alan Petervich
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 01:49:51 » |
|
Petervich: :D ??? ดาวที่คาดว่าจะทำให้โลกถึงแก่ความพินาศ ในปี ค.ศ. 2012 Planet X will be the cause of Doomsday in 2012
พระดำรัสชองพระเยซูเจ้าที่ว่ามนุษย์รุ่นนี้เป็นรุ่นสุดท้ายในโลก ทำให้หลายคนใจเสีย ก็..กลัวตายนะซีคุณ เราจะตายก่อนถึงเวลาแก่เฒ่า หรือตายด้วยโรคภัยไข้เจ็บหรือโดยอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตไม่ว่ากัน แต่ตายด้วย สาเหตุที่คาดไม่ถึงว่าโลกจะระเบิดแตกดับ พวกเรามนุษย์จะสิ้นสูญไปจาก โลกนี้นั้น ไม่อยากคิด! แต่..ไม่อยากคิดยังไงๆก็ต้องคิด เมื่อคิดแล้วก็อยาก จะรู้ว่า อะไรคือสาเหตุที่โลกจะแตกดับ มนุษย์จะสิ้นไปจากโลก ก็คงต้องฟัง นักวิทยาศาสตร์ที่พยายามอธิบายให้เราฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้ คงจะดีกว่า
มีดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่นักดาราศาสตร์ตั้งรหัสชื่อว่า Planet-X-NIBIRU ดาวดวงนี้มีเส้นวงโคจรเป็นรูปวงรีตัดกับวงโคจรของโลกตลอดและจะมีช่วงหนึ่ง ที่เข้ามาใกล้โลกมากห่างไม่เท่าไร พูดได้ว่าเฉียดโลกเลยทีเดียว ผ่านเข้ามา ใกล้โลกทีไรก็ทำให้โลกเกิดกลียุคทุกที ดาวดวงนี้จะโคจรเข้ามาใกล้โลกทุกๆ 3,600 ปี เมื่อ 3,600 ปีที่แล้วผ่านมาครั้งหนึ่งแล้ว เป็นสาเหตุให้ทวีปแอตแลนติก จมหายลงไปทั้งทวีปกลายเป็นมหาสมุทรแอตแลนติก ตอนนั้นน้ำท่วมโลกสูงมาก (หลายคนคิดว่าเป็นยุคน้ำท่วมโลกสมัยโนอา โปรดอ่านรายละเอียดจากพระคัมภีร์ พันธะสัญญาเดิม) เรื่องเกี่ยวกับโนอาและน้ำมหาวินาศแรกของโลกมนุษย์ทราบ รายละเอียดจากพระคัมภีร์ และยังจำพระสัญญาของพระเป็นเจ้าที่บอกโนอาและ ลูกหลานว่า จะไม่มีน้ำท่วมโลกอีก หากเห็นรุ้งปรากฏบนท้องฟ้านั่นคือพระสัญญา ของพระองค์ ตอนนี้มนุษย์งงจริงๆ เพราะที่จะเกิดกลียุคกับโลกเราและทำให้มนุษย์ สูญสิ้นไปคือน้ำท่วมโลกครั้งใหม่ โดยผลกระทบจากดาวเคราะห์ที่มีรหัสชื่อว่า Planet-X-NIBIRU ! ดาวดวงนี้จะโคจรเข้ามาใกล้โลกในปี 2009 มองเห็นได้ ทางซีกโลกใต้ด้วยกล้องดูดาวพลังสูง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 01:51:34 » |
|
ปี 2011 โคจรใกล้เข้ามา มนุษย์จะมองเห็นดาวดวงนี้ด้วยตาเปล่า โตขนาดเท่าดวงจันทร์ของเรา แต่สีจะออกสีแดงๆ
ปี 2012 โคจรเข้ามาใกล้มาก จากนั้น จะเริ่มเกิดปฏิกิริยาต่อ มวลสภาพอากาศบนโลก เศษหินจำนวนมหาศาลที่มากับดาวดวงนี้ จะพุ่งตกลงกระทบผิวโลก เป็นเหมือนฝนดาวตก และเป็นอันตรายต่อ มวลชีวิตบนโลกเรา เพราะบรรยากาศของโลกไม่สามารถเสียดทานเอาไว้ได้
ปี 2012 วันที่ 21 ธันวาคม ดาว NIBIRU โคจรเข้ามาใกล้โลกที่สุด หายนะครั้งยิ่งใหญ่จะเกิดบนพื้นแผ่นดินโลก อย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
ปี 2013 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ วันนั้นเป็นวันที่โลก + นิบิรุ + ดวงอาทิตย์ โคจรมาอยู่ในเส้นแนวเดียวกัน แกนแม่เหล็กโลกจะเปลี่ยนขั้วกลับกัน ขั้วเหนือเป็นขั้วใต้และขั้วใต้เป็นขั้วเหนือ โลกจะหยุดหมุนรอบตัวเอง 3 วัน ( คือส่วนใดสว่างก็จะสว่างนาน 3 วัน ส่วนใดมืดก็จะมืดนาน 3 วัน) แผ่นดินจะแยกตัวเป็นเสี่ยงๆ น้ำทะเลจะปั่นป่วนเป้นคลื่นมหาสึนามิ ถล่มเมืองชายทะเลทุกแห่งของโลก เมื่อแผ่นหินเปลือกโลกเคลื่อนไหวตัว ลาวาใต้โลกจะพุ่งทะลักขึ้นมา เกิดเป็นภูเขาไฟมากมายทั่วทุกทวีป ที่เคยอยู่ใต้ทะเลก็จะโผล่ขึ้นเหนือทะเล ที่เคยเป็นยอดเขายอดเกาะก็จะ ยุบตัวลงต่ำสู่พื้นล่าง แน่นอน มนุษย์และสัตว์หลายล้านชีวิตต้องสิ้นไป บ้านเมืองถล่มทะลายไม่เหลือหรอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 01:53:00 » |
|
เหตุการณ์เลวร้ายเกินกว่าจะบรรยายได้จะเกิดต่อไปจนถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2514 ดาวเคราะห์ NIBIRU จะโคจรห่างโลกออกไปเรื่อยๆ โลกจะเข้าสู่ภาวะสงบ แต่เมื่อถึงเวลานั้น จะเหลือชีวิตมนุษย์และสัตว์รอดจากหายนะหรือไม่ เท่าใด ไม่มีการทำนายไว้
คราวหน้าจะบรรยายถึงแนวความคิดของคนที่มองว่า ทำไมมนุษย์งอมืองอเท้า ไม่เตรียมการอะไรเลยหรือ ในเมื่อเหตุการณ์ที่ว่านี้กำลังใกล้เข้ามาแล้ว จะมามัวเสียเวลาคิดหาเหตุผลวิพากษ์วิจารณ์ผิดถูกกันอยู่เหมือนขณะนี้ น่าจะไม่ทันการ คงต้องวางแผนสร้างเครื่องมือ เพื่อหลบหนีจากโลกนี้ไป ไปไหน? ...ยังไม่ทราบ คอยอ่านตอนหน้าอีกหลายๆตอน – ครับ
AD Majorem Dei Gloriam --- Alan Petervich
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 01:54:46 » |
|
Petervich: :D ??? :) แผนสร้างยานอวกาศเพื่อใช้หลบหนีวันโลกาวินาศ Planning to build the spacecrafts to escape Doomsday
ยังมีเรื่องเหลือร้าย คือ มีข้อมูลทางธรณีวิทยาที่ชี้ว่า ปี 2012 คือปีที่ซูเปอร์ วอลเคโน( supervolcano ) หรือภูเขาไฟใต้มหาสมุทร ครบรอบ 7.4 หมื่นปีที่จะระเบิดทำลายตัวเอง โดยสัญญาณเตือนภัย ครั้งล่าสุดคือโศกนาฏกรรมคลื่นยักษ์สึนามิที่โถมเข้าถล่มบรรดาหมู่เกาะซามัว กลางมหาสมุทรแปซิฟิกเร็วๆนี้ จากการระเบิดของภูเขาไฟใต้น้ำที่อยู่ลึกลงไป ใต้มหาสมุทรถึง 18 กิโลเมตร แน่นอน พื้นผิวโลกคงกำลังเตรียมเปลี่ยนแปลง ครั้งยิ่งใหญ่อีก และนั่นหมายถึงมหันตภัยยิ่งใหญ่ของโลกมนุษย์
น่าสังเกตว่า ช่วงเวลาปัจจุบันนี้ เกิดเหตุแผ่นดินไหว ฝนตกหนักจาก พายุและลมมรสุมรวมกับพายุใต้ฝุ่นที่นำฝนตกหนักหลายๆวันติดต่อกัน จนน้ำในแม่น้ำ ห้วยหนองคลองบึงและเขื่อนเก็บน้ำ มีน้ำสะสมสูงมาก เกือบจะเกินกำลังรับของเขื่อนต่างๆ ซึ่งหากรับไม่ไหวก็จะทะลักลงมาท่วม หมู่บ้าน ถนนหนทาง ทำความลำบากแก่มนุษย์เป็นที่เวทนายิ่งนัก อุทกภัย ดังกล่าวขณะนี้เกิดขึ้นทั่วโลก เป็นไปได้ว่าสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากโลกร้อนขึ้น เกิดการแปรปรวนของลมฟ้าอากาศ อีกสาเหตุหนึ่งนั้นนักธรณีวิทยาอธิบายว่า โครงสร้างของผิวโลกกำลังขยับและเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยมนุษย์ไม่รู้ตัวและ ไม่ทันระวังตัว แม้อาจจะรู้ตัวก็คงเป็นบรรดานักวิทยาศาสตร์ไม่กี่คนที่ติดตามเรื่องนี้เท่านั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 01:56:28 » |
|
ในประเทศไทยเอง มีคนบางกลุ่มที่เป็นนักวิทยาศาสตร์และศึกษา เรื่องเหล่านี้ ต่างรวมกลุ่มศึกษาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่อง วันโลกาวินาศเป็นครั้งคราว คนไทยที่สนใจและเอาใจใส่ในเรื่องดังกล่าว ผู้หนึ่งคือ อาจารย์สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา นักวิทยาศาสตร์ไทยผู้นี้ เคยทำงานกับองค์การ NASA ยืนยันว่าอีก 3 ปีข้างหน้า โลกจะเกิด หายนะขึ้นจากอุทกภัย(น้ำท่วมโลก ในปี 2012)แน่นอน คนในองค์การนาซ่า ทุกคนทราบเรื่องนี้มานานแล้ว ได้พยายามหางบประมาณสร้างยานอวกาศ (spacecraft) จำนวนมาก เพื่ออพยพผู้คน หลบหนีจากอุทกภัยน้ำท่วมโลก ครั้งใหญ่(ครั้งที่สอง) ค.ศ. 2012 คาดว่าคงใกล้จะเสร็จแล้ว เสียดายที่ท่าน มิได้ระบุว่าสร้างกี่ลำ แต่ละลำบรรทุกคนได้จำนวนกี่คน แล้วจะพาบินไปไหน?
นอกจากนั้น อาจารย์สุมิตรยังยืนยันว่า มนุษย์ต่างดาวหรือเอเลี่ยน ( Alien ) นั้นมีจริง ปัจจุบันบางคน(มนุษย์ต่างดาว)มาทำงานกับองค์การนาซ่า โดยการสื่อสารทาง”โทรจิต” เพื่อถ่ายทอดความรู้ทางเทคโนโลยีชั้นก้าวหน้าแก่มนุษย์ อาจารย์เคยบอกให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสร้างยานอวกาศเพื่อเตรียม อพยพคนไทยหนีจากน้ำท่วมโลก ค.ศ. 2012 แต่ไม่มีใครสนใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 01:58:11 » |
|
ความจริงคนที่กระทรวงวิทย์ฯอาจงงมากที่อยู่ๆก็มีคนเล่าเรื่องประหลาดให้ฟัง แถมชวนให้สร้างยานอวกาศ พวกเขาคงขำกลิ้งฮาตกขอบ เพราะคนไทยเรานั้น ไม่ได้รับข้อมูลประเภทนี้เพียงพอที่จะนำมาทำความเข้าใจ หาเหตุผลและวางแผน ปฏิบัติอย่างที่อาจารย์สุมิตรเสนอ พวกเขาคงนึกว่าเป็นฝันกลางวัน หรือฝันเฟื่อง ของผู้ที่อ้างตัวเป็นนักวิทยาศาสตร์ NASA ผมเองก็ออกจะงงๆเหมือนกัน เพราะนักวิทยาศาสตร์และนักทำนายทั้งหลายบอกว่า น้ำจะท่วมโลกน่าสะพรึงกลัว มนุษย์และสัตว์จะสิ้นไปจากโลก ฟังแล้วและคิดแล้วก็เกิดคำถามที่ว่า ตอนน้ำท่วม โลกสมัยโนอานั้น โนอาสร้างเรือสำเภายักษ์ลำมหึมา สามารถบรรทุกสัตว์จตุบาตร ทวิบาตรทุกชนิดรวมทั้งมนุษย์อีกจำนวนหนึ่ง ลอยขึ้นเหนือน้ำและดำเนินชีวิตอยู่ได้ นานสามสี่สิบวัน จนน้ำลด เราก้ทำแบบนั้นคงได้กระมัง คงไม่จำเป็นต้องสร้าง ยานอวกาศเพื่อนำคนออกจากโลกนี้ไป ค่าสร้างบานตะไทเอามาจากไหน ข้อสำคัญที่ควรจะทราบก่อนก็คือ แล้วจะพาเหาะไปไหนคุณพี่ หรือคิดว่าจะหาดาว สักดวงไปพักชั่วคราว ดาวดวงไหนครับท่าน ผมว่าอย่าลงทุนมากขนาดนั้นเลย เสียเวลาเปล่า สู้ทำแบบโนอาไม่ดีหรือ ไหนว่าน้ำจะท่วมโลกอีก ก็คิดแบบโนอา ที่พระเป็นเจ้าแนะนำไง สร้างเรือซิครับ เอาลำใหญ่ๆแข็งแรง พอจะทนคลื่นถาโถมให้ได้ และคงไม่ต้องลำใหญ่ขนาดของโนอาที่พยายามบรรทุกสัตว์นานาชนิดไปด้วย เอาลำใหญ่ขนาดเรือเดินสมุทรจะกี่ลำก็คำนวณเอาตามกำลังของประเทศต่างๆ จะสะดวกกว่ากระมัง แต่ที่น่ากังวลก็คือ จะลอยลำได้นานเท่าใด เพราะดาวเคราะห์ NIBIRU นั้นอ้อยอิ่งอยู่ใกล้ๆโลกนานเสียด้วย ยังไงๆช่วยกันคิดตอนนี้ยังไม่สาย อีกตั้งปีสองปีคงทันการแน่นอน ถ้าเหคุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นจริง – ครับ
Ad Majorem Dei Gloriam --- Alan Petervich
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: 7493
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 06:37:04 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 10:53:03 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 12:00:10 » |
|
มนุษย์ต่างดาวอาสาส่งยานอวกาศมาช่วยมนุษย์ - ตำนาน Aliens Tried to save Human Beings by their Spacecrafts – Legend
ตอนที่แล้วพูดถึงวิธีหลบหนีจากโลกโดยอาศัยพาหนะ ที่น่าจะสามารถบรรทุกมนุษย์พาหลบหนีออกจากโลกเมื่อเกิด กลียุควันโลกาวินาศ อาจารย์สุมิตร อิสรางกูร ณ อยุธยา นักวิทยาศาสตร์ไทยที่เคยทำงานที่องค์การนาซ่า แนะนำวิธีที่ นักวิทยาศาสตร์เชื่อมั่นว่า จะสามารถช่วยให้มนุษย์เอาตัวรอดได้ นั่นคือสร้างยานอวกาศ ลำเลียงมนุษย์ออกไปจากโลก และนี่คือ ที่มาของตำนานเล่าลือกันต่อๆมาว่า มนุษย์ต่างดาวกลุ่มหนึ่งได้ พยายามช่วยโลกมาแล้ว เรื่องนี้มีที่มาจากการเล่าของ Leon Fastinger, Henry Riecken, และ Stanley Schachter ที่ลงบทความในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นนคร Chicago ในปี 1956 เป็นคล้ายคำทำนายที่มาจากดาวเคราะห์ Clarion มนุษย์ต่างดาว เรียกร้องให้คนอเมริกันทั้งเมืองหนีภัยน้ำท่วมโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นโดยด่วน บทความดำเนินเรื่องดังต่อไปนี้ : -
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 12:02:10 » |
|
แม่บ้านชาวชิคาโกนางหนึ่งชื่อ Marion Keech ได้รับสาส์น(สาร) อย่างลึกลับในบ้านของเธอ ซึ่งสารนั้นเขียน”แบบอัตโนมัติ”เอง จากมนุษย์ต่างดาว ชาวดาวพระเคราะห์ Clarion สารนั้นเปิดเผยว่า โลกจะถึงจุดจบด้วยอุทกภัยหรือน้ำท่วมโลกครั้งใหญ่ที่สุด ก่อนรุ่งอรุณ ของวันที่ 21 ธันวาคม 1954 คุณ Keech เล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนๆและ คนรู้จักฟังและมีคนเชื่อเธอหลายคน กลุ่มผู้เชื่อ นำโดยคุณ Keech ได้แสดงความเข้มแข็งยืนหยัดในความเชื่อจากสารบอกเล่านี้ พวกเขาทั้งหมดละทิ้งหน้าที่การงาน สถานศึกษา และคู่รักคู่ครอง ละทิ้งเงินทองและบรรดาทรัพย์สินทั้งหมด เพื่อเตรียมหลบหนีจากโลก อาศัยจานบินอวกาศ ซึ่งชาวดาว Clarion จะส่งมาช่วยผู้เชื่อทุกคนในไม่ช้านี้
เพื่อนฝูงรวมญาติสนิทมิตรสหายหลายคนตกใจในพฤติกรรม ของคุณ Keech ต่างมาอ้อนวอนขอร้องให้พิจารณาให้ดีว่าเป็นไปได้ เช่นนั้นได้อย่างไร พร้อมกับแนะนำให้เลิกความคิดเช่นนั้นเสีย แต่ไม่มีใครสามารถจูงใจคุณ Keech และบรรดาผู้เชื่อทั้งหลาย ให้เปลี่ยนใจและล้มเลิกความตั้งใจแปลกประหลาดนั้นเสีย ทุกคนยัง ตั้งใจแน่วแน่ในความเชื่อนั้น คุณ Leon Fastinger เล่าต่อไปว่า พวกตนนักข่าวทั้งสามได้พยายามแทรกซึมเข้าในกลุ่มนั้นและได้ บันทึกเป้นรายงาน ดังนี้ :
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 12:04:43 » |
|
ก่อนวันที่ 20 ธันวาคม กลุ่มผู้เชื่อถือพากันหลีกเลี่ยงสารธารณชน มีการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์อย่างไม่เต็มใจนัก การเข้าไปในบ้านของ Keech อนุญาตเฉพาะคนที่มีผู้รับรองว่า คนนั้นเป็นผู้เชื่อตามจริงๆ กลุ่มนั้นกำหนดขบวนการเรื่องที่เชื่อ – ตามคำแนะนำโดยอักษรที่ ปรากฏอัตโนมัติของชาวดาว Clarion เพื่ออธิบายรายละเอียดของ คำสอนดังกล่าว ซึ่งเป็นเหตุผลของการเกิดปรากฎการณ์นี้ และ อากับกิริยาซึ่งกลุ่มหวังเต็มเปี่ยมว่าจะถูกช่วยให้รอดจากมหาภัยนี้
20 ธันวาคม 1954 กลุ่มผู้เชื่อ รอคอยแขกผู้จะมาเยี่ยมจากอวกาศ นอกโลก ที่หวังว่าจะมาเรียกพวกเขาเที่ยงคืนตรง พาพวกเขาไปขึ้น ยานอวกาศที่จอดรออยู่ ตามที่ได้รับคำบอก กลุ่มผู้เชื่อต่างปลด เครื่องแต่งกายที่เป็นโลหะจากกายทุกชิ้น เมื่อเวลาเที่ยงคืนใกล้เข้ามา บรรดาซิบ ขอเกี่ยวเสื้อชั้นใน และสิ่งอื่นๆถูกถอดออกเกลี้ยง ทุกคนรอ
12.05 A.M วันที่ 21 ธันวาคม ไม่ปรากฎตัวผู้มาเยี่ยมจากอวกาศ บางคนในกลุ่มสังเกตว่านาฬิกาเรือนอื่นนอกห้องชี้บอกเวลาเพียง 11.55 กลุ่มโล่งใจ เชื่อว่ายังไม่ถึงเวลาเที่ยงคืน
12.10 A.M. นาฬิกาเรือนที่สองตีบอกเวลาเที่ยงคืน ทุกคนหันจ้องไปที่ประตู แต่ไม่มีแขกต่างดาวปรากฏมา ทุกคนนั่งเงียบไม่ไหวติง นั่งเช่นนั้นต่อไป ไม่มีการพูดจากันแต่อย่างใด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2553 12:07:07 » |
|
4.00 A.M. ทุกคนนั่งเงียบอย่างงงงัน มีความพยายามเล็กน้อย ที่จะหาคำอธิบาย แต่ไม่ได้ผล Keech เริ่มร้องไห้ ทำเอาคนอื่นๆ เริ่มร้องไห้ตามไปด้วย ต่างทำอะไรไม่ถูก
4.45 A.M. ปรากฏมีสารเขียนเองแบบอัตโนมัติส่งถึง Keech ยืนยันในผลที่เกิดขึ้นว่า พระเป็นเจ้าผู้ครองโลกได้ตัดสินพระทัยที่ จะไว้ชีวิตมนุษย์และไม่ทำลายโลก วันโลกาวินาศที่กำลังจะเกิดนั้น ถูกระงับไปแล้ว กลุ่มเล็กที่นั่งคอยทั้งคืนไม่หลับไม่นอนนั้นเริ่มเห็น แสงอาทิตย์ยามเช้า แสดงว่าพระเป็นเจ้าได้ระงับแผนทำลายโลกแล้ว
บ่ายวันที่ 21 ธันวาคม 1954 บรรดานักหนังสือพิมพ์ชิคาโกได้รับ การเชิญมาเพื่อการให้สัมภาษณ์ Keech กลับลำจากคำสั่งครั้งก่อน ให้นำเสนอเรื่องดังกล่าวแก่สาธารณชนได้ กลุ่มผู้เชื่อถือโอกาสรณรงค์อย่างรีบร้อน เพื่อแพร่สารออกไปให้ผู้คน ได้ทราบมากเท่าที่จะมากได้ เรื่องนี้เป็นอันสิ้นสุดลงแบบ”หักมุม” หรือ Happy Ending
ที่จบลงนั้นคือ”ตำนาน”ที่มีการเล่ากันต่อๆมาเพื่อผ่อนคลาย หลังจากคร่ำเคร่งเอาจริงเอาจังกับเรื่องวันโลกาวินาศ ความจริงมีอยู่ว่า โลกจะถึงการแตกดับและชีวิตบนโลกจะมลายหายสิ้นไปนั้น มีสาเหตุ น่าจะเป็นสิ่งที่อธิบายได้บ้างไหม และสาเหตุที่จะทำให้โลกแตกดับจริงๆนั้น น่าจะเป็นสาเหตุใดบ้าง กรุณารออ่านคราวหน้า – ครับ
Ad Majorem Dei Gloriam -- Alan Petervich Logged
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
กำลังโหลด...