(3 มิ.ย. 57) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางวรรณี ภาราเริก อายุ 48 ปี อาชีพค้าขาย บ้านเลขที่ 74/13 หมู่ 8 ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เดินทางมายังจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่อาคาร มีดี มีเดีย เรดิโอ จำกัด หมู่บ้านราชพฤกษ์เพื่อให้ประสานกับกรมศิลปากร ที่ 14 ได้นำทองคำแผ่น จำนวน 6 แผ่น ขนาดความกว้าง 9 ซม. ยาว 12 ซม. มีอักขระภาษาจีนอยู่บนแผ่นทองคำทั้ง 6 แผ่น น้ำหนักรวม 2.5 บาท มาแจ้งว่ามีความประสงค์จะนำทองคำแผ่นทั้ง 6 แผ่น มาคืนให้กับสำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช
ทั้่งนี้ นางวรรณี เล่าว่า หลังจากทราบข่าวว่ามีชาวบ้านเขาชัยสน จ.พัทลุง ขุดเจอทองคำแผ่นจำนวนมากในสวนปาล์ม เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนจึงเดินทางไปติดต่อขอซื้อทองคำแผ่นจากชาวบ้านคนหนึ่ง โดยขอซื้อมา 5 แผ่น ในราคา 5.5 หมื่นบาท แล้วนำกลับมาเก็บไว้ที่บ้านพักใน จ.สุราษฎร์ธานี ปรากฏว่าจู่ๆ ก็เกิดปาฏิหาริย์ เมื่อพบว่า ทองคำแผ่นที่ซื้อมานั้นได้งอกเพิ่มมาอีก 1 แผ่น รวมเป็น 6 แผ่น และขณะที่เก็บทองคำแผ่นไว้ในบ้านก็มีปรากฏการณ์ฟ้าร้องฟ้าแลบเกิดขึ้นที่บ้านตนเกือบทุกวัน แม้ว่ากิจการค้าขายของตนเริ่มขายดีขึ้น แต่ก็ยังไม่สบายใจ
เมื่อมีการประกาศให้ผู้ที่ครอบครองทองคำแผ่นที่ได้มาจากการขุดในสวนปาล์มมาคืนให้กับทางราชการเสีย โดยจะมีการซื้อกลับคืน จึงเห็นว่าทองคำแผ่นที่ซื้อมาครอบครองนั้น เป็นสมบัติโบราณและมีความศักดิ์สิทธิ์ กลัวว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้น จึงนำทองคำแผ่นทั้ง 6 แผ่นมาคืน แต่ทางกรมศิลป์จะต้องจ่ายเงินคืนด้วย ไม่เช่นนั้นก็จะไม่คืนทองคำ แต่จะนำไปถวายวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ในช่วงที่จะมีการบูรณะซ่อมแซมพระบรมธาตุเจดีย์ในอนาคตต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายอาณัติ บำรุงวงศ์ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช ได้รับทองคำแผ่นทั้ง 6 แผ่นคืนไว้ และรับปากว่าจะดำเนินการเบิกเงินให้แก่นางวรรณีในภายหลังต่อไป โดยมีการบันทึกปากคำและถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน