[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
23 เมษายน 2567 15:02:50 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ลึกลับแต่สัมผัสได้จริง ใน 'เมียนมาร์'  (อ่าน 7146 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออนไลน์ ออนไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5458


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 10.0 MS Internet Explorer 10.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 15 สิงหาคม 2557 11:16:55 »

.

ลึกลับแต่สัมผัสได้จริง ใน 'เมียนมาร์'
โดย มาตยวงศ์  อมาตยกุล

ใครที่ชื่นชอบในแวดวงโหราศาสตร์ ดูดวงดูหมอ คงจะคุ้นชื่อกันดีกับหมอดูอีที หมอดูชาวพม่าที่ชื่อเสียงโด่งดังก้องโลก ดังซะขนาดไหนคงไม่ต้องไปเอ่ยอ้างถึง

มาลองไปสัมผัสของจริงกันเลยดีกว่า

ครั้งนี้ ผมจะถือโอกาสพาไปรับรู้รับทราบกับประสบการณ์เรื่องราวของแท้ ที่สุดแสนจะแปลกประหลาดภาคพิสดารแบบเหลือเชื่อในเมียนมาร์

ถือว่าเป็นทรัพยากรอันมีค่าอย่างหนึ่งระดับประเทศ ที่ได้รับรู้และมีโอกาสสัมผัสทดทองด้วยตัวเองมาเล่าสู่กันอ่านดูบ้าง ให้มันรู้กันไปเลยว่า ในโลกนี้ ยังมีเรื่องราวที่เราอาจจะคาดเดาไปไม่ถึงหรือหลุดรอดสายตาไปอีกมากมาย ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสในชีวิตของแต่ละบุคคลที่จะได้มีโอกาสประสบพบเห็น

เรื่องบางเรื่องเป็นสิ่งแปลก และอาจจะดูขัดแย้งกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ชนิดที่หากไม่ได้ลองลิ้มชิมดูเอาเองก็คงจะไม่รู้รสชาติ

และสิ่งแปลกๆ อะไรทำนองอย่างนี้ ก็ไม่สามารถจะชิมเผื่อกันได้ซะด้วย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากตัวผมเข้าไปอยู่รับราชการประจำในประเทศเมียนมาร์มาแล้วประมาณสัก ๓ ปี นับถึงวันนี้ก็น่าจะปาเข้าไปสิบกว่าปีเข้าไปแล้ว

ช่วงนั้นก็เคยได้ยินได้ฟังมาบ้างแล้วว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเราชอบเดินทางไปดูหมอดูในเมียนมาร์

รับทราบแล้วก็ให้ความรู้สึกเฉยๆ เพียงแค่ฟังหูไว้หู รับรู้มาก่อนหน้านั้นนานแล้ว แต่ไม่เชื่อไม่ศรัทธาเอาเสียเลยจริงๆ โดยปรกติส่วนตัวผม ก็เป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องอะไรทำนองนี้สักเท่าไรอยู่เป็นทุน

นี่ขนาดเคยบวชเรียนมาแล้ว แถมยังมีองค์สมเด็จพระอุปัชฌาย์ที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นถึงโหรหลวง ก็ยังไม่สามารถจะโน้มน้าวจิตใจให้ไปใส่ใจ หรือเชื่ออย่างสนิทใจได้เลย

มุมมองในแง่ของวิทยาศาสตร์การรวบรวมประมวลผล (Statistical) จากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีตโดยเชิงสถิติ ที่อาจจะมีผลมาจากการโคจรของดาวพระเคราะห์ ยังพอจะยอมรับได้ว่า เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งมีกันมาแต่โบร่ำโบราณ

จะมีใส่ใจบ้างก็แค่เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตครอบครัวและตัวเรา เช่น การตั้งชื่อ การหาฤกษ์หายามเพื่อความสบายใจอะไรทำนองนั้นเสียล่ะมากกว่า

ออกจะนึกดูแคลนตัวหมอดูและคนที่มาดูหมอเสียอีกด้วยซ้ำ ว่าช่างงมงายหลงเชื่อในสิ่งที่เลื่อนลอย คนเราทำไมจะต้องไปเสาะแสวงหาหมอดู หรือให้บุคคลอื่นมาชี้นำชีวิตของตัวเอง

แถมยังเอาคำแนะนำของเขากลับไปประพฤติปฏิบัติ แก้ข้อขัดข้องในชีวิตกันชนิดเป็นตุเป็นตะ เสียเงินเสียทอง

บ่อยครั้งก็เห็นได้ข่าวว่า โดนแก๊งหลอกหลวงต้มตุ๋นจากนักจิตวิทยาพื้นบ้าน ตั้งตนเป็นมนุษย์พันธุ์พิเศษหยั่งรู้ฟ้าดินที่เห็นกันอยู่กลาดเกลื่อน เห็นแล้วช่างน่าเวทนายิ่งนัก

พิจารณาจากความรู้สึกส่วนตัวดูแล้ว สามารถสันนิษฐานในชั้นต้นตามแนวทางด้านจิตวิทยาได้เลยว่าน่าจะเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเอง หูเบาไม่หนักแน่น และมีแนวโน้มว่าจะเชื่อคนง่าย สารพัดจะนึกตำหนิเขาเหล่านั้น ตามหลักความเป็นจริงของโลกสมัยใหม่นี้ แสดงความคิดเห็นกันจะจะอย่างนี้แล้ว

ถ้าหากท่านมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งแตกต่าง ยิ่งต้องอ่านบทความนี้ให้จบ  



วันที่เกิดเป็นปฐมเหตุ มีผู้ใหญ่ระดับสูงท่านหนึ่งเดินทางไปเยือนกรุงย่างกุ้ง ในฐานะที่ทำงานดูแลรับผิดชอบอยู่ในพื้นที่ ผมไปรับท่านที่สนามบิน

ระหว่างนั่งคุยกันไปในรถจากสนามบินเพื่อไปยังโรงแรมที่พัก ท่านก็ได้แจ้งความประสงค์การนัดหมายกับหมอดูชื่อดัง ที่ได้ประสานกันเอาไว้แล้วก่อนหน้าการออกเดินทางมาในเช้าวันรุ่งขึ้น

และได้สอบถามผมรู้จักกับหมอดูคนนี้ไหม  ก็เรียนท่านไปตรงๆ ว่าเคยได้ยินชื่อเขามาโดยตลอด มีคนไทยมาพบอยู่เป็นประจำ แต่ไม่เคยพบเป็นการส่วนตัวเพราะไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องอย่างนี้

ผู้ใหญ่ท่านได้ฟังคำตอบก็คงจะประเมินผมได้ในระดับหนึ่ง ไม่ทราบว่าท่านอาจจะคิดว่าผมปากพล่อยที่ไปแสดงความคิดเห็นที่ขัดแย้งกับความรู้สึกของท่านเข้าหรือเปล่า  

ท่านยิ้มให้และเสริมว่า ดีแล้วล่ะ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้จะให้ได้ทดลองอะไรที่มันแปลกใหม่ดูซะบ้างเพื่อเปิดหูเปิดตา ถือซะว่าเป็นประสบการณ์ในชีวิต

ตอนนั้นผมรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น และยังกะเอาไว้ว่า อาจจะขอตัวท่านเมื่อถึงเวลาจริง เพื่อไม่ให้เสียเวลาของคณะที่จะไปทำภารกิจอื่นที่สำคัญมากกว่า
    

รุ่งขึ้นแต่เช้าตรู่ เราก็ไปตามนัดเวลาคิวแรก ที่บ้านพักของหมอดูอีทีซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองกรุงย่างกุ้ง เป็นบ้านสองชั้นขนาดกลางมีด้วยกันสองหลังอยู่ในพื้นที่ผืนเดียวกัน

การนัดหมายตามขั้นตอนที่เขากำหนด ต้องนัดล่วงหน้าเท่านั้นซึ่งไม่ได้รวมตัวผมอยู่ด้วยเลย

ระหว่างที่ไปนั่งรออยู่ในห้องรับแขกชั้นล่างของบ้าน ก็มีคนมาแจ้งให้ทราบว่าหมอดูเขาพร้อมแล้ว และเชิญให้ขึ้นไปที่ห้องพระซึ่งอยู่บนชั้นสองของตัวบ้าน

ผมและภรรยาซึ่งไปช่วยดูแลคณะให้อีกแรงหนึ่ง ก็เลยถูกผู้ใหญ่ท่านผลักไสให้ขึ้นไปลองของกันก่อนได้เลย พร้อมรอยยิ้มส่งให้อย่างเอ็นดู

ถึงตอนนี้จะปฏิเสธก็ดูจะกระไรอยู่เลยต้องเลยตามเลย

บริเวณในห้องพระชั้นสองมีพื้นที่ไม่ใหญ่โตอะไรมากนัก ครึ่งหนึ่งของห้องเป็นโต๊ะหมู่บูชาพระ ส่วนที่เหลือจัดตั้งเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมไว้ตัวหนึ่งสำหรับให้นั่งลงกับพื้นห้อง

ผมกราบพระพุทธเสร็จแล้วก็เริ่มสำรวจพื้นที่รอบห้อง โดยเน้นเสาะหาดูว่า จะมีสิ่งผิดปรกติอันใดบ้าง ที่เขาจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการทำนายทายทักให้กับเราได้ หรือจะเรียกว่าจ้องจับผิดกันเลยก็ว่าได้

ไม่มีสิ่งใดสะดุดตาที่จะเอื้อประโยชน์ได้เลยนอกจากมีพระพุทธรูปปางต่างๆ หลายองค์ ที่ตั้งบูชาเอาไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แสดงให้เห็นถึงร่องรอยของการเอาใจใส่ดูแลอย่างดีของเจ้าของบ้าน

จากนั้น สักครู่หนึ่ง ตัวหมอดูอีทีซึ่งเป็นคนพิการทั้งมือและเท้า ประกอบกับยังเป็นใบ้และหูดับ ไม่สามารถรับฟังเสียงหรือพูดจาส่งเป็นภาษาได้ ก็เข้ามาพร้อมกับน้องสาวของเขาอีกคนหนึ่งชื่อ “มะตีตี่” (หญิงสาวที่เห็นอยู่ในภาพประกอบ)

น้องสาวคนนี้ จะเป็นเสมือนผู้ช่วย ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ขยายความหรือแปลคำทำนายในกรณีที่สื่อกันด้วยตัวอักษรแล้วยังไม่เข้าใจ

เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรโปรดติดตาม  •


ที่มา คอลัมน์ มุมมองเมียนมาร์ 'ลึกลับแต่สัมผัสได้จริง ในเมียนมาร์' โดย มาตยวงศ์ อมาตยกุล  หนังสือมติชนสุดสัปดาห์ หน้า ๔๔-๔๕ ฉบับประจำวันที่ ๘-๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๗

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 สิงหาคม 2557 15:35:46 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออนไลน์ ออนไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5458


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 17 สิงหาคม 2557 15:41:20 »

.
http://www.matichon.co.th/gallery/fullimages/2012/07/1343043031.jpg
ลึกลับแต่สัมผัสได้จริง ใน 'เมียนมาร์'

ลึกลับแต่สัมผัสได้จริง ใน 'เมียนมาร์' (จบ)
โดย มาตยวงศ์  อมาตยกุล  

บรรยากาศที่บ้านของหมอดูอีที คือเราสี่คนนั่งล้อมโต๊ะสี่เหลี่ยมตัวนั้นกันแบบเผชิญหน้า บนโต๊ะมีกระดาษโน๊ตเปล่าวางไว้ปึกหนึ่งพร้อมปากกาหนึ่งด้าม

หมอดูอีทีเมื่อเข้ามาถึงห้องก็ลงนั่ง ไม่มีการพูดจาสอบถามข้อมูลเบื้องต้นอะไรกันทั้งสิ้น มะตีตี่น้องสาวที่ทำหน้าที่เป็นล่ามก็บอกให้เรานำกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะโดยไม่ต้องเปิดออกแต่อย่างใด

ตัวหมอดูก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง เริ่มขีดเขียนตัวอักษรและตัวเลขลงบนกระดาษโน๊ตที่เตรียมไว้ทันที แบบไม่ต้องมีลีลาหรือคิดมาก ไม่มีคำถามนำ ไม่มีการเตี๊ยมล่วงหน้า

และที่สำคัญคือ ไม่มีชื่ออยู่ในนัดหมายอย่างที่เกริ่นให้ทราบความเป็นมาตั้งแต่ต้น

พอเขียนตัวอักษรและตัวเลขเสร็จเขาก็แจ้งให้เราเปิดกระเป๋าสตางค์เพื่อตรวจสอบดูซิว่า มีธนบัตรใบใดในกระเป๋า ที่มีตัวอักษรและหมายเลขตรงกันกับที่เขาเขียนลงไปในกระดาษบ้างหรือเปล่า

คล้ายๆ กับเป็นการทดสอบความแม่นยำในชั้นต้นอะไรทำนองนั้น

ผมนึกเอาเองในใจขณะนั้นว่า หมอดูคนนี้มาแนวแปลก แต่ก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน และก็ไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้ข้อมูลอะไรแก่เขาได้เลยจึงเปิดกระเป๋าตรวจสอบดู

ในกระเป๋าของผมมีธนบัตรอยู่ ๓ สกุล ทั้งเงินบาทไทย เงินเหรียญสหรัฐ และเงินจาต ของพม่า

ท่าทางการค้นหาอาจจะต้องใช้เวลากันพอสมควรซึ่งเขาคงจะสังเกตเห็นได้ ก็เลยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาและตัดความรำคาญ จึงขยับปากกาเขียนแจ้งลงไปในกระดาษโน้ตเพิ่มเติมว่า “US Dollar

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ หนึ่งในนั้นมีตัวอักษรและตัวเลขอีกแปดหลักที่ตรงกันกับที่เขาเขียนเอาไว้เลย

ฮ้า นี่ถ้าไม่ใช่โดนด้วยตัวเอง ก็ต้องหาว่าเป็นหน้าม้าที่จัดฉากเตรียมการรู้กันเอาไว้ก่อนหน้าเป็นแน่แท้

ยังไม่ทันจะหายมึนงงดี หมอดูอีทีก็เริ่มขีดเขียนต่อโดยเริ่มจากเรื่องราวในอดีตของเราก่อน ว่ากันเป็นฉากๆ ทุกช่วงชีวิตที่สำคัญที่เคยผ่านมา ตอนนี้ยิ่งมึนหนักเข้าไปใหญ่ว่าเขาล่วงรู้ได้อย่างไร

ทุกเรื่องที่เขียนลงบนกระดาษเป็นไปในลักษณะ shot note ภาษาอังกฤษ ใช้คำง่ายๆ ให้เข้าใจได้

ทั้งนี้ ถ้าประเด็นไหนอ่านแล้วยังไม่เข้าใจความหมาย มะตีตี่น้องสาวจะช่วยสื่อสารขยายความให้เข้าใจตรงกัน

ในแง่ของเนื้อหาที่เขียนทำนาย ไม่ต้องมีการตีความสองแง่สามง่ามแต่ประการใด ทุกเรื่องยิ่งเสียกว่าฟันธง เพราะระบุชัดเจนไม่ต้องแปลให้ยุ่งยาก

และที่สำคัญ ทุกเรื่องราวถูกต้องตรงตามเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาจริงในชีวิตผมและภรรยาทุกอย่าง

อะไรจะขนาดนั้น

เสร็จจากเรื่องอดีตก็ตามมาด้วยเรื่องของปัจจุบัน เช่น มีลูกชายชื่อนี้ ลูกสาวชื่อนั้น ตัวสะกดภาษาอังกฤษอาจจะผิดเพี้ยนไปบ้างแต่อ่านแล้วเข้าใจได้เลยว่าเป็นชื่อลูกของเรา ไม่ต้องมาอารัมภบทว่ามีลูกกี่คน ชายหรือหญิง แต่ไล่ชื่อกันมาเลยจะๆ เห็นแล้วขนลุก

แถมยังบอกอุปนิสัยใจคอ สถานะการเรียนการศึกษาพร้อมสรรพ จากนั้น ถึงจะตามมาด้วยเรื่องของในอนาคต

โดยสรุป การทำนายทายทักที่เป็นเรื่องในอดีตและปัจจุบัน ชัดเจนถูกต้องตรงหมดเพราะเราก็รู้ดีอยู่

ส่วนเรื่องในอนาคต คงจะต้องรอผลการพิสูจน์กันต่อไป

พอดูเสร็จล่ามน้องสาวเขาก็ถามว่า เรามีคำถามอะไรจะเพิ่มเติมอีกไหม

เชื่อหรือไม่ครับว่า เขาได้ตอบคำถามทั้งหมดที่เราคิดเอาไว้ในใจไปซะหมดสิ้นแล้ว เลยไม่รู้ว่าอยากจะถามอะไรอีก เหมือนกับเขาทราบมาก่อนล่วงหน้าว่าเราอยากจะรู้เรื่องอะไรบ้าง

เดินกลับลงมาชั้นช่างที่ห้องรับแขกแบบยังไม่หายพิศวงงงงันกับสิ่งที่ได้ประสบพบเห็น ผู้ใหญ่ท่านก็ยิ้มรับและร้องถามแกมหยอกมาว่า “เป็นอย่างไรบ้างล่ะ โดนเข้าไปเต็มๆ ไหม” พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยครับ เพราะมันขัดกับความรู้สึกส่วนตัว และเกินความคาดหมายไปมาก ชนิดที่ไม่สามารถจะกลั่นออกมาเป็นคำพูดได้

จากวันนั้น เวลาผ่านไปสักประมาณเดือนกว่าๆ ผมมีความจำเป็นต้องเดินทางกลับประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมประชุมแผนงานประจำปี

เมื่อถึงสนามบินก็ได้พบกับเจ้าลูกชาย ซึ่งขณะนั้นเขากำลังเรียนอยู่ปีที่ ๒ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขามารอรับที่สนามบิน พบหน้ากันเขาก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อเช้าเขาเพิ่งจะไปดูผลสอบปลายปี ซึ่งผลที่ออกมาเขาสอบผ่านแบบเฉียดฉิว

ผมนี้ขนลุกซู่ นึกย้อนเตือนกลับไปถึงคำทำนายตอนหนึ่งของหมอดูแปลกประหลาดในทันที ก็เขาเคยเขียนบอกเอาไว้ในวันนั้นว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องผลการเรียนของลูกชายนะ เพราะเขาจะสามารถสอบผ่านปลายปีไปได้อย่างฉิวเฉียด

นี่ยังไม่ได้ลงในรายละเอียดที่ว่า เขาเขียนวันเดือนปีเกิดของเราทุกคนในครอบครัวได้อย่างถูกต้อง

รู้แม้แต่ค่าความดันสูงต่ำ ซึ่งตรงกันเป๊ะกับผลการตรวจสุขภาพครั้งล่าสุดจากโรงพยาบาลชั้นนำในกรุงเทพฯ

โลกเรานี้ น่าจะยังมีอะไรๆ อีกมากมายที่ยังรอการพิสูจน์ ยากที่จะอธิบายกันด้วยเหตุและผล ไม่เชื่อก็อย่าได้ไปลบหลู่เข้าเชียว เดี๋ยวอาจจะหน้าแตกอย่างที่ผมไปประสบพบมา

เนื่องจากผมไปทำงานอยู่ในประเทศเมียนมาร์มานานเกือบ ๘ ปี ได้มีโอกาสสัมผัสกับผู้คนมากหลายที่ไปดูหมอดูอีทีคนนี้ เรื่องอดีตกับปัจจุบันพูดตรงกันหมดว่าแม่นยำมาก แต่เรื่องอนาคตบางคนก็บอกว่าตรงบ้างไม่ตรงบ้างซึ่งแตกต่างกันไป

ของคนอื่นผมไม่รู้ชัด แต่ส่วนตัวเจอมาเต็มๆ

รับทราบมาว่า จากรายได้การรับดูหมอทั้งหมด เขาจะกันส่วนหนึ่งเอาไปทำบุญให้กับคนยากคนจน ทั้งการสร้างโรงพยาบาลชุมชนในกรุงย่างกุ้ง เพื่อรักษาพยาบาลให้แก่คนจนด้อยโอกาส การสนับสนุนโรงเจเลี้ยงอาหารให้กับคนยากไร้ที่เมืองปาเต็งบ้านเกิดของเขา

ส่วนกรณีที่ถามถึงสาเหตุของการรับรู้ที่เหมือนตาทิพย์นั้น ทางครอบครัวเขาเล่าให้ฟังว่า สมัยอีทีเป็นเด็ก เขาก็เป็นเสมือนเด็กเล็กธรรมดาทั่วไปในพม่า ไม่มีอะไรผิดปรกติทั้งทางกายและจิตใจ

จนเมื่อเติบโตขึ้นมาก็เกิดป่วยหนักขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ มีอาการไข้ขึ้นสูงมากและทำท่าว่าจะไม่รอดเอาซะด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปรกติธรรมดาอีกเหมือนกันในประเทศเมียนมาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัดห่างไกลความเจริญ ที่ซึ่งขาดในเรื่องของการรักษาพยาบาลและสาธาณูปโภคพื้นฐาน

ประกอบกับทางบ้านก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยแต่ประการใด ที่จะสามารถเข้าถึงสถานพยาบาลที่ดีกว่าในเมืองใหญ่

นี่คงเป็นประเด็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจทำบุญสร้างโรงพยาบาลชุมชนของเขา

หลังจากอาการป่วยหนักที่ดูเหมือนจะไปไม่รอดครั้งนั้น ด้านทางร่างกายกลับเหมือนจะหยุดการเจริญเติบโต มือเท้าเกร็งจนบิดงอใช้การไม่ได้เหมือนที่เคยปรกติ ประสาทหูดับไม่สามารถรับรู้ ประกอบกับหลอดเสียงก็พลอยขาดหายไปด้วย

นับว่ายังดีที่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้ถึงแม้ว่าจะต้องพิการ

ครอบครัวของเขาก็ค่อนข้างจะอบอุ่น ฟูมฟักดูแลกันมาอย่างไม่เคยทอดทิ้ง

เด็กสาวคนนี้จึงยังใช้ชีวิตต่อมาได้ตามอัตภาพ

หลังจากอาการป่วยไข้ครั้งนั้น มีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้คนในครอบครัวต้องแปลกใจกับการรับรู้พิเศษ

อย่างเช่นใครทำของอะไรหายหาไม่เจอ อีทีก็จะบอกให้ไปดูที่นั่นที่นี่โดยใช้ภาษากายเป็นได้เจอะเจอตามนั้น

จนกลายมาเป็นหมอดูชื่อดังจนถึงทุกวันนี้

มีคนบางจำพวก ที่เขาพยายามจะโหนกระแสใช้ประโยชน์จากกรณีนี้ โดยมักจะนำมากล่าวอ้างว่า หมอดูอีทีทำนายทายทักอย่างโน้นอย่างนี้ พาดพิงไปถึงเรื่องทางการเมืองบ้าง บุคคลสำคัญอื่นบ้าง เพื่อให้ขยายเกิดผลดีกับฝ่ายตน หรือไปสร้างผลเสียให้กับผู้อื่น ในเชิงจิตวิทยาก็ดี ในเชิงสัญลักษณ์ก็ดี

จากประสบการณ์ตรงด้วยตัวเองของผมเท่าที่สัมผัสรับรู้มาโดยตลอดระยะเวลานานปี มีความสัมพันธ์ในระดับหนึ่งกับทั้งครอบครัวของเขา ขอรับรองได้เลยครับว่า

เขาจะไม่ไปก้าวก่ายทักทายทำนายไปถึงบุคคลที่สามที่ไม่ใช่ญาติสนิทมิตรสหาย เขาจะไม่ไปแตะต้องเรื่องทางการเมืองของประเทศใดๆ

หรือแม้แต่เรื่องปัญหาภายในส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องอ่อนไหวอย่างกรณีการมีภรรยาน้อย เป็นต้น เขาจะหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะตามมาได้

ซึ่งเขามองว่ากรณีต่างๆ เหล่านี้เป็นบาป ต้องหลีกเลี่ยงละเว้น

ไม่มีกรณีแก้บนทำพิธีสร้างภาพหลอกลวง เพื่อสร้างรายได้เสริมแต่ประการใดทั้งสิ้น

ถ้ามีใครกล่าวอ้างเรื่องอะไรทำนองอย่างนี้ ผมและหมอดูคนนี้นี่แหละจะหักธงว่า “นั่งเทียน”  •



ที่มา คอลัมน์ มุมมองเมียนมาร์ 'ลึกลับแต่สัมผัสได้จริง ในเมียนมาร์' โดย มาตยวงศ์ อมาตยกุล  หนังสือมติชนสุดสัปดาห์ หน้า ๕๓ ฉบับประจำวันที่ ๑๕-๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๗

------------------------

* หมอดูอีที หรือ “ซุย ซุย วิน”  เป็นหมอดูชื่อดังก้องโลก ที่บรรดาคนดังจากทุกแห่งในโลก เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมายังประเทศพม่า เพื่อมาขอให้ท่านทำนายดวงชะตา โดย หมอดูอีที เป็นที่กล่าวขวัญถึงการทำนายที่แม่นยำ และหยั่งรู้อนาคต จนคนที่เดินทางไปดูต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า แม่นอย่างที่ไม่เคยพบเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

หมอดูอีที เป็นหญิงชาวพม่า อายุ ๔๒ ปี ชื่อ อีที (ET) เป็นคำย่อของ อีติ (E Thi) หรือ มะขุ่ย ลักษณะร่างกายนั้น เป็นหญิงรูปร่างเล็ก เป็นใบ้ หลังค่อม นิ้วคด เท้าพลิก มือเกร็ง ว่ากันว่าหมอดูอีทีคนนี้ สามารถทำนายโชคชะตา ดูดวงบ้าน ดูดวงเมือง ได้แม่นราวกับตาเห็น ซึ่งบรรดานักการเมืองระดับบิ๊กเบิ้มจากทั่วโลก ต่างเดินทางมาให้หมอดูอีที ช่วยทำนายดวงให้ ไม่เว้นแม้แต่นักการเมืองไทย หรือนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของบ้านเรา โดยอัตราการดูหมอนั้น คิดค่าบริการครั้งละ 1,000 US  คิดเป็นเงินไทยประมาณ ๓๐,๐๐๐ บาท ส่วนคิดการดูดวงกับหมอดูอีทีนั้น ต้องต่อคิวยาวหลายเดือน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 สิงหาคม 2557 15:43:11 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.42 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 18 เมษายน 2567 00:04:21