[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
27 เมษายน 2567 08:38:45 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue) (ผู้ดูแล: มดเอ๊ก)


.:::

อ.วิศิษฐ์ พูดถึงงานเขียนของ อ.วรภัทร์

:::.
หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อ.วิศิษฐ์ พูดถึงงานเขียนของ อ.วรภัทร์  (อ่าน 2319 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
Moderator
นักโพสท์ระดับ 14
*****

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5065


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2553 08:49:59 »




วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

อ่านหนังสือของดร. วรภัทร ภู่เจริญ
Learn How to Learn และ Dialogue

ตอนแรก ๆ ที่ผมรู้จักต่าย (คือใครมาคบกับเรา เราพากันเรียกชื่อเล่นของกันและกัน แล้วก็พลอยตัดคำนำหน้าออกไป ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ พี่ป้า ดร. อะไรต่ออะไรออกไปด้วย) ผมไม่ค่อยกล้า แต่ต่ายเป็นคนพูดเร็ว เห็นชัด ๆ ว่ากระทิงเปลี่ยว ก่อนหน้านั้นเขาก็คบกับณัฐหลานชายผมมาพอสมควรแล้ว ก็ได้กิตติศัพท์ผ่านมาทางณัฐอีกทางหนึ่ง ปีใหม่ปีแรกที่ต่ายขึ้นมาหาผม แม้บุคลิกจะนอบน้อมให้เกียรติผม แต่ผมกลายเป็นผู้ฟังต่ายพูดเสียส่วนใหญ่ ปีแรก เราเจอกันสั้น ๆ แล้วต่ายก็ไปต่อ

ปีที่สอง ต่ายมายาวเลย หลายวัน การพูดและการฟังได้ดุลยิ่งขึ้น ไม่ขาดดุลมากมายอย่างคราวก่อน (เป็นปีใหม่ปีนี้เองน่ะครับ) ต่ายเข้าร่วมเวิร์คชอบด้วย และได้เชิญให้เขาเข้ามาร่วมเป็นกระบวนกร และวิทยากร ก็ได้สดับความคิดเห็นของเขา และมีกิจกรรมเบญจขันธ์มาฝากด้วย ไม่เลวเลย

หนังสือก่อนหน้านี้ สารภาพว่า ไม่ค่อยได้อ่านของเขา แต่ตั้งแต่เล่ม Learn How to Learn ขอโทษนะ ผมเอาหนังสือของต่ายไว้ในห้องน้ำข้างล่าง เลยได้อ่าน บางทีมันยากอยู่เหมือนกัน ที่ระดับอาจารย์จะมาอ่านหนังสือของกันและกัน หากเราควรฝึกความอ่อนน้อม และเปิดใจ พร้อมจะเรียนจากคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ผมก็เลยได้อ่านงานเขียนของต่าย ทีละหน้าสองหน้า (คือผมไม่ใช่คนท้องผูกน่ะครับ) ดีครับหนังสือเล่มนี้ งานของต่ายสั้น ๆ เรียบง่าย ตรงประเด็นตามบุคลิกของกระทิง ประเด็นคม ๆ เข้าเป้า ไม่เสียเวลา มีความลุ่มลึกในเนื้อหาด้วยครับ ที่เขียนอย่างนี้ จะหาทางเอาหนังสือมาช่วยขายที่ห้องนั่งเล่น เดี๋ยวจะให้ใครติดต่อไปที่อริยชนดีไหมครับต่าย?

Dialogue เป็นเล่มที่ตามมาอย่างรวดเร็ว เรียกว่าเสือปืนไวน่ะครับ ผมว่าเล่มนี้ใช้ได้เลย ผมอยากแนะนำให้คนทั้งประเทศอ่าน โดยเฉพาะผู้บริหาร และถ้าไม่มีเวลาให้เอาไปทิ้งไว้ในห้องน้ำ อย่างที่ผมทำก็ได้ครับ รับรองไม่ผิดหวัง มีคนพูดเรื่อง Dialogue กันมาก อย่างสับสนปนเป ส่วนเล่มนี้ของต่ายนั้น หนึ่ง ไม่สับสน สอง ตรงไปตรงมา สาม อุดมด้วยปัญญา ลุ่มลึก ผมชอบการประเมินผลไดอะล็อคที่ต่ายพูดถึงไว้ในหนังสือเล่มนี้ ผู้บริหารทุกคนควรอ่านอย่างยิ่งครับ ไดอะล็อคประเมินผลได้ไหม? ๕๕๕๕ ติดตามอ่านกันเอาเองก็แล้วกันครับ

เมื่อวาน ผมก็คุยกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง เป็นสมาชิกหิงห้อยออนไลน์กับเพื่อน ๆ ของเขา คือ จี ยุ้ย และมน พวกเขาอยู่ในค่ายมวย(ที่จริงคือสำนักเรียน)ของต่าย หรืออาจารย์ วรภัทร ภู่เจริญ พวกเขาคุยให้ฟังว่า ต่ายว่า กระบวนการเรียนรู้(ของใหญ่) ทำไมต้องร้องไห้ด้วยล่ะ สุ้มเสียงของน้อง ๆ ที่เล่า เหมือนว่า ต่ายจะไม่เห็นด้วย กับกิจกรรมที่ทำให้ร้องไห้ ยุ้ยเองก็ตอบได้ดีกับคำถามนี้ คือหนึ่ง ยุ้ยไม่เห็นว่า การร้องไห้เป็นอาการเศร้าโศกแบบไม่สามารถควบคุมตนเองได้ หรือเป็นอาการอ่อนแออย่างถึงที่สุด หากเป็นปิติอันเกิดจากการค้นพบอะไรบางอย่างในโลกภายในมากกว่า ต่ายเคยพูดกับพวกเขาว่า ทำไมต้องค้นอะไรไปลึก ๆ มากมายด้วย (อันนั้นอาจจะพูดมานานแล้ว ตอนนี้ ต่ายก็อาจจะไปไกลเกินจุดนี้แล้วก็ได้ แต่น่าสังเกตคือ ครูศิษย์มีโอกาสคุยกันจริง ๆ ลึก ๆ มากน้อยแค่ไหน?) ครับ มันก็พอดีมาตรงกับที่ดา(สุชาดา) เขียนไว้ในกระทู้ที่ยกมานี้ คือเราจะค้นลงไปลึกแค่ไหน เราจะพร้อมไหมกับการค้นลงไป แน่นอนหากเราพร้อมกับการค้นลงไป กับการเผชิญกับตัวตนของเรา ซึ่งอาจจะมีอะไรติดลบ  ๆ มากมายด้วย มันก็อาจไม่ได้ช่วยอะไรเรา ดาเลยมาถึงข้อสรุปของนักไต่ลวด แต่นักไต่ลวดมีไม้ยาวช่วยทำสมดุล ระหว่าง การค้นลึกลงไป กับการใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบันขณะ แต่น่าสงสัยไม้ยาวนั้นเล่าจะเป็นอะไรได้

หล่อเลี้ยงความสุขและการตื่นรู้

ผมนึกถึง “ความสุข” การหล่อเลี้ยงความสุข

เล่าเรื่องว่า ชีวิต หรือจิตใจของเรา ก็คือสวน(เอามาจากสู่ชีวิตอันอุดมของติช นัท ฮันห์-ซึ่งอาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์ว่าเป็นหนังสือที่ดีที่สุดของท่าน) เราจะรดน้ำพรวนดินเอาใจใส่กับต้นไม้อะไร ก็จะทำให้ต้นไม้พันธุ์ไม้นั้น ๆ งอกงาม หากเราดำรงอยู่กับปัจจุบัน ให้ความใส่ใจกับพันธุ์ไม้ดี ๆ ในสวนของเรา ผมนึกถึงย้ง สมาชิกหิงห้อยออนไลน์คนใหม่ของเรา มาจากกลุ่มกิ่งมะกอก หนึ่งในทีมของคุณมาติน่า ย้งบอกว่า บางทีก็มีความสุขกับชีวิต บางทีก็ตกไปในห้วงสับสนจนไม่รู้ว่าตัวเองคือใคร ตอนนี้ ผมขอแนะนำว่า ให้ค่อย ๆ หล่อเลี้ยง “ความสุข” นี้เอาไว้ สุขอย่างตื่นรู้ สุขโดยไม่ต้องเสพ หากดำรงอยู่ในปัจจุบันขณะนั้น ๆ และได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่

เมื่อสั่งสมความสุขและการตื่นรู้ขึ้นมาได้อย่างพอเพียง เราก็จะไปดู เข้าไปดู อาจารย์สุลักษณ์ใช้คำว่า “ล้วงลึก” เข้าไป ในจิตใจ ในอดีต ในความทุกข์เดิม ๆ ของเรา เพื่อจะไป “คลายปม” “เยียวยาปมในอดีต” ที่มีต่อเรื่องราวต่าง ๆ แต่ตรงนั้น เราต้องมี “ความสุข” เพียงพอ ฝึกฝนความตื่นรู้ในปัจจุบันขณะเพียงพอเสียก่อน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าพร้อมหรือไม่ ครับ ไม่ต้องห่วง ถึงเวลาเราก็รู้เอง


ถอนตัวจากข้อสรุปในอดีต

เมื่อเราพร้อมแล้ว เราก็สามารถเข้าไปทำงานกับตัวเองได้ ด้วยกระบวนการ ถอนตัวจากข้อสรุปในอดีต ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่า มันสร้างขึ้นมาอย่างไร เจ้าอาการเข้าไปสรุปเหตุการณ์ในอดีตนี้น่ะ มาดูกัน

เมื่อเราเจอเหตุการณ์เรามักจะสรุปมัน ให้ความหมายมัน แล้วสิ่งที่เราสรุปนั่นแหละ สิ่งที่เราให้ความหมายนั่นแหละได้มาเกาะกุมความคิด ทัศนคติ ความเชื่อ เราให้ชื่อกระบวนการสรุปนี้ว่า sum over history หรือการเข้าไปสรุปประวัติความเป็นมา ของเรา

การกลับไปมองประวัติในอดีตขอบตัวตนของเรานี้สำคัญมาก เมื่อเราคลายออกจากการสรุป ประวัติศาสตร์ เราก็เป็นอ ิสระจาก "การสรุป" นั้น ๆ แล้วฉับพลัน เราก็เห็นความเป็นไปได้อีกมากหลาย เราเห็นโอกาสการตีความอีกเอนกอนันต์ ความเป็นไปได้เหล่านั้น ได้ให้โอกาสอันยิ่งใหญ่แก่ชีวิตของเราอีกครั้งหนึ่ง  เช่นนี้แหละ อันนี้แหละที่เป็นตัวอย่างว่า เราไปแก้ไขอดีตได้

เราไปเยียวยาอดีตได้
เราไปเปลี่ยนอดีตได้
เราไปเปลี่ยนกรรม หรือแก้กรรมในอดีตได้
วิเศษยิ่งนักใช่ไหม?

Ref: www.wongnamcha.com


http://www.managerroom.com/forums/forum_posts.asp?TID=7270&PN=1


บอร์ด อาจารย์ วรภัทร

http://www.managerroom.com/forums/default.asp

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 พฤศจิกายน 2554 16:41:50 โดย มดเอ๊ก » บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
น้ำครึ่งแก้ว : เรียนรู้สุนทรียสนทนาจาก วิศิษฐ์ วังวิญญู
ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
มดเอ๊ก 0 2638 กระทู้ล่าสุด 04 กรกฎาคม 2559 06:10:09
โดย มดเอ๊ก
จิตวิวัฒน์ : สมองส่วนหน้าที่รัก ( วิศิษฐ์ วังวิญญู )
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก 0 1709 กระทู้ล่าสุด 02 กันยายน 2559 03:02:36
โดย มดเอ๊ก
จิตวิวัฒน์ : ผู้ประกอบการความสุข (วิศิษฐ์ วังวิญญู)
กระบวนการ NEW AGE
มดเอ๊ก 0 1733 กระทู้ล่าสุด 02 กันยายน 2559 03:12:53
โดย มดเอ๊ก
พระราชสารโสภณ (วิศิษฐ์ อธิปปัญโญ)วัดจอมไตร (วัดเจาะ) ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง
ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
ใบบุญ 0 1045 กระทู้ล่าสุด 02 กันยายน 2560 12:36:26
โดย ใบบุญ
พระราชสารโสภณ (วิศิษฐ์ อธิปปัญโญ) วัดจอมไตร (วัดเจาะ) อ.นาโยง จ.ตรัง
ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
ใบบุญ 0 507 กระทู้ล่าสุด 16 พฤษภาคม 2564 14:10:27
โดย ใบบุญ
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.277 วินาที กับ 35 คำสั่ง

Google visited last this page 26 กุมภาพันธ์ 2567 06:23:59