[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 เมษายน 2567 22:10:25 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เมียพรายนางตานี  (อ่าน 3903 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Maintenence
ผู้ดูแลระบบ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 1017


[• บำรุงรักษา •]

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 37.0.2062.120 Chrome 37.0.2062.120


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 23 กันยายน 2557 17:03:50 »



เมียพรายตานี

งานนิพนธ์ชุดสมบูรณ์ จัดพิมพ์ ในวาระครบ ๑๐๐ ปี ศาสตราจารย์ พระยาอนุมานราชธน (ยง เสฐียรโกเศศ) พ.ศ.๒๕๓๓ เล่ม ชีวิตคนไทยสมัยก่อน อาจารย์พระยาอนุมานราชธน เขียนเรื่อง การนับถือผี ตอน ผีนางพรายตานี
 
รู้กันในหมู่คนรุ่นเก่า กล้วยตานี มีเรียกว่า พรายนางตานี (พรายเป็นผีอะไรก็ไม่ทราบ ไทยใหญ่มีคำว่าผีพาย แปลว่าผีร้าย)
 
พรายนางตานี หน้าตาสวย มีกลิ่นตัวหอม ไว้ผมยาว ฝ่ามือฝ่าเท้าแดงอ่อนๆ ริมฝีปากมีสีเหมือนตำลึงสุก ถ้ากล้วยตานีมีลำต้นอวบอ้วน พรายนางตานีก็ทรงท้วม ถ้าลำต้นกล้วยโปร่งเปลา พรายนางตานีก็ทรงฉลวย
 
เหตุที่พรายนางตานีเป็นผี ชาวบ้านจึงไม่กล้าปลูกกล้วยตานีไว้ใกล้เรือน
 
แต่แม้จะปลูกไว้ไกลเรือน ถ้าจะตัดเอาใบตองไปใช้ ก็ห้ามตัดเอาไปทั้งใบ ต้องเจียนเอามาแต่ใบตอง หรือไม่ก็ต้องหักก้านหรือแกนใบให้ชำรุดเสียก่อน
 
ขืนตัดเอามาในเรือนทั้งใบ ถ้าเขาถือก็อาจโกรธได้ ด้วยเป็นเครื่องบอกลางร้าย จะมีใครตายในบ้านนั้นในไม่ช้า
 
ทั้งนี้ เนื่องจากคติเดิม ใช้ใบตองตานีสามใบรองก้นโลงศพ
 
ถึงคราวออกปลี ก็มีพิธีพลีนางพรายตานี เครื่องพลีมีหัวหมูบายศรี สำรับคาวหวาน ของหวานมีขนมต้มขนมแดง นอกจากนี้ยังมีข้าวตอกดอกไม้ธูปเทียน น้ำหอมเครื่องหอม มีแป้งกระแจะจันทน์
 
เอาแหวนและสายสร้อยทองคำ ไปคล้องที่งวงปลีกล้วย เป็นเครื่องประดับ
 
นำผ้าผืนหนึ่งจะสีแดงหรือสีอะไรก็ได้ ไปพันรอบต้นกล้วยตานี เป็นต่างว่าได้นุ่งห่มให้แก่พรายนางตานี เสร็จแล้วผู้ทำพิธีกล่าวเชื้อเชิญพรายนางตานี ขอให้มีลาภ ขอให้คุ้มครองรักษาคนในบ้าน
 
ลางทีก็นิมนต์พระสงฆ์ไปสวดมนต์ทำบุญด้วย เป็นคติอย่างที่กล่าวว่า พุทธกับไสย์ย่อมพึ่งพาอาศัยกัน
 
หมอที่ทำพิธี บางครั้งเมื่อเซ่นวักแล้ว ก็นำเอาดอกในปลีไปตากแห้ง บดให้เป็นผงผสมกับผงอิธเจ ใช้ในทางให้เกิดเสน่ห์ เป็นเมตตามหานิยม
 
บางทีก็เอาดอกปลีกล้วยไปใส่ไว้ในตลับขี้ผึ้งสีปาก ซึ่งปลุกเสกแล้ว ใช้ไปในทางเมตตามหานิยมเช่นเดียวกัน
 
แต่ถ้ากล้วยตานีที่ทำพิธีเซ่นวักแล้ว เกิดออกปลีกลางต้น ก็ถือกันว่ากล้วยตานี เกิดมีพรายนางตานี ถือเป็นเรื่องไม่ดี ก็ต้องทำพิธีเซ่นวักซ้ำ เพื่อให้เกิดเป็นสวัสดิมงคล
 
ต้นกล้วยตานีที่ออกปลีกลางต้น คนหนุ่มๆ ที่ยังเป็นโสด ถ้าเป็นผู้รู้เรื่องพรายนางตานี ก็จะไปทำพิธีเซ่นวัก ในเวลากลางคืน ทุกคืน หรือสุดแล้วแต่โอกาสจะอำนวยให้
 
พอไปถึงก็กล่าวคำเกี้ยว ประเล้าประโลมพรายนางตานี เกี้ยวแล้วก็เกี้ยวเล่า ตั้งความเพียรเอาไว้จนกว่านางพรายตานีจะใจอ่อน เห็นอกเห็นใจ
 
เมื่อนึกเอาเองว่าเป็นเช่นนั้น จนแน่ใจ ก็จะใช้มีดหมอ ตัดเฉือนโคนกล้วยที่มีลักษณะเป็นเหง้า เอามาก้อนหนึ่ง แกะเป็นรูปผู้หญิง ระหว่างแกะก็เสกคาถา แกะเสร็จใส่ตลับเอาไว้ แล้วเซ่นวักทุกเช้าเย็น
 
ทำอยู่อย่างนี้หลายๆ วัน จนพรายนางตานีก็จะมาปรากฏร่างให้เห็นในความฝัน
 
ผู้หญิงสาวคนนั้น รูปร่างหน้าตาสวยงาม สมดั่งที่จินตนาการ แล้วนางก็จะยอมเป็นเมีย ซึ่งก็เป็นเมียในฝันอีกเหมือนกัน
 
เมื่อได้นางพรายตานีเป็นเมีย ชายคนนั้นจะไปมีเมียอื่นอีกไม่ได้ ถ้ามีก็จะเป็นอันตราย
 
แต่ถ้าต้องการได้เมียจริงๆ ก็อาจทำได้ โดยการบอกเล่าเก้าสิบ ขออนุญาตนางพรายตานีเสียก่อน นางพรายตานีเป็นเมียที่ดี เมื่อเห็นสามีซื่อสัตย์ ไม่ปิดบัง ก็จะอนุญาต ซ้ำอาจจะช่วยเหลือให้การมีเมียใหม่ สำเร็จไปได้ด้วยดี
 
ไม่หึงหวง แยกเขี้ยวหรือร้องไห้ ตีโพยตีพายเหมือนเมียมนุษย์
 
เรื่องนางพรายตานี ได้ข้อมูลจาก นายหรีด เรืองฤทธิ์ มีเพียงเท่านี้ อาจารย์พระยาอนุมานราชธน บอกว่า ที่จริงก็เป็นเรื่องที่ทราบกันอยู่เป็นเงาๆ แล้ว จึงขอบันทึกไว้ ดีกว่าจะให้สูญไป
 
เรื่องนางพรายตานี เป็นเรื่องจินตนาการ เป็นบ่อเกิดของศิลปะและวรรณคดี
 
เป็นจริงทางจิตใจ เกี่ยวกับเรื่องอารมณ์และความรู้สึก ไม่ใช่ความจริงทางปัญญาเกี่ยวกับเรื่องเหตุผลข้อเท็จจริง แยกกันอยู่อย่างนี้
 
มีอย่างใดแต่อย่างเดียว ก็เป็นความไม่สมบูรณ์ในความเป็นคน ซึ่งยังเป็นปุถุชนอยู่
 
อาจารย์พระยาอนุมานราชธน ทิ้งท้ายให้คิดว่า ความจริงมีเป็นชั้น เหมือนอย่างชั้นในโรงเรียนฉะนั้น.



ไทยรัฐออนไลน์

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

[• สุขใจ บำรุงรักษาระบบ •]
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.247 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 24 มีนาคม 2567 17:36:41