[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 02:08:50 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุผลหลักที่ศาสนาพุทธแตกแยกเป็นเถรวาท และ มหายาน  (อ่าน 11726 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2553 14:44:10 »

เหตผลหลักที่ ศาสนาพุทธ แตกแยกเป็นเถรวาท และ มหายาน เพราะเริ่มต้นที่จุดแตกต่างกัน



วันนี้ผมจะขอเล่าเรื่องจริงเกี่ยวกับนิกายมหายาน และนิกายเถรวาท ที่แยกกันออกไปเพราะอะไร?

ก่อนอื่น ขอถามคุณก่อนว่า พวกเสื้อเหลือง พวกเสื้อแดง พวกเสื้อหลากสี พวกทหารที่ฆ่าประชาชน  เป็นคนไทยหรือเปล่า?  ก็เป็นคนไทยทั้งนั้น  แต่อุดมการและความคิดเห็นต่างกันใช่ไหม?

สมัยพระพุทธเจ้า ยังไม่ละสังขาร  สาวกทุกคนก็ถือว่าเป็นลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้า เป็นสาวกของศาสนาพุทธทั้งนั้น   แต่อุดมการและความคิดเห็นต่างกันเท่านั้นใช่ไหม?


พระพุทธเจ้าสอนธรรมะให้แต่ละคนต่างกัน ตามอุดมการและความคิดเห็นของสาวกที่ต่างกัน    แยกเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้ 2 กลุ่ม


1. สาวกกลุ่มที่ต้องการดับทุกข์อย่างเดียว  สนใจน้อย หรือยังไม่สนใจว่าใครเป็นผู้ยิงศรใส่เรา  คือ สนใจน้อย หรือยังไม่สนใจเรื่องพระเจ้า  เรื่องพวกนั้นเอาไม่ทีหลัง  แต่ตอนนี้เอาแค่ดับทุกข์ให้ได้ก่อน  เรียกในภายหลังว่า นิกายเถรวาท

สนใจน้อย = พระพุทธเจ้าจึงเพียงสอนให้ว่า  เริ่มต้นแต่เดิม เราทุกจิต ล้วนเป็นปภัสสร แต่ไปหลงในอวิชชา จึงเกิดปฏิจจสมุปบาท

ไม่สนใจเรื่องผู้ยิงศรหรือพระเจ้า  =  พระพุทธเจ้าจึงสอนเริ่มต้นที่ กลไกของปฏิจจสมุปบาท

นิกายเถรวาท แท้จริงแล้วเป็นนิกายของเหล่าสาวกต่างๆ  ที่รวมตัวกันได้  เพราะเป็นกลุ่มที่สนใจ ต้องการดับทุกข์อย่างเดียว  และสนใจน้อย หรือยังไม่สนใจว่าใครเป็นผู้ยิงศรใส่เรา  (คือ ไม่สนใจเรื่องพระเจ้า)  เรื่องพวกนั้นเอาไม่ทีหลัง  แต่ตอนนี้เอาแค่ดับทุกข์ให้ได้ก่อน

เรืองที่บอกว่า  นิกายเถรวาท ยึดตัวบท เป็นใหญ่ เพื่อป้องกันการคลาดเคลื่อนในอนาคต  ส่วนนิกายมหายาน ถือการตีความคำสอนของพระพุทธเจ้าตามครูบาอาจารย์ตนเป็นใหญ่  เป็นคำสอนที่พญามารหลอกลวงเราโดยผ่านสมมุติสงฆ์ ผู้เข้าไม่ถึงธรรม ให้ไปบอกต่อให้ประชาชนต่อไป

โดยความเป็นจริงแล้ว  เถรวาทและมหายาน ทุกฝ่ายก็นำพุทธพจน์คำสอนของพระพุทธเจ้ามาแสดงทั้งนั้น 


2. นิกายที่มีความอยากรู้อยากเห็น สนใจว่าใครเป็นผู้ยิงศรใส่เรา  คือ สนใจเรื่องพระเจ้า มีพระเจ้าไหม?  เมื่อความอยากรู้อยากเห็นได้รับคำตอบในระดับที่ตนเองต้องการแล้ว  จึงค่อยมาหาทางดับทุกข์ต่อไป

แต่เดิมสาวกพวกนี้ พระพุทธเจ้าสอนเรื่องในระดับผู้ยิงสอนไปให้แตกต่างกันเกือบ 20 คำสอน ขึ้นอยู่กับความอยากรู้อยากเห็นของสาวกแต่ละพวกว่า ต้องการรู้ระดับที่ลึกถึงจุดใด  สาวกพวกนี้คือมหาสังฆิกะ หรืออาจริยวาท

ต่อมาในพศ.5  มีพระอรหันต์ที่นำคำสอนเกือบ 20 คำสอน มาเทียบกัน จึงพบว่า ผู้ยิงสอนเป็นผู้เดียวกัน  พระพุทธเจ้าแค่เรียกชื่อต่างกันไปเท่านั้น  แต่พระองค์ท่านไม่เรียกว่าพระเจ้า เท่านั้น  เพราะกลัวมนุษย์จะเข้าใจผิดว่า มีการสร้างอะไรที่เป็นอัตตาหรือตัวตนของจริงใน 3 ภพ

พระพุทธเจ้า ท่านเรียกผู้ยิงศรนั้นว่า - "พุทธะ" หรือพระพุทธเจ้าต้นธาตุ-ต้นธรรม  อาทิพุทธเจ้า  ธรรมกายพุทธภาวะเริ่มต้น พระไวโรจนพุทธเจ้า ฯลฯ -  เพื่อผู้ที่เข้าถึงธรรมจะได้รู้ว่า อัตตาหรือตัวตนของจริงใน 3 ภพไม่มี  มันเป็นแค่อัตตานุทิฏฐิหรือสิ่งมายาหรืออนัตตาเท่านั้น  พวกเราล้วนอยู่ในโลกมายาหรือโลกแห่งจินตนาการของจิตเท่านั้น

ในปฐมสังคายนา  ศิษย์เถรวาทและมหายานยังไม่แตกแยกกัน  เพราะมีแต่พระอรหันต์ที่มีอภิญญา 6 ครบถ้วนเท่านั้น ที่เข้าร่วมในปฐมสังคายนา  พระอรหันต์ที่มีอภิญญา 6 ครบถ้วน ต่างรู้ว่า  ที่สาวกฝ่ายต่างๆรับรู้แตกต่างกัน  เพราะพระพุทธเจ้าตรัสสอนให้สาวกแต่ละฝ่าย ในจุดที่เริ่มต้นแตกต่างกัน คือ

เถรวาท - เริ่มต้นที่อวิชชา และปฏิจจสมุปบาท  บางนิกายของเถรวาท พระพุทธองค์ก็สอนให้เริ่มต้นที่ตอนเป็นจิตปภัสสรอยู่ ก่อนถูกอวิชชาครอบงำ

มหายาน - เริ่มต้นที่ก่อนอวิชชา  ตอนที่พวกเราเป็นจิตปภัสสรอยู่ในนิพพาน  บางนิกายของมหายาน  พระพุทธองค์ก็สอนให้เริ่มต้นไกลถึงจุดที่พวกเราเป็นอณูตางๆของสิ่งเดียวกัน ที่ชาวโลกเรียกว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า แต่พระพุทธเจ้าเรียกว่า "พุทธะ หรือ พระพุทธเจ้าต้นธาตุ-ต้นธรรม  หรือ อาทิพุทธเจ้า  หรือ ธรรมกายพุทธภาวะเริ่มต้น หรือ พระไวโรจนพุทธเจ้า"

อย่างไรก็ตาม  ในการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 2 เมื่อมีการใช้กฎหมู่ไปอนุญาตให้พระอรหันต์ที่มีอภิญญาไม่ครบ  โดยเฉพาะพระอรหันต์สุขวิปัสสโก และผู้ที่ไม่ใช่พระอรหันต์เข้าร่วมด้วยได้  คนเหล่านี้เขาจะไปรู้เรื่องจุดเริ่มต้นที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนให้แต่ละนิกายต่างกันได้อย่างไร  เขาก็เอาเฉพาะที่พระพุทธเจ้าสอนให้เขาเท่านั้น  เรื่องที่สอนให้สาวกฝ่ายมหาสังฆิกะ หรืออาจริยวาท มันเกินกว่าที่เขาจะยอมรับได้  เขายอมรับแค่ที่เขาได้ยินจากพระพุทธเจ้าเท่านั้น  ที่พระพุทธเจ้าสอนให้สาวกฝ่ายมหาสังฆิกะ หรืออาจริยวาท เขาจึงไม่ยอมรับ 


สรุป


ศาสนาพุทธที่แตกแยกเป็นนิกายเถรวาท และนิกายมหายาน เพราะพุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะสมมุติสงฆ์ ล้วนไม่เข้าใจว่า พระพุทธองค์สอนสาวกฝ่ายเถรวาท และฝ่ายมหายาน เริ่มต้นที่จุดแตกต่างกัน:

นิกายเถรวาท เริ่มต้นที่อวิชชา และปฏิจจสมุปบาท  บางนิกายของเถรวาท พระพุทธองค์ก็สอนให้เริ่มต้นที่ตอนเป็นจิตปภัสสรอยู่ ก่อนถูกอวิชชาครอบงำ

นิกายมหายาน เริ่มต้นที่ก่อนอวิชชา  ตอนที่พวกเราเป็นจิตปภัสสรอยู่ในนิพพาน  บางนิกายของมหายาน  พระพุทธองค์ก็สอนให้เริ่มต้นไกลถึงจุดที่พวกเราเป็นอณูตางๆของสิ่งเดียวกัน ที่ชาวโลกเรียกว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า แต่พระพุทธเจ้าเรียกว่า "พุทธะ หรือ พระพุทธเจ้าต้นธาตุ-ต้นธรรม  หรือ อาทิพุทธเจ้า  หรือ ธรรมกายพุทธภาวะเริ่มต้น หรือ พระไวโรจนพุทธเจ้า"

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2553 15:16:55 »

อ้างอิงคำพูด

ที่คุณหนูphonsak อ้างมา เล่ามาเรืองมหายานเถรวาท

คงจะมีคนเป็นเลิศ มากกว่าพระอานนท์
เลยจดจำ คำสอน ที่พระอานนท์ ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ยินมาเล่าเป็นตุเป็นตะ ได้

ลองเอาคนนั้น   มาแสดงตนหน่อย ว่า ผู้นั่นเป็นใคร

ที่สามารถจดจำคำสอน ที่พระพุทธเจ้า สอนได้ มากกว่าพระอานนท์
เอามาแสดง ตัวหน่อยครับ

ยกพระไตรปิฎก มาแสดงด้วย ว่าคนที่จดจำคำสอน ที่พระอานนท์จำไม่ได้ คนนั้นเป็นใคร

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 พฤศจิกายน 2553 15:19:10 โดย armageddon » บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2553 15:29:09 »

พระอานนท์

ได้รับยกย่องหลายตำแหน่ง
พระอานนท์เถระ ได้ปฏิบัติพระพุทธองค์อย่างใกล้ชิด มิได้ประมาทพลาดพลั้ง ได้ฟัง
พระธรรมเทศนาทั้งที่ทรงแสดงแก่ตนและผู้อื่น ทั้งที่แสดงต่อหน้าและลับหลัง อีกทั้งท่านเป็นผู้
มีสติปัญญาทรงจำไว้ได้มาก จึงเป็นผู้ฉลาดในการแสดงธรรม พระบรมศาสดาทรงยกย่องท่าน
ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งปวง ถึง ๕ ประการ คือ เป็นพหูสูต เป็นผู้มีสติ เป็นผู้
มีคติ เป็นผู้มีความเพียร และเป็นพุทธอุปัฏฐาก

และพระอานนท์ ก้ปรินิพพานในเถรวาท
ก่อนที่ จะมีการแตกแยก



ก็อยากถาม หนู phonsak ว่า เมื่อแตกแยกแล้ว

มีพหูสูตร องค์ไหน อีก  ชื่ออะไร ที่สามารถจำได้มากกว่าพระอานนท์
สามารถเล่าเรื่องที่พระพุทธเจ้า แสดง ทั้งต่อหน้า และลับหลัง
ที่พระอานนท์ ไม่รู้


บันทึกการเข้า
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2553 18:20:24 »

อ้างอิงคำพูด

ที่คุณหนูphonsak อ้างมา เล่ามาเรืองมหายานเถรวาท

คงจะมีคนเป็นเลิศ มากกว่าพระอานนท์
เลยจดจำ คำสอน ที่พระอานนท์ ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้ยินมาเล่าเป็นตุเป็นตะ ได้

ลองเอาคนนั้น   มาแสดงตนหน่อย ว่า ผู้นั่นเป็นใคร

ที่สามารถจดจำคำสอน ที่พระพุทธเจ้า สอนได้ มากกว่าพระอานนท์
เอามาแสดง ตัวหน่อยครับ

ยกพระไตรปิฎก มาแสดงด้วย ว่าคนที่จดจำคำสอน ที่พระอานนท์จำไม่ได้ คนนั้นเป็นใคร



คุณไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ครับ  ความรู้ของพระพุทธเจ้าทั้งหมดอยู่ที่ "ตัวรู้"   ตัวหนังสือ ความจำ และสมอง เป็นเพียงเครื่องมืออย่างหนึ่งที่จะเรียนรู้ สิ่งที่จะเข้าใจหลักธรรมคือจิต คือตัวรู้

ครั้งหนึ่ง มีคนที่สวดมนต์ได้ชี้คำหลายคำในคัมภีร์ที่เขาไม่เข้าใจความหมายแล้วถามท่านเว่ยหล่าง.....

ท่านเว่ยหล่างยิ้มๆแล้วตอบว่า

“ข้าพเจ้าไม่รู้หนังสือ ท่านถามมาเลยดีกว่า"

คนๆนั้นรู้สึกแปลกใจแล้วพูดขึ้นว่า

“ท่านอ่านหนังสือไม่ออก ท่านจะเข้าใจความหมาย เข้าใจหลักธรรมได้อย่างไร?”

ท่านเว่ยหล่างตอบว่า

“หลักธรรมของพุทธะ กับตัวหนังสือไม่เกี่ยวกัน ตัวหนังสือเป็นเพียงเครื่องมือที่จะเรียนรู้ สิ่งที่จะเข้าใจหลักธรรมคือจิต คือตัวรู้ ไม่ใช่ตัวหนังสือ"


สรุป


เมื่อเข้าสู่กระแสพระนิพพาน  ตัวรู้ จะปรากฏชัด  มันรู้ทุกเรื่องแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นอดีต หรืออนาคต ฯลฯ   แล้วแต่ว่าจิตของเขาเคยอธิษฐานไว้ว่าอยากรู้เรื่องอะไร  ถ้าจิตอยากรู้เลขท้าย 2 ตัว ออกอะไร  มันก็รู้ได้  ถ้าเจ้ามือไม่ได้ล๊อคเลข


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22 พฤศจิกายน 2553 18:53:56 โดย phonsak » บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 2.0.157.2 Chrome 2.0.157.2


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2553 21:14:53 »

แต่ก็ยังไม่เห็นด้วยกับคุณ phonsak ครับในจุดนี้

ที่จะยึดเอาคำพูดของท่านเว่ยหล่างมาตัดสินทั้งหมด

เหมือนกับเอาสีข้างเข้าถูมากกว่าการตอบด้วยเหตุด้วยผล
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 22 พฤศจิกายน 2553 22:25:42 »

คุณหนู phonsak  ก็แถไปเรื่อยๆ
แถมมาคุยโอ่  เรื่องตัวรู้

ที่ยกท่านเว่ยหล่างมา ก็ยกพระไตรปิฎก หรือพุทธพจน์มาอ้างอิงด้วย

ว่า พระพุทธเจ้า ทรงยกท่านเว่ยหล่าง เป็นพหูสตร เหนือพระอานนท์ หรือไม่


แล้วที่อ้างตัวรู้  ตัวรู้ ของท่านเว่ยหล่าง  ก็คงรู้มากกว่าพระอานนท์ ที่เป็นพระอรหันต์สิ

เอาพระไตรปิฎก มายินยันด้วยครับ



บันทึกการเข้า
kidnakub22
นักโพสท์ระดับ 3
***

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 10


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #6 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2553 08:05:39 »

ขอบคุณที่ให้ความรู้ครับ
บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 2.0.157.2 Chrome 2.0.157.2


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2553 11:32:52 »

อ้างถึง

ที่ยกท่านเว่ยหล่างมา ก็ยกพระไตรปิฎก หรือพุทธพจน์มาอ้างอิงด้วย

ว่า พระพุทธเจ้า ทรงยกท่านเว่ยหล่าง เป็นพหูสตร เหนือพระอานนท์ หรือไม่


คุณ phonsak สามารถนั่งสมาธิแล้วรู้ได้ทุกอย่างในโลก

ไม่รู้อยู่สองอย่าง คือ จริง เท็จ และ ควร ไม่ควร

 ขำ ขำ ขำ ขำ
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
WangJai
นักโพสท์ระดับ 5
*****

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 34


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.13 Firefox 3.0.13


ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2553 14:14:37 »


คุณไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้ครับ  ความรู้ของพระพุทธเจ้าทั้งหมดอยู่ที่ "ตัวรู้"   ตัวหนังสือ ความจำ และสมอง เป็นเพียงเครื่องมืออย่างหนึ่งที่จะเรียนรู้ สิ่งที่จะเข้าใจหลักธรรมคือจิต คือตัวรู้

ครั้งหนึ่ง มีคนที่สวดมนต์ได้ชี้คำหลายคำในคัมภีร์ที่เขาไม่เข้าใจความหมายแล้วถามท่านเว่ยหล่าง.....

ท่านเว่ยหล่างยิ้มๆแล้วตอบว่า

“ข้าพเจ้าไม่รู้หนังสือ ท่านถามมาเลยดีกว่า"

คนๆนั้นรู้สึกแปลกใจแล้วพูดขึ้นว่า

“ท่านอ่านหนังสือไม่ออก ท่านจะเข้าใจความหมาย เข้าใจหลักธรรมได้อย่างไร?”

ท่านเว่ยหล่างตอบว่า

“หลักธรรมของพุทธะ กับตัวหนังสือไม่เกี่ยวกัน ตัวหนังสือเป็นเพียงเครื่องมือที่จะเรียนรู้ สิ่งที่จะเข้าใจหลักธรรมคือจิต คือตัวรู้ ไม่ใช่ตัวหนังสือ"


สรุป


เมื่อเข้าสู่กระแสพระนิพพาน  ตัวรู้ จะปรากฏชัด  มันรู้ทุกเรื่องแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นอดีต หรืออนาคต ฯลฯ   แล้วแต่ว่าจิตของเขาเคยอธิษฐานไว้ว่าอยากรู้เรื่องอะไร  ถ้าจิตอยากรู้เลขท้าย 2 ตัว ออกอะไร  มันก็รู้ได้  ถ้าเจ้ามือไม่ได้ล๊อคเลข


อ้างอิงคำพูด phonsak

เมื่อเข้าสู่กระแสพระนิพพาน  ตัวรู้ จะปรากฏชัด  มันรู้ทุกเรื่องแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นอดีต หรืออนาคต ฯลฯ


แต่เจ้ามือล็อคเลขอะไรกลับไม่รู้ 555+

ตัวรู้ ของคุณ phonsak ช่างด้อยคุณภาพ ไม่สมราคาคุยเอาซะเลย  ขำ
บันทึกการเข้า
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2553 14:37:39 »

555+

ตัวรู้ ที่คุณหนู Phonsak กล่าวถึง ว่าตนเอง เห็นแล้วก็เป็นอยู่น่ะ
แท้จริงแล้ว ใครๆเค้าก็เรียกว่า  ไม่รู้ตัว
ดันเห็นความ ไม่รู้ตัว   เป็นตัวรู้

ทึ่มชมัด

 หัวเราะลั่น

บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 2.0.157.2 Chrome 2.0.157.2


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน 2553 14:57:42 »

อ้างถึง

เมื่อเข้าสู่กระแสพระนิพพาน  ตัวรู้ จะปรากฏชัด  มันรู้ทุกเรื่องแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นอดีต หรืออนาคต ฯลฯ

แต่เจ้ามือล็อคเลขอะไรกลับไม่รู้ 555+

ตัวรู้ ของคุณ phonsak ช่างด้อยคุณภาพ ไม่สมราคาคุยเอาซะเลย



ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ อันนี้ผมคำจริง

ท่อนสุดท้าย

55555555555555555555+

เอาไปห้ากระโหลก

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2553 15:50:54 »

อ้างถึง

เมื่อเข้าสู่กระแสพระนิพพาน  ตัวรู้ จะปรากฏชัด  มันรู้ทุกเรื่องแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นอดีต หรืออนาคต ฯลฯ

แต่เจ้ามือล็อคเลขอะไรกลับไม่รู้ 555+

ตัวรู้ ของคุณ phonsak ช่างด้อยคุณภาพ ไม่สมราคาคุยเอาซะเลย


ผมบอกไปแล้วว่า  มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ล่วงรู้อนาคตที่ไม่เปลี่ยนแปลง  คนอื่นไม่รู้  จะรู้ได้เฉพาะอนาคตที่ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้

ในครั้งพุทธกาล  พระสารีบุตรก็หน้าแตก หมอไม่รับเย็บ  เพราะไปพยากรณ์ว่า วิบากกรรมของเณรบวชใหม่คนหนึ่ง คือ ต้องตาย ถึงฆาตแน่ พระสารีบุตรได้เล็งเห็นว่า เณรผู้นี้จะมรณะในอีก 7 วัน

ท่านจึงอนุญาตให้เณรกลับไปเยี่ยมบ้าน เพื่อโปรดบิดามารดา และญาติโยมทางบ้านเป็นครั้งสุดท้าย

***นั่นคือพรหมลิขิตหรือแผนที่ชีวิตชุดเดิมของเณรบวชใหม่***

ผู้มีญาณทิพย์ หรืออภิญญาใดๆ หรือใช้วิธีดูอนาคตอย่างไร วิธีใด  ก็สามารถรู้ได้แค่นี้เท่านั้น 

แค่นี้ = รู้แค่กฎแห่งกรรมในอดีตที่มีผลกระทบต่อเขาในชาตินี้ คือรู้พรหมลิขิต  แต่มนุษย์ทุกคนสามารถเลือกปฏิบัติกรรมดีกรรมชั่วใหม่ได้ เพื่อเปลี่ยนอนาคตและกฎแห่งกรรมของเขาได้

นี่แหละที่ทำให้พระสารีบุตรต้องหน้าแตก หมอไม่รับเย็บ  เพราะเมื่อเวลาผ่านไปเจ็ดวัน เณรได้กลับมายังอารามเหมือนเดิม พระสารีบุตรเอง ถึงกลับแปลกใจว่า เพราะเหตุใดเณรคนนั้นไม่ตาย ท่านจึงได้สอบถามเณรว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างทางไปและกลับ

เณรจึงได้แถลงไขว่า ระหว่างทางที่ไปนั้น ได้พบปลาจำนวนหนึ่งตกคลักในหนองน้ำที่ใกล้แห้ง จึงได้เอาจีวรช้อนขึ้นมาไปปล่อยในแหล่งน้ำที่ใกล้ๆ

ด้วยญาณแห่งพระสารีบุตร ท่านก็ทราบได้ว่า ปลาเหล่านั้น คืออดีตเจ้ากรรมนายเวรของเณรผู้นั้นเอง และเมื่อเณรได้นำปลาไปปล่อยในแหล่งน้ำ เท่ากับว่าได้ทำบุญต่ออายุให้กับตัวเอง และเจ้ากรรมนายเวรนั้น ได้ให้อภัยและอโหสิกรรมให้เณร  เณรจึงไม่ตาย


ในสมัยปัจจุบีน  หลวงพ่อจรัญก็หน้าแตก  หมอไม่รับเย็บเช่นกัน เพราะหลวงพ่อจรัญทำนายว่า.....อาตมาจะมรณภาพวันที่ 14 ตุลาคม 2521 เวลาเที่ยง 12.45 น.ด้วยอุบัติเหตุรถคว่ำคอหักตาย

***นั่นคือพรหมลิขิตหรือแผนที่ชีวิต(กฎแห่งกรรม)ชุดเดิมของท่าน***

เมื่อถึงเวลานั้น หลวงพ่อจรัญท่านก็เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ คอหักจริงๆ แต่ท่านไม่ตาย ด้วยเหตุที่ หลวงพ่อจรัญได้(ทำการก้าวล่วงบาปกรรม) คือ สำนึกบาปและตั้งเจตจำนงจะไม่ทำบาป ที่ฆ่าหักคอไก่จำนวนมากอย่างนั้นอีก นอกจากนี้ท่านก็ยังแผ่เมตตาให้วิญญาณไก่เหล่านั้นด้วย ไก่เหล่านั้นเลยให้อภัยและอโหสิกรรมให้ท่าน ท่านจึงแค่คอหัก แต่ไม่ยักกะตาย

***นี่คือ  หลวงพ่อจรัญมองเห็นแผนที่ชีวิตชุดเก่าของท่าน  หรือเห็นแค่กรรมเก่าชุดเก่าที่จะให้ผล(ตามพรหมลิขิต/กฎแห่งกรรม) ส่วนแผนที่ชีวิตชุดใหม่ (พรหมลิขิตชุดใหม่/กฎแห่งกรรมชุดใหม่) ท่านมองไมเห็น***


ทำไมพระพิฆเนศ เจ้าแม่กวนอิม ฯลฯ นอกจากพระพุทธเจ้า ไม่รู้เลขหวยที่มีการล็อคเลข?


ผลการออกสลากกินแบ่ง เป็นเรื่องของกรรมเดิม (พรหมลิขิตชุดเดิม/กฎแห่งกรรมชุดเดิม)  ส่วนการที่เจ้ามือล็อคเลข  เป็นการกระทำกรรมใหม่ของเขา  เทพระดับไหนก็ไม่รู้นอกจากพระพุทธเจ้า  พวกเทพจะรู้ก็ต่อเมื่อผ่านบ่าย 3 โมงไปแล้ว เมื่อเจ้ามือล็อคเลขตกลงขั้นสุดท้ายกับผู้มีอำนาจในกองสลากว่าจะเอาเลขนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีก

ส่วนการที่พระพิฆเนศ เจ้าแม่กวนอิม ฯลฯ ให้เบอร์คนถูกหวยเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว  หรือแม้แต่ถูกรางวัลที่ 1 ได้  เพราะพระพิฆเนศ เจ้าแม่กวนอิม ฯลฯ ได้ทำการล๊อคเลขเอาเอง  โดยการสะกดจิตเจ้ามือล็อคเลขหรือกองสลากไม่ให้ทำการล็อคเลขในงวดนั้น  ปล่อยให้พรหมลิขิตชุดเก่า/กฎแห่งกรรมชุดเก่า ทำงาน  แล้วตัวพวกท่านก็ใช้ญาณทิพย์ดูว่าจะออกเลขอะไร  แล้วไปสะกดจิตคนขายหวยให้เก็บเบอร์หวยนั้นไว้ให้คนๆนี้ ที่ท่านจะให้ถูกรางวัล

555555  สบายใจจิรงๆ!!! วันนี้ได้เปิดเผยความลับของฟ้าเรื่องการล็อคเลขหวยของเหล่ามหาเทพสักที






บันทึกการเข้า
phonsak
นักโพสท์ระดับ 8
***

คะแนนความดี: +1/-2
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 306


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #12 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2553 15:52:45 »

ขออนุญาตเอาเรื่องนี้ไปตั้งกระทู้ใหม่นะครับ
บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 7.0.517.44 Chrome 7.0.517.44


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #13 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2553 16:46:05 »

มั่วไปเรื่อยเอะอะก็อ้างล๊อคเลข

ตายห่า ถ้าคำตอบมาแนวนี้ก็แถกันได้ทุกเรื่องสิครับเนี่ย

เห้อ...
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
WangJai
นักโพสท์ระดับ 5
*****

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 34


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.13 Firefox 3.0.13


ดูรายละเอียด
« ตอบ #14 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2553 21:44:45 »


ผมบอกไปแล้วว่า  มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ล่วงรู้อนาคตที่ไม่เปลี่ยนแปลง  คนอื่นไม่รู้  จะรู้ได้เฉพาะอนาคตที่ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้

ในครั้งพุทธกาล  พระสารีบุตรก็หน้าแตก หมอไม่รับเย็บ  เพราะไปพยากรณ์ว่า วิบากกรรมของเณรบวชใหม่คนหนึ่ง คือ ต้องตาย ถึงฆาตแน่ พระสารีบุตรได้เล็งเห็นว่า เณรผู้นี้จะมรณะในอีก 7 วัน

ท่านจึงอนุญาตให้เณรกลับไปเยี่ยมบ้าน เพื่อโปรดบิดามารดา และญาติโยมทางบ้านเป็นครั้งสุดท้าย

***นั่นคือพรหมลิขิตหรือแผนที่ชีวิตชุดเดิมของเณรบวชใหม่***

ผู้มีญาณทิพย์ หรืออภิญญาใดๆ หรือใช้วิธีดูอนาคตอย่างไร วิธีใด  ก็สามารถรู้ได้แค่นี้เท่านั้น 

แค่นี้ = รู้แค่กฎแห่งกรรมในอดีตที่มีผลกระทบต่อเขาในชาตินี้ คือรู้พรหมลิขิต  แต่มนุษย์ทุกคนสามารถเลือกปฏิบัติกรรมดีกรรมชั่วใหม่ได้ เพื่อเปลี่ยนอนาคตและกฎแห่งกรรมของเขาได้

นี่แหละที่ทำให้พระสารีบุตรต้องหน้าแตก หมอไม่รับเย็บ  เพราะเมื่อเวลาผ่านไปเจ็ดวัน เณรได้กลับมายังอารามเหมือนเดิม พระสารีบุตรเอง ถึงกลับแปลกใจว่า เพราะเหตุใดเณรคนนั้นไม่ตาย ท่านจึงได้สอบถามเณรว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างทางไปและกลับ

เณรจึงได้แถลงไขว่า ระหว่างทางที่ไปนั้น ได้พบปลาจำนวนหนึ่งตกคลักในหนองน้ำที่ใกล้แห้ง จึงได้เอาจีวรช้อนขึ้นมาไปปล่อยในแหล่งน้ำที่ใกล้ๆ

ด้วยญาณแห่งพระสารีบุตร ท่านก็ทราบได้ว่า ปลาเหล่านั้น คืออดีตเจ้ากรรมนายเวรของเณรผู้นั้นเอง และเมื่อเณรได้นำปลาไปปล่อยในแหล่งน้ำ เท่ากับว่าได้ทำบุญต่ออายุให้กับตัวเอง และเจ้ากรรมนายเวรนั้น ได้ให้อภัยและอโหสิกรรมให้เณร  เณรจึงไม่ตาย


ในสมัยปัจจุบีน  หลวงพ่อจรัญก็หน้าแตก  หมอไม่รับเย็บเช่นกัน เพราะหลวงพ่อจรัญทำนายว่า.....อาตมาจะมรณภาพวันที่ 14 ตุลาคม 2521 เวลาเที่ยง 12.45 น.ด้วยอุบัติเหตุรถคว่ำคอหักตาย

***นั่นคือพรหมลิขิตหรือแผนที่ชีวิต(กฎแห่งกรรม)ชุดเดิมของท่าน***

เมื่อถึงเวลานั้น หลวงพ่อจรัญท่านก็เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ คอหักจริงๆ แต่ท่านไม่ตาย ด้วยเหตุที่ หลวงพ่อจรัญได้(ทำการก้าวล่วงบาปกรรม) คือ สำนึกบาปและตั้งเจตจำนงจะไม่ทำบาป ที่ฆ่าหักคอไก่จำนวนมากอย่างนั้นอีก นอกจากนี้ท่านก็ยังแผ่เมตตาให้วิญญาณไก่เหล่านั้นด้วย ไก่เหล่านั้นเลยให้อภัยและอโหสิกรรมให้ท่าน ท่านจึงแค่คอหัก แต่ไม่ยักกะตาย

***นี่คือ  หลวงพ่อจรัญมองเห็นแผนที่ชีวิตชุดเก่าของท่าน  หรือเห็นแค่กรรมเก่าชุดเก่าที่จะให้ผล(ตามพรหมลิขิต/กฎแห่งกรรม) ส่วนแผนที่ชีวิตชุดใหม่ (พรหมลิขิตชุดใหม่/กฎแห่งกรรมชุดใหม่) ท่านมองไมเห็น***


ทำไมพระพิฆเนศ เจ้าแม่กวนอิม ฯลฯ นอกจากพระพุทธเจ้า ไม่รู้เลขหวยที่มีการล็อคเลข?


ผลการออกสลากกินแบ่ง เป็นเรื่องของกรรมเดิม (พรหมลิขิตชุดเดิม/กฎแห่งกรรมชุดเดิม)  ส่วนการที่เจ้ามือล็อคเลข  เป็นการกระทำกรรมใหม่ของเขา  เทพระดับไหนก็ไม่รู้นอกจากพระพุทธเจ้า  พวกเทพจะรู้ก็ต่อเมื่อผ่านบ่าย 3 โมงไปแล้ว เมื่อเจ้ามือล็อคเลขตกลงขั้นสุดท้ายกับผู้มีอำนาจในกองสลากว่าจะเอาเลขนี้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีก

ส่วนการที่พระพิฆเนศ เจ้าแม่กวนอิม ฯลฯ ให้เบอร์คนถูกหวยเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว  หรือแม้แต่ถูกรางวัลที่ 1 ได้  เพราะพระพิฆเนศ เจ้าแม่กวนอิม ฯลฯ ได้ทำการล๊อคเลขเอาเอง  โดยการสะกดจิตเจ้ามือล็อคเลขหรือกองสลากไม่ให้ทำการล็อคเลขในงวดนั้น  ปล่อยให้พรหมลิขิตชุดเก่า/กฎแห่งกรรมชุดเก่า ทำงาน  แล้วตัวพวกท่านก็ใช้ญาณทิพย์ดูว่าจะออกเลขอะไร  แล้วไปสะกดจิตคนขายหวยให้เก็บเบอร์หวยนั้นไว้ให้คนๆนี้ ที่ท่านจะให้ถูกรางวัล

555555  สบายใจจิรงๆ!!! วันนี้ได้เปิดเผยความลับของฟ้าเรื่องการล็อคเลขหวยของเหล่ามหาเทพสักที



หน้าแตกครั้งนี้ phonsak คงต้องลองใช้ครีม 91อี หรือไม่ก็พอลก้าแบบป้าหนูแหม่มบ้างละ

เพราะที่พูดมาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ ตัวรู้ เลยสักติ๊ด
ที่พ่นออกมาทั้งหมดนั้นแสดงให้เห็นแต่ความ ไม่รู้ตัว ไหลไปตามสมมติล้วนๆ

ไปศึกษาใหม่ซะนะหนู phonsak
บันทึกการเข้า
WangJai
นักโพสท์ระดับ 5
*****

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 34


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.13 Firefox 3.0.13


ดูรายละเอียด
« ตอบ #15 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2553 21:46:26 »

มั่วไปเรื่อยเอะอะก็อ้างล๊อคเลข

ตายห่า ถ้าคำตอบมาแนวนี้ก็แถกันได้ทุกเรื่องสิครับเนี่ย

เห้อ...

ก็ปล่อยให้แถไปสิ

เดี๋ยวเจ้าแม่ 91อี ก็จะมาสะกดจิตแอดมินให้แบนและล๊อคไอพี phonsak เองแหละ

5555555 วันนี้ความลับของฟ้ารั่วซะแล้วเรื่องการไล่ phonsak ออกจากเว็บต่างๆ อย่างขั้นเทพ
บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 7.0.517.44 Chrome 7.0.517.44


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: 27 พฤศจิกายน 2553 22:12:26 »

ใจนึงอยากแบน อีกใจอยากเปิดกว้างให้แสดงความคิดเห็นกันน่ะครับ

คน ๆ นี้แบนไปก็เท่านั้น แกสมัครชื่อใหม่ก็เข้ามาโพสท์อีก

เพราะตอนแกไปป่วนเวบอะกาลิโกก็ทำแบบนี้
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
armageddon
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 8
*

คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 229


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #17 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2553 00:04:54 »

ความเห็นทั้งหมด ของคุณพลศักดิ์ ขัดกับพระไตรปิฎกของเถรวาท

คำถามต่างๆ ที่ได้ถามไป
ก็ไม่สามารถเอาพระไตรปิฎก มายืนยันได้
ไม่สามารถเอามาตอบคำถามที่ถามไปได้

ได้แต่แถไปเอาคริส ฮินดู ลัทธิอื่นๆ นิกายอื่นๆ และศาสนาอื่นๆ มาเพื่อลบล้าง คำสอนเถรวาท

ก็เจ้าตัว ก็เคยบอก และประกาศชัดแจ้งแล้ว ว่ามาเพื่อทำลายระบบเถรวาท

และก็มีการปรามาศ พระอรหันต์ เช่นพระสารีบุตร
ปรามาศ พระสุปฎิปัณโน แบบหลวงพ่อจรัล
และคณาจารย์ อื่นๆตลอดมา

แม้แต่พระพุทธเจ้า คุณ phonsak ก็ยังปรามาศล่วงเกิน
ด้วยการกล่าวอ้าง อวดอุตริ ว่า เป็นร่างทรง ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ฝรั่งเอารูปปั้น เอาเศียรพระพุทธรุป ไปตั้งประดับตามร้าน ล่วงเกินปรามาส ด้วยตวามไม่รู้

แต่คุณ Phonsak เต็มไปด้วยความตั้งใจ
และพยายาม โพสต์ กระทู้ซ้ำไปซ้ำมา
กระจายความเห็น ของตน ไปตามเวปต่างๆ
ด้วยความจงใจ

และจากคำถาม ที่ให้หาพระไตรปิฎกมาอ้างอิง
ก็ไม่เคยได้รับคำตอบ
ได้แต่แถไปเรื่อยๆ

ไม่ได้แสดงอาการ ที่จะตั้งใจถกสนทนาธรรม

แต่ตั้งใจไป เอาศาสนาอื่น ลัทธิอื่น มาตอบ ผสมปนเป
เพื่อให้คนที่เพิ่งเข้ามาศึกษาธรรมะ เกิดความสับสน
และหลงเชื่อ เสมอมา

มีความเห็นว่า น่าจะจับตัวเอาไปบูชายัญ ส่งไปนิพพานอัตตาของคุณพลศักดิ์ อันเป็นที่ชอบๆ
ได้แล้วครับ

บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 7.0.517.44 Chrome 7.0.517.44


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2553 01:14:12 »

อ้างถึง

ด้วยการกล่าวอ้าง อวดอุตริ ว่า เป็นร่างทรง ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


นี่แหละครับที่ผมเคยเดือดจนเลือดขึ้นหน้าอยากกำจัดไอ้ภัยศาสนาตัวนี้ให้พ้นไป

ตอนนี้เฉย ๆ ครับ ดู ๆ กันไป คนหลงผิดยังไงมันก็หลงผิด
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
มหายาน(ภูฎาณ)เมืองแห่งความสุข
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
sometime 2 2499 กระทู้ล่าสุด 19 มิถุนายน 2553 04:38:41
โดย sometime
มหายาน-หินยาน : มูลเหตุการเกิด ๒ นิกายในพุทธศาสนา
เกร็ดศาสนา
Kimleng 1 7300 กระทู้ล่าสุด 29 ตุลาคม 2556 12:43:10
โดย Kimleng
ธรรมะ จาก facebook พุทธศาสนา มหายาน ธิเบต
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 1309 กระทู้ล่าสุด 17 พฤศจิกายน 2558 18:56:24
โดย มดเอ๊ก
บทสวดมนต์ (อนัมนิกาย) มหายาน ชื่อ มาฮาบ๊าดหยา...และ ทามเหล๋
เพลงสวดมนต์
มดเอ๊ก 0 2146 กระทู้ล่าสุด 25 มิถุนายน 2559 03:48:21
โดย มดเอ๊ก
บทสวดมนต์ (อนัมนิกาย) มหายาน ชื่อ เฮืองบุ๊นจ่าย
เพลงสวดมนต์
มดเอ๊ก 0 2324 กระทู้ล่าสุด 25 มิถุนายน 2559 03:49:59
โดย มดเอ๊ก
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.618 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 26 กุมภาพันธ์ 2567 07:03:17