[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 16:58:47 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: การละวางจากตัวตน โดย ท่านกุงกา ซังโป ริมโปเช  (อ่าน 2170 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2553 17:12:31 »




การละวางจากตัวตน

การบรรยายธรรมโดยท่านกุงกา ซังโป ริมโปเช เรื่องการละอัตตา


ห้องประชุมพุทธคยา ชั้น 22 อาคารอมรินทร์พลาซ่า วันที่ 4 มีนาคม 2553


Kunga Sangbo Rinpoche at Khadiravana Center, Hua Hin

คำว่าการยึดตัวตนตรงกับศัพท์ภาษาทิเบตว่า “bdag dzin” (อ่านว่า “ตักซิน”) ตัก หมายถึงตัวข้าพเจ้า ซิน หมายถึง ยึด ตามปกติแล้วคนเรามักเคยชินกับการติดตัวตนอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะนั่ง ยืน เดิน คิดอะไรก็คิดถึงแต่ตัวเอง สามีตัวเอง ลูกตัวเอง ญาติพี่น้องตัวเอง ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงได้แสดงธรรมเพื่อมิให้ผู้คนยึดติดอยู่กับตัวตน ได้พยายามสอนให้เราเข้าใจถึงเรื่องศูนยตา เมื่อเรามีตัวตนเราก็จะแบ่งแยกตัวเรากับผู้อื่น นี่คือของฉัน นี่คือของคนอื่น นี่คือตัวของฉัน นี่คือตัวของคนอื่น เมื่อเราแยกแบบนี้ในตอนแรก ต่อมาเราก็จะเริ่มขยายจากตัวเราไปยังครอบครัว ไปยังญาติ ไปยังเพื่อน การทำแบบนี้แสดงให้เห็นว่าเรากำลังสร้างกรอบ เรากำลังสร้างอาณาจักรของเราที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น เมื่อเราคิดเช่นนี้ รู้สึกเช่นนี้เราจะเกิดการยึดติด การผูกพัน และเราก็เริ่มที่จะไม่แคร์ผู้อื่น มันจะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดตามกันมาเหมือนลูกโซ่

เมื่อเรายึดติดกับคนที่เรารัก เราก็อยากที่จะให้เค้ามีความสุข ไม่อยากให้มีทุกข์ เมื่อมีคนมาทำให้คนที่เรารักโกรธหรือเป็นทุกข์ เราก็จะไม่พอใจ เราจะมองว่าคนที่มาทำคนที่เรารักนั้นเป็นศัตรู เมื่อเรายึดติดในตัวบริวารเหล่านี้เราก็อยากที่จะทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับคนในเครือข่ายของเราเท่านั้น เราไม่ยอมเปิดใจยอมรับคนอื่น เมื่อต้องทำอะไรร่วมกับคนอื่นเราก็มักจะเกิดปัญหา ความรู้สึกหรือจิตแบบนี้เรียกว่าเป็นจิตที่ปรุงแต่ง เป็นตัวการที่ทำให้เรายังคงวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏ เรามีความรู้สึกว่ารัก ไม่รัก มีโลภะ โทสะ โมหะ ที่ยังทำให้เรายังคงเกิดอยู่บนโลกใบนี้ แล้วเราก็มีความทุกข์มากมาย ดังนั้นเราต้องมาพิจารณามองว่าสิ่งเหล่านี้นี่เองที่มาทำให้เราทุกข์ มาทำให้เกิดเป็นกฎแห่งกรรม

โลภะ โทสะ โมหะ ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดมาจากตัวเรา เกิดมาจากจิตของเราเอง เราเองที่เป็นรากเหง้าของความทุกข์ ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าและพระอาจารย์จำนวนมากจึงทรงแสดงธรรมให้สัตว์โลกเข้าใจว่าทุกข์มีสาเหตุมาจากไหน ทุกข์มีสาเหตุมาจากการยึดติดตัวตนนั่นเอง และที่สำคัญสอนให้เราเข้าใจว่าทุกข์มิได้เกิดมาจากร่างการเท่านั้นหากแต่ยังเกิดมาจากใจของเราด้วย

หากเราถามตัวเองว่าสิ่งที่เรียกว่าตัวตนนี้มันอยู่ที่ไหน ถ้าเราพูดว่า “บ้านของฉัน” ตัวตนอยู่ที่บ้านหรือเปล่า ถ้าพูดว่า “ตัวของฉัน” ตัวตนอยู่ที่ร่างกายใช่หรือไม่ ถ้าเราถามว่าตัวตนอยู่ที่ไหนแล้วพยายามคิดหาคำตอบ ถ้าหาจากข้างนอกแล้วไม่พบ เราก็ต้องมามองว่ามันอยู่ที่ตัวเราหรือไม่ เราเริ่มไล่ลงมาทีละส่วน ครูอาจารย์สอนว่าให้เราพิจารณาทีละส่วนอย่างเป็นลำดับขั้น ตัวตนอยู่ที่ผมหรือ ถ้าไม่ใช่ เราก็ไล่ลงมาที่ตา ที่จมูก ไล่ลงมาจนกว่าเราจะรู้ว่าตัวตนอยู่ที่ไหน ซึ่งจริงๆแล้วตัวตนเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับการที่สิ่งต่างๆมาบรรจบกัน ได้แก่ กาย เวทนา สังขาร และวิญญาณ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับอวัยวะใดๆในร่างกาย เมื่อเราตายไปสิ่งต่างๆที่มาบรรจบกันนี้ก็จะไปหาที่บรรจบใหม่ ตัวตนเป็นสิ่งที่เหมือนกับความฝัน เมื่อเราตื่นขึ้นฝันนั้นก็จางหายไป แท้จริงแล้วตัวตนไม่ได้มีอยู่ เป็นแค่เพียงสิ่งสมมติ เช่นเดียวกับถ้าเราเห็นเชือกเส้นหนึ่ง เราปล่อยให้จิตเราคิดปรุงแต่งไปว่าเป็นงู ทั้งที่มันเป็นแค่เชือกธรรมดา พระอาจารย์นาครชุนได้ให้ตัวอย่างไว้ตัวอย่างหนึ่งว่า มีอาคารอยู่หลังหนึ่ง อาคารหลังนี้ประกอบไปด้วย อิฐ หิน ดิน ปูน ทราย เรามองเห็นว่าอาคารหลังนี้นั้นมีอยู่ก็เพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้มันประกอบกัน ถ้าหากเราค่อยๆรื้อลงมาทีละส่วนๆก็จะเห็นว่ามันเหลือแต่ความว่างซึ่งเป็นความจริงสูงสุด

ดังนั้นการเข้าใจประเด็นว่าตัวตนที่แท้คืออะไรสำคัญมากเพราะเป็นประเด็นที่ทำให้เราเข้าสู่การตรัสรู้ธรรม เราต้องมีปัญญาที่จะเข้าใจศูนยตา เข้าใจว่าการยึดตัวตนเป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์ การที่เราเอาแต่ทำบุญแต่ไม่เคยฝึกปฏิบัติภาวนาเราก็ไม่สามารถหลุดพ้นได้ การจะเข้าใจถึงความว่างทันทีทันใดนั้นมันไม่ได้เพราะตัวเรายังมีอยู่ ดังนั้นจึงต้องใช้สิ่งที่มีอยู่ข้างนอกทำให้เราเข้าใจถึงสิ่งที่อยู่ข้างใน


http://soraj.wordpress.com/2010/04/28/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b8%95%e0%b8%99/

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 2.0.157.2 Chrome 2.0.157.2


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน 2553 18:50:10 »


ต้องเจอกับการละวางตัวตน ฉบับ กลุ่มประสานงาเพื่อมาเตือนใคร (เขากะโหลก)

5555555555555555555555555+

คิดแล้วขำ

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
ฝันเห็นเสือ (จาก “การเห็นทางธรรมสามระดับ” ของเตชุง ริมโปเช)
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 1 2847 กระทู้ล่าสุด 26 พฤศจิกายน 2553 18:47:58
โดย หมีงงในพงหญ้า
พลังแห่งกรุณาคือการเยียวยาสูงสุด ( ผู้เขียน ลามะโซปะ ริมโปเช )
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 1415 กระทู้ล่าสุด 15 มกราคม 2554 09:32:46
โดย มดเอ๊ก
ปาฐกถาธรรม ศิลปะแห่งการอยู่และการตาย โดย ท่านโซเกียล ริมโปเช
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 1 1857 กระทู้ล่าสุด 29 มิถุนายน 2559 21:38:00
โดย มดเอ๊ก
พิธีมนตราภิเษกเพื่อให้มีอายุยืนยาว(พระอาจารย์ลาตรี เคนโปเกเช ญีมาทรักปา ริมโปเช)
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 961 กระทู้ล่าสุด 26 มิถุนายน 2559 00:49:27
โดย มดเอ๊ก
การเจริญปัญญาแบบทิเบต โดย พระอาจารย์กุงกา ซังโป ริมโปเช
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 1125 กระทู้ล่าสุด 06 กรกฎาคม 2559 13:20:28
โดย มดเอ๊ก
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.286 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 27 กุมภาพันธ์ 2567 22:43:44