[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 เมษายน 2567 15:26:31 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ประวัติ ลูกประคำ ๑๐๘  (อ่าน 3275 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5444


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 24 มกราคม 2558 16:17:02 »

.



ประคำ
ลูกประคำถือเป็นเครื่องรางหรือเปล่า?

เปิดพจนานุกรมเพื่อการศึกษาพุทธศาสน์ โดยพระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต พบระบุว่า ประคำ หมายถึงลูกกลมๆ ที่ร้อยเป็นพวงสำหรับเป็นเครื่องหมายการนับในเวลาบริกรรมภาวนา หรือสำหรับใช้เป็นเครื่องราง เรียกว่า ลูกประคำ ทำด้วยวัสดุ เช่น ไม้จันทน์ ไม้เนื้อแข็ง ผลไม้ตากแห้ง หินสี พลาสติก หยก โดยเจาะรูตรงกลาง ร้อยด้วยด้ายหรือเอ็นเป็นพวง พวงหนึ่งนิยมจำนวน ๑๐๘ ลูก เพราะถือคติตามบทบริกรรมภาวนา คือ อิติปิโส ๑๐๘   ทั้งนี้ ประคำ นิยมพกติดตัวไปในที่ต่างๆ โดยถือไปบ้าง ห้อยคอไปบ้าง เพื่อสะดวกในการใช้ได้ทันทีเมื่อมีโอกาส เช่นขณะนั่งรถ นั่งรอเวลา หรือขณะอยู่คนเดียวเงียบๆ

ยังมีอรรถาธิบาย หลวงพ่ออุตตมะ เขียนไว้ เรื่อง "ประวัติลูกประคำ ๑๐๘" ว่า ลูกประคำ ๑๐๘ ไม้ หรือแก้ว หรือลูกลาน ที่ทำเป็นเม็ดกลมๆ มีรูตรงกลาง ร้อยเป็นพวงด้วยด้ายหรือไหม สำหรับนักบวชมีฤๅษีเป็นต้น ใช้สวมคอหรือกำหนดนับบริกรรมสวดมนต์ภาวนา เรียกว่าลูกประคำ มี ๑๐๘ ลูก ตามจำนวนพระคุณของพระรัตนตรัย คือ พระพุทธคุณ ๕๖ พระธรรมคุณ ๓๘ พระสังฆคุณ ๑๔ รวมเป็น ๑๐๘ พอดี




ประวัติความเป็นมา
ในปีพ.ศ.๒๒๕ คณะสงฆ์ในบวรพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย ประชุมตกลงกันจัดส่งพระอรหันต์เถระเดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในดินแดนต่างๆ ในการนี้ได้มอบหมายให้พระอรหันต์ ๒ รูป คือ พระโสณเถระ และพระอุตตรเถระ มาเผยแผ่พระพุทธศาสนาและนำพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์มาประดิษฐานในดินแดนสุวรรณภูมิ ซึ่งมีเมืองนครปฐมในปัจจุบันเป็นจุดศูนย์กลาง

พระอรหันต์เถระทั้งสองรูปเดินทางออกจากเมืองปาฏลีบุตรในอินเดีย ผ่านเมืองสะเทิม ประเทศมอญ ได้พบพระฤๅษี ๓ ตนพำนักบำเพ็ญเพียรภาวนาอยู่บริเวณภูเขาสุทัศน์คีรีใกล้เมืองสะเทิม คือ พระฤๅษีคุปตะ พระฤๅษีจุลละ พระฤๅษีเทวิละ   พระฤๅษีทั้งสามเมื่อได้เห็นพระจริยาวัตรและปฏิปทาอันงดงามของพระอรหันต์ทั้ง ๒ รูป ก็บังเกิดศรัทธาความเลื่อมใสชักชวนกันไปกราบไหว้นมัสการ โดยซักถามว่า "ท่านเป็นศิษย์ของผู้ใด ใครคือพระศาสดาของท่าน"  พระอรหันต์เถระตอบว่า "พระสมณโคดมศากยบุตรอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอาจารย์ของพวกเรา พระองค์คือพระศาสดาของพวกเราทั้งหลาย" พระฤๅษีจึงร้องขอให้เล่าเรื่องราวความเป็นมาของพระพุทธศาสนา พระอรหันต์เถระทั้งสองได้อธิบายให้ฟังโดยละเอียด พระฤๅษีทั้ง ๓ ตนเมื่อได้ทราบว่าพระรัตนตรัยได้บังเกิดขึ้นในโลกนี้แล้วก็รู้สึกปีติยินดี แต่มีความเสียดายที่ไม่ได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์ เพราะทรงเข้าปรินิพพานไปนานแล้วถึง ๒๒๕ ปี

จึงถามว่า พระรัตนตรัยมีคุณเท่าใด พระอรหันต์เถระทั้งสองอธิบายว่า คุณพระพุทธเจ้ามีจำนวน ๕๖ ดังบทสวดพระพุทธคุณ (อิติปิโสภควา) คุณพระธรรมเจ้ามีจำนวน ๓๘ ดังบทสวดพระธรรมคุณ (สวากขาโต) และคุณพระสังฆเจ้ามีจำนวน ๑๔ ดังบทสวดพระสังฆคุณ (สุปฏิปันโน) เมื่อรวมกันแล้วคุณพระศรีรัตนตรัยมีจำนวนทั้งสิ้น ๑๐๘ พระฤๅษีทั้งสามถามอีกว่า ในกัปของเรานี้จะยังมีพระพุทธองค์ใหม่เกิดขึ้นอีกหรือไม่ พระอรหันต์เถระทั้งสองอธิบายว่า ในขณะนี้เราอยู่ในภัทรกัป จะมีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น ๕ พระองค์ พระสมณโคดมเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๔ ในภัทรกัป ในกัปนี้จึงยังเหลือพระพุทธเจ้าที่จะมาบังเกิดขึ้นอีกหนึ่งพระองค์ คือ พระศรีอริยเมตไตรย

พระอรหันต์เถระทั้งสองอำลาออกเดินทางมายังสุวรรณภูมิ ฝ่ายพระฤๅษีทั้งสามก็ได้ปรึกษาหารือกันว่า ควรจะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อให้น้อมระลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัยอยู่เสมอ ที่สุดได้ตกลงกันสร้างลูกประคำขึ้นมาเพื่อใช้ในการสวดมนต์ภาวนา โดยกำหนดให้ลูกประคำมีจำนวน ๑๐๘ เม็ด เท่ากับคุณพระศรีรัตนตรัยซึ่งมีจำนวนรวมทั้งสิ้น ๑๐๘ และที่ยอดของสายประคำได้ใส่ลูกประคำไว้อีก ๓ เม็ด เพื่อแทนพระศรีรัตนตรัยเจ้าทั้งสาม คือพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า และพระสงฆเจ้า




ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.261 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 27 มีนาคม 2567 05:23:39