[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
25 เมษายน 2567 08:14:00 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความรักไร้พรมแดน  (อ่าน 1376 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2322


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 22 กุมภาพันธ์ 2558 18:56:36 »

.



ความรักไร้พรมแดน
อัลเบิร์ต ชไวเซอร์ คุณหมอของผู้ทุกข์ยาก.

ความรักในโลกนี้แบ่งได้เป็นหลายขนานไม่ต่างจากยารักษาโรค แต่ความรักที่ไร้โศกที่สุดคือความรักที่ไม่ปรารถนาสิ่งใดตอบแทน ฟังดูแสนยากแต่หากลองทำดูจะรู้ว่าสุขจริงจากรักแท้นั้นมีอยู่

ผู้ที่เอาดวงใจไปฝากคนอื่นไว้จะทำให้มีความสุขขึ้นๆ ลงๆ เพราะมาตรวัดสุขนั้นไปติดกับหัวใจคนอื่นที่เราไม่อาจควบคุมได้เสียแล้ว ส่วนผู้ที่รักตัวเองมากก็จะมีทุกข์มากจากความรู้สึกปรารถนาไม่มีสิ้นสุด

ดังนั้นรักในโลกนี้จึงมีแบ่งได้เป็น 2 แบบง่ายๆ คือ “รักแบบมีเงื่อนไข” กับ “รักที่ไร้เงื่อนไข” ขอให้ลองนึกง่ายๆ ถึงรักจากพ่อแม่ของเราที่ท่านไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน หรือรักจากพระศาสดาของทุกศาสนาที่รักเพื่อนมนุษย์ทุกผู้ทุกนามได้อย่างไร้เงื่อนไข

ตัวผมเองนั้นชอบศึกษาความรักในหลายๆ แบบโดยเฉพาะรักแบบที่ช่วยได้ทั้งตัวเราและเพื่อนร่วมโลกอื่นๆ อย่างความรักเพื่อนมนุษย์แห่งอริยบุคคลและพระสุปฏิปันโนที่แผ่เป็นกระแสเมตตาไปอย่างล้นพ้นประมาณ หรือนักบุญแต่ละท่านที่สละได้แม้ชีวิตเพื่อเพื่อนมนุษย์ได้เป็นสุข ซึ่งทุกครั้งที่ได้เห็นความรักแบบนี้ก็ให้รู้สึกมีกำลังใจในชีวิต




โป๊ปฟรานซิสผู้เปี่ยมเมตตา.
ซึ่งในโลกนี้แม้จะมีความรักแบบที่ผู้คนยกย่องให้เป็น Love of all timeอยู่แต่จะมีรักใดที่เป็น The greatest love of all อย่างแท้จริงบ้างก็ขอให้ใจของแฟนานุแฟนคอลัมน์ไทยรัฐซันเดย์สเปเชียลโดยทีมงานนิตยสารต่วย’ตูนตัดสินเองดีกว่าขอเชิญท่านที่รักมาดูไปพร้อมกันเลยครับ

ความรักที่เรียบง่ายแห่งโป๊ปฟรานซิส สมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์นี้ทรงเป็นที่รักของมวลมหาชนมากมายด้วยพระองค์มีพระบุคลิกพิเศษที่หลายท่านรู้สึกได้ หนึ่งในนั้นคือความเรียบง่ายและความเข้าอกเข้าใจผู้ทุกข์ยาก เรื่องนี้น่าจะมาจากหัวใจอันประเสริฐของท่านและปูมหลังที่มาจากประเทศที่ยังมีผู้ต้องการความช่วยเหลืออยู่มากอย่าง “อาร์เจนตินา” ซึ่งที่จริงนั้นท่านมีเชื้อสายเป็นชาวอิตาเลียนที่ลี้ภัยมุสโสลินีมายังอเมริกาใต้ โดยในวันหนึ่งเมื่อพระชนม์เพียงวัยหนุ่มก็ทรงรู้สึกว่าพระองค์เกิดมาเพื่อจุดประสงค์พิเศษ ซึ่งคือจักต้องเป็นพระเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ทุกข์ยากรอบตัว เหตุนี้จึงทำให้หนุ่ม ฮอร์เค มาเรียว เบอร์โกเกลียว ผู้มีวุฒิถึงมหาบัณฑิตสาขาวิชาเคมีเข้าสู่ร่มเงาแห่งพระศาสนานิกายเยซูอิต ซึ่งพระในนิกายนี้มีอุดมการณ์เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดยไม่เห็นแก่ความลำบากของตน โดยวัตรปฏิบัติที่ถือเป็นหัวใจคือการอยู่อย่างสำรวมยากจน ถือความบริสุทธิ์ และเชื่อฟังให้เกียรติกันในหมู่สงฆ์

แม้ต่อมาท่านจะมีตำแหน่งสูงเป็นถึงอาร์คบิช็อปและคาร์ดินัลผู้ได้รับแต่งตั้งจากโป๊ปจอห์นพอลที่ 2 ผู้ล่วงลับ ก็ยังคงใช้ชีวิตอย่างสมถะ และใช้เวลาเพื่อเพื่อนมนุษย์ผู้ด้อยโอกาส ไปเยือนที่ที่หลายคนเบือนอย่างสลัมที่อับทึบในกรุงบัวโนสไอเรส และต่อมาเมื่อได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาแล้วโป๊ปพระองค์นี้ก็ยังคงยึดความรักและความเรียบง่ายที่มีต่อเพื่อนมนุษย์เช่นเดิม




คลีโอพัตราได้พบมาร์ค แอนโทนี ครั้งแรก.

คลีโอพัตรา นางพญาไอยคุปต์ผู้สร้างตำนานรัก 2,000 ปียังเป็นที่พูดถึงจนทุกวันนี้ เริ่มจากความฉลาดของสตรีนางหนึ่งที่ไม่ต้องการตกอยู่ใต้การปกครองของใครและต้องการให้อียิปต์ทั้งชาติเป็นมหาอำนาจเข้มแข็ง โดยใช้กุศโลบายในการเป็นพันธมิตรกับมหาอาณาจักรใหญ่ของโลกขณะนั้นคือ “โรม” ซึ่งคลีโอพัตราได้พบรักกับจอมคนแห่งโรมคือจูเลียส ซีซาร์ จนมีทายาทด้วยกัน โดยหวังให้บุตรชายของซีซาร์กับยอดสตรีแห่งอียิปต์นี้ได้เป็นผู้ที่มีสิทธิ์ทั้งบัลลังก์โรมและไอยคุปต์ แต่ต่อมาการณ์ก็กลับไม่เป็นดังคาด เพราะซีซาร์ถูกสังหารอย่างทารุณ ส่วนคลีโอพัตราก็ได้พบรักใหม่กับมาร์ค แอนโทนี ขุนพลเอกแห่งซีซาร์ผู้ล่วงลับ

ทั้งสองครองรักกันอย่างมีความสุขได้ไม่นานก็เกิดข้อวิวาทระหว่างอียิปต์กับโรม จนถึงกับยกทัพจับศึกกัน ซึ่งถ้าพ่อมาก เอ๊ย...มาร์คจะล่วงรู้สักนิดว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเยี่ยงไรก็คงไม่ยอมตกหลุมพรางจนตัวตาย ด้วยในที่สุดก็ได้ยาตราทัพมาสัประยุทธ์กับออกตาเวียนจนมาร์คแพ้หมดรูป ทำให้ยอดชายต้องฆ่าตัวตายเพื่อล้างอาย ส่วนคลีโอพัตราผู้เคยครองรักกับยอดคนแห่งโรมมาถึง 2 ท่านก็ไม่อาจที่จะทนตกเป็นเชลยของใครได้ จึงกระทำอัตวินิบาตกรรมจนสิ้นชีพตามคนรักไปไม่นาน กลายเป็นโศกนาฏกรรมแห่งรักที่เริ่มต้นอย่างสวยงามแล้วอวสานลงด้วยความเศร้าครับ

มาดามบัตเตอร์ฟลาย คุณนายผีเสื้อ หรือ “สาวเครือฟ้า” ในเวอร์ชันสยาม ซึ่งเรื่องนี้มีต้นแบบมาจากอุปรากรเรื่องดังของปุชชินี ชาวอิตาลี ที่เป็นเรื่องราวความรักที่หวานปนเศร้า เริ่มเรื่องอย่างสวยงามเมื่อนายทหารเรืออเมริกันนาม พิงค์เคอตัน ได้มาถึงญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก พรหมลิขิตก็พาให้พบกับสาวญี่ปุ่นนาม “โจโจ้ซัง” ผู้สวยงามอ่อนหวานแบบฉบับสาวเกอิชาแดนอาทิตย์อุทัย จากนั้นพิงค์เคอตันก็ตกลงใจจะแต่งงานกับสาวน้อยนี้ โดยที่โจโจ้ซังผู้มีวัยเพียง 15 ปีเป็นผู้มีความซื่อสัตย์ในความรักอย่างยิ่ง แต่พิงค์เคอตันเป็นหนุ่มเจ้าสำราญ จึงทำให้คนที่รู้จักพากันทัดทานความรักครั้งนี้ แต่ทั้งคู่ก็ฝืนจนแต่งงานกันได้ แล้วสาวน้อยก็ตั้งครรภ์ขึ้น ต่อมาพิงค์เคอตันจำต้องกลับประเทศของตนโดยให้สัญญาว่าจะกลับมาอีกครั้งต่อเมื่อนกรอบิน (Robin) ทำรัง




โจโจ้ซังสังหารตัวเองเพราะความผิดหวัง.

โจโจ้ซังผู้ยึดมั่นในสัญญารักเฝ้ารอคอยพร้อมลูกน้อยและสาวใช้ที่คอยปลอบประโลมใจ จนในที่สุดเวลาผ่านไป 3 ปี (รอบินคงทำรังไปหลายรุ่นแล้ว) พิงค์เคอตันก็กลับมาจริงแต่มาพร้อมกับแฟนสาวที่เพิ่งแต่งงานใหม่ ทำให้โจโจ้ซังผู้รอคอยโศกเศร้าอาดูรยิ่งจึงตัดสินใจปิดฉากชีวิตลงด้วยการแทงตัวตาย ดีกว่าที่จะมีชีวิตอย่างไร้เกียรติและไร้รักต่อไป

แมรี ทิวดอร์ เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์แห่งราชวงศ์ทิวเดอร์หรือทิวดอร์ตามที่อ่านสะดวกลิ้น เจ้าหญิงแมรีมีพระเชษฐาเป็นกษัตริย์ผู้โด่งดังแห่งอังกฤษนามว่า “เฮนรีที่ 8” ซึ่งเป็นพระราชาผู้ทรงขึ้นชื่อในเรื่องแสวงหาความรัก โดยทรงมีพระมเหสีถึง 6 พระองค์ ส่วนแมรีผู้เป็นขนิษฐาองค์น้อยนั้นเป็นน้องสาวที่พระองค์รักยิ่ง เจ้าหญิงน้อยยังได้ชื่อว่าเป็นเจ้าหญิงผู้ทรงโฉมที่สุดในยุโรป ต่อมาเมื่อพระเชษฐาผู้เป็นพระเจ้าแผ่นดินได้ยื่นข้อเสนอให้ทรงเข้าพิธีสยุมพรกับพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสเพื่อความเป็นปึกแผ่นของ 2 แผ่นดิน เจ้าหญิงแมรีน้อยก็ทรงยอมแต่งงานเพื่อ “การเมือง” และ “เพื่ออังกฤษ” ที่ทรงรัก จากนั้นไม่ถึง 3 เดือนดีก็ทรงเป็นม่ายด้วยพระเจ้ากรุงฝรั่งเศสผู้ชราสวรรคตลง

หลังจากความสูญเสียนี้ ได้ทรงพบรักแท้กับหนุ่มรูปงามนามชาร์ลส์ แบรนดัน ผู้หาใช่คนอื่นไกลแต่เป็นพระสหายวัยเด็กของพระเชษฐาเฮนรีนั่นเอง โดยชาร์ลส์ผู้นี้แม้จะไม่ได้มีกำเนิดเป็นเจ้าแต่ก็มีสายเลือดผู้กล้ามาด้วยบิดาเป็นนายทหารที่สู้จนตัวตาย จึงไม่น่าแปลกที่เจ้าหญิงโฉมสะคราญจะได้เจอชายในฝันตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ แต่เมื่อทั้ง 2 ต้องพบกันอีกครั้งเมื่อเจริญวัยก็เป็นความรักที่อยู่ในห้วง “เพลิงพิโรธ” จากเฮนรีที่รู้สึกราวทรงถูกหักหน้าเพราะทั้งคู่ลอบแต่งงานกันลับๆ แต่ด้วยความกล้าหาญของชาร์ลส์และรักแท้ของทั้งคู่จึงเปลี่ยนให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี โดยเฮนรีก็ทรงเมตตาประทานอภัยทั้งยังทรงอำนวยพรมายังคู่บ่าวสาวด้วย




แมรี ทิวดอร์ กับชาร์ลส์ แบรนดัน.

เรื่องราวที่เป็นดั่งเทพนิยายนี้เกิดขึ้นจริงเมื่อ 500 ปีมาแล้วครับโพคาฮอนทัส สาวงามชาวอเมริกันพื้นเมืองในสมัยที่อังกฤษล่าเมืองขึ้นไปไกลถึงอเมริกา โพคาฮอนทัสนั้นมีนามจริงว่า “มาตูอากา” เป็นถึงลูกสาวหัวหน้าเผ่าในดินแดนบุกเบิกที่สมัยแรกเรียกว่าเวอร์จิเนีย เรื่องราวแห่งความรักของเธอนั้นมีทั้งเรื่องจริงและเรื่องเล่า ว่ากันว่าเมื่อบิดาผู้เป็นหัวหน้าเผ่าของเธอจับชายหนุ่มชาวอังกฤษนามจอห์น สมิธ ได้ก็จะสำเร็จโทษด้วยการทุบกะโหลก ปรากฏว่าเธอช่วยชีวิตเขาไว้ด้วยการเอาศีรษะไปพาดเขียงแทน ทำให้บิดาละโทษประหารไป แต่ต่อมาชะตากลับข้างทำให้โพคาฮอนทัสถูกจับเป็นตัวประกันโดยฝ่ายอังกฤษบ้าง ซึ่งนั่นทำให้เธอได้อยู่กับคนรักคือกัปตันจอห์น สมิธ แล้วต่อมามีพยานรักด้วยกันเป็นบุตรชายคนหนึ่ง

แต่เรื่องจริงก็คือเธอแต่งงานกับชายชาวอังกฤษชื่อจอห์น รอฟ ซึ่งเป็นผู้ตั้งถิ่นฐานคนแรกๆ ซึ่งต่อมาแม้โพคาฮอนทัสจะได้รับอิสระจากการควบคุมแต่เธอก็สมัครใจที่จะอยู่กับจอห์นต่อ และเธอได้เปลี่ยนศาสนามาเข้ารีต โดยมีชื่อใหม่ว่า “รีเบ็คก้า” ซึ่งต่อมาจอห์นก็ได้พาเธอลงเรือกลับอังกฤษไปด้วย ผลก็คือผู้ดีอังกฤษทั้งหลายต่างตื่นตาและ “ทึ่ง” กับการปรับตัวของเธอ โพคาฮอนทัสได้เข้าเฝ้าพระเจ้าแผ่นดินอังกฤษถึงในราชสำนัก ส่วนพยานรักของเธอนั้นก็ได้สืบเชื้อสายต่อมาอีกมากมาย

คุณหมออัลเบิร์ต ชไวเซอร์ คุณหมอท่านนี้มีความรักให้ “คนไข้” และ “ดนตรี” อย่างยากจะหาใครเสมอเหมือน คุณหมออัลเบิร์ตมีชีวิตที่น่าสนใจยิ่ง เพราะเริ่มต้นมาจากการเป็นนักดนตรีผู้เชี่ยวชาญออร์แกนซึ่งเป็นเครื่องดนตรีคีย์บอร์ดที่ใช้ลมขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งดนตรีคือจุดเริ่มต้นของการมีจิตใจละเอียดอ่อนรักเพื่อนมนุษย์ โดยอัลเบิร์ตสนใจปรัชญาอย่างลึกซึ้ง จนเป็นแรงบันดาลใจให้เป็นหมอด้วยหนทางชีวิตที่น่าทึ่ง แม้พื้นฐานความรู้เดิมจะไม่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์เลย แต่อัลเบิร์ตตัดสินใจเข้าศึกษาแพทยศาสตร์ในวัย 30 ปี ต้องใช้ความอุตสาหะยิ่ง เพราะเป็นสิ่งที่อัลเบิร์ตผู้เป็นนักปรัชญาและนักดนตรีไม่เคยทราบมาก่อน ระหว่างการเรียนด้วยความเพียรนั้นเขาได้ปลุกจิตสำนึกของแพทย์ทั่วโลกขึ้นมาอย่างหนึ่ง คือ แพทย์ควรเป็น “นักปรัชญาวิทยาศาสตร์” ด้วย เพื่อจะได้เข้าใจหัวใจเพื่อนมนุษย์อย่างลึกซึ้ง ซึ่งเรื่องนี้ยังคงทันสมัยมาจนทุกวันนี้




โพคาฮอนทัสเสี่ยงตายช่วยชีวิตจอห์น สมิธ.

อัลเบิร์ตมีความรักต่อเพื่อนมนุษย์ยิ่ง จึงอาสาไปรักษาคนไข้ในกาฬทวีปซึ่งเต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ยิ่งเมื่อกว่า 100 ปีก่อนยังคงเป็นดินแดนรอการบุกเบิกเต็มไปด้วยอันตรายและความตาย แต่เขาและภรรยาก็เลือก “กาบอง” ที่ห่างไกลความเจริญในแอฟริกาเป็นที่สร้างโรงพยาบาล ซึ่งเขาก็ได้อุทิศชีวิตเพื่อผู้อื่นเช่นนี้จวบจนลมหายใจสุดท้าย โดยเมื่อสิ้นลมหายใจร่างของคุณหมอรางวัลโนเบลอย่างอัลเบิร์ต ชไวเซอร์ ก็ถูกนำกลับมาฝังที่โรงพยาบาลในกาบองท่ามกลางเพื่อนมนุษย์ที่เขารักและรักเขายิ่งนั้นเอง นี่เป็นความรักของคุณหมอใจบุญครับ

หัวใจที่มีรักนั้นทำได้หลายอย่างครับ เมื่อมีความรักทำให้คนกล้าทั้งกล้าบ้าบิ่นและกล้าที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องบางคนสละได้แม้ชีวิต ซึ่งสิ่งที่จะกำหนดควบคุมการกระทำได้ก็คือการใช้สมอง เป็นเครื่องนำความรักนี่เองครับ มนุษย์ผู้เป็นสิ่งมีชีวิตอันประเสริฐจึงโชคดีที่มีมันสมองติดมาพร้อมทั้งหัวใจที่พร้อมจะให้รักแก่ชีวิตอื่นได้ ซึ่งอยู่ที่ใจเราว่าจะมอบความรักให้ใครอย่างฉลาดหลักแหลมที่สุด

ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะรัก แต่ขอให้ใช้สมองด้วยครับ.



โดย : นพ.กฤษดา ศิรามพุช
ทีมงาน นิตยสาร ต่วย'ตูน

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.418 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 23 กุมภาพันธ์ 2567 01:23:18