[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 เมษายน 2567 05:47:37 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมะจากทองผาภูมิ  (อ่าน 2102 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5064


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 12 มีนาคม 2553 09:19:05 »




ธรรมะจากทองผาภูมิ
10-13 ธันวาคม 2552
เราจะมีการฝึกเคร่งครัดอย่างยิ่งเพื่อให้เกิด ตัวรู้ ให้ท่านผู้รู้เติบโตในจิตวิญญาณ แล้วความรู้รอบ ๆ ตัว  ความเข้าใจความจริงของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ชีวิต จิตวิญญาณ ก็จะหลั่งไหลมาเอง  สิ่งสำคัญคือ เราต้องมีการเตรียมการให้พร้อม  เช่น การตั้งใจ  ไม่ควรสนใจสิ่งอื่นนอกตัว ให้มีแต่ตัวกูล้วน ๆ มีแต่มึงกับกู
  • กติกาการศึกษา 4 ข้อ :
[LIST=1]
  • ไม่พูด ไม่สนใจเรื่องนอกตัว
  • อยู่อย่างเป็นผู้ที่พึ่งตัวเองได้ และเป็นที่พึ่งให้ผู้อื่นได้  ทำ พูด คิด ด้วยจิตสาธารณะ
  • อย่าทำหรืออยู่เพราะแรงผลักดันของตัณหาพาไป
  • ให้เกียรติและเคารพกัน มีคารวะธรรมในใจ
  • วิเคราะห์สาระจากพระไตรปิฏก บุคคลผู้มีราตรี 1 เจริญ
[LIST=1]
  • บุคคล 3 จำพวก :
  • 1. บุคคลที่คำนึงถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว – เราได้มี รูป เวทนา สัญญา  สังขาร  วิญญาณ ในสิ่งที่ล่วงแล้ว
  • 2. บุคคลผู้มุ่งในสิ่งที่ยังไม่มาถึง - ขอเราพึงมี รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อย่างนี้ในอนาคต
  • 3. บุคคลผู้เห็นแจ้งในปัจจุบัน /ไม่ง่อนแง่นคลอนแคลนในธรรมที่เป็นปัจจุบัน  ได้แก่ บุคคลที่เห็นพระอริยเจ้า /สัตตบุรุษ , บุคคลผู้ฉลาดในธรรมของพระอริยเจ้าและสัตตบุรุษ, บุคคลผู้ปฏิบัติตามธรรมของพระอริยเจ้าและสัตตบุรุษ
[LIST=1]
  • บทวิเคราะห์ โดยหลวงปู่พุทธะอิสระ :
  • พระพุทธเจ้าทรงยกเอาขันธ์ 5 มาอธิบาย ว่า บุคคลผู้อยู่ในปัจจุบันจริง ๆ นั้นจะเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ซึ่งมีอยู่ในขันธ์ 5 เห็นแจ้งความไม่เที่ยงของขันธ์ 5 ในปัจจุบัน
  • บุคคลผู้อยู่ในปัจจุบันธรรม จะไม่เกิดอนาคต สังขารทั้งหลาย (รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ตั้งอยู่แล้วดับไป  เราก็จะรู้ว่ามันจะไม่ส่งผลไปในอนาคตได้  เพราะเห็นมันดับไปในปัจจุบัน  ถ้ามีปัญญารู้ชัดอย่างนี้อนาคตก็จะดับสูญลงไปด้วย  แต่เพราะเรารู้ไม่ชัดจึงไปปรุงแต่งปัจจุบัน จึงเกิดอนาคตขึ้นมา
  • สิ่งที่ล่วงไปแล้วสังขารที่ล่วงไปแล้ว  เราจะเห็นได้เมื่อเรารู้ในปัจจุบัน  สิ่งใดที่ล่วงไปแล้วไม่มีตัวตน ที่เรามีตัวกู ของกู คือ เรามีอุปาทาน ความไม่รู้
  • เราเจริญได้ด้วย 1 วินาทีเดียว (ปัจจุบันธรรม) จะเจริญด้วยเรื่องอันใดก็ตาม ก็มีเพียงขณะเดียวเท่านั้น  ที่เหลือเป็นกระบวนการสืบเนื่องต่อ ๆ มา กระบวนการของ ตัณหา ราคะ โทสะ โมหะ ฯลฯ  เข้ามาหล่อเลี้ยงทำให้อายุขัยสืบเนื่อง
  • พระพุทธเจ้าจึงทรงสอนว่า เรามีชีวิตจริงแค่ 1 วินาที (ขณะจิต) เท่านั้น วินาทีต่อไป ขึ้นกับว่าอะไรมาหล่อเลี้ยงเรา : เป็นทางเจริญ หรือเสื่อม
- หนทางที่เจริญ : คือการหล่อเลี้ยงของวิชชา
- หนทางอันเสื่อม :  อวิชชาเลี้ยง
ถ้าเรามีชีวิตอยู่ 100,000 วินาที ด้วยความดี  ก็เป็นความต่อเนื่องของ บุญของวิชชา
ถ้าเรามีชีวิตอยู่ 100,000 วินาที ด้วยความอัปรีย์  ก็เป็นความต่อเนื่องของ บาปของอวิชชา
เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับว่า 1 วินาทีนั้น ถูกอะไรหล่อเลี้ยง  บุญ /บาป , วิชชา / อวิชชา   นั่นคือกรรม
  • อย่าเข้าใจผิดว่าเรามีอายุยืน ทุกคนมีชีวิตแค่วินาทีเดียวเท่านั้น ชีวิตของสัตว์ มีวินาทีเดียว คือวินาทีที่มาปฏิสนธิในครรภ์มารดา แล้วต่อจากนั้นเป็นการมาหล่อเลี้ยงของกรรม
  • การเกิดเป็นมนุษย์เป็นได้ยาก และเป็นผู้ใหญ่กว่าสัตว์อื่น ๆ เพราะเราสามารถเลือกชีวิตเราให้วิชชาเจริญขึ้นได้  ดังนั้น
- ความดีเราจึงต้องสะสม ให้บ่อยมาก และถี่มาก วินาทีต่อวินาที
- ความไม่ดีเราจึงต้องละ ให้บ่อยมาก และถี่มาก วินาทีต่อวินาที ไม่ใช่ 1 วัน หรือ 1 ปี
  • มนุษย์ ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ เพราะสามารถพัฒนาได้ ไม่ตัน สามารถเลือกทำกรรมได้  เทวดาพรหมยังไม่ใหญ่ เพราะมันตัน เลือกไม่ได้
    • สัตว์เดรัจฉาน  ทำตามสัญชาติญาณ
    • เทวดา ทำตามโปรแกรมบุญที่ได้มา
    • มนุษย์ไม่มีโปรแกรม เดี๋ยวก็ชั่วได้ เดี๋ยวก็ดีได้ อยู่ที่เราเลือกให้วินาทีนั้นมี กุศล หรืออกุศล ชี้ชวน
    • ธรรมชาติของมนุษย์ไม่เป็นไปตามกติกา ตารางสอน มนุษย์จะเป็นไปตามสิ่งเร้า ชักชวน หรือเสพย์ ดังนั้นมนุษย์ผู้ปัญญาเท่านั้นที่จะมีพลังในการคัดสรร และสร้างวิธีการพัฒนาตน คือ สร้างสิ่งเร้าองค์ประกอบในเชิงบวกให้มีมากขึ้น  เพื่อให้ชีวิตของเราทุกวินาทีไม่ตกเป็นทาสของซาตาน
สรุป : 1. ธรรมทั้งหลายทั้งปวง ไม่ใช่ตัวตน เป็นอนัตตา การจะรู้ชัด รู้จักของจริง ต้องเป็นผู้มีปัญญา รู้ชัดในปัจจุบันขณะ ( 1 วินาที)
2. การปรุงแต่ง / สังขาร / อายุขัย / การสืบเนื่อง  ของแต่ละขณะจิต เป็นการกระทำของกรรมซึ่งมีอยู่ 2 ลักษณะ เท่านั้น คือ  บุญ (วิชชาเลี้ยง)  ,  บาป (อวิชชาเลี้ยง)
3. ผู้มีปัญญาจะเจริญทุกวินาที  (วิชชาเลี้ยง)  -  ผู้ไม่มีปัญญา ก็อัปรีย์ทุกวินาที (อวิชชาเลี้ยง)  ซึ่งเราเลือกได้   เพราะฉะนั้นปัญญาเท่านั้น ที่จะให้เราได้รู้ทันวินาทีนั้น  จึงต้องสั่งสมอบรม
4. การสั่งสมปัญญา มาเลี้ยงดูจิต โดยวิธีการ ฟัง เรียน อบรม ลงมือทำ เพื่อป้องกันกรรมชั่วทั้งปวง ให้ชีวิตเรามีวินาทีที่ดีหลาย ๆ วินาที..จนถึงทั้งวัน.. ทั้งปี.. ทั้งชีวิต



  • หลักการปฏิบัติปราณโอสถ  การฝึกเดิน / เคาะนิ้ว ปรัชญาปรามิตาสูตร :
ชีวิตจริง ๆ ของเรามีอยู่แค่ 1 วินาทีเท่านั้น   เรามาทำของใหม่ที่เป็นปัจจุบันธรรม  ให้ (เจริญ) เป็นบุญ เป็นสติ สมาธิ ปัญญา หล่อเลี้ยงจิตตลอด 1 ชม.
- การเคาะนิ้ว 1 ครั้ง  หรือก้าวเดินตามจังหวะ 1 ก้าว =1 วินาทีอันเจริญของเรา
- ให้เราเคาะให้ชัด การเคาะชัดแสดงว่าชีวิตของเราไม่ขาด ไม่เกิน มีความเหมาะสมและซื่อตรงดี
- พยายามสลับนิ้วไปมา เคาะให้ได้ทั้ง 3 ข้อนิ้ว เพื่อฝึกความคล่องของสัมปชัญญะ ไม่ใช้สัญญา
- ก้าวเดินพร้อมเสียงป็อก 3 อย่างต้องรวมเป็น 1 : หูได้ยินเสียง / ใจรู้ / เท้าก้าวเดิน
- ฝึกให้เผชิญกับการเปลี่ยนจังหวะอย่างต่อเนื่อง   ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงจังหวะ ก้าว/ เคาะ 
จิตต้องไม่กระเพื่อม
มีสติรักษาภายใน พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง
- การเดินขั้น 3 ประกอบลมหายใจ เป็นขั้นที่เกิดปราณ และโคจร  ต้องไม่กลั้นลม (ท่อต้องไม่ตัน) ไม่   
ขังมันไว้ที่ใด ต้องให้ปราณแล่นไปทั่วร่างกาย
- เมื่อเดินขั้น 3 แล้ว ต้องสลับมาเดินขั้น 2 เป็นขั้นผ่อนคลาย เพื่อสลายปราณที่เกิดขึ้น
- สภาวะธรรมในการเดิน / เคาะจังหวะ: ถ้าทำถูกต้อง เราจะสามารถรู้ล่วงหน้าว่าเสียงป็อกจะมาเมื่อใด (จิตรู้)  สัมปชัญญะจะเตรียมกายเหมาะสม  พัฒนาการของจิตจะสูงขึ้น ตัวรู้มีความใสสะอาดมากขึ้น  ความไวของจิตจะมากขึ้น ทำให้เราเหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่า จะเกิดขึ้นเมื่อใด
 
  • การฝึกเจริญมนต์ : ตาดูมนต์  ใจรู้มนต์  ปากอ่านมนต์
แม้เมื่อมีเสียง หรือสถานการณ์รบกวนจากภายนอกต่างๆ เช่น เสียงเพลง โยนถาด ฯลฯ  จิตต้องไม่กระเพื่อม  มีสติรักษาภายใน จรดจ่อกับการงานที่กำลังทำอย่างซื่อตรง
  • ปัจฉิมโอวาท :
[LIST=1]
  • ผู้บริหารที่ดี ที่วิเศษยิ่งใหญ่ ไม่ใช่บริหารตัวเลข แต่เป็นการบริหารเวลา และอารมณ์  บริหารทุกเสี้ยววินาทีให้มีกำไรทุกวินาที ให้เรามีอารมณ์เป็นสุขทุกวินาที
  • การบริหารชีวิตให้เป็นสุข คือ ชีวิตของเรามีเพียงชั่วขณะเดียว ขณะหนึ่งเท่านั้น  อายุ 20 ปี มันตั้งอยู่แค่ขณะเดียว เวลาเป็นสิ่งที่ผ่านมาผ่านไป   หากเรายังไม่ได้ทำเท่าที่เราเสียไป เท่ากับว่าเราเสียชีวิตช่วงนั้น ๆ ของเราไป  เราจึงต้องมีความเพียร และมีอัปปมาทะธรรม คือความไม่ประมาท
  • อยากให้ลูกหลาน อยู่อย่างไม่ประมาท มัวเมา ในการทำภาระกรรมของตน ๆ
  • ชีวิตของเรามีแค่ 1 ขณะจิต ขณะนั้นจะสุข ทุกข์ , ดี-ชั่ว, ได้-เสีย : ขึ้นอยู่กับเราเลือก
  • เป็นผู้ซื่อตรง ทำ พูด คิด เรื่องเดียวกัน
-----------------
สรุปโดยคุณปู : 15 ธค. 52
    http://www.onoi.org/index.php?option=com_content&view=article&id=178:2009-12-16-03-43-08&catid=35:2009-04-14-16-21-52&Itemid=59

    Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

    บันทึกการเข้า

    ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
    ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
    ปริศนาธรรม นะตะเอง
    เงาฝัน
    สุขใจ คนพิเศษ
    นักโพสท์ระดับ 15
    *

    คะแนนความดี: +58/-0
    ออฟไลน์ ออฟไลน์

    เพศ: หญิง
    Thailand Thailand

    กระทู้: 7493


    ระบบปฏิบัติการ:
    Windows XP Windows XP
    เวบเบราเซอร์:
    MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


    ดูรายละเอียด
    « ตอบ #1 เมื่อ: 15 มีนาคม 2553 00:39:22 »



    ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม
    บันทึกการเข้า
    คำค้น:
    หน้า: [1]   ขึ้นบน
      พิมพ์  
     
    กระโดดไป:  


    คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
    คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
    คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
    คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
    BBCode เปิดใช้งาน
    Smilies เปิดใช้งาน
    [img] เปิดใช้งาน
    HTML เปิดใช้งาน

    Powered by MySQL Powered by PHP
    Bookmark and Share

    www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
    Mckaforce Group | Sookjai Group
    Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
    Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
    Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
    หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.344 วินาที กับ 31 คำสั่ง

    Google visited last this page 10 มีนาคม 2567 02:13:36