[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
27 เมษายน 2567 08:56:52 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตำนานเด็กเขียวจากโลกอื่น?  (อ่าน 2627 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 13 มีนาคม 2553 12:44:29 »




ตำนานเด็กเขียวจากโลกอื่น?

ความลึกลับของเด็กสองคนที่มีผิวกายสีเขียว ถูกยึดถือเป็นข้อพิสูจน์เรื่องมิติที่สี่ โดยนักวิจัยทางวิญณาญและภูตผีปีศาจ นิยายปรัมปราก็ดี การถือโชคลางก็ดี และการบิดเบือนความจริงก็ดี อาจจะบดบังความจริงเสีย แต่ข้อเท็จจริงยังคงมีอยู่ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถอธิบายได้ ซึ่งอุบัติขึ้นที่เชิงเขาประเทศสเปน วันหนึ่งในค.ศ. 1887 บ่ายวันหนึ่งแห่งเดือนสิงหาคม ค.ศ.1887 เด็กสองคนจูงมือกันเดินออกมาจากถ้ำแห่งหนึ่งที่เชิงผาใกล้หมู่บ้านบานโฮเซ ในประเทศสเปน เข้าไปในนาซึ่งคนงานกำลังเก็บเกี่ยวกันอยู่ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นราว 90 ปีมาแล้วก็จริง แต่ก็มีผู้ที่มีชีวิตอยู่หลายคนซึ่งยังจำเหตุการณ์นั้นได้ดี ไม่ต้องสงสัยเลย อาจมีการเล่าเกินความจริงไปบ้าง และอาจบิดเบือนความจริงไปบ้างก็ได้

 แต่ข้อเท็จจริงอันเป็นมูลฐานของเรื่องนี้ที่รู้สึกว่าไม่สามารถโต้แย้งได้ก็คือ เด็กสองคนนั้นเดินออกมาจากปากถ้ำอย่างปราศจากอาการหวาดกลัวจริงๆ ทั้งสองคนพูดภาษาที่แปลกและกระท่อนกระแท่น กับทั้งเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มก็ประกอบด้วยวัสดุที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และที่ประหลาดที่สุดก็คือ...ผิวกายเป็นสีเขียวขจี นับเป็นเรื่องประหลาดมหัศจรรย์ ปราศจากเหตุผลแต่ก็ไม่ต้องการคำอธิบาย แม้กระนั้นนักวิจารณ์เกี่ยวแก่ภูตผีปีศาจก็ปักใจเชื่อว่า บางทีอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่มีคุณค่าที่สุดเท่าที่พวเขาเคยได้รับเกี่ยวแก่มิติที่สี่ โลกซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับโลกของเรา เป็นแดนสนธยาซึ่งเด็กสองคนนั้นรอดพ้นออกมาได้ จะด้วยวิธีหนึ่งวิธีใดก็ตาม

ทฤษฎีก็คือว่า เด็กสองคนนี้ตกเข้าไปในของเหลวหรือก๊าซในอวกาศ เหมือนดังคนที่ตกลงไปในโพรงน้ำแข็งและไม่สามารถกลับออกมา จึงได้เข้าไปสู่ที่ราบของมิติที่สาม แล้วเลยเข้าไปในมิติที่สี่ และไม่สามารถกลับมาได้ ประหลาดมหัศจจรย์หรือ? อาจเป็นไปได้ แต่ในบรดาทฤษฎีทั้งหมดที่นำมาพิจารณาเกี่ยวแก่การปรากฏตัวของเด็กที่ผิวกายสีเขียวนี้ ก้เป็นทฤษฎีเดียวเท่านั้นที่พอจะนำมาอธิบายได้เป็นซ้ำสอง ในไม่ช้า หลังจากปรากฏการณ์นี้ นักบวชรูปหนึ่งเดินทางจากบาร์เซโลนาเพื่อทำการสอบสวน นักบวชรูปนั้นได้เห็นเด็กทั้งสอง และได้ซักถามประจักษ์พยาน และต่อมาก็ได้เขียนรายงานขึ้นไว้ ความว่า "อาตมาประหลาดใจมากที่มีประจักษ์พยานรู้เรื่องมากมาย จนต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเข้าใจ และคลี่คลายได้ด้วยอำนาจแห่งสติปัญญา"

พวกชาวนาที่เกี่ยวข้าวกำลังพักผ่อนรับประทานอาหารกลางวันกันอยู่ เมื่อเด็กประหลาดคู่นั้นปรากฏตัวขึ้นที่ปากถ้ำบนเชิงเขา ทั้งสองมีอาการเงอะงะร้องไห้โฮออกมาอย่างเปิดเผย และที่ประหลาดมากก็คือทั้งสองคนมีผิวกายสีเขียวเข้ม ด้วยความไม่เชื่อ คนทำงานพากันวิ่งกรูเข้าไปหาเด็กสองคนนั้น ฝ่ายเด็กก็ตื่นตกใจและออกวิ่ง ผู้คนเลยแตกตื่นวิ่งไล่ตาม ในที่สุดก็ตามทันและจับตัวไว้ได้นำไปที่หมู่บ้าน ทั้งสองคนถูกนำตัวไปที่บ้านของริคาร์โด ดา คาลโน ผู้ซึ่งเป็นทั้งนคราภิบาล และเจ้าของที่ดินคนสำคัญของหมู่บ้าน ดา คาลโนพยายามพูดจากับเด็กคู่นั้น

ส่วนคนอื่นๆ โผล่หน้าต่างดู เขาจับมือขวาของเด็กผู้หญิงยกขึ้นดู ปรากฏว่าสีเขียวติดแน่น จึงต้องเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเยื่อของผิวกายอย่างไม่ต้องสงสัย เด็กคนนั้นดึงมือกลับ แล้วร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว เจ้าของบ้านจัดอาหารมาวางลงบนโต๊ะตรงหน้าเด็กทั้งสอง แต่เด็กก็ไม่รับประทาน หยิบขนมปังขึ้นมาถือไว้แล้วหยิบผลไม้ แต่ก็เพียงมองดูด้วยความแปลกใจ ไม่ยอมเอามันเข้าไปใกล้ปาก ดา คาลโนพยายามสังเกตดูรูปร่างของเด็กทั้งสอง แม้ว่าจะมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ธรรมดา แต่ใกล้ไปทางเผ่าพันธุ์นิกรอยด์เล็กน้อย นัยน์ตากลมเหมือนผลมะนาว และลึก เด็กทั้งสองพักอยู่ในบ้านนั้น 5 วัน ไม่กินอะไรเลยจนสังเกตเห็นได้ว่าอ่อนเพลีย ไม่ทราบว่าอาหารอะไรจึงจะเป็นที่พึงใจเขาทั้งสอง

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 13 มีนาคม 2553 12:55:34 »

http://img140.imageshack.us/img140/4351/e25b43ae4b8a4215058e969.gif
ตำนานเด็กเขียวจากโลกอื่น?
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 13 มีนาคม 2553 13:07:50 »



มีรายงานฉบับหนึ่งกล่าวว่า "ได้มีการนำเอาถั่วที่ตัดหรือเด็ดจากต้นเข้ามาในบ้าน ปรากฏว่าเด็กทั้งสองกรากเข้าหยิบเอาไปฉีกอย่างตะกรุมตะกราม แต่ไม่ยักฉีกที่ฝัก กลับไปฉีกที่ลำต้น คงเข้าใจว่าเม็ดถั่วอยู่ในโพรงลำต้น "เมื่อไม่พบอะไร เด็กทั้งสองก็ตั้งต้นร้องไห้อีกครั้งแล้วใครคนหนึ่งจึงฉีกฝักถั่วให้ดู

เมื่อนั้นแหละ ทั้งสองจึงดีใจมาก และกินถั่วเข้าไปตั้งมากมาย และตั้งนั้นมาก็ไม่ยอมแตะต้องอาหารอื่นใดอีกเลย" แต่การอดอาหารมาหลายวันดูเหมือนจะเป็นอันตรายแก่เด็กทั้งสองนั้นอย่างร้ายแรง ทั้งๆที่ได้กินถั่วแล้วเด็กผู้ชายก็อ่อนเพลียลงเรื่อยๆ จนในที่สุดได้ถึงแก่กรรมลง หลังจากมาที่ปรากฏตัวได้ที่นั่นหนึ่งเดือน ศพของเขาก็ได้ถูกฝังไว้ในสุสานของหมู่บ้าน อย่างไรก็ตามส่วนเด็กหญิงกลับแข็งแรงดี และทำหน้าที่เป็นคนรับใช้อยู่ในบ้านของ ดา คาลโน ผิวกายที่เป็นสีเขียวค่อยๆจางลง และเป็นคนแปลกประหลาดของหมู่บ้านน้อยลง


หลังจากนั้น 2-3 เดือนเธอก็พูดภาษาสเปนได้บ้าง จึงสามารถให้ถ้อยคำชี้แจงแก่ดา คาลโนได้ถึงเรื่องราวในการมาของเธอ แต่แม้กระนั้นก็ยังทำให้ความลึกลับที่มีอยู่แล้วกลับมีมากยิ่งขึ้น เธอบอกว่าเธอมาจากดินแดนแห่งหนึ่งซึ่งมีมีพระอาทิตย์ขึ้น และมีแสงสนธยาอยู่เสมอเป็นนิจ "มีดินแดนที่มีแสงสว่างแลเห็นอยู่ห่างไกลจากเรา แต่ถูกสกัดกั้นโดยธารน้ำที่กว้างมาก" เธอบอก

ต่อคำถามที่ว่าทั้งสองคนมาสู่พิภพของเราได้อย่างไร เธอตอบได้แต่เพียงว่า "มีเสียงหนึ่งดังมากขึ้น และเสียงนั้นเองที่ตรึงจิตใจของเรา เราจึงมาตามเสียงนั้นและได้พบตัวเองมาอยู่ในทุ่งนาที่กำลังมีการเก็บเกี่ยว" นั่นคือเรื่องราวทั้งหมดที่เธอเล่าให้ฟัง และบางทีเธออาจทราบทั้งหมดเพียงเท่านั้นเอง เด็กผู้หญิงมีวิตอยู่อีกห้าปี แล้วเธอเองก้ตายตามไปอีกคนนึ่ง

ศพของเธอถูกฝังไว้เคียงข้างกับศพพี่(หรือน้อง) ชายของเธอ นับเป็นเรื่องราวที่ประหลาดมหัศจรรย์ มันเป็นเรื่งปรัมปราที่เล่ากันมาในอดีต เป็นเรื่องโกหกหลอกลวงหรือเป็นเรื่องที่เล่ากันให้แปลกและตื้นเต้นสืบต่อกันมาลายชั่วคนกระนั้นหรือ? แต่ถึงอย่างไร เอกสารต่างๆ ก็ยังคงมีอยู่พร้อมด้วยถ้อยคำให้การของบรรดาประจักษ์พยาน ที่ได้สาบานตนว่าจะพูดความจริงและล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ได้สัมผัสเนื้อตัวมนุษย์ประหลาดซึ่งจูงมือกันเดินออกมาจากโพรงในพื้นดินทั้งสิ้น

มีทฤษฏีหลายอย่างที่เกี่ยวแก่เรื่องนี้ อาทิเช่น เด็กนั้นอาจมาจากดาวอังคาร ดวงดาวซึ่งเย็นลงแล้วและที่เชื่อกันว่าพันธุ์ไม้ที่อาจเป็นสีน้ำเงิน หรือสีเขียวขจีเหมือนผิวกายของเด็กทั้งสอง อย่างที่พบในตอนสูงๆของภุเขาแอลป์ส์ แต่ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทราบถึงสิ่งมีชีวิตที่ใต้พื้นพิภพว่ามีจริงและเคยโผล่ออกมาให้เห็นจากโพลงลึกลงไปในดินมาแล้ว



 ช๊อค  http://atcloud.com/stories/31872
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.294 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 14 เมษายน 2567 20:00:18