[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
25 เมษายน 2567 02:49:19 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ย้อนรอยคดี 'เณรแอ' จอมขมังเวท  (อ่าน 2503 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2322


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 24 เมษายน 2558 19:46:20 »

.

ย้อนรอยคดี 'เณรแอ' จอมขมังเวท
คดีดัง เณรแอ ย่างเด็ก



เป็นที่ทราบแล้วว่า นายหาญ รักษาจิตร์ หรือที่รู้จักกันในนาม "เณรแอ จอมขมังเวท" เป็นหนึ่งในหลายหมื่นคนที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีฉลองพระชนมายุครบ 5 รอบ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งนายหาญ ได้รับอิสรภาพและถูกปล่อยจากเรือนจำบางขวาง เมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี "ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์" จะพาคุณผู้อ่านย้อนเรื่องราวของ "เณรแอ" ที่เคยสร้างเรื่องสะเทือนสังคม โดยก่อนที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ เณรแอ ทำอะไรมาบ้าง ทำไมถึงติดคุก เพราะอะไรทำไมผู้คนถึงหวาดกลัวเขา ชิงชังเขา หรือแม้กระทั่งอยากเข้าหาเขา...?

เณรแอ กลายเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ เนื่องจากเขาถูกจับเมื่อปี 2537 เพราะเขาได้ลงมือย่างศพเด็กเพื่อทำ "กุมารทอง" จากนั้นก็ถูกศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 1 ปี หลังจากนั้น ไม่มีใครไม่รู้จักเขาในฐานะ "เณรแอ จอมขมังเวท"

ขมังเวทสิ้นลาย พ่ายนารีพิฆาต
กระทั่งปี 2548 จอมขมังเวทระดับตำนาน ก็ต้องสิ้นลาย เพราะถูก "2 นารีพิฆาต" เตะส่งให้เขาต้องถูกจองจำ ซึ่งสตรีพิฆาตนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน คือ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี และ นางชไมพร รักษาจิตร์ ภรรยาเขาเอง ซึ่งนางชไมพร ได้เข้าร้องเรียน พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บังคับการกองปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชนและสตรี หรือ ผบก.ปดส. ในขณะนั้น

โดยภรรยาของเณรแอ กล่าวถึงสาเหตุว่า ต้องการขอหย่า เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น โฆษณาตามหนังสือต่างๆ ว่ามีอาคม ทำเสน่ห์ให้คนหลงรักได้ และมีหญิงสาวหลายคนตกเป็นเหยื่อ แต่เณรแอก็ไม่ยอมหย่า นอกจากนี้ เธอยังสาธยายพฤติกรรมไม่เหมาะสมของสามีหลายประการ

ต่อมา ตำรวจได้ขออนุมัติหมายค้น ไปตรวจที่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 8 ต.หนองโดน อ.หนองโดน จ.สระบุรี ซึ่งมีบ้านอยู่ในอาณาเขตเดียวกัน 7 หลัง บนเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ในเช้าตรู่ของวันที่ 10 ก.ค. ซึ่งขณะจับกุม เณรแอ กำลังมั่วสวาทกับสาวคราวลูก

ตะลึง! สาว 19 รับ ยอมร่วมหลับนอน แลกทำเสน่ห์

หลังจับกุม เณรแอ ได้พบกับ นางปวีณา ซึ่งก็มีสีหน้าตกใจ มือทั้งสองข้างถูกเจ้าหน้าที่ใส่กุญแจมือไว้แล้ว ภายในห้องมีพระพุทธรูปนับร้อยองค์ หัวกะโหลกมนุษย์ ตุ๊กตาคุณไสย บางตัวถูกมัดติดแน่นกับอีกตัวหนึ่ง บางตัวถูกเข็มหมุดทิ่มแทงนับร้อยเล่ม น้ำมันมนตร์ ของขลังอีกนับไม่ถ้วน นอกจากนี้ ยังมีม้วนเทปวิดีโอ ไวอากร้า ถุงยางอนามัยทั้งที่ใช้แล้วและยังไม่ใช้ถูกซุกซ่อนไว้ใต้อาสนะ

จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ถาม นายหาญ ว่าทำไมกลับมาเล่นไสยศาสตร์อีก จอมขมังเวทคนดังตอบว่า ไม่เคยทำอะไรที่เคยทำสมัยบวชมานานแล้ว ส่วนที่มีหลายคนแวะเวียนเข้ามาก็แค่เยี่ยมเยียนกันเท่านั้น อย่างไรก็ดี เจ้าตัวก็ได้ยอมรับต่อมา ว่ารับทำเสน่ห์จริง แต่ไม่เคยบังคับใคร

ขณะที่ น.ส.ไก่ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี อาชีพสาวบาร์ย่านสีลม ยอมรับว่า ได้ร่วมหลับนอนกับนายหาญ 2 คืน เนื่องจากอยากมาทำเสน่ห์กับเณรแอ แต่ไม่มีเงิน เณรแอจึงยื่นข้อเสนอดังกล่าว

ส่วน พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ได้อายัดของกลางไว้ทั้งหมด พร้อมตั้งข้อหา "ฉ้อโกงประชาชน" จากนั้นได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาฯ ส่วนเรื่องวิดีโอ ได้ดูแล้วพบว่า มีเจตนาจงใจแอบถ่าย มีทั้งภาพผู้หญิงเปลื้องผ้าและร่วมเพศ

"การกระทำของอดีตเณรแอถือว่าเป็นภัยต่อลูกผู้หญิง ทำให้ลูกผู้หญิงเสื่อมเสีย ต้องทวงความเป็นธรรมให้กับผู้หญิงในเล่ห์กลของผู้ชาย" นางปวีณา กล่าว


ถูกควบคุมตัว

โฉด VS โหด ขมังเวท VS เดอะริปเปอร์
หลังถูกจับนำตัวไปฝากขังที่กองปราบปราม ซึ่งก็ทำเอา เณรแอ ถึงกับเครียดและนอนไม่หลับ เพราะเพื่อนร่วมห้องขังคือ "สมคิด พุ่มพวง" ฆาตกรต่อเนื่องสาวบริการ 5 ศพ เจ้าของฉายา สมคิด เดอะริปเปอร์ ซึ่งในตอนแรก เณรแอ บอกไม่ได้คุยอะไรด้วย เพราะเดินกันคนละเส้นทาง! ส่วนคดีนี้เชื่อว่าเป็นฝีมืออดีตภรรยาที่บอกว่าได้ตั้งกล้องแอบถ่ายนั้น น่าจะเป็นฝีมืออดีตภรรยามากกว่า

ในเวลาต่อมา นายหาญ ที่จำต้องอยู่ร่วมห้องขังกับ "สมคิด" ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น และได้มีการปรับทุกข์กันบ้าง ขณะเดียวกัน ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ก็เดินหน้าอายัดทรัพย์ นายหาญ ซึ่งพบว่ามีทรัพย์สินที่อายัดได้กว่า 30 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีเหยื่ออย่างน้อย 2 ราย ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ขณะทำพิธีกรรม ยังรู้สึกคล้ายโดนมอมยา



บ้านเณรแอ ที่จะเปิดเป็นค่ายมวย หลังจากโดนคดีย่างศพเด็ก

ศาลสั่งจำคุก 100 ปี!!
กระบวนการยุติธรรมเดินทางมาเรื่อยๆ กระทั่งวันที่ 26 ส.ค.2548 ก็มีการส่งฟ้อง นายหาญ กระทำการหลอกลวงประชาชน ได้ทรัพย์สินผู้เสียหายทั้งหมด 33 คน รวมเป็นเงิน 910,000 บาท ส่วนในคดีข่มขืนนั้น ไม่สามารถนำมาเล่นงานอดีตเณรแอได้ เพราะเข้าข่ายการสมยอม นอกจากนี้ เมื่อให้ อย. ตรวจสอบน้ำมันพราย ก็ไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด

29 ธ.ค.2549 ศาลได้อ่านคำพิพากษา โดยศาลพิเคราะห์เห็นแล้วว่า โจทก์อดีตภรรยาเณรแอ เบิกความว่า ได้แต่งงานอยู่กินฉันสามีภรรยา ระหว่างที่อยู่กินกันได้ติดเชื้อกามโรค ขณะที่ นายหาญ ยอมรับได้ร่วมประเวณีกับลูกค้าหญิงขายบริการจึงฟ้องหย่าขาดจากกัน นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียหาย 25 คน เข้าเบิกความนำสืบสอดคล้องกันว่านายหาญ จำเลย เป็นผู้มีเวทมนตร์ไสยศาสตร์ จึงเข้าร่วมพิธีด้วย ระหว่างที่บริกรรมคาถา นายหาญ ได้ล่วงเกินทางเพศ ด้วยการนำน้ำมันทาชโลมลูบบนตัวผู้เสียหาย เมื่อสบโอกาสก็จะกระทำการชำเราผู้เสียหายทันที โดยอ้างว่าเป็นการลง นะเสพสม

พยานหลักฐานดังกล่าว รับฟังได้ว่า จำเลย อาศัยโอกาสที่ผู้เสียหายมีความทุกข์ในปัญหาครอบครัวมากระทำการหลอกลวง อ้างว่าเป็นผู้มีความรู้วิชาไสยศาสตร์ช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตได้ จึงเห็นควรให้ลงโทษสถานหนัก ซึ่งกระทำผิดหลายกรรมต่างวาระกัน โดยให้เรียงกระทงลงโทษจำคุกทั้งสิ้น กระทงละ 4 ปี รวม 25 กระทง รวมลงโทษจำคุก 100 ปี แต่คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง จึงลดโทษให้ 1 ใน 4 เหลือจำคุก 75 ปี อย่างไรก็ตาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (2) ให้ลงโทษจำคุกจำเลยสูงสุด 20 ปี พร้อมริบของกลางและให้ชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหาย

23 มิ.ย.2553 ศาลอุทธรณ์ ได้อ่านคำพิพากษา ยืนตามศาลชั้นต้น ซึ่งหลังฟังคำพิพากษา นายหาญ ยังคงมีสีหน้ายิ้มแย้ม แถมยังชูนิ้วโป้งเพื่อให้สื่อมวลชนถ่ายภาพอีกด้วย และในเวลาต่อมา นายหาญ ก็ส่งทนายความมายื่นถอนการขยายฎีกา

ระเบียบการขอพระราชทานอภัยโทษ มีดังนี้
การพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แก่ผู้ต้องโทษที่คดีถึงที่สุดแล้ว ให้ได้รับการปล่อยตัวหรือลดโทษแล้วแต่กรณี  ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพระรบรมราชวินิจฉัยของพระมหากษัตริย์ตามพระราชอำนาจที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 21 และมาตรา 225  ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ภาค 7 อภัยโทษ เปลี่ยนโทษหนักเป็นเบาและลดโทษ มาตรา 259 ถึง มาตรา 267

ประเภทของการพระราชทานอภัยโทษ
1.การพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป คือ การพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์หรือผู้ต้องโทษ ในกรณีนี้ ทางราชการจะดำเนินการให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ในทุกขั้นตอน โดยที่ผู้ต้องราชทัณฑ์มิต้องดำเนินการใด ๆ

การพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป  มักจะมีขึ้นในวโรกาสมหามงคลต่าง ๆ  เกี่ยวกับสถานบันพระมหากษัตริย์  เช่น  เนื่องในโอกาสพระราชพิธีกาญจนาภิเษก  รัชมังคลาภิเษก  เป็นต้น
                                                                                                    
2.การพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย คือ  การพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์หรือผู้ต้องโทษเป็นรายบุคคล  โดยการทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ  ตามการถวายคำแนะนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ส่วนจะได้รับพระราชทานอภัยโทษหรือไม่เพียงใดขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัยขององค์พระมหากษัตริย์

ผู้มีสิทธิยื่นเรื่องทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย
- ผู้ต้องโทษที่คดีถึงที่สุด
-  ผู้ที่มีประโยชน์เกี่ยวข้อง อาทิเช่น บิดามารดา  บุตร คู่สมรส
-  สถานทูต (ในกรณีที่เป็นนักโทษชาวต่างประเทศ)
**ทนายความไม่ถือว่าเป็นผู้ที่มีประโยชน์เกี่ยวข้อง**

ระยะเวลาการยื่นฎีกาทูลเกล้า ฯ ขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย
1.ผู้ต้องโทษกรณีทั่วไป ยื่นได้ทันทีที่คดีถึงที่สุด
2.ผู้ต้องโทษประหารชีวิต ต้องยื่นภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด


เณรแอ จอมขมังเวท จริงหรือ!?

ไขข้อข้องใจทำไม เณรแอ เข้าเกณฑ์ ได้พระราชทานอภัยโทษ
นายสุรพล แก้วภราดัย ผบ.เรือนจำบางขวาง กล่าวกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ว่า สำหรับเณรแอ ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักโทษชั้นดี เพราะเข้ามาในเรือนจำแล้ว ได้ประพฤติตัวดี เคารพกฎระเบียบของเรือนจำ นอกจากนี้ ยังได้ให้ความร่วมมือกับเรือนจำทุกอย่าง เช่น การเข้าร่วมอบรมหลักสูตรศาสนา จริยธรรม และอื่นๆ ซึ่งตามปกติแล้ว ทางเรือนจำจะมีการเปิดอบรม หรือการเรียนการสอนวิชาชีพต่างๆ บางคนอ่านหนังสือไม่ออก ก็จะมีการสอน เป็นต้น

ผบ.เรือนจำบางขวาง กล่าวต่อว่า หลักเกณฑ์การคัดเลือกนักโทษชั้นดี คือ เมื่อเข้ามาแล้วให้ความเคารพกฎระเบียบของเรือนจำ ไม่สร้างปัญหาก็ถือว่าเป็นนักโทษชั้นดี โดยทั่วไปนักโทษคดีใหญ่ๆ ส่วนมาก ก็จะประพฤติตัวเรียบร้อย เขาจะไม่พยายามแหกกฎกติกา

ทั้งหมดคือเรื่องราวของชายที่ชื่อ นายหาร รักษาจิตร์ เณรแอ จอมขมังเวท หวังว่าหลังจากได้อิสรภาพมาแล้วจะกลับตัวเป็นคนดี ถึงแม้เจ้าตัวจะยืนยันว่าจะทำธุรกิจสายเวท มนตร์ดำ เหมือนเดิม แต่ก็อย่าทำให้ใครเดือดร้อน มิเช่นนั้น อาจจะไม่มีโอกาสครั้งต่อไป..!?

ไทยรัฐออนไลน์

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.337 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page วานนี้