หลวงปู่ผาด ฐิติปัญโญ วัดบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

หลวงปู่ผาด ฐิติปัญโญ
วัดบ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

หลวงปู่ผาด ฐิติปัญโญ หรือ "พระครูวิบูลย์ปัญญาวัฒน์" พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดบ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้รับการยกย่องว่า "เทพเจ้าแห่งบ้านกรวด"

เกิดในสกุล ดิบประโคน เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2454 พื้นเพของท่านเป็นชาวบ้านดู่ ต.ปราสาท อ.ปราสาท จ.สุรินทร์

ชีวิตในวัยเด็กค่อนข้างลำบาก ต้องช่วยเหลือครอบครัวทำงาน แต่ยังมีเวลาที่จะศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนประชาบาล จนจบชั้น ป.4 จากนั้นช่วยครอบครัวทำอาชีพกสิกรรม ต่อสู้ชีวิตเรื่อยมา

จนกระทั่งเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก จึงหันหน้าเข้าหาวัดมาศึกษาพระธรรมและปฏิบัติธรรม

ครั้นอายุ 22 ปี ได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดบ้านกรวด โดยมีหลวงปู่หริ่ง เจ้าอาวาสวัดบ้านกรวด เป็นพระอุปัชฌาย์

หลังอุปสมบท ท่านปฏิบัติกิจแห่งสงฆ์โดยครบถ้วน ใช้เวลาศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมด้วยความตั้งใจ

อีกทั้งมีโอกาสศึกษาวิชาการแพทย์แผนโบราณควบคู่ไปด้วย จนมีความรู้ความชำนาญการใช้สมุนไพร

ด้วยความเป็นพระหนุ่มที่ทรงความรู้ ท่านหันมาให้ความสนใจศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณเพิ่มเติม และเรียนวิทยาคมควบคู่กันไป ท่านได้ศึกษาสรรพวิชาจากในตำราทั้งหมด จนมีความรู้ในวิทยาคมเป็นอย่างดี

ท่านออกจาริกไปยังที่ต่างๆ เพื่อศึกษาหาความรู้ ทั้งด้านวิทยาคม วิชาแพทย์แผนโบราณ ในครั้งนั้น ได้ไปศึกษาวิทยาคมที่จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ถึง 3 ปี

จากนั้นท่านได้จาริกไปศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่างๆ ที่นครวัด ประเทศเขมร เป็นเวลานานกว่า 8 ปี จนมีความรู้ในวิทยาคมสายเขมรแทบทุกแขนง

เมื่อได้เวลาอันเหมาะสม ท่านจึงเดินทางกลับบ้านเกิด อาศัยจำพรรษาในวัดบ้านกรวดเป็นเพียงพระลูกวัดธรรมดา กระทั่งมีอายุมากขึ้น ท่านได้รับการถวายที่ดิน จากชาวบ้าน เกิดความคิดริเริ่มในการพัฒนาบูรณะจากพื้นดินที่ว่างเปล่า ให้กลายเป็นศาสนสถาน คือ วัดตาอี, วัดบ้านปราสาท และวัดบ้านบึงเก่า จนเป็นรูปธรรม

กาลต่อมา หลวงปู่หริ่ง เจ้าอาวาสวัดบ้านกรวด มรณภาพ ชาวอำเภอบ้านกรวดนิมนต์ให้มารับตำแหน่งเป็น เจ้าอาวาสสืบต่อ

ทั้งนี้ วัดบ้านกรวด ถือเป็นวัดเก่าแก่ประจำอำเภอบ้านกรวด สร้างขึ้นในยุคปลายสมัยรัชกาล ที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี มีอายุนับถึงปัจจุบัน ไม่น้อยกว่า 120 ปี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 10 เมษายน พุทธศักราช 2469 มีพระพุทธรูปศิลาศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระประธานในอุโบสถ

เป็นพระที่บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย ปฏิปทางดงาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็น เป็นร่มโพธิ์ของบรรดาพุทธศาสนิกชน เป็นที่นับถือศรัทธาของชาวบ้านกรวด

ท่านสร้างคุณูปการแก่วัดบ้านกรวดและวัดสาขาทั้ง 3 แห่ง เป็นอันมาก เช่น ตั้งสำนักอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน งานด้านการสงเคราะห์ญาติโยม งานสาธารณูปโภค การก่อสร้างถาวรวัตถุของวัด อาทิ สร้างอุโบสถ อุปถัมภ์โรงเรียน ศาลาการเปรียญ สร้างศาลาบำเพ็ญกุศล และอีกมากมาย

ด้านเครื่องรางหรือวัตถุมงคลที่หลวงปู่ผาดท่านสร้าง ล้วนแล้วแต่ทรงคุณอันวิเศษ และเป็นที่เสาะแสวงหาของบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องเป็นอย่างมากอย่าง อาทิ พระยอดขุนพลปฐมโพธิญาณ, พระกริ่งรุ่นแรกของหลวงพ่อผาด, พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อผาด, พญาครุฑ และอื่นๆ อีกมากมาย

แต่ถึงแม้วัตถุมงคลของหลวงปู่ผาด จะมีพุทธคุณเข้มขลัง จนได้รับความนิยมจากบรรดาสานุศิษย์ แต่ท่านไม่เคยอวดโอ่ มีแต่พร่ำสอนให้ญาติโยม อย่าดำรงชีวิตด้วยความประมาท หมั่นประกอบแต่กรรมดี ละเว้นทำชั่ว

นำวิชาความรู้ด้านวิทยาคม เป็นกุศโลบายสำคัญในการอบรมสั่งสอนศีลธรรมให้ประชาชนทั่วไปได้ยึดหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา

ด้วยสังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง เมื่อวันที่ 5 ม.ค.2558 เวลา 11.58 น. หลวงปู่ผาด มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคชรา ที่วัดบ้านกรวด

สิริอายุ 104 ปี พรรษา 80