[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 เมษายน 2567 16:49:34 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มหาเทพแห่งควมยุติธรรม" เปาเล่งถู "  (อ่าน 3500 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 23 มีนาคม 2553 23:39:44 »


<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae3"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva3"><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/07.%20Track%207.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/07.%20Track%207.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/07.%20Track%207.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc3"></td></tr></table>



....................................นางใจซื่อ................................


..........................................เปาบุ้นจิ้นผู้ทรงความยุติธรรม............................................


...................................เล่าเซี่ยงชุน..................................


เมื่อกล่าวถึง เปาบุ้นจิ้น หรือ เปาเล่งถู นั้น ปรากฎว่าในสมัยแผ่นดินซ้อง ชื่อของท่านเป็นที่เชื่อถือว่า เป็นผู้ที่ตั้งอยู่ในความยุติธรรมเที่ยงตรง เป็นที่นับถือกันทั่วไปทั้งแผ่นดิน
ในประเทศไทยนั้นได้มีการแปลเกร็ดพงศาวดารจีนเรื่อง เปาเล่งถู เป็นภาษาไทย ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๔๑ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ จนกระทั่งปัจจุบันก็ได้มีภาพยนต์ทางโทรทัศน์มาฉายให้ชมกันเป็นที่แพร่หลาย ตลอดมา ตัวอย่างความปรีชาสามารถของท่านนั้น มีอยู่มากมาย
แต่การพิจารณาคดีของ เปาบุ้นจิ้น ตามเรื่องโบราณเมื่อร้อยปีก่อนนั้น ความจริงท่านก็ไม่ได้ใช้การสืบสวนเท่าใดนัก ส่วนใหญ่ใช้แต่การสอบสวน เพียงแต่ท่านมีบุญที่สามารถวิเคราะห์เรื่องราวได้แม่นยำ ทำให้ได้ตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยถูกต้อง มิใช่แพะผู้เคราะห์ร้ายเท่านั้น และความที่ท่านเป็นคนดีมีคุณธรรม คดีบางเรื่องจึงมีเทพยดามาเข้าฝันชี้ช่องให้ก็ได้ ดังเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้..................................................

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มีนาคม 2553 02:02:09 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 23 มีนาคม 2553 23:41:57 »



เมื่อครั้งที่เปาบุ้นจิ้นเป็นตำแหน่งที่เอ๋ซุนอ้าน ผู้ตรวจราชการแผ่นดิน ถือรับสั่งพระเจ้าซ้องยินจงฮ่องเต้เป็นข้าหลวงใหญ่ ไปเที่ยวตรวจบรรดาหัวเมืองใหญ่น้อยในพระราชอาณาเขต ครั้นไปถึงเมืองกุ้ยจิวเข้าแล้ว เจ้าเมืองกับกรมการเมืองก็นำไปพักยังตึกก๋งก๊วน อันเป็นที่ต้อนรับแขกเมือง และเลี้ยงดูตามธรรมเนียมเป็นอย่างดี
คืนนั้นหลังการเลี้ยงแล้วเปาบุ้นจิ้นก็หลับสนิท แล้วก็ฝันว่าพระกวนอิมมาพาท่านไปเที่ยวที่วัดอันฮกยี่ และฝันซ้ำอ่างนี้อยู่ถึงสามวัน เมื่อตริตรองดูแล้วเห็นเป็นการประหลาดอัศจรรย์อยู่ จึงสั่งให้บ่าวไพร่จัดเกี้ยวให้นั่ง แล้วหามไปยังวัดที่เห็นในฝัน โดยมีผู้ติดตามไปด้วยหลายคน เมื่อถึงวัดแล้วก็ลงจากเกี้ยว เข้าไปในที่พักของหลวงจีนแซ่ฮุยเจ้าอาวาส ท่านก็ยกน้ำชามาเลี้ยงเปาบุ้นจิ้นตามธรรมเนียม
เมื่อพักพอสบายใจแล้วเปาบุ้นจิ้นก็ออกไปเดินตรวจตราภายนอกที่พักนั้น จนถึงหลังวัด ก็พบระฆังใหญ่ใบหนึ่งตั้งคว่ำอยู่บนดิน มีความสงสัยว่าระฆังทำไมไม่แขวนอยู่บนหอ จึงให้บ่าวไพร่ช่วยกันหงายระฆังนั้นขึ้นมา ก็เห็นชายคนหนึ่งนอนหายใจระรวยอยู่ ใกล้จะสิ้นใจอยู่แล้ว เปาบุ้นจิ้นก็ให้คนรีบไปตามซินแสหมอยามาแก้ไขรักษาพยาบาลจนชายผู้นั้นค่อยฟื้น ได้สติและค่อยมีเรี่ยวแรงขึ้น จึงหยอดข้าวหยอดน้ำจนมีกำลังเป็นปกติ เปาบุ้นจิ้นก็ซักถามถึงเหตุที่ต้องมาถูกระฆังครอบอยู่เช่นนี้
ชายผู้นั้นก็คุกเข่าคำนับเปาบุ้นจิ้น แล้วก็เล่าความว่า ตนเองชื่อ เต็งยิดตง เคยเป็นนักเรียนสอบไล่ได้ประโยคชั้นสิวจ๋าย แต่ยังมิได้รับแต่งตั้งให้เป็นขุนนาง ตนมีภรรยาคนหนึ่งชื่อ นางเต็งสี ตั้งบ้านเรือนอยู่ไม่ไกลจากวัดนี้เท่าใดนัก ตนจึงมักไปมาหาสู่นอนค้างอ้างแรมอยู่ที่วัด เพื่อจะได้พักผ่อนอ่านหนังสือ เตรียมเข้าสอบขั้นต่อไป ภรรยาก็ไม่ว่าประการใด
อยู่มาคราวหนึ่งเต็งยิดตงไปพักผ่อนที่วัดอันฮกยี่ ด้วยความเพลิดเพลินเจริญใจ จนเวลาล่วงไปเดือนเศษ ก็มีชาวบ้านมาบอกว่า นางเต็งสีภรรยาของตนนั้นได้หายไปจากบ้านหลายวันแล้ว เต็งยิดตงก็ตกใจมีความวิตกห่วงใยภรรยา จึงไปยังที่พักของหลวงจีนแซ่ฮุย เพื่อจะลากลับบ้าน ขณะที่กำลังร่ำลาเจ้าอาวาสนั้น นางเต็งสีผู้ภรรยาซึ่งโกนหัวและอยู่ในเครื่องนุ่งห่มของสามเณร ก็วิ่งออกมาจากข้างใน ร้องไห้รำพันว่า......................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มีนาคม 2553 00:02:19 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 23 มีนาคม 2553 23:43:40 »



ท่านจำข้าพเจ้าไม่ได้หรือ หลวงจีนแซ่ฮุยลวงข้าพเจ้าว่าท่านป่วย ข้าพเจ้าสำคัญว่าจริงจึงได้มา หลวงจีนกระทำการหยาบช้าข่มขืนข้าพเจ้า จะเล็ดลอดหลีกหนีไปทางใดก็ไม่พ้น จึงจำใจตกอยู่ในอำนาจหลวงจีนฉะนี้
เต็งยิดตงได้เห็นภรรยาและได้ฟังนางบอกเล่าเช่นนั้น ก็บันดาลโทโสตรงเข้าชกต่อยหลวงจีนเป็นอุตลุด หลวงจีนก็ร้องเรียกบรรดาศิษย์วัดให้เข้ากลุ้มรุม จับตัวเต็งยิดตงเอาโซ่มาล่ามไว้ แล้วหลวงจีนเจ้าอาวาสก็หยิบอาวุธออกมาจะฆ่าเต็งยิดตงเสีย แต่นางเต็งสีเข้าแย่งชิงเอาอาวุธจากมือหลวงจีนไปได้ เต็งยิดตงเห็นว่าไม่มีทางรอด จึงร้องว่า
ท่านจะฆ่าเราแล้ว จงฆ่าภรรยาเราเสียด้วย เราผัวเมียจะได้ไปพร้อมกันที่เมืองผี
หลวงจีนแซ่ฮุยกลับตอบว่า ถ้าเจ้าตายแล้วภรรยาของเจ้า ก็ต้องตกเป็นภรรยาของเรา ว่าดังนั้นแล้วก็สั่งให้พวกลูกศิษย์คุมตัวเต็งยิดตงออกไปข้างหลังวัด ซึ่งมีระฆังใบใหญ่วาง คว่ำอยู่ จึงให้เอาระฆังนั้นครอบตัวเต็งยิดตงไว้ หวังจะให้ตายอยู่ในนั้นโดยไม่มีผู้ใดรู้ จนกระทั่งท่านเปาบุ้นจิ้นได้มาพบ และช่วยชีวิตไว้ในวันนี้
เปาบุ้นจิ้นจึงให้ทหารไปจับตัวหลวงจีนเจ้าอาวาสมา แล้วให้หลวงจีนนำทหารไปเอาตัวนางเต็งสีมาสอบสวน หลวงจีนก็นำทหารเข้าไปในอุโมงค์แห่งหนึ่งในวัด มีบันไดลงไปถึงข้างล่างและมีโคมจุดส่องแสงสว่าง ทหารได้พบนางเต็งสีในสภาพที่แปลงเพศเป็นสามเณร จึงพาตัวมาให้เปาบุ้นจิ้นพร้อมด้วยหลวงจีนเจ้าอาวาส
เปาบุ้นจิ้นเห็นดังนั้นจึงสอบถามเรื่องราวของนางเต็งสี ต่อหน้าเต็งยิดตง นางก็ร้องไห้เล่าความว่า ขณะเมื่อสามีไปอยู่ที่วัด หลวงจีนแซ่ฮุยได้ไปที่บ้าน นางก็จัดอาหารเพลมาเลี้ยงตามธรรมเนียม ต่อมาหลวงจีนก็ให้คนมาบอกว่า ที่สามีหายไปนานนั้น แท้จริงป่วยเป็นลมอยู่ที่วัด มีอาการหนักจะเป็นตายเท่ากัน และสั่งมาให้บอกนางไปปฏิบัติสามีที่วัด
นางเต็งสี สำคัญว่าเป็นความจริงก็ตกใจ รีบขึ้นนั่งเกี้ยวให้คนหาบหามไปยังวัด อันฮกยี่ ซึ่งมีระยะทางห่างถึงสิบลี้ ต้องเดินเท้าถึงหกชั่วโมง เมื่อถึงกุฏิของเจ้าอาวาสก็แลเห็นหลวงจีนตั้งโต๊ะและสุราอาหารรออยู่ นางจึงถามว่าสามีของตนป่วยอยู่ที่ไหน หลวงจีนบอกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มีนาคม 2553 00:02:46 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 23 มีนาคม 2553 23:46:12 »



สามีของท่านหมอเขาช่วยรักษาพยาบาลแก้ไข หายเป็นปกติแล้ว พวกเพื่อนเขาชวนให้ไปเที่ยวดูวัดที่สร้างใหม่ ท่านก็ได้มาถึงที่วัดของข้าพเจ้าแล้ว เชิญนั่งโต๊ะ รับประทานสุราด้วยกันก่อน ให้เป็นที่สบายใจ ค้างอยู่กุฎีข้าพเจ้าสักคืนหนึ่ง จะได้สนทนากันเล่นให้เป็นที่ผาสุขใจ รุ่งเช้าจึงค่อยกลับไปบ้าน
นางเต็งสีได้ฟังหลวงจีนพูดจาดังนั้น ก็เข้าใจแน่ว่าตนเสียอุบายของหลวงจีน เสียแล้ว ไม่รู้ที่จะแก้ไขประการใด ขัดไม่ได้ก็เสพสุราด้วยประมาณสองถ้วย แล้วก็ลุกจะออกไปเรียกคนหามเกี้ยวให้พาไปส่งที่บ้าน หลวงจีนก็ห้ามว่า
ป่านฉะนี้ก็เป็นเวลามืดอยู่แล้ว พวกรับจ้างหามเกี้ยวเขาก็กลับไปบ้านเขาเสียหมดแล้ว ท่านจะกลับไปก็เป็นการยากลำบาก ด้วยเป็นเวลากลางคืน นอนค้างอยู่เสียที่นี่เถิด
นางเต็งสีเห็นเป็นที่จนใจจำต้องอยู่ หลวงจีนก็จัดห้องให้นางหลับนอน นางจึงเข้าห้องปิดประตูลั่นดาน แต่ก็นอนไม่ใคร่จะหลับ เพราะไม่ไว้ใจหลวงจีน ครั้นเวลาดึกประมาณสองยาม หลวงจีนก็งัดดานเข้าไปหานางเต็งสี นางจึงร้องขึ้นด้วยเสียงอันดัง หลวงจีนก็ขู่ว่า
แม้ว่าเจ้าจะร้องจนคอแตก ก็จะไม่มีผู้ใดรู้เห็นหรือช่วยเจ้าได้ แม้เจ้าไม่ยอมเป็นภรรยาเราโดยดี เราจะฆ่าเจ้าเสียในทันใดนี้ ด้วยเราตั้งใจมุ่งหมายนึกรักเจ้ามาช้านานแล้ว พึ่งจะสมความปรารถนาในครั้งนี้ เจ้าอย่าดิ้นรนเดือดร้อนไปเลย จงประนีประนอมยอมเสียโดยดีเถิด
นางเต็งสีตกอยู่ในอำนาจของหลวงจีน สุดที่จะคิดแก้ไขก็จำใจจำเป็น ต้องยอมเสียตัวแก่หลวงจีนในคืนนั้น แล้วหลวงจีนก็โกนผมนางเสีย ให้นุ่งห่มแปลงเพศเป็นสามเณร และขังไว้ให้อยู่แต่ในห้องชั้นใน มิให้ผู้ใดรู้เห็นเป็นอันขาด แม้แต่บิดามารดาของนางเต็งสีมาสืบถามหา หลวงจีนก็ปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น จนกระทั่งได้ออกมาพบสามี เมื่อวันก่อนนี้
เปาบุ้นจิ้นได้ฟังเรื่องราวโดยตลอดแล้ว ก็สอบถามหลวงจีนแซ่ฮุยเจ้าอาวาสวัด อันฮกยี่บ้าง หลวงจีนจำนนต่อคำกล่าวหาของสองสามีภรรยา จึงยอมสารภาพรับเป็นสัตย์ ท่านเปาบุ้นจิ้นจึงตัดสิน ให้ทหารเอาตัวหลวงจีนไปประหารชีวิต ส่วนบรรดาลูกวัดที่รู้เห็นเป็นใจด้วย ให้สึกจากเพศหลวงจีนแล้วส่งไปเป็นทหารเลวในกองทัพเสร็จแล้วเปาบุ้นจิ้นก็ถามนางเต็งสีว่า........................................................
เมื่อหลวงจีนแซ่ฮุยหลอกลวงเจ้ามาข่มขืนนั้น ถ้าเจ้าไม่ยินยอมหลวงจีนก็คงจะฆ่าเจ้าเสียแต่ในเวลานั้นเป็นแน่ ชื่อเสียงของเจ้าย่อมปรากฎว่า เป็นหญิงซื่อสัตย์ต่อสามี เมื่อหลวงจีนขังผัวของเจ้าไว้ในระฆังนั้น หากเทพเจ้าบันดาลให้เราฝันเห็น เราจึงมาช่วยชีวิตไว้ได้ หาไม่ก็คงจะถึงความตายอยู่ในระฆังเป็นแน่
นางเต็งสีได้ฟังดังนั้น ให้นึกอัปยศอดสูมีความละอายแก่ใจเป็นที่สุด จึงว่า...................................
ข้อที่ข้าพเจ้าได้เสียตัวแก่หลวงจีนนั้น เพราะข้าพเจ้ายังมิได้แก้แค้นหลวงจีน ก็บัดนี้ท่านมาช่วยชีวิตสามีของข้าพเจ้า พ้นจากความตายแล้ว พระเดชพระคุณของท่านมีแก่ข้าพเจ้า และสามีข้าพเจ้าเป็นที่ยิ่ง โทษของหลวงจีนแซ่ฮุยถึงประหารชีวิต หลวงจีนก็ตายไปตามโทษแล้ว ข้าพเจ้าก็หายแค้นสมความประสงค์แล้ว บัดนี้ข้าพเจ้าจะขอลาตาย ต่อหน้าท่านและสามีของข้าพเจ้า เพื่อให้เห็นความสัตย์สุจริตของข้าพเจ้า....................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มีนาคม 2553 00:03:12 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 23 มีนาคม 2553 23:48:53 »



ว่าแล้วนางเต็งสีก็เอาศรีษะฟาดเข้ากับเสาหิน จนศรีษะแตกโลหิตไหล เปาบุ้นจิ้นจึงเข้าไปห้ามมิให้ทำต่อไป แล้วให้ซินแสหมอยาประกอบยารักษาแผลนางเต็งสี และบอกกับ เต็งยิดตงว่า
ภรรยาของท่านก็นับว่า เป็นหญิงสุจริตซื่อตรงต่อสามีได้ผู้หนึ่ง ท่านจงรับเอาไปเลี้ยงเป็นภรรยาตามเดิมเถิด
เต็งยิดตงก็ไม่ขัดข้อง คำนับลาเปาบุ้นจิ้น พาภรรยากลับมาบ้านเรือน แล้วจ้างช่างมาแกะรูปเปาบุ้นจิ้นไว้บูชา กราบไว้ขอบคุณทุกเช้าค่ำ สองสามีภรรยาก็อยู่เป็นสุข ต่อมาภายหลัง เต็งยิดตงไปสอบไล่หนังสือได้ประโยคสูงขึ้น จึงได้เข้ารับราชการเป็นขุนนางมีชื่อเสียงปรากฎ ในแผ่นดิน
ทั้งนี้ก็ด้วยบารมีของเปาบุ้นจิ้น ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นที่ เปาเล่งถู นั้นเอง...................................



........................................จบตอน"นางใจซื่อ"......................................


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มีนาคม 2553 00:03:34 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
แกนโลกพลิก กลับขั้ว " Pole Shift " ในปี 2012 และการช่วยเหลือจาก UFO
รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
หมีงงในพงหญ้า 1 4912 กระทู้ล่าสุด 18 ธันวาคม 2552 15:28:26
โดย AMM
แกนโลกพลิก กลับขั้ว " Pole Shift " ในปี 2012 และการช่วยเหลือจาก UFO
หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
หมีงงในพงหญ้า 5 11518 กระทู้ล่าสุด 11 มกราคม 2553 09:54:20
โดย BOOGIMAN
"ในหลวง" ทรงขอบใจยื่นจดสิทธิบัตร"ยีนความหอมข้าวไทย"
สุขใจ ห้องสมุด
ไอย 0 2740 กระทู้ล่าสุด 30 ธันวาคม 2552 12:07:44
โดย ไอย
คำเตือน !! "เซ็กส์เสื่อม" ของแถม จาก "ออฟฟิศซินโดรม" (มนุษย์บ้างานระวังให้ดี)
สุขใจ อนามัย
หมีงงในพงหญ้า 1 3761 กระทู้ล่าสุด 13 เมษายน 2553 07:47:53
โดย PETER
หนังสั้น "ราตรีสวัสดิ์" เรียกน้ำตาอีกแล้ว (Shortfile - "GoodNight")
หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
Sweet Jasmine 0 2750 กระทู้ล่าสุด 29 เมษายน 2553 14:49:08
โดย Sweet Jasmine
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.257 วินาที กับ 30 คำสั่ง

Google visited last this page 06 ธันวาคม 2566 04:25:47